ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1311 ยินดีต้อนรับ ข้ากำลังขาดเป้าสำหรับทดลองอยู่พอดี!
“ที่แท้ก็เป็นผู้สืบทอดของใต้เท้าเทพสีครามจ้าวฝีดาษนี่เอง” เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า ความสนใจหลักยังอยู่ที่เตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับตรงหน้า
อีกด้านหนึ่ง กษัตริย์ดินเจี่ยงเซิ่นได้กลับโลกซ้อนโลก เฝ้าเขาคุนหลุนไว้อีกครั้ง
เขาทางหนึ่งควบคุมสถานการณ์บนเขาคุนหลุน ทางหนึ่งทดลองเปลี่ยนพิธีกรรมที่ยังไม่สำเร็จโดยสมบูรณ์ของเยี่ยนจ้าวเกอ หวังว่าจะนำทุกอย่างกลับมาได้
ถึง ‘หยางเซ่อ’ อดีตกษัตริย์เร้นลับจะเป็นคนที่ศึกษาตราสลักหยกหรูอี้ไตรรัตนะล้ำลึกที่สุดเนื่องจากอยู่แต่บนโลกซ้อนโลก
แต่ว่ากษัตริย์ดินเจี่ยงเซิ่นในฐานะอดีตผู้นำสามกษัตริย์ ใกล้แทบเป็นตัวตนอันดับหนึ่งบนโลกซ้อนโลก ระดับการควบคุมโลกซ้อนโลกจึงสุดที่คนธรรมดาจะเทียบเคียงได้
จากการปกครองในหลายปีมานี้ ต่อให้เขาจะไม่ได้ดูแลเป็นพิเศษ พลังงานที่มีอยู่ทั้งหมดก็น่าตระหนกถึงขีดสุด
ทว่าในขณะนี้ ยามเผชิญกับเยี่ยนจ้าวเกอที่กระตุ้นตำหนักโอสถมาดำเนินพิธีกรรม เจี่ยงเซิ่นกลับเกิดความรู้สึกไม่อาจพลิกสถานการณ์
ยิ่งผ่านไปนานเท่าไร เขายิ่งรู้สึกไร้ความสามารถ
ในจักรวาลตำหนักโอสถ การกระทำของเยี่ยนจ้าวเกอทำให้เหล่าเซียนเส้นทางนอกรีตเดือดดาลเป็นการใหญ่
จริงๆ แล้ว ยอดฝีมือโถงเซียนอย่างพวกนักพรตรองเท้าสานไม่ใช่จะไม่ทราบถึง ความแตกต่างของพลังต่อสู้ในระดับเดียวกันระหว่างจอมยุทธ์จากโถงเซียน และผู้สืบทอดกระแสตรงของสามพิสุทธิ์สายหลัก
ถึงจะไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีประสบการณ์ แต่ว่าผู้สืบทอดสามพิสุทธิ์สายหลักในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสิบ กลับสามารถต่อสู้กับยอดฝีมือโถงเซียนที่ได้ผลักประตูเซียนแล้วของพวกเขา ถึงขั้นที่สะกดการดำรงอยู่ของพวกเขาได้ ก็ใช่ว่าจะไม่มี
ยกตัวอย่างเมื่อไม่นานมานี้ หลายๆ คนทราบว่า ไม่กี่ปีมานี้ในผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์ของมรกตท่องฟ้าให้กำเนิดหลงเสวี่ยจี้ที่เหี้ยมหาญถึงขีดสุด
แต่ถ้ากล่าวว่าตัวเขาทำลายความน่าเกรงขามของพวกตนด้วยความตั้งใจอันแรงกล้า แต่นั่นสุดท้ายแล้วเป็นการสู้หนึ่งต่อหนึ่ง
กระนั้นตอนนี้ พวกเขาหลายคนอยู่ที่นี่พร้อมหน้า เยี่ยนจ้าวเกอกลับมีท่าทีไม่อินังขังขอบ ย่อมทำให้พวกเขาขุ่นแค้นกว่าเดิม
การเกือบตายด้วยน้ำมือของสั่วหมิงจางก่อนหน้า ก็น่าเคียดแค้นมากพออยู่แล้ว ตอนนี้จึงสะกดไว้ไม่ไหวอีกต่อไป
“ไม่ว่าจะเป็นคนเส้นทางนอกรีตของโลกซ้อนโลกไร้ความสามารถ ไม่เคยจัดการเจ้าได้ หรือเป็นพวกเขาตั้งใจคุ้มครอง สมรู้ร่วมคิดกับเจ้า” นักพรตรองเท้าสานกล่าวอย่างเย็นชา “ล้วนต้องหยุดลงในวันนี้ พวกข้าจะจัดการเจ้า ส่งเจ้าไปพบอิ่นเทียนเซี่ยด้วยตัวเอง!”
