ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1515 ปิดฟ้าข้ามทะเล ล่อเสืออกจากเขา
หลังจากการโจมตีกันและกันของเส้นทางนอกรีตสองเส้นทางจบลงชั่วคราว ทุกๆ ฝ่ายรวมถึงแดนสุขาวดีตะวันตกกับเผ่าปีศาจต่างมีสมาธิมากขึ้นในการจับตามองการเคลื่อนไหวของสำนักเต๋าสายหลักและนพยมโลก
ตอนนั้นเพวกเยี่ยนจ้าวเกอซ่อนอยู่ในจักรวาลฟ้าฟื้นตลอดเวลา ยากจะรับประกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด ยิ่งอย่าว่าแต่ออกไปเคลื่อนไหวด้านนอก เพียงเผยร่องรอยเล็กน้อย ก็อาจถูกคนกัดไม่ปล่อย
ถึงขั้นที่การเก็บข่าวสารในโลกภายนอก ทำความเข้าใจทิศทางของอีกฝ่าย และการรวบรวมข้อมูล มีความยากมากขึ้น
ต่อจากนี้สมควรทำอย่างไร ไม่เพียงแต่เยี่ยนจ้าวเกอเท่านั้น พวกเยี่ยนตี๋ก็กำลังใคร่ครวญอยู่เช่นกัน
ดังนั้นตอนนี้พอได้ยินคำพูดของเยี่ยนจ้าวเกอ พวกเยี่ยนตี๋กับเกาชิงเสวียนต่างเกิดความสนใจ
“จ้าวเกอมีแผนการใด” หลงซิงเฉวียนถาม
“ปิดฟ้าข้ามทะเล ล่อเสือออกจากเขา” เยี่ยนจ้าวเกอธิบายแผนการของตัวเองคร่าวๆ พวกเยี่ยนตี๋ได้ยินต่างก็ครุ่นคิด
“ช่วงเวลาต่อจากนี้พวกเราผักผ่อนรักษาอากรบาดเจ็บ เจ้าเตรียมตัวเกี่ยวกับแผนการนี้ไว้ก่อน หลังจากเวลาและโอกาสทุกอย่างสุกงอม พวกเราค่อยตัดสินใจอีกครั้ง” เยี่ยนตี๋กล่าว
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “มอบให้ข้าเถอะ”
จากสงครามก่อนหน้า อาการบาดเจ็บของคนส่วนใหญ่ต่างเกิดขึ้นจากการถูกกลืนกินกลับโดยค่ายกลลงทัณฑ์เซียน อาการบาดเจ็บในนี้จึงเกาะเกี่ยวกันล้ำลึก แก้ไขต้นตอได้ยาก ปราณกำเนิดเสียหายได้ง่าย ยากจะชดเชย
เดิมทีเป็นเพราะว่าวาสนา อาการบาดเจ็บของเยี่ยนจ้าวเกอจึงหายดีแล้ว ถึงขั้นยังฝ่าภัยพิบัติสัจพิศวง เลื่อนสู่ระดับเซียนลี้ลับได้
ทว่าต่อจากนั้นเขาไปยังโถงเซียนทันที ไม่ได้ฟื้นฟูตัวเองดีนัก
หลังจากอาละวาดบนโถงเซียนเสร็จ เขาก็สิ้นเปลืองลมปราณและจิตใจมหาศาล ที่การฟื้นฟูเชื่องช้า ผ่านไปนานยังไม่กลับคืนสู่สภาพสูงสุดก็เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เอง
พวกเยี่ยนตี๋รักษาอาการบาดเจ็บมีความลำบากมากกว่า ต่อให้เกาชิงเสวียนกับนักพรตอวิ๋นเจิงเป็นผู้สืบทอดกระแสตรงสายเหนือพิสุทธิ์ก็ไม่ได้ดีกว่าเท่าไหร่
ตรงกันข้ามเป็นพวกสวีเฟย เพียงสิ้นเปลืองพลังมากไป หลังสงบใจพักผ่อนชั่วระยะเวลาหนึ่งก็ใช้ได้แล้ว
ในช่วงนี้เยี่ยนจ้าวเกอนอกจากจะปรับลมหายใจฟื้นฟูเพื่อกลับคืนสู่สภาพเดิมแล้ว ก็ขบคิดว่าจะปลอมแปลงร่องรอยที่เกี่ยวข้องกับเทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอดอย่างไร
น้อยหรือมากไปล้วนไม่ได้
ถ้าหากว่าเส้นทางนอกรีตไม่อาจยืนยันได้ว่าเทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอดยังมีชีวิตอยู่หรือไม่จริงๆ แล้วร่องรอยที่ปล่อยอกมาในครั้งนี้สมจริงเกินไป เช่นนั้นใช่ว่าไม่มีความเป็นไปได้ที่จะกระตุ้นให้เทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับพระศรีอาริย์ลงมือด้วยตัวเอง
ถ้าหากว่ายังมีเศษศิลามนุษย์กำเนิดกระจายอยู่ด้านนอกจริงๆ สองฝ่ายจะต้องให้ความสำคัญถึงขีดสุด
