ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1525 กระบี่คู่สะท้านโลกหล้า
เยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้ามองฟากฟ้า
ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของตราผนึกที่เมื่อครู่ถูกพวกนักพรตชิงจางผลักดันพิธีเซ่นสรวงเลือดกระตุ้น ยังไม่สลายไปโดยสิ้นเชิง
เหนือเขาเมฆทอง กลางอากาศยังคงส่องแสงสีแดงก่ำ
“ก่อนหน้านี้สองพันกว่าปี…ข้าจำได้ว่าเป็นเมื่อสองพันเก้าสิบเจ็ดปีก่อน เยี่ยนซิงถางกับตี๋ชิงเหลียนสองสหายร่วมเส้นทางมาจากด้านนอก มาถึงโลกน้ำพุหยกของพวกเรา” เสียงของถงซินหลินดังขึ้น
ดวงตานางฉายแววระลึกย้อนหลัง “พวกเขามาเพื่อตามหาบรมครูอวี้ติ่งกับกระบี่ลวงเซียน”
ตอนนั้นอวี้ติ่งจินหยินนั่งมรณะไปนานแล้ว กระบี่ลวงเซียนได้รับการรักษาบนโลกน้ำพุหยกมาโดยตลอด คนที่อยู่ในโลกน้ำพุหยก ไม่มีคนที่สำเร็จห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด ยากจะกระตุ้นควบคุมกระบี่ลวงเซียน
ดังนั้นถึงแม้นบนโลกใบนี้จะมีสายสืบทอดที่ไม่เหมือนกันมากมาย แต่ว่าก็ไม่มีใครสามารถยึดครองกระบี่อย่างแท้จริงได้
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขายินยอมให้ผู้มาจากภายนอกนำกระบี่ไป ต่อให้เยี่ยนซิงถางจะแสดงตัวว่า เป็นผู้สืบทอดกระแสตรงของอวี้ติ่งจินหยินเหมือนกับพวกเขาก็ตาม
“สหายร่วมเส้นทางเยี่ยนเคยพูดถึงว่า ปัจจุบันสำนักเต๋าสายหลักของพวกเราอ่อนแอ เส้นทางนอกรีตเหิมเกริม ต้องการเชื้อเชิญพวกเราให้ร่วมกันทำการใหญ่” ถงซินหลินเอ่ยเสียงเบา “แต่น่าเสียดายตอนนั้นพูดยังไม่ทันจบก็มีคนอื่นๆ มาถึงแล้ว”
“กระบี่พุทธะ?” เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋ตาเป็นประกาย
ถงซินหลินพยักหน้า “ไม่ผิด กระบี่พุทธะ”
สีหน้าของนางซึมเซาอยู่บ้าง “กระบี่พุทธะมาจาด้านนอกโลก อานุภาพของพระพุทธเจ้ากดทับโลกน้ำพุหยก ที่นี่แม้นว่ามีกระบี่ลวงเซียน แต่ไม่มีใครควบคุมได้ ย่อมยากจะต้านทานกระบี่ศาสนาพุทธเล่มนั้น”
“ท่านมาเพราะกระบี่ลวงเซียน หรือเพราะ…” เยี่ยนจ้าวเกอเรียบเรียงคำพูด
ถงซินหลินพยักหน้า กล่าวต่อคำพูดของเขา “กระบี่พุทธะมาตามหาบูรพาจารย์อวี้ติ่ง หลังจากแน่ใจแล้วว่าบูรพาจารย์อวี้ติ่งได้จากโลกไปแล้ว ก็ไม่ได้ทำอะไรซากสังขารของบูรพาจารย์ แต่ว่าท่านต้องการนำกระบี่ลวงเซียนไป ทั้งต้องการชำระล้างพวกเราให้นับถือศาสนาพุทธแดนสุขาวดี อานุภาพของยอดฝีมือชั้นมหาชาล ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราต้านทานได้…”
สีหน้าของถงซินหลินหม่นหมองอยู่บ้าง ส่วนสีหน้าของนักพรตชิงจางหนักอึ้งมากขึ้น
พวกเขาสองคนเคยเจอการมาของกระบี่พุทธะในตอนนั้นด้วยตัวเอง เป็นภัยพิบัติใหญ่หลวงที่หมื่นอาชาบนโลกน้ำพุหยกเงียบใบ้
ถึงจะเป็นบุคคลที่โดดเด่นยิ่งกว่านี้ อาศัยเพียงการฝึกปรือและขีดความสามารถของตัวเอง ก็ไม่อาจใช้พลังฝึกปรือระดับเซียนลี้ลับ ต้านทานยอดฝีมือศาสนาพุทธชั้นมหาชาล ต่อให้นั่นจะเป็นพระพุทธเจ้าเส้นทางนอกรีตก็ตาม
เหมือนกับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ในโลกมนุษย์ทดลองรับมือเซียนจริงแท้ไร้ช่องโหว่ กลับไม่อาจทำอันตรายเซียนลี้ลับสงบนิ่ง
เซียนลี้ลับก็ไม่อาจต้านทานเซียนสวรรค์ได้เช่นกัน ไม่เอ่ยถึงการสร้างความเสียหายแก่การป้องกันของบุปผาเซียน ยามเผชิญบุปผาเซียน วายุเซียนของตัวเองหากโดนโจมตีจะพังทลาย หายไปทันที
การเลื่อนสู่ชั้นมหาชาล ถ้าไม่มียอดฝีมือระดับอื่นๆ คอยสะกด หรือว่าได้รับการควบคุมจากมหามรรคา เทียบกับเซียนลี้ลับแล้วแทบคงอยู่ทุกที่
ในอดีตกระบี่พุทธะก็เป็นเช่นนี้ แสงสว่างครอบคลุมโลกน้ำพุหยก สิ่งมีชีวิตในโลกใบนี้ไม่มีโอกาสหลบหนี
กระบี่พุทธะบางทีไม่อาจชำระล้างเซียนลี้ลับได้ แต่ต้องการชำระล้าคนอื่นๆ ล้วนทำได้
แต่ดูเหมือนตัวกระบี่พุทธะจะไม่สนใจเรื่องคล้ายๆ กัน ดังนั้นเพียงคิดจะเอาตัวพวกเขาไปให้คนอื่นจัดการหลังจากกลับแดนสุขาวดีบัวขาว
เยี่ยนซิงถางกับตี๋ชิงเหลียนก็ถูกรวมเข้าไปด้วย
ในวินาทีนี้เอง เยี่ยนซิงถางกลับเสนอเงื่อนไข
ในเมื่อกระบี่พุทธะใช้คำว่ากระบี่ตั้งชื่อ เขาก็ต้องการตัดสินสูงต่ำด้านวิชากระบี่กับกระบี่พุทธะ
“ตอนนั้นทุกคนคาดไม่ถึงว่า กระบี่พุทธะตกลงแล้ว” ถงซินหลินนึกย้อนพลางเล่า
เยี่ยนจ้าวเกอใคร่ครวญพลางกล่าว “กระบี่พุทธะดำดิ่งอยู่ในมรรคากระบี่ตลอดชีวิต มุ่งมั่นสร้างเส้นทางใหม่ให้แก่วรยุทธ์ของศาสนาพุทธ ตามเหตุผลแล้ว ท่านมีความยึดมั่นถือมั่น ถึงขั้นมีอารมณ์โลภโกรธหลงครบถ้วน ทว่าสุดท้ายกลับเดินบนเส้นทางใหม่เอี่ยมเส้นหนึ่ง มีความสำเร็จของตัวเอง มีตำนานว่าไว้ว่า ครั้งกระโน้นเดิมทีกระบี่โพธิสัตว์ออกจากแดนสุขาวดีที่เปลี่ยนแปลงหลักคำสอน ภายหลังกลับหันมานับถือ รับคำสั่งสอนในปัจจุบันของพระศรีอริยเมตไตรย เพื่อทะลวงภัยพิบัติฟ้ากำเนิด สำเร็จผลพุทธ”
เขาหรี่ตา “แต่ไม่ใช่ท่านสูญเสียความเชื่อมั่นต่อเส้นทางของตัวเอง เป็นเพราะว่าอายุขัยของท่านใกล้สิ้นสุดแล้ว”
กระบี่โพธิสัตว์มีชื่อเสียงมานานยิ่ง ภายหลังระหว่างทางเกิดการเปลี่ยนแปลง อายุขัยของตัวเองเสียหายเพราะเหตุเปลี่ยนแปลงส่วนหนึ่ง มีอายุขัยสั้นกว่าพระโพธิสัตว์หรือเซียนกำเนิดของสำนักเต๋าทั่วไป
มาถึงเวลาหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ คำนวณตามอายุ ท่านเข้าใกล้ขีดจำกัดอายุขัยของตัวเองแล้ว
ที่ท่านยอมหันกลับมานับถือแดนสุขาวดีบัวขาว ไม่ใช่เพราะรักตัวกลัวตาย แต่ไม่ยินยอมให้มรรคากระบี่ของตนหายไปในขณะที่ยังไม่สมบูรณ์เพราะความตาย
การสำเร็จผลพุทธเส้นทางนอกรีต แม้นว่าจะไม่ถึงขั้นหลุดพ้นไม่เสื่อมสลายเหมือนการสำเร็จผลพุทธของศาสนาพุทธสายหลัก แต่กลับเสริมอายุขัยส่วนหนึ่งที่เสียไปเมื่อครั้งกระโน้นของกระบี่โพธิสัตว์
เมื่อเป็นแบบนี้ ท่านก็มีเวลาไปปรับปรุงมรรคากระบี่ของตัวเอง