“แค้นที่ไม่อาจกำจัดพวกเจ้า มารร้ายบัวขาว และมารร้ายนพยมโลก ให้หมดสิ้นไปจากเอกภพอันงดงามนี้”
คนของเส้นทางนอกรีตคนอื่นด้านข้างนักพรตรองเท้าสานสายตาเย็นเยียบเช่นกัน จ้องมองเยี่ยนจ้าวเกอ “มารร้ายเส้นทางนอกรีตเป็นเพียงสุนัขสูญเสียบ้านฝูงหนึ่ง ก่อนหน้านี้เลินเล่อไปเล็กน้อย ทำให้พวกเจ้าแข็งแกร่งขึ้นมา แต่สุนัขสูญเสียบ้านสุดท้ายแล้วก็ยังเป็นสุนัขสูญเสียบ้าน จุดจบมีแต่ความพินาศ”
เยี่ยนจ้าวเกอพอฟังไม่ได้รู้สึกโกรธ เพียงเงยหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย “ถึงพวกท่านจะอาศัยแสงวิเสษพลังศรัทธาฝึกฝนและอาศัยมันศึกษาหาช่องว่างของมหามรรคาของฟ้าดิน จนได้เปิดประตูเซียน แต่ก็มีขีดจำกัดจริงๆ ด้วย”
“คิดจะไปอยู่ในระดับที่สูงกว่าเดิม สำหรับพวกท่านสุดท้ายก็ยังมีเงื่อนไข ไม่อย่างนั้นเทวกษัตริย์ไร้ประมาณคงมีความรู้สึกสะท้อนใจว่าสตรีดีไร้ฟืนไม่อาจหุงข้าวกระมัง?”
เตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับตรงหน้าทำงาน ควันม่วงหลายสายระเหยขึ้นอย่างต่อเนื่อง เริ่มเปลี่ยนจากจางเป็นเข้มข้น
เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้น ก็พ่นลมหายใจออกมายาวยืด เหมือนกับความกังวลสุดท้ายในใจได้หายไปแล้ว
พวกนักพรตรองเท้าสาน ยอดฝีมือโถงเซียนเดิมทีอยากลงมือเต็มแก่ ตอนนี้เตรียมจะบุกเข้าไป
ทว่าทันใดนั้นเอง เยี่ยนจ้าวเกอในที่สุดก็หันมามองพวกเขา
“ก่อนหน้านี้ได้เจอจักรพรรรดิหญิงผู้หนึ่งในเมฆดาราปฐมกำเนิด มาจากโถงเซียนเส้นทางนอกรีตของพวกท่าน ฝึกฝนคัมภีร์อัสนีซ่อนเร้น ไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง เรียกได้ว่าเก่งกาจมีความสามารถ” เยี่ยนจ้าวเกอแตะนิ้วกับริมฝีปาก “ต่อจากนั้นเหมือนได้ยินนางบอกว่า หร่วนหมิงเหยียน ฉายาจักรพรรดิคืออัสนีเย็นเยือก?”
นักพรตรองเท้าสานกล่าวอย่างเรียบเฉย “หร่วนอัสนีเย็นเยือกที่ได้รับการถวายพลังศรัทธาจากห้าเขต ย่อมไม่ธรรมดา”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า กล่าวอย่างเป็นธรรมชาติ “น่าเสียดายความสามารถของนางเสียเปล่าไปเพราะเส้นาทางนอดรีต ไม่อย่างนั้นถ้าฝึกในสามพิสุทธิ์สายหลักของข้า อนาคตจะต้องยอดเยี่ยมแน่”
“กระนั้นถ้าหากเป็นนางสำคัญสำหรับพวกท่านยิ่ง และไม่ด่วนจากไปก่อน ภายใต้การส่งเสริมของแสงวิเศษพลังศรัทธา เซียนสวรรค์ยากจะบอก เซียนกำเนิดสมควรไม่มีปัญหา”
นักพรตรองเท้าสานแค่นเสียง “ยังไม่ใช่ตายเพราะสั่วหมิงจางนั่นอีกหรือ!”
