ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1632 สูญเสียร่องรอย
เฟิงอวิ๋นเซิงมองจักรวาลใหม่ตรงหน้าอย่างสนอกสนใจ “เหมือนกับกระดาษขาว ท่านจึงสาดหมึกได้ตามใจหรือ ไม่น่ากระมัง?”
เยี่ยนจ้าวเกอแม้ยังไม่ขึ้นสู่มหาชาล ทว่าบารมีในจักรวาลสำนักเต๋า ณ ปัจจุบัน ไม่ด้อยไปกว่าเทวกษัตริย์สำนักเต๋าทั้งหลายแม้แต่น้อย
ยิ่งไปกว่านั้น จักรวาลใหม่ตรงหน้านี้ เดิมทีเป็นเขาสร้างขึ้นด้วยมือตัวเอง
“ไม่ใช่แบบนั้น เพียงแต่พอเป็นแบบนี้เมื่อข้าทดลองไว้ก่อน ผลลัพธ์จะแม่นยำกว่าเดิม ส่งผลดีต่อการปรับปรุงและการจัดการในภายหลัง” เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางพลางหัวเราะเหอะๆ
“ท่านจัดการเถอะ” เฟิงอวิ๋นเซิงไม่คัดค้าน
สองคนกำลังคุยกัน พลันได้รับข่าวที่มาจากสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจีย
ข่าวจากสวรรค์ลู่จั๋วหวงเจียเป็นการถ่ายทอด มาจากสวรรค์ชื่อหมิงเหอหยางที่อยู่อีกด้าน
นั่นเป็นจักรวาลใหม่ที่เจ้าแม่อู๋ตังใช้มุกค้ำทะเลชิ้นหนึ่งสร้างขึ้น เหมือนกับสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจย รองรับชื่อสวรรค์ชื่อหมิงเหอหยาง หนึ่งในสวรรค์สามสิบหกชั้นของสำนักเต๋าก่อนมหาภัยพิบัติ
หลังจากมรกตท่องฟ้าย้ายจากจักรวาลฟ้าฟื้นมาถึงสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจีย ก็ได้ย้ายไปที่สวรรค์ชื่อหมิงเหอหยาง เป็นหนึ่งในรากฐานของที่นั่น
สวรรค์ชื่อหมิงเหอหยางไม่ห้ามให้ผู้สืบทอดหยกพิสุทธิ์กับเอกพิสุทธิ์มา แต่เปรียบเทียนกันแล้ว ผู้สืบทอดเหนือพิสุทธิ์ย่อมีจำนวน
เจ้าแม่อู๋ตังครั้งนั้นได้รับบาดเจ็บหนัก หลังจากหายดี ก็สร้างจักรวาลแห่งหนึ่ง เป็นที่บำเพ็ญนิวาสสถานแห่งใหม่ของตน ขณะเดียวกันเป็นดินแดนสุขสันต์ของผู้สืบทอดเหนือพิสุทธิ์ แตกกิ่งก้านสาขา เจริญรุ่งเรืองอย่างต่อเนื่องอยู่ด้านใน
ปัจจุบันเจ้าแม่อู๋ตังรับช่วงต่อจากนางเซียนอวิ๋นเซียว กำลังควบคุมค่ายกลลงทัณฑ์เซียน ประสานกับความว่างเปล่า ในสวรรค์ชื่อหมิงเหอหยางเป็นเกาชิงเสวียนเฝ้า
ข่าวที่ส่งมายังสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจียจากที่แห่งนั้น มีความเกี่ยวข้องกับเขากว่างเฉิง
กลับเป็นอิงหลงถูศิษย์น้องของเยี่ยนจ้าวเกอและเฟิงอวิ๋นเซิง คนของเขากว่างเฉิงออกไปท่องโลก ขณะท่องโลกอยู่ได้พบกับผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์ในสวรรค์ชื่อหมิงเหอหยาง ช่วยเหลือกันตามหาหยกหยุดวิญญาณของล้ำค่าชิ้นสุดท้ายที่เอาไว้รักษาอวี่เย่
ระหว่างการตามหา ที่อยู่ของหยกหยุดวิญญาณยังไม่ชัดเจน กลับสูญเสียการติดต่อกับอิงหลงถูไปชั่วคราว
อิงหลงถูเป็นหนึ่งในคนในสำนักที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเยี่ยนจ้าวเกอที่สุด การสาบสูญของเขาย่อมไม่อาจมองข้ามได้
ผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์เหล่านั้นออกค้นหาจนทั่วไม่เจอ ไม่กล้าประมาท รีบร้อนติดต่อสวรรค์ชื่อหมิงเหอหยาง ติดต่อกับมรกตท่องฟ้า
หลังจากได้รับข่าว หลงซิงเฉวียนจ้าวสวรรค์น้ำพุมังกรก็ออกเดินทางไปค้นหาอิงหลงถูด้วยตัวเองผ
มรกตท่องฟ้าไม่ปกปิดความจริง แจ้งฟ้าเหนือฟ้า บอกเขากว่างเฉิงในสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจียทันที
“ฮานหลงเอ๋อร์ข่าวคราวสูญหาย?” เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงสบตากัน
ถึงแม้ในที่ลับยังเคยชินกับการเรียกชื่อรองของอิงหลงถู แต่ว่าพวกเยี่ยนจ้าวเกอย่อมทราบว่าอิงหลงถูในตอนนี้ไม่ใช่เด็กน้อยที่สติปัญญาไม่สุกงอมในวันวานอีกแล้ว
บางทีนิสัยยังคงสัตย์ซื่อจริงใจ แต่อย่างมากสุดได้แต่พูดว่าซื่อไปบ้าง
อิงหลงถูในตอนนี้ไม่ได้โง่งม มีประสบการณ์เหลือล้น มักเดินทางด้านนอกคนเดียว
อยู่ๆ ข่าวคราวของเขาก็หายไป แสดงว่าเจอเรื่องยุ่งยากที่ยากจัดการอย่างแท้จริง
พวกเยี่ยนจ้าวเกอกลับสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจีย เข้าไปในฟ้าเหนือฟ้า กลับเขากว่างเฉิง
หลานเหวินเหยียนผู้อาวุโสระดับหนึ่งแห่งวิหารปฏิบัติกิจของเขากว่างเฉิงรอคอยอยู่ที่นั่น สีหน้าเคร่งขรึมอยู่บ้าง หลังพบกันก็เอ่ยขึ้น “ทางสำนักเต๋า ศิษย์น้องอิงก็ไม่ได้ส่งข่าวกลับมาช่วงหนึ่งแล้ว”
ความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน การติดต่อเดิมทีลำบาก สูญเสียการติดต่อไปชั่วขณะ มักไม่กระตุ้นความสนใจผู้คน นี่เป็นการจำกัดด้วยเงื่อนไขเชิงภววิสัย
โดยปกติแล้ว คนที่ออกไปด้านนอกนาน จะต้องกำหนดเวลาติดต่อแจ้งข่าว
ทว่าสถานการณ์ของอิงหลงถูในตอนนี้มีคุณค่าให้ความสำคัญ
เยี่ยนจ้าวเกอยืนนิ่งไม่ขยับ สองตากะพริบแสงสีเขียวมรกต เส้นแสงหลายสายตวัดและส่องระยิบระยับ
ภายใต้การโคจรคัมภีร์เกิดนภา อดีตและอนาคตเชื่อมต่อกันบนเส้นเหตุผลมากมาย ปรากฏตรงหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ
เพียงแต่นอกจากแสงสีเขียวมรกตแล้ว ในม่านตาของเยี่ยนจ้าวเกอเหมือนกับยังปรากฏหมอกลวงหลายสาย
“มิน่าการเชื่อมต่อจึงขาดไป สถานที่ที่ฮานหลงเอ๋อร์อยู่ในตอนนี้ เกรงว่าจะมีความพิเศษอยู่หลายส่วน คล้ายกับเมฆดาราปฐมกำเนิด และแควธารสวรรค์”
ผ่านไปพักหนึ่ง เยี่ยนจ้าวเกอก็หลับตา “ทว่าตอนนี้เขาสมควรไม่มีอันตรายถึงชีวิต”
เฟิงอวิ๋นเซิงกับหลานเหวินเหยียนได้ยิน พลันโล่งอก
“นอกจากนี้ ที่นั่นคล้ายมีผู้ยิ่งใหญ่ศาสนาพุทธเคลื่อนไหว กำลังอนุมานเบาะแสเหตุผล สร้างการรบกวนมากกว่าเดิม ตอนนี้สิ่งที่เห็นได้มีจำกัดยิ่ง” เยี่ยนจ้าวเกอลืมตา ส่ายหน้า
เฟิงอวิ๋นเซิงพลันขมวดคิ้ว “แดนสุขาวดีตะวันตก?”
