ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1533 สังหารคนชดใช้ชีวิต
วานรปีศาจมือถือกระบองสารพัดนึก ปราณปีศาจพุ่งสู่ฟากฟ้า สั่นสะเทือนโลกีย์วิสัยที่ห้อมล้อมเข้าหาตัวเองไม่หยุด
พลังปีศาจที่ยิ่งใหญ่ผ่าเผยไม่สนใจผู้ใด บดขยี้โลกมนุษย์ที่เกิดขึ้นจากกระบี่พุทธะ
การต่อสู้ของสองฝ่ายเริ่มส่งผลต่อโลกน้ำพุหยกอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
กระบี่พุทธะเปลี่ยนร่างเป็นวิถีมนุษย์ เดิมทีกำลังเปลี่ยนคนบนโลกน้ำพุหยกให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างต่อเนื่อง
ตอนนี้พลังของทั้งสองฝ่ายปะทะกัน ทำให้โลกเริ่มปรากฏการบิดเบี้ยวแตกหัก
เพียงแต่ว่าขณะนี้พวกกระบี่พุทธะ ฉวีซู หวังก่วน และเทวกษัตริย์เภรีไม่มีกำลังพอไปสนใจเรื่องนี้
เป็นเพราะว่าการดำรงอยู่ของกายทองมหาเทวะ พวกถงซินหลินกับกว่างทงจื่อจึงไม่ถึงกับถูกเสียงมหามรรคาหยุดไว้
เป้าหมายของพวกฉวีซูก็ไม่ได้อยู่ที่ตัวพวกเขา จอมยุทธ์โลกน้ำพุหยกเช่นพวกถงซินหลินพากันหนีห่าง
ไม่อย่างนั้นเพียงแค่คลื่นหลงเหลือจากการต่อสู้ของสองฝ่าย ก็ทำอันตรายชีวิตของพวกเขาได้แล้ว
การกลายเป็นวิถีมานุษย์ของกระบี่พุทธะทำให้คนอยากหนีแต่ไร้ทางหนี โชคดีที่ความสนใจในตอนนี้ของยอดฝีมือเส้นทางนอกรีตอยู่ที่ร่างวานรปีศาจ กลับทำให้พวกถงซินหลินมีอิสระขึ้นมาก
มีคนหนีไปยังด้านนอกโลกน้ำพุหยก มีคนลังเล พยายามสร้างความมั่นคงให้แก่มิติของโลกน้ำพุหยก ปกป้องคนธรรมดาที่อยู่ที่นี่
พวกฉวีซูและหวังก่วนสนใจทางนี้ไม่ได้ชั่วขณะ ตั้งสมาธิทั้งหมดไปที่การสู้กับวานรปีศาจ
ดังนั้นพวกเขาได้แต่มองดูเยี่ยนจ้าวเกอฟันกระบี่เนรเทศเซียนใส่ซากสังขารอวี้ติ่งตาปริบๆ
ซากสังขารอวี้ติ่งรับกระบี่นี้ไป บนผิวพลันสาดแสงขึ้นหลายสาย เหมือนอบอุ่นแต่ก็เย็นเยียบ
บนผิวซากสังขารไม่เห็นรอยแผลอันใด แต่ว่าแสงสว่างกลับค่อยๆ หม่นหมองลงไป
คนอื่นๆ เห็นดังนั้น เกิดความกระจ่างขึ้นในใจ
ด้วยพลังฝึกปรือในปัจจุบันของเยี่ยนจ้าวเกอ กระบี่เนรเทศเซียนไม่อาจเนรเทศเซียนสวรรค์มหาชาล
แต่ว่าอวี้ติ่งจินหยินได้เสียชีวิตไปแล้ว เหลือเพียงซากสังขาร ความทนทานในซากสังขารของเขาถึงจะเทียบได้กับอาวุธเพ แม้แต่ยอดฝีมือที่เป็นมหาชาลเหมือนกันคิดทำลายล้วนไม่ง่าย แต่นั่นอย่างไรก็เป็นเปลือกร่างไร้ชีวิตร่างหนึ่ง
กระบี่เนรเทศเซียนสามารถลดระดับของมันไปยังชั้นสุญญตา!
เยี่ยนจ้าวเกอมองซากสังขารอวี้ติ่ง ในมือเพิ่มกระบี่สั้นหยกขาวเล่มหนึ่ง กลับได้มาจากนักพรตชิงจาง เขาสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ถึงกับหักกระบี่สั้นหยกขาวทิ้ง
จากนั้นกระบี่สั้นเล่มนั้นก็ถูกเขาหันกลับ แทงใส่อกของตัวเอง!