เทวกษัตริย็ไร้ประมาณสนใจเศษศิลามนุษย์กำเนิด ถึงขั้นอาจมีเศษศิลาฟ้ากำเนิดมากกว่าเดิม
นั่นสำหรับเยี่ยนจ้าวเกอเหมือกระทำเกินเลยมิสู้ไม่กระทำ
หากลวกๆ เกินไปก็ไม่ได้เช่นกัน
เทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับพระศรีอาริย์ไม่ลงมือด้วยตัวเอง บางทีเส้นทางนอกรีตสองเส้นทางยากจะแยกแยะร่องรอยของเทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอดว่าจริงหรือปลอม
แต่ว่าแดนสุขาวดีตะวันตกกับเผ่าปีศาจ ไม่แน่ว่าจะมีคนที่คุ้นเคยกับเทวกษัตริย์ที่เก่าแก่สุดขีดผู้นี้
โดยเฉพาถ้าหากว่าปฐมเทวะนพวิญญาณยังอยู่บนโลก เช่นนั้นก็ไม่ต้องกล่าวมากความ เพราถึงอย่างไรเขาก็เคยเป็นพาหนะของเทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอดมาก่อน
เยี่ยนจ้าวเกอจึงเปลืองสมองเพราะเรื่องนี้อย่างแท้จริง
รอหลังจากทุกอย่างเตรียมเรียบร้อยแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็พบหน้ากับพวกเกาชิงเสวียนอีกรอบ ปัจจุบันอาการบาดเจ็บของอีกฝ่ายดีขึ้นมากแล้ว
“เรื่องเกี่ยวกับจักรพรรดิตงจี๋ชิงหัว เจ้าเตรียมถึงขนาดไหนแล้ว” หลงซิงเฉวียนถาม
เยี่ยนจ้าวเกอตอบ “โดยรวมเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ว่ายังไม่เหมาะกับการดำเนินการของพวกเรา ไม่อย่างนั้นอาจเผยร่องรอยได้ จำเป็นต้องขอให้เทวกษัตริย์ที่ขึ้นสู่ชั้นมหาชาลของสำนักเต๋าเราลงมือ”
เขาพูดพลางมองเกาชิงเสวียน “ถ้าหากว่าเจ้าแม่อู๋ตังมีเวลาว่าง ต้องขอยืมมือนาง”
เกาชิงเสวียนพยักหน้า “มอบให้ข้าเถอะ ข้าจะติดต่อกับเจ้าแม่อู๋ตังเอง”
ในเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลของสำนักเต๋าที่ปัจจุบันยังเคลื่อนไหว ละได้รับการยืนยันว่าดำรงอยู่ จักรพรรดิโกวเฉินไม่ลงรอยกับจักรวาลฟ้าฟื้น มาตรว่าต้องการปรับความสัมพันธ์ของสองฝ่ายให้ดีขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
สั่วหมิงจางนับว่าเป็นสนิทสนมกับเยี่ยนจ้าวเกอและฟ้าเหนือฟ้ามากที่สุด แต่เป็นเพราะเรื่องราวในอดีต เขาเป็นเซียนสวรรค์ของสำนักเต๋าที่โถงเซียนจนถึงขุมกำลังอื่นๆ จับตาอย่างใกล้ชิดที่สุด
ปัจจุบันไฟสงครามระหว่างเส้นทางนอกรีตสองเส้นทางค่อยๆ มอดดับลง เทวกษัตริย์ไร้ประมาณมีเวลาว่างมากกว่าก่อนหน้านี้มาก
หากสั่วหมิงจางมีการเคลื่อนไหวแม้เพียงนิดเดียว เกรงว่าจะดึงดูดความสนใจของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณทันที
ดังที่กล่าวว่าทำเกินไปมิสู้ไม่กระทำ เยี่ยนจ้าวเกอคิดจะหาความวุ่นวายส่วนหนึ่งให้แก่โถงเซียนกับแดนสุขาวดีบัวขาว แต่ว่าจะต้องคว้าความรู้จักพอในนี้ไว้ให้ดี
ทางจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ เยี่ยนจ้าวเกอกลับมีการระวังป้องกันในใจ ท่าทีที่เทวกษัตริย์แห่งสำนักเต๋าท่านนี้มีต่อเขา มักทำให้รู้สึกพิกลๆ อยู่หลายส่วน
เยี่ยนจ้าวเกอจึงขอให้เจ้าแม่อู๋ตังช่วยวางทัพลวง
ขณะที่ตามหาหลุมศพของเยี่ยนซิงถางและตี๋ชิงเหลียน ก็เพื่อตามหากระบี่ลวงเซียนสายเหนือพิสุทธิ์
เจ้าแม่อู๋ตังจะช่วยเหลือเพราะเรื่องนี้ ถือว่าปกติ