พอคิดถึงอาจารย์ที่สูงส่ง มีภูมิรู้กว้างขวางในดวงใจ ถึงกับตายด้วยน้ำมือของสั่วหมิงจาง และตายต่อหน้าต่อตาตัวเองเมื่อครู่ นักพรตรองเท้าสานอดสั่นระริกไม่ได้
ความกลัวที่เก็บซ่อนกลายเป็นเพลิงโทสะ เพลิงโทสะทั้งหมดถูกย้ายไปอยู่บนตัวเยี่ยนจ้าวเกอ
ยามเผชิญกับความโกรธที่ทั้งเย็นเยียบทั้งเร่าร้อนนั้น เยี่ยนจ้าวเกอเหมือนกับมองไม่เห็น เพียงยกนิ้วหนึ่งขึ้นส่ายด้านหน้าตัวเอง
“ขอประทานโทษ ต้องตัดบทหน่อย วาจาเมื่คอรู่ของท่านมีข้อผิดพลาดอยู่”
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม “ความตายของสหายร่วมเส้นทางหร่วนผู้นั้นไม่เกี่ยวข้องกับผู้อาวุโสสั่ว”
พอฟังคำกล่าวนี้ เหล่าคนที่อยู่ตรงข้ามงงงันก่อน
พวกเขานึกอะไรบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว ในส่วนลึกของดวงตาปรากฏความเหลือเชื่อ
เพลิงโทสะในใจของนักพรตรองเท้าสายสลายไป สายตากลับสู่ความกระจ่าง อดพิจารณาเยี่ยนจ้าวเกออย่างจริงจังอีกรอบไม่ได้
“คำกล่าวเมื่อครู่ของเจ้ามีความหมายใด?” เขาจับจ้องเยี่ยนจ้าวเกอเขม็ง กล่าวเสียงทุ้ม
เยี่ยนจ้าวเกอยักไหล่อย่างไม่นำพา พลันยื่นมือออกมากวักไปทางนักพรตรองเท้าสาน
นักพรตรองเท้าสานคิดในใจว่าแย่แล้ว ต้องการโคจรวิชาต้านทาน แต่เป้าหมายของเยี่ยนจ้าวเกอไม่ใช่เขา
แผ่นหยกที่ก่อนหน้าใช้เปิดประตูหอเซียนม่วง ซึ่งเขาได้เก็บไว้ ลอยออกไปหามือของเยี่ยนจ้าวเกอด้วยตัวเอง!
นักพรตรองเท้าสานแตกตื่น ไม่สนใจอย่างอื่นอีก ลงมือทันที
ควันสีเขียว เหลือง แดง ขาว ดำ สว่างขึ้นบนห้านิ้วของเขา ครอบคลุมยี่ยนจ้าวเกออย่างยิ่งใหญ่
“วรยุทธ์จากฝ่ายฝีดาษไม่อาจให้ถูกตัว” เยี่ยนจ้าวเกอพลิกฝ่ามือวูบหนึ่ง กันควันวรยุทธ์ไว้ด้านนอก จากนั้นก็ม้วนกลับใส่นักพรตรองเท้าสาน!
นักพรตรองเท้าสานตื่นตระหนก รีบร้อนเก็บพลัง
ยอดฝีมือโถงเซียนคนอื่นๆ ด้านข้างเขาหลบเลี่ยงด้วยความหวาดกลัว
แผ่นหยกเคลื่อนช้าลง ตกลงในมือของเยี่ยนจ้าวเกอ ชายหนุ่มลูกคลำอย่างละเอียด เซื่อมซึมเหม่อลอย “วัตถุใช่คนไม่ใช่แล้ว!”
นักพรตรองเท้าสานเห็นเหตุการณ์นี้ สีหน้าบัดเดี๋ยวเขียวคล้ำบัดเดี๋ยวซีดขาว
จากนั้นเขานึกถึงสิ่งที่เยี่ยนจ้าวเกอได้พูดเมื่อก่อนหน้า รู้สึกเหลือเชื่อ “เจ้าหมายถึงเจ้าฆ่าหร่วนอัสนีเย็นเยือกไปแล้ว? เจ้ามีอาวุธเซียนหรือ?”
“สมควรบอกอย่างไรดี?” เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตัวเอง “นางตายเพราะข้า ความจริงตายด้วยอาวุธเซียนชิ้นหนึ่ง แต่อาวุธเซียนชิ้นนั้นไม่ได้เป็นของข้า”
พวกนักพรตรองเท้าสานเหล่ายอดฝีมือจากโถงเซียนได้ยินคำพูดนี้ จิตใจเต้นระส่ำ
คิดจะโต้ตอบว่าเยี่ยนจ้าวเกอคุยโวโอ้อวด กระนั้นพอเห็นฝีมือชิงแผ่นหยกไปเหมือนทำเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องง่ายของเยี่ยนจ้าวเกอ พวกเขากลับพูดไม่ออก
“พวกท่านความจริงไม่ต้องไปห่วงสหายร่วมเส้นทางหร่วนผู้นั้นว่าจะเป็นอย่างไรแล้ว ห่วงตัวพวกท่านก่อนจะดีกว่า” เยี่ยนจ้าวเกอหยิบแผ่นหยกขึ้นมา ยิ้มยิงฟัน
ยอดฝีมือเส้นทางนอดรีตล้วนสั่นสะท้าน
“ที่พวกท่านได้ผลักเปิดประตูเซียน เป็นเพราะว่าเทวกษัตริย์ไร้ประมาณพาพวกท่านศึกษาช่องว่างในหลักการแห่งฟ้าดินส่วนหนึ่ง” เยี่ยนจ้าวเกอแสยะยิ้ม ก้าวไปด้านหน้า “วันนี้ข้าคิดจะใช้ช่องโหว่วของกฎเกณฑ์ส่วนหนึ่งเช่นกัน”
“ยินดีต้อนรับ ข้ากำลังขาดเป้าสำหรับทดลองอยู่พอดี”
………………..