“ข้าเคยได้ยินเรื่องเล่าส่วนหนึ่งของกระบี่โพธิสัตว์หรือว่ากระบี่พุทธะผู้นี้” เยี่ยนจ้าวเกอว่า “ท่านเปลี่ยนสังสารวัฏหกวิถีเข้าสู่กระบี่ กระบี่และคนรวมเป็นหนึ่ง ร่างกลายเป็นหกวิถี ทุกๆ พันปีโดยประมาณจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งหนึ่ง”
ถงซินหลินพอฟังพยักหน้าแช่มช้า “ไม่ผิด ตอนนั้นพวกเราค่อยทราบเมื่อสายไป”
กระบี่พุทธร่างเปลี่ยนเป็นหกวิถี ทุกครั้งที่เปลี่ยนแปลง นิสัยก็จากแตกต่างกัน
วิถีเทวดาสงสารในมนุษย์ มีจิตเมตตากรุณา วิถีมนุษย์มีเจ็ดอารมณ์หกอาตยนะครบเหมือนกับมนุษย์ปุถุชน วิถีเดรัจฉานเซื่องซึมเหม่อลอย เหมือนกับไร้การรับรู้ ตกอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น
“ตอนนั้นท่านเปลี่ยนเป็นวิถีอสูรพอดีใช่หรือไม่” เยี่ยนจ้าวเกอถาม
กระบี่พุทธะที่กลายร่างเป็นวิถีอสูร ชมชอบต่อสู้เป็นพิเศษ ยึดมั่นถือมั่นเป็นพิเศษ ชอบเอาชนะเป็นพิเศษ
“ไม่ผิด เป็นวิถีอสูร!” ถงซินหลินตอบ “ท่านใช้ระดับมหาชาล ตอบรับการประกระบี่กับสหายร่วมเส้นทางเยี่ยน ปู่ของท่านซึ่งเป็นเซียนลี้ลับ แต่คล้ายเป็นเพราะท่านเองก็รู้จักชื่อปู่ของท่านด้วย”
ขณะที่พูด ถงซินหลินใบหน้าปรากฏความเลื่อมใส “ต่อมา พวกเราคนในโลกน้ำพุหยกค่อยทราบว่าอะไรคือวิชากระบี่ระดับสูงอย่างแท้จริง ทราบว่าก่อนหน้านี้ตนเองนั่งในบ่อเหม่อมองฟ้า”
ไม่เพียงแต่เยี่ยนซิงถางเท่านั้น กระบี่พุทธะก็ได้แสดงวิชากระบี่อันเยี่ยมยอดที่ทำให้โลกน้ำพุหยกต้องอับอายออกมาเช่นกัน
“ทว่ากระบี่พุทธะแกร่ง ปู่ของท่านแข็งแกร่งกว่า!” ถงซินหลินกล่าว “ระดับวิชากระบี่ของกระบี่พุทธะเดิมก็ทำให้พวกเราได้เปิดโลกทัศน์แล้ว แต่ว่าปู่ของท่านกลับทำให้พวกเรารู้สึกว่าการเรียนกระบี่มาชั่วชีวิตล้วนเสียเวลาเปล่า”
สองฝ่ายต่อสู้กัน เยี่ยนซิงถางปะทะสิบครั้งทำลายได้สิบครา ล้วนเอาชนะได้หมดสิ้น!
กระบี่พุทธะที่กลายเป็นวิถีอสูรแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า
เขาไม่ได้นำกระบี่ลวงเซียนกับคนในโลกน้ำพุหยกกลับแดนสุขาวดีบัวขาว แต่ก็ไม่ปล่อยคนอื่นออกไป แสงพุทธพุ่งสู่ฟากฟ้าปิดผนึกโลกน้ำพุหยก เพียงคิดประกระบี่กับเยี่ยนซิงถาง
เยี่ยนซิงถางมอบแรงบันดาลใจไร้สิ้นสุดให้แก่กระบี่พุทธะ ทำให้ขณะที่ท่านลุ่มหลงงมงาย ระดับวิชากระบี่ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทว่าท่านพัฒนา เยี่ยนซิงถางก็พัฒนาขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน สะกดท่านตกเป็นรองได้ตลอด!
สู้ได้ถึงกลางทาง ตี๋ชิงเหลียนถึงขั้นชักกระบี่ลงสนาม ประกระบี่กับอีกฝ่ายแทนสามีของตัวเอง
“ตอนนั้นสหายร่วมเส้นทางตี๋ย่าของท่านทางหนึ่งดื่มสุรา ทางหนึ่งชักกระบี่ที่เอว โยนกาสุราทิ้งลงพื้น ท่วงท่าผ่าเผยที่ถือกระบี่เดินไปหาพระพุทธเจ้าองค์นั้นกลงอากาศ ทำให้ข้าที่เป็นสตรีเหมือนกันนับถือยิ่ง ภาพนี้ยังคงปรากฏอยู่ตรงหน้า พันปีไม่เสื่อมสลาย” ถงซินหลินถอนใจพลางกล่าว