ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1463 ตอนนี้ สนุกสนานหรือไม่?
มีดแสงฟันลงอีกครั้ง เลือดสดๆ พลันกระเซ็นซ่าน
เฉินเฉียนหัวจับจ้องบาดแผลบนร่างตัวเองเขม็ง
มีดที่สอง กับมีดที่สองที่เคยเจอเมื่อครู่ไม่มีความแตกต่างใดๆ
ต่อด้วยมีดที่สาม มีดที่สี่…
มีดแล้วมีดเล่าเฉือนลง เลียบแบบทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้าอย่างสมบูรณ์แบบ
เฉินเฉียนหัวทราบชัดเจนว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะเฉือนมีดต่อไปลงที่ไหน จะตัดลึกเท่าไร กรีดยาวขนาดไหน ถึงขั้นที่ว่าในตอนที่สะบัดมีดครั้งนี้จะใช้ข้อมือมากขึ้น
ทุกๆ มีดต่อจากนั้นเหมือนกับเป็นวัฏจักร
หลังจากทุกอย่างจบลง สติของเฉินเฉียนหัวที่เลือดเนื้อทั่วร่างเลอะเลือนก็เริ่มเลือนราง
บาดแผลบนร่างเขาหายไปอีกครั้ง ปลายนิ้วของเยี่ยนจ้าวเกอมีคมแสงยื่นออกมาอีกครั้ง ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าเขา
จากนั้น วัฏจักรที่สามก็เริ่มขึ้น…
เหมือนกับไม่มีหยุดยั้งชั่วนิรันดร์
“เยี่ยนจ้าวเกอ!” เฉินเฉียนหัวพลันร้องขึ้น
“อะไร” เยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ด้านหน้าขานรับอย่างเรียบเฉย ขณะเดียวกันก็เฉือนมีดหนึ่งลงอีก
ประสบการณ์ที่เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยนในความทรงจำของเฉินเฉียนหัว เพียงแต่ว่าครั้งนี้เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ลงมือด้วยตัวเอง คมแสงลอยกลางอากาศ ขยับด้วยตัวมันเอง
ลำดับและตำแหน่งการออกมีดเหมือนก่อนหน้านี้โดยสมบูรณ์
จากนั้นก็เป็นวัฏจักรใหม่
“ข้าย่อมไม่คิดอยู่เล่นกับเจ้าที่นี่ตลอดไป” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างราบเรียบ “แต่เจ้าวางใจ ข้าใช้คัมภีร์นภากาลเวลา กระบี่ลวงเซียน คัมภีร์เซียนหลิงกวงทะยานสร้างสถานการณ์ในตอนนี้ขึ้น เจ้าสมควรสัมผัสได้แล้ว นี่ไม่ใช่ภาพหลอนที่ปลอมขึ้น แต่เป็นการย้อนกลับและการตั้งเวลาใหม่อย่างต่อเนื่อง”
เยี่ยนจ้าวเกอก้มมองเฉินเฉียนหัว กล่าวอย่างเย็นชา “ในมิติช่องว่างที่มีจำกัดนี้ การสร้างการย้อนกลับของเวลาช่วงสั้นๆ สะกดเจ้าที่ถูกทำลายพลังฝึกปรือไม่ใช่เรื่องยากเย็นเลยสำหรับข้า ถ้าไม่อย่างนั้น หลังจากเจ้าถูกทำลายพลังฝึกปรือ ร่างกายรับทัณฑ์ถลกหนังจะสูญเสียเลือดมากเกินไปจนตายได้ง่ายดายยิ่ง”
เฉินเฉียนหัวรับมีดหนึ่ง ครางเสียงหนักๆ คำหนึ่ง
“ข้าทราบว่าสำหรับเจ้าแล้วความตายนั้นไม่น่ากลัว เจ้าเองก็ไม่ใส่ใจ แต่เชื่อข้าเถิดว่าบนโลกใบนี้มีเรื่องราวที่น่ากลัวกว่าความตายเสียอีก” เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะคำหนึ่ง “แต่ถ้าเป็นเจ้า บางทีคนเสียสติอย่างเจ้าอาจรู้สึกสดใหม่กระมัง”