ถึงกระบี่จะแทงใส่จุดตายมิดด้าม แต่ว่าปากแผลกลับไม่มีรอยเลือดไหลออก เยี่ยนจ้าวเกอยังมีสีหน้าเป็นปรกติ
บนผิวของคมกระบี่ที่หักครึ่งอีกท่อนหนึ่งถูกเขาวาดยันต์อาคม จากนั้นก็โยนไปใส่ซากสังขารอวี้ติ่ง
คมของกระบี่สั้นหยกขาวที่หัก กลายเป็นแสงหยกสายหนึ่ง รวมกับซากสังขารอวี้ติ่ง
ในสองตาของเยี่ยนจ้าวเกอเหมือนกับมีลวดลายอาคมที่ยากจะนับคำนวณกะพริบราวกับลำแสง ขณะเดียวกัน ซากสังขารของอวี้ติ่งจินหยินก็สั่นไปทั้งร่าง!
สองตาของมันถึงกับลืมขึ้น ในม่านตาสองข้างมีลวดลายอาคมนับไม่ถ้วนส่องแสงเช่นกัน
จากนั้นเห็นซากสังขารอวี้ติ่งยกแขนขึ้น แบมือออก ประกายแสงสีแดงก่ำกะพริบกลางฝ่ามือวูบหนึ่ง
กระบี่ลวงเซียนที่ลอยค้างกลางอากาศกะพริบแสงสีแดงเช่นกัน หายไปจากที่เดิม
ไม่มีการขวางกั้นของเวลา กระบี่เล่มนี้โผล่ขึ้นในมือของซากสังขารอวี้ติ่ง!
พลังฝึกปรือระดับเซียนลี้ลับของเยี่ยนจ้าวเกอในปัจจุบัน ถึงแม้จะมีพลังกล้าแข็ง บรรลุวิชาลับหลายชนิด ทว่านอกจากการเซ่นสรวงเลือดของตัวเองใช้ชีวิตเป็นค่าตอบแทน ไม่อย่างนั้นยากจะควบคุมกระบี่ลวงเซียน หรือกระตุ้นซากสังขารอวี้ติ่ง
ถึงแม้จะทำได้ ก็แสดงอานุภาพที่แท้จริงออกมาไม่ได้
กระนั้นเพียงปรับเปลี่ยนเล็กน้อย ก็เปลี่ยนจากไม่มีความเป็นไปได้เป็นมีความเป็นไปได้สำเร็จ!
ถึงระดับของซากสังขารอวี้ติ่งจะถอยกลับไปยังชั้นสุญญตา แต่ว่าในฐานะเจ้านายคนสุดท้ายตามความหมายที่แท้จริงของกระบี่ลวงเซียน ก่อนที่กระบี่ลวงเซียนจะถูกคนอื่นๆ หลอมเปลี่ยน ขอเพียงยกมือขึ้น กระบี่มาอยู่ในมือแล้ว
แม้อานุภาพระดับมาชาลจะไม่ฟื้นคืนมา แต่ภายใต้การผลักดันเจตจำนงกระบี่ บนผิวกระบี่ลวงเซียนมีประกายสีแดงทะลักออกมา แผ่พุ่งไปทั่วจักรวาล!
ประกายกระบี่กระจายไปทั่ว อันดับแรกเติมเต็มขอบอาณาเขตที่พังทลายของโลกน้ำพุหยก ทำให้โลกใบนี้ไม่ต้องห่วงว่าจะพังทลายอยู่ชั่วขณะ
พร้อมกันนั้น ประกายกระบี่จำนวนนับไม่ถ้วนก็เหมือนกับคงอยู่ทุกที่ ฟันใส่ฉวีซูและหวังก่วน!
ลวงเซียนเกิดแสงสีชาดสี่ทิศ
ภายใต้หนึ่งกระบี่ ต่อให้เป็นยอดฝีมือชั้นมหาชาล ก็คล้ายกับหลบไม่ได้!
ในตอนที่เห็นซากสังขารอวี้ติ่งลืมตา หวังก่วนก็เงยหน้าส่งเสียงถอนใจยาว
เขาปลุกปลอบจิตใจ ต่างจากลักษณะที่ตาปรือทั้งปีทั้งชาติก่อนหน้า มองดูเยี่ยนจ้าวเกออย่างล้ำลึกแวบหนึ่ง
“ไม่มีงิ้วให้เล่นแล้ว หนีเถอะ” หวังก่วนทดลองป้องกันเยี่ยนจ้าวเกอ แต่เพิ่งแบ่งแยกจิตใจ วานรปีศาจที่ควงกระบองสารพัดนึกตนนั้นก็ร้องคำรามพลางกระโดด หวังก่วนได้แต่ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา
เขาหันแสงกระจก เก็บเทวกษัตริย์เภรีที่บาดเจ็บหนัก จากนั้นก็พุ่งออกไปนอกโลกภายนอกทันที
ภายใต้ผลของประกายกระบี่ลวงเซียน ไม่เพียงแต่สร้างความมั่นคงให้แก่โลกน้ำพุหยก ขณะเดียวกันก็ทำลายโลกมนุษย์ที่เกิดจากกระบี่พุทธะอย่างต่อเนื่อง
ปราณโลกีย์วิสัยพลังไม่เพียงพอ ยิ่งมายิ่งจืดจาง สูญเสียจิตแห่งโลกมนุษย์ โลกมนุษย์ที่เกิดจากกระบี่พุทธะก็เริ่มพังทลายเช่นกัน
วานรปีศาจพุ่งออกก่อน ง้างประบองสารพัดนึกขึ้นฟาดใส่!
