ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1605 มหาเทวะ! มหาเทวะ!
จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋คู่ต่อสู้ก่อนหน้านี้หายตัวไป เซียนเมฆดำกลับไม่ผ่อนคลาย เป็นเพราะแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีก็สาดลงมาหาเขาเช่นกัน
เซียนเมฆดำตกใจ รีบฟันมือเขวี้ยงลูกตุ้มวิเศษออกไป
ลูกตุ้มกระจายไปทั่ว ผ่าความว่างเปล่า บดขยี้หมู่ดาว ร้ายกาจอย่างยิ่ง เมื่อครู่ทำให้จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ต้องระวังตัวเช่นกัน
กลับเป็นลูกตุ้มโกลาหลอาวุธวิเศษของเซียนเมฆดำ ถึงชื่อเสียงจะกลางๆ แต่พูดถึงอานุภาพ ไม่ห่างจากตราพลิกฟ้าที่โด่งดังมาหมื่นปีของเทวกษัตริย์กว่างเฉิง
ทว่าในตอนนี้ แสงศักดิ์สิทธิห้าสีของมหาวิทยราชมยุรีสาดลง เก็บลูกตุ้มโกลาหลไป
“สหายร่วมเส้นทางโปรดคิดถึงครั้งกระโน้นตอนประสบภัยพิบัติเพราะเจ้ามรรคาจุ่นถีด้วยกันหลายปี อย่าสร้างความลำบากแก่ข้าเลย” เซียนเมฆดำกล่าวอย่างอับจน
มหาวิทยราชมยุรีพยักหน้า “สหายร่วมเส้นทางถอยไปอยู่ด้านข้าง อาตมาจะไม่สร้างความลำบาก”
เซียนเมฆดำรีบร้อยถอยห่าง แต่ว่าตรงหน้าข่งซวนกลับมีคนอื่นบุกเข้ามา
เห็นวานรยกกระบองขึ้น ฟาดจนลู่ยาเต้าจวินโซเซถอยหลัง แผลใหม่โรคเก่ากำเริบพร้อมกัน แก่นของไฟหลีก่อนกำเนิดเหมือนกับละอองเลือดฉีดพ่นทั่วฟ้า
จากนั้นเมฆทองพลิกตัว วานรมาถึงตรงหน้ามหาวิทยราชมยุรี ขวางอีกฝ่ายกับค่ายกลลงทัณฑ์เซียน!
มหาวิทยราชมยุรีมองวานรตรงหน้า ใบหน้าสงบนิ่งสุดท้ายมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
ท่านกล่าวอย่างเสียดายอยู่บ้าง “น่าเสียดายความสามารถในครั้งกระโน้น ต่างกลายเป็นเถ้าธุลี ปัจจุบันพยายามอย่างเต็มที่ ได้แต่ปั้นตุ๊กตาโคลนตัวหนึ่ง”
“ถึงแม้ข้าจะรู้สึกเสียดาย แต่ตัวมหาเทวะกลับเบิกบานใจที่ได้หลุดพ้น” วานรอ้าปาก พูดด้วยเสียงของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก “ส่วนจะเป็นตุ๊กตาโคลนหรือไม่ กลับต้องสู้ก่อนค่อยทราบ”
ขณะที่พูด วานรยกกระบองสารพัดนึกขึ้น แล้วฟาดใส่ศีรษะของมหาวิทยราชมยุรี
มหาวิทยราชมยุรีสาดแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสี ประกายแสงกระจัดกระจาย ร่างของวานรคล้ายกำลังหดเล็ก ถูกแสงสาดโดน
ทว่าใต้เท้าวานรเกิดเมฆทอง ตีลังการอบหนึ่ง โดดออกจากอาณาเขตครอบคลุมของแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสี
แต่ว่าเขามิได้ฉวยโอกาสถอยหลัง หากพุ่งเข้าหามหาวิทยราชมยุรีต่อ
มหาวิทยราชมยุรีสีหน้าไม่แปรเปลี่ยน สาดแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีออกมาอีกครั้ง
วานรถูกแสงศักดิ์สิทธิ์จับไว้อีกหน
เขากระทุ้งกระบองสารพัดนึกในมือลงใส่ความว่างเปล่าที่สว่างไสวด้านล่าง
“จงยืด! จงยืด! จงยืด!” ในเสียงคำราม วานรและกระบองสารพัดนึกตัวใหญ่ขึ้น จากนั้นก็กระแทกใส่ประกายแสงสีเขียวในแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสี
เหล็กเทวะอันบ้าคลั่งถึงกับแทงจนประกายแสงสีเขียวบางลงหลายส่วน
วานรโน้มตัวกระโดดขึ้น กระโดดออกจากแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีอีกหนหนึ่ง
แต่เขายังคงไม่ถอย ยกกระบองสารพัดนึกขึ้น ตีใส่มหาวิทยราชมยุรีอีกรอบ
ระยะห่างในตอนนี้ของสองฝ่ายใกล้กันสุดขีด
เห็นกระบองสารพัดนึกกำลังจะฟาดใส่ตัวเอง มหาวิทยราชมยุรียังคงยืนอยู่กับที่ ขยับยังไม่ขยับ
แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีสาดลงเป็นครั้งที่สาม กลืนกินวานร
วานรส่งเสียงกู่ร้อง แสงทองส่ายไหว ร่างถึงกับแยกออก แยกร่างเป็นจำนวนนับพันนับหมื่นในพริบตา
แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีม้วนคลุม สาดใส่วานรตัวแล้วตัวเล่า
แต่ว่าสนใจสิ่งนี้พลาดสิ่งนั้น สุดท้ายมีปลาหลุดรอดตาข่าย ร่างหดเล็ก กระโดดออกจากรงขัง
เพิ่งเป็นอิสระ ร่างของวานรก็ใหญ่ขึ้น จากนั้นก็ฟาดกระบองหนึ่งใส่มหาวิทยราชมยุรีทันที!
สองฝ่ายใกล้กันเพียงปลายจมูก ในที่สุดมหาวิทยราชมยุรีก็ถอยหลบหนึ่งก้าว
แต่ว่าความเร็วที่กระบองสารพัดนึกพุ่งลงเหมือนกับเร็วขึ้นในชั่วพริบตา ทำให้มหาวิทยราชมยุรีหลบไม่พ้น
ท่านได้แต่เอียงตัว ใช้ไหล่รับกระบองนี้
กายทองเครื่องเคลือบพลันแตก!
ทว่าครั้งนี้มหาวิทยราชมยุรีกลับไม่ถอยหลังอีก แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีโผล่ขึ้นใหม่ ในที่สุดก็สาดใส่วานร!
วานรถูกคลุม ไม่ยอมศิโรราบ ควงกระบองสารพัดนึกไม่หยุด เกิดแสงทองหลายสายวนเวียน กระแทกแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีที่อยู่รอบๆ ออกไปสุดกำลัง
แต่ว่าแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีของข่งซวนยิ่งมายิ่งเข้มข้น กระจายลงติดต่อกัน
วานรเหมือนกับตกสู่วังวน เพียงรู้สึกว่าแสงศักดิ์สิทธิ์ยิ่งมายิ่งหนักอึ้ง ตนยิ่งมายิ่งไร้เรี่ยวแรง
เหมือนกับโลกใบแล้วใบเล่ากดลงบนร่าง ทั้งยังสั่งสมกันต่อเนื่อง ไม่หยุดตลอดกาล
วานรต้องการดิ้นให้หลุด มหาวิทยราชมยุรีพลันเปลี่ยนรูปร่าง
กายทองที่มียี่สิบเศียร สิบแปดกรหายไป ปรากฏร่างที่แท้จริงซึ่งมีหนึ่งหัวสี่แขน
เห็นพุทธะที่ปรากฏขึ้นมาใหม่หันหน้าไปทางตะวันออก กายสีขาว ครองจีวรสีขาว สวมมงกุฎ พาหุรัด ตุ้มหู กำไลรัดแขน น่าเกรงขาม ขี่ราชานกยูงสีทอง นั่งขัดสมาธิอยู่บนบัวขาวและดอกไม้สีเขียว มีใบหน้าเมตตาสงสาร
มีสี่แขน มือขวาข้างแรกถือบัวบาน มือขวาข้างที่สองถือปัจจัยผล มือซ้ายข้างแรกวางผลมงคลไว้กลางฝ่ามือ มือซ้ายข้างที่สองถือหางนกยูงห้าเส้น
แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีไหลเวียนต่อเนื่อง สองฝ่ายประลองกำลังกันรอบหนึ่ง ร่างของวานรในที่สุดก็ค่อยๆ หายไป
คนอื่นที่อยู่รอบๆ เห็นดังนั้น คนในสำนักเต๋าล้วนสิ้นหวัง
คนจากศาสนาพุทธกับเผ่าปีศาจก็มิได้สมน้ำหน้า
ตั้งแต่อดีตเป็นต้นมา ต่ำกว่าระดับมรรคา มีใครบ้างที่สามารถกดดันมหาวิทยราชมยุรีมาถึงขั้นนี้ได้!