“ดูเหมือนต้องไปด้วยตัวเองสักเที่ยว หาเบาะแสที่เป็นสาระสำคัญมากกว่าเดิม จึงค่อยอนุมานเพิ่มอีกขั้นได้” เยี่ยนจ้าวเกอนวดขมับของตัวเองเบาๆ
ตอนนี้เยี่ยนตี๋ออกไปด้านนอก ไม่ได้อยู่บนสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจีย สวีเฟยเข้าฌาน
ถ้าครั้งนี้เยี่ยนจ้าวเกอไม่ออกฌาน ไม่แน่ว่าเฟิงอวิ๋นเซิงต้องไป
ตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอออกฌานพอดี เขาวางแผนจะออกไปขยับเนื้อขยับตัวสักเล็กน้อย เฟิงอวิ๋นเซิงอยู่เฝ้าสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจีย
“ท่านระวังถูกคนจับตา” เฟิงอวิ๋นเซิงกล่าวเตือน
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม “ตอนนี้ไม่เหมือนอดีต เมื่อสัมผัสร่องรอยของเจ้าไม่ได้ ข้ายิ่งปลอดภัย คนอื่นๆ กลัวว่าจะถูกเจ้าจับตามากกว่า”
ปกติเฟิงอวิ๋นเซิงเก็บกลิ่นอาย ถึงแม้ว่ามักอยู่บนสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจีย ทว่าสำหรับโลกภายนอก ร่องรอยของนางที่แล้วมาล่องลอยยากหยั่งคาดมาโดยตลอด
“ท่านระวังตัวเป็นสำคัญ” เฟิงอวิ๋นเซิงพูด “อีกฝ่ายอาจจะทดลองหยั่งเชิงด้านสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจียก่อน ข้าไม่เคยปรากฏตัว อาจถูกอีกฝ่ายเอาเปรียบ หากข้าปรากฏตัว ถูกมหาชาลของอีกฝ่ายพัวพันไว้ ก็ยากจะสนับสนุนท่านแล้ว”
เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย “วางใจ ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกและพ่านพ่านติดตามข้าไปด้วย”
“ข้าจะคอยสังเกตทางท่าน หากมีสถานการณ์คับขันจริงๆ ข้าจะไป” เฟิงอวิ๋นเซิงกล่าวอย่างแน่วแน่ “ทางสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจียมีปัญหาจริงๆ พี่ร่วมเส้นทางสั่วกับพี่ร่วมเส้นทางอวิ๋นเซียวดูแลได้เช่นกัน”
เยี่ยนจ้าวเกออดยิ้มไม่ได้ “เจ้าพูดแบบนี้ ข้าเสียหน้านัก”
“ท่านหน้าหนา ไม่กลัว” เฟิงอวิ๋นเซิงกล่าวอย่างสมเหตุสมผล
“แบบนี้ยิ่งทำข้าชอกช้ำกว่าเดิม” เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะ จากนั้นก็กล่าวอย่างขึงขัง “วางใจ ไม่เป็นไรหรอก ลางสังหรณ์ในใจข้าไม่มีลางร้าย กับอาจมีลางดี”
“ลางดี…” เฟิงอวิ๋นเซิงเหมือนนึกอะไรได้
เยี่ยนจ้าวเกอบอกลานางกับหลานเหวินเหยียน นำร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกกับพ่านพ่านออกจากฟ้าเหนือฟ้า ผละจากสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจีย เข้าไปในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน
สวีเฟยกำลังเข้าฌาน ถึงปัจจุบันกายทองมหาเทวะสามร่างจะสามารถแยกกันแสดงออกมาได้ แต่คิดจะประสานกันแสดงร่างที่แท้จริงของมหาเทวะเสมอฟ้าออกมา ยังต้องใช้เวลาไม่น้อย ถึงอย่างไรก็สิ้นเปลืองมหาศาลในสงครามชิงค่ายกลลงทัณฑ์เซียน
ดังนั้นครั้งนี้เยี่ยนจ้าวเกอจึงไม่รบกวนวีเฟย เดินทางไปเอง
เขาไปยังสวรรค์ชื่อหมิงเหอหยางเที่ยวหนึ่ง เข้าไปในมรกตท่องฟ้า พบเกาเสวี่ยพอ จากนั้นก็ได้เกาเสวี่ยพอบอกเส้นทาง ก่อนจะเข้าไปในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดนอกเขตแดนอีกรอบ ไปพบกับผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์ที่เคยเจออิงหลงถู
ขณะเดินทาง คัมภีร์เกิดนภาของเยี่ยนจ้าวเกอก็โคจรมาโดยตลอด
ยิ่งเข้าใกล้อาณาเขตที่อิงหลงถูสูญเสียการติดต่อมากเท่าไหร่ สิ่งที่เขาเห็นได้ความจริงยิ่งมายิ่งมา เบาะแสยิ่งมายิ่งเปี่ยมล้น
เยี่ยนจ้าวเกอค่อยๆ แน่ใจ แต่มิได้รีบร้อน ไปรวมตัวกับหลงซิงเฉวียนที่มาถึงนานแล้วก่อน