นางเป็นเป้าหมายที่ชัดเจนเกินไป ถูกยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาจับตาได้ง่าย จะไปตามหากระบี่ด้วยตัวเองกลับไม่สะดวก มิสู้มอบให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอกับเกาชิงเสวียน
ความกระอักกระอ่วนในปัจจุบันของสำนักเต๋าสายหลักอยู่ที่ไม่มีผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาที่สามารถลงมือได้อย่างแน่นอนคอยสะกดทัพ ดังนั้นยามเผชิญหน้ากับตัวตนอย่างเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ พระศรีอริยเมตไตรย พระอมิตาภพุทธเจ้า กับกษัตริย์บูรพาต้องกระทำอย่างเงียบๆ
แต่ว่าทุกคนก็ยังก้าวไปด้านหน้าต่อ พวกเยี่ยนจ้าวเกอ สวีเฟย เฟิงอวิ๋นเซิงที่ปัจจุบันมีกายทองหาเทวะในมือ ค่อยๆ ประสบความสำเร็จ กลับไม่กลัวยอดฝีมือระดับมหาชาลของเส้นทางนอกรีต
ความแตกต่างน้อยนิดในนี้ เป็นโอกาสที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอใช้ประโยชน์
“จะรอข่วดีจากเจ้าแม่อู๋ตัง” เยี่ยนจ้าวเกอว่า
แล้วเจ้าแม่อู๋ตังก็ไม่ได้ปฏิเสธจริงๆ
ไม่ทันไร คนในระดับสูงของเส้นางนอกรีตก็ได้รับข่าว เกิดระลอกคลื่นขึ้น
จุดเริ่มตนเป็นเจ้าแม่อู๋ตังที่ก่อนหน้านี้ไม่นานได้เข้าร่วมสมครามใหญ่ แล้วถอนตัวไปอย่างยากลำบาก หายสาบสูญไป ก็กลับมาปรากฏตัวอีกครั้งจากสภาวะกึ่งล่องลอยกึ่งหลับไหลในมิติไร้สิ้นสุดนอกเขตแดนในะยะเวลาอันสั้น
ขุมกำลังอื่นๆ ความจริงจับตาดูเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลเหล่านี้อย่างใกล้ชิด
ไม่ทันไรก็มีคนไปหาเรื่อง
เจ้าแม่อู๋ตังระวังตัว ถอนตัวล่าถอยสำเร็จอีกครั้ง
แต่ก็ถูกค้นพบว่า นางปรากฏตัวอย่างผิดปกติในครั้งนี้ เพื่อตามหาเทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอด
เทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอดเป็นเพียงแค่ชื่อสำหรับคนรุ่นใหม่ แต่ว่าสำหรับคนที่อยู่ก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ กลับไม่มีใครกล้าดูแคลน
ดังนั้นไม่ทันไรก็ดึงดูดความสนใจของแต่ละฝ่าย
ด้านนอกแดนเซียนทั้งสามพันในจักรวาลโถงเซียน พลันมีบัวเขียวดอกหนึ่งเข้าใกล้
ด้านบนบัวเขียวปรากฏฉัตรวิเศษสีทอง บนฉัตรมีไฟตะเกียงสีทองส่ายไหว
บัวเขียวนี้ไปถึงด้านนอกแดนเซียนทั้งสามพันก็หยุดลง
ทว่าในวังสวรรค์โถงเซียนพลันมีแสงวิเศษสายหนึ่งลอยออกมา ม้วนบัวเขียวไป
หลังจากบัวเขียวเข้าไปด้านในตำหนักสวรรค์โถงเซียน ก็ลอยออกจากแสงวิเศษ บนแท่นบัวนั่งด้วยพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง มีกายเป็นสีน้ำเงิน มือขวาถือฉัตรพาดไปถึงบ่าซ้าย มือซ้ายรองบนตัก
ระหว่างมหาชาลด้วยกัน จะเกิดการทำลายความน่าอัศจรรย์ ในแสงวิเศษปรากฏนักพรตวัยกลางคนผู้หนึ่ง เป็นเทวกษัตริย์คนหนึ่งของโถงเซียน
“อินทรเกตุธวัชราชาพุทธะมาถึงที่นี่ ไม่ทราบมีคำสั่งสอนใด” นักพรตถาม
อินทรเกตุธวัชราชาพุทธะบนบัวเขียวตอบ “มาเพราะเจ้าแม่อู๋ตังกับเทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอด ต้องการพบเจ้ามรรคาไร้ประมาณ ขอให้ชี้แจงแถลงไข”
“ตอนนี้เทวกษัตริย์ไร้ประมาณไม่อยู่บนวังสวรรค์ แต่ว่ามีคำกล่าวทิ้งไว้” นักพรตคนนั้นพูด
อินทรเกตุธวัชราชาพุทธะถาม “อ้อ? ไม่ทราบว่าอย่างไร”