สีหน้าบนใบหน้าเฉินเฉียนหัว หากบอกว่าเป็นความเจ็บปวดเพราะได้รับบาดเจ็บ กลับมิสู้บอกว่าเป็นความอยู่ไม่สุข
“ตอนนี้สนุกสนานหรือไม่” รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอ “ตอนนี้ข้าขอพูดกับเจ้าสักสองสองประโยคที่นี่ อีกเดี๋ยวเจ้าค่อยๆ เล่นอยู่ที่นี่คนเดียวเถอะ”
เฉินเฉียนหัวกัดฟันกรอด ร่างกายดิ้นรนไปมา แต่ไม่อาจขยับได้อย่างแท้จริง
“กับสวะเฉกเช่นเจ้า ก่อนหน้านี้ข้าคิดวิธีจัดการเจ้าได้ไม่น้อย” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน “อย่างเช่นว่า ข้าสร้างส้วมสักแห่งหนึ่ง ขังเจ้าไว้ที่ก้น รับการชำระล้างจากลมฝนธัญญาหารทุกเช้าคืน แต่ต่อมาข้าก็คิดอีกว่า ทุกครั้งที่เปลี่ยนคนมา เจ้าจะรู้สึกสดใหม่สนุกสนานยิ่งกระมัง เช่นนั้นเป็นข้าลงโทษเจ้าหรือดูแลเจ้ากัน เช่นนี้ไม่เหมาะสม ไม่เหมาะสม”
เขากำมือขวาเป็นหมัด แล้วต่อยใส่ฝ่ามือซ้ายเบาๆ “ทว่าพวกเราเลือกคนคนเดียว จากนั้นก็ย้อนเวลาเหมือนอย่างที่ข้าทำในตอนนี้ ให้เจ้าเป็นส้วมให้คนคนเดียวตลอดกาล หนำซ้ำรูปร่าง ขนาด น้ำหนัก ความเร็ว กระบวนการในทุกๆ ครั้งล้วนเป็นเหมือนเดิม”
เยี่ยนจ้าวเกอมองเฉินเฉียนหัวพลางยิ้มเล็กยิ้มน้อย “วิธีการนี้กับการถลกหนังในตอนนี้ เจ้าชอบวิธีไหนมากกว่า”
ถึงแม้ใบหน้าจะประดับด้วยรอยยิ้ม ทว่าดวงตาเย็นเยียบ ไม่มีแววล้อเล่นแม้แต่น้อย สายตาทำให้เฉินเฉียนหัวรู้สึกแสบร้อน
“ยังมีวิธีอื่นอีก” เยี่ยนจ้าวเกอน้ำเสียงเย็นยะเยือก “เช่นสะกดร่างเจ้าทำให้ขยับไม่ได้โดยสิ้นเชิง จากนั้นก็ควักลูกตาสองข้างกับตัดลิ้นเจ้าออก แต่ว่าเหลือการสัมผัส การได้ยิน และการดมกลิ่นไว้ให้ แต่เจ้าวางใจได้เลย สถานที่ที่จะใช้ขังเจ้า จะไม่มีเสียงหรือมีกลิ่นใดๆ ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ เจ้าค่อยๆ รอวันที่ฟ้าดินเสื่อมสลายเถอะ เจ้าชมชอบเล่น ชบชอบคาดเดานัก ก็ลองทายดูว่าหากอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ เจ้าจะทนได้สักกี่น้ำ”
เฉินเฉียนหัวกลับตาไม่ตอบ ร่างกายสั่นเทิ้ม เหมือนกับกำลังอดทนต่ออะไรบางอย่าง ความกระวนกระวายแสดงออกมาอย่างชัดเจนแล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอมองเขาอย่างสงบนิ่ง เอียงศีรษะลงเล็กน้อย “เจ้าดู ข้ายังคงเป็นคนมีเหตุผลนัก สุดท้ายยังเตรียมวิธีเล่นที่แตกต่างให้เจ้า ทำให้เจ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนแบบ เจ้าสมควรขอบคุณข้าหรือไม่ พวกเราควรมีมารยาทพื้นฐานกระมัง”
“ท่าน ท่านโมโหยิ่ง!” เฉินเฉียนหัวฉีกมุมปากอย่างยากลำบาก เหมือนกับกำลังยิ้ม “ที่ท่านโมโหเป็นเพราะข้าทำลายแผนการของท่าน แต่ท่านกลับทำอะไรไม่ได้กระมัง”
เขาดิ้นรนขณะเงยหน้ามองเยี่ยนจ้าวเกอ “ข้าเสียดายมาโดยตลอด ท่านเดิมทีเป็นคนที่น่าสนใจ แต่กลับเหมือนคนส่วนใหญ่ ถูกยั่วโมโหเพียงเพราะเรื่องที่น่าเหลืออด”