วิถีมนุษย์อันเป็นมายามพังทลายโดยสิ้นเชิง ปรากฏเงาร่างของกระบี่พุทธะอีกครั้ง
ท่านสีหน้าซีดขาว เลือดไหลออกมาจากมุมปาก
คิดจากไป แต่ประกายกระบี่สีแดงก่ำหลายสายกับพัวพันท่านไว้
การเปลี่ยนร่างเป็นโลกมนุษย์เมื่อก่อนหน้าเป็นการดำเนินแผนเสี่ยงอันตราย อยู่รวมกับพวกเยี่ยนจ้าวเกอ ตอนนี้จองจำศัตรูไม่ได้ กลายเป็นตัวเองตกอยู่กลางทัพศัตรูแล้ว
กระบี่ลวงเซียน กระบี่ผนึกเซียน ดาบเทพอาทิตย์ยะเยือกพุ่งมาหากระบี่พุทธะทันที
ฉวีซูต้องการช่วยเหลืออาจารย์ แต่สิ่งที่รอเขาอยู่เป็นกระบองสารพัดนึกที่ดุร้ายนั้น
แม้ฉวีซูจะมีฝีมือไม่ธรรมดา ตอนนี้เผชิญกับอาวุธพิฆาตสะท้านโลกนี้คนเดียว ก็ยากจะต้านทานความร้ายกาจได้
เขาไม่คิดหลบหลีก ฝืนใช้วิชากระบี่อันแยบคายหมายแก้ไขอานุภาพดุร้ายของกระบองสารพัดนึก เสี่ยงทำให้ตัวเองรับบาดเจ็บส่วนหนึ่ง เพื่อเปิดเส้นทางให้แก่ผู้เป็นอาจารย์ จากนั้นค่อยออกไปพร้อมกัน
ทว่าวานรปีศาจไม่ได้มีแค่พลังเทพอย่างเดียว ขณะที่กระบองสารพัดนึกนั้นมีสภาวะเทียมฟ้า การเปลี่ยนแปลงยิ่งแยบยลไร้สิ้นสุด มีแต่จะแข็งแกร่งกว่าเขา
ต้องเพ่งสมาธิรับมือและสู้อย่างยากลำบาก จะแบ่งจิตใจไปสนใจเรื่องอื่นได้อย่างไร
กระบี่และกระบองปะทะกัน กระบี่ยาวในมือฉวีซูเกือบถูกฟาดหลุดไป ค่อยตั้งหลักได้อย่างหวุดหวิด
คิดจะสงบใจรับมือ กระบี่พุทธะอีกด้านหนึ่งกลับต้านทานไม่ไหวแล้ว ก่อนหน้านี้ท่านกลายร่างเป็นโลกมนุษย์ ถูกคนทำลายมรรคากระบี่ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้เผชิญการกลุ้มรุมจากกระบี่ลวงเซียน กระบี่ผนึกเซียนอีกครั้ง เกิดอันตรายรอบด้านชั่วขณะ
แม้นเฟิงอวิ๋นเซิงอยู่ในระดับสุญญตา แต่ว่าเจตจำนงดาบของนางดุร้ายแแปลกประหลาดเกินไป ก่อนหน้านี้ยังไม่ชัดเจน ตอนนี้กระบี่พุทธะได้รับบาดเจ็บ ก็รู้สึกว่าภายใต้ดาบแล้วดาบเล่าของเฟิงอวิ๋นเซิง มรรคากระบี่ของตัวเองถึงกับเกิดสภาวะถดถอยเปลี่ยนแปลง
“สองพันปีก่อนหน้านี้ ศิษย์น้องกับสหายร่วมเส้นทางเยี่ยนเพื่อหยุดท่าน ตกตายลงที่นี่” เกาชิงเสวียนกล่าวเสียงทุ้ม “วันนี้พวกเราจะสังหารท่านทิ้งในสถานที่เดียวกัน ปลอบประโลมวิญญาณที่อยู่บนสวรรค์ของพวกเขา”
ปราณสีดำวนเวียนบนกระบี่ผนึกเซียน เข่นฆ่าใส่กระบี่พุทธะด้วยสภาวะผลักภูเขาถมทะเล
แสงสีแดงกะพริบบนกระบี่ลวงเซียน ครอบคลุมฟ้าดิน กอปรเป็นวังวนสีแดงก่ำพร้อมกับกระบี่ผนึกเซียน กลืนกินกระบี่พุทธะ
“เร่ง!” กระบี่พุทธะยกกระบี่เข้าต้าน ป้องกันการโจมตีอันน่ากลัวชนิดทำลายฟ้าดิน
แต่ว่าในตอนนี้เอง วานรปีศาจที่กดดันฉวีซูให้ถอยหลัง ก็หมุนตัวกลับมาฟาดกระบองใส่!
กระบี่พุทธะที่ไร้พลังหันไปต้านทาน ถูกกระบองสารพัดนึกฟาดจนขม่อมแหลกไป!
………………..