เพียงแต่นกยูงตัวนั้นที่สุดแล้วก็แข็งแกร่งเกินไป
มหาเทวกษตริย์แห่งหยกไม่ทราบไปอยู่ที่ไหน หลังจากวานรเกิดการเปลี่ยนแปลง ในเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลยังมีใครเรียกได้ว่าเป็นคู่ต่อสู้ของข่งซวน?
“ไม่เพียงแต่สำเร็จกายทองศาสนาพุทธ เสริมความแข็งแกร่งให้การป้องกันของตัวเอง แม้แต่แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีในตอนแรกก็ร้ายกาจกว่าเดิมแล้ว” ลู่ยาถูกวานรฟาดทำร้าย ไร้พลังต่อสู้ชั่วขณะ แต่ไม่กระทบถึงสายตา ขณะมองข่งซวนในวันนี้ อดตาเป็นประกายไม่ได้
หยางเจี่ยนคล้ายมีความคิดใด
เขาเดิมทีต้องการสู้กับมหาวิทยราชมยุรี มอบคนอื่นๆ ให้ร่างจริงแท้ของมหาเทวะเสมอฟ้าที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอสร้างขึ้นมารับมือ
เผิงท่องเมฆหมื่นลี้เอาเปรียบวานรไม่ได้ แต่ปัญหาอยู่ที่แม้นวานรจะแข็งแกร่ง กลับใช่ว่าจะทำลายธงวิญญาณบัวเขียวของยุทธวิชัยพุทธะได้
คิดจะสะกดพวกยุทธวิชัยพุทธะกับมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์ ยังต้องให้หยางเจี่ยนลงมือ
น่าเสียดายมหาวิทยราชมยุรีแกร่งจิงๆ แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีกลืนกินวานรไปแล้ว
เพียงแต่หยางเจี่ยนก็สังเกตมาโดยตลอดว่า ในค่ายกลลงทัณฑ์เซียน ขณะเยี่ยนจ้าวเกอมองมหาวิทยราชมยุรี สีหน้ายังคงสงบนิ่ง
มหาวิทยรามยุรีก็สังเกตเห็นเซียนกำเนิดผู้ผิดปกติคนนั้นแล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย
มหาวิทยราชมยุรีสีหน้าพลันแปรเปลี่ยน
แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีที่วนเวียนรอบตัวท่านพลันสั่นไหวอย่างรุนแรง
ประกายแสงหมุนวนไม่หยุด กลับมีเงาสายหนึ่งโผล่มาลางเรือน
ทุกคนเพ่งตามองไป เป็นวานรที่ก่อนหน้านี้ถูกแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีกลืนหายไป!
เพียงเห็นวานรตัวนั้นจับกระบองสารพัดนึก อีกมือหนึ่งคว้าศิลาวิญญาณชิ้นหนึ่ง
วานรเงยหน้าร้องคำราม จากนั้นอ้าปาก ส่งศิลาวิญญาณชิ้นนั้นเข้าไป
กลืนลงไป!
แสงทองที่พุ่งสู่ฟากฟ้าขณะนี้ขยายใหญ่ถึงขั้นทะลวงแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสี พุ่งทะลุท้องนภากลางจักรวาล!
พลังที่ยิ่งใหญ่เกรี้ยวกราด บ้าคลั่งน่าสะพรึงสั่นสะเทือนไม่หยุด
ธารสวรรค์สั่นไหวตาม!
เหล่าพุทธะหน้าถอดสี!
มยุรีงอเอวก้มหน้า!
มหาวิทยราชมยุรีเดือดดาล แสงห้าสีหมุนอย่างเร่งร้อน กำลังจะกลืนกินวานรอีกครั้ง
ทว่าวานรในตอนนี้ค้ำฟ้ายันดิน ยืนอยู่กลางแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสี ไม่ขยับเคลื่อนไหวเหมือนกับภูเขากลางสายน้ำ
แสงศักดิ์สิทธิ์รอบๆ ดุจทะเล ขณะที่ม้วนพัด เหมือนกับขอแค่ข่งซวนต้องการ ก็สามารถกลืนกินธารสวรรค์ทั้งสายไปด้วยได้
ทว่าเงาร่างสีทองนั้นยืนตระหง่านอยูอยู่ตรงกลาง ฟาดกระบองใส่ฟากฟ้า เหมือนสภาวะแยกทะเล ทำให้กลางแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีปรากฏช่องว่าง!