เฉินเฉียนหัวฝืนยิ้ม “ตอนนี้ท่านทรมานข้า เพราะว่าความจนปัญญากับความโกรธในเรื่องอื่นๆ ของท่าน…”
เยี่ยนจ้าวเกอมองเขาพร้อมหัวเราะพรูดออกมา
คมแสงยังคงฟันลงมีดแล้วมีดเล่า ไม่ทันไร ก็เป็นอีกวัฏจักรหนึ่ง
เฉินเฉียนหัวหายใจแรงเหมือกับสัตว์ถูกขัง แต่ว่าเขายังคงดิ้นรนเงยมองเยี่ยนจ้าวเกอ
“อย่าได้รู้สึกดีขนาดนี้เพราะข้าเลย” เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะพลางส่ายหน้า “ถ้าหากว่าข้าโกรธจนสูญเสียระดับสติปัญญาไป แค่ตบเจ้าให้ตายในหนึ่งฝ่ามือก็พอ”
เขามองเฉินเฉียนหัวแวบหนึ่งอย่างรังเกียจ “เจ้าไม่สนใจความเป็นความตาย? แล้วนั่นเป็นไร เกี่ยวอะไรกับข้าด้วย ทำไมข้าต้องสนใจว่าเจ้ากลัวความตายหรือไม่ หากตบเจ้าตายในหนึ่งฝ่ามือ ขอแค่ข้ารู้สึกสะใจก็พอแล้ว ผู้ใดสนกันว่าเจ้ารู้สึกอย่างไร”
เยี่ยนจ้าวเกอแบมือ “ถ้าหากข้าเป็นห่วงเพราะเรื่องอื่น แล้วตอนนี้้ข้าจะมีกะใจมาครุ่นคิดวิธีจัดการเจ้าหรือ”
เฉินเฉียนหัวแค่นเสียงคำหนึ่ง บนร่างมีเลือดสายหนึ่งกระเด็นออกมา
ทั้งๆ ที่ทราบรายละเอียดทั้งหมดที่เคยเจอ กลับยังต้องเกิดซ้ำไปซ้ำมา ทำให้ความหงุดหงิดของเขาพุ่งสู่ระดับที่ใกล้คลุ้มคลั่ง
แต่ฝันร้ายที่เป็นวัฏจักรไร้สิ้นสุดนี้กลับเหมือนชั่วนิรันดร์ ไม่มีจุดหมาย
ทว่าในใจเกิดคำถามใหม่ กระตุ้นให้เขาถามอย่างยากลำบาก “มารดินโบ่วคืนชีพแล้วดับสูญ ท่านทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาได้”
“อยากรู้ว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นกันแน่ อยากรู้ว่าข้าจะจัดการปัญหานี้อย่างไร” เยี่ยนจ้าวเกอก้มหน้า มองเฉินเฉียนหัว
สองฝายสบตากัน เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว
ส่วนความเจ็บปวดของเฉินเฉียนหัวสั่งสมกันมากขึ้นเรื่อยๆ เขากัดฟัน อดทนอย่างลำบาก
เนิ่นนานให้หลัง เยี่ยนจ้าวเกอพลันยิ้มขึ้น พูดทีละคำ
“ไม่ บอก เจ้า หรอก”
ว่าแล้วเขาก็หันกายจากไป ไม่ได้หยุดลง หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ทั้งๆ ที่ทราบว่าอาจจะเป็นการหาความอัปยศใส่ตัว คำถามของเฉินเฉียนหัวยังคงหลุดปากออกมา
จิตใจของเขาจำเป็นต้องหาเรื่องราวบางอย่างมาแบ่งแบกสมาธิ ช่วยเขาต้านความกระวนกระวายของตัวเอง
ความหงุดหงิดไม่อาจถูกบรรเทา มีแต่จะสั่งสมมากขึ้น สุดท้ายก็กลายเป็นความเจ็บปวด
“เยี่ยน! จ้าว! เกอ!” เฉินเฉียนหัวส่งเสียงร้องที่ทั้งเจ็บปวดและเดือดดาล!
ความเกลียดคร้านในวันวานหายไป ไม่คงอยู่อีก ความอดทนอดกลั้นในที่สุดก็สลายไปด้วยเช่นกัน
ในกรงเปลวเพลิงสีดำ มีเสียงคำรามที่เหมือนกับสัตว์ถูกขังดังขึ้นต่อเนื่อง
การตอบรับที่มอบให้แก่เขา คือมีดแสงเฉือนลงอีกครั้งตามลำดับ
ไม่เร็วไม่ช้า ไม่ขยับไม่สั่นไหว
ครั้งแล้วครั้งเล่า