ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1660 ความหวังและความเชื่อ
“ทุกอย่างล้วนกลับคืนสู่ความไม่มี ไม่ว่าเจ้า ข้า นาง”
ได้ยินวาจาของเยี่ยนจ้าวเกอ ขณะเฟิงอวิ๋นเซิงนึกย้อน ก็ทวนคำพูดตอนนั้นของเนี่ยจิงเสิน “ประโยคนี้?”
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้พูดอะไร พยักหน้าอย่างไร้เสียง
เฟิงอวิ๋นเซิงตกสู่ห้วงคิด
ประโยคนี้มองดูอาจไม่มีอะไร แต่เยี่ยนจ้าวเกอไม่อาจไม่คิดมาก
แต่ไม่คิดยังพอว่า พอใช้ความคิดลองทำความเข้าใจ กลับผุดคำอธิบายมากมายได้
ทุกอย่างกลับคืนสู่ความไม่มี เดิมทีเป็นด้านหนึ่งในวิถีมาร นี่อาจกำลัแสดงถึงทิศทางต่อจากนี้ของนพยมโลก
ยอดฝีมือมหาชาลระดับสุดยอดทั้งหลายของศาสนาพุทธ สำนักเต๋า เผ่าปีศาจ ต่างก็วางแผนกำจัดนพยมโลก หวังจะใช้เรื่องนี้หาโอกาส ทะลวงขอบเขต ขึ้นสู่ระดับมรรคาในการเคลื่อนไหวครั้งเดียว
นพยมโลกก็ทราบเรื่องนี้แก่ใจ ย่อมไม่นั่งรอความตาย
ยอดฝีมือแต่ละฝ่าายกำลังวางหมาก ทั้งแลกเปลี่ยน และสกดนพยมโลก นพยมโลกก็ใช้โอกาสทำให้แผนการของตัวเองสำเร็จ ใครจะหัวเราะถึงตอนสุดท้าย ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคนแล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอฟังถึงความไม่ถูกต้องส่วนหนึ่งจากในวาจาของเนี่ยจิงเสิน
ถ้าหากในนี้แฝงการเตือนจริงๆ แล้วสำนักเต๋ามองออก เช่นนั้นย่อมยึดครองโอกาสได้หลายส่วน
นอกจากความคิดนี้แล้ว ยังตีความอย่างอื่นได้
คำว่า ‘เจ้า ข้า นาง’ ที่เนี่ยจิงเสินพูดถึง คือเยี่ยนจ้าวเกอที่กำลังพูดกับเขาอยู่ ตัวเนี่ยจิงเสิน และอวี่เย่ที่พวกเขาพูดถึงในบทสนทนาอย่างไม่ต้องสงสัย
เนี่ยจิงเสินเรียกสามคนพร้อมกัน ใช่ว่าเป็นเพราะเป็นผู้เกี่ยวข้อง เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าลอบชี้จุดร่วมกันบางอย่างของพวกเขาสามคน
เช่นนั้นเป็นจุดร่วมอะไรกัน?
เมื่อรวมกับประโยค ‘ทุกอย่างล้วนกลับคืนสู่ความไม่มี’ เยี่ยนจ้าวเกอตั้งใจคิดอย่างละเอียดหวาดกลัวขึ้นมา
ถ้าหากว่าเนี่ยจิงสินเรียกตัวเขา อวี่เย่ กับเฟิงอวิ๋นเวิงร่วมกัน นั่นปกติยิ่ง
อวี่เย่แม้วันนี้ยังคงไม่ฟื้น ทว่านางฝึกฝนคัมภีร์โกลาหลสูญ เป็นผู้สืบทอดสายตรงที่บริสุทธิ์ที่สุดของบรมครูเทวกษัตริย์รัตนวิเสษแหงเหนือพิสุทธิ์ ทำความเข้าใจความลี้ลับของความโกหลาลไร้ประมาณ
เฟิงอวิ๋นเซิงรอบรับอำนาจส่วนหนึ่งของมารสวรรค์ปัจฉิมธรรม จากนั้นก็สร้างเส้นทางของตัวเอง เกิดรูปแบบใหม่ขึ้น คิดค้นวิถีแห่งเหวลึกโกลาหลสูญ ถึงจะต่างไปจากคัมภีร์โกลาหลสญ แต่ก็มีความน่าอัศจรรย์คล้ายกัน
เนี่ยจิงเสินตอนแรกเป็นผู้สืบทอดหยกพิสุทธิ์ดั้งเดิม อาศัยบรรพครรภ์ก่อนกำเนิดของตัวเองผสมผสานกับคุณสมบัติการทำความเข้าใจล้ำเลิศ ได้สัมผัสความลับของความไร้ขอบเขต
หลังจากเขากลายเป็นมาร เดิมทีเอนเอียงไปทางหลักการจากไม่มีเป็นมีในการบรรยายความไร้ขอบเขตแห่งหยกพิสุทธิ์ ค่อยๆ เปลี่ยนถ่ายเป็นจิตจากการมีเป็นไม่มีในการบรรยายแห่งเหนือพิสุทธิ์ คล้ายคลึงกับอวี่เย่และเฟิงอวิ๋นเซิง
แต่ว่าในวาจาของเนี่ยจิงเสิน กลับจัดเขา อวี่เย่ และเยี่ยนจ้าวเกอเป็นประเภทเดียวกัน
นี่สัมผัสกับประสาทสัมผัสอันปราดเปรียวของเยี่ยนจ้าวเกอในทันที
เขาไม่มีทางไม่สังเกตเห็น
เป็นเพราะถ้ามิได้แบ่งแยกกันเข้มงวดขนาดนั้น สิ่งที่เนียจิงเสินพูดก็เป็นความจริง
เขาเยี่ยนจ้วเกอใช้คัมภีร์นภาไร้ขอบเขต คัมภีร์อันดับหนึ่งแห่งหยกพิสุทธิ์สร้างรากฐาน
เป็นเพราะสาเหตุหลายประการ เรื่องนี้เยี่ยนจ้าวเกอเก็บเป็นความลับมาไม่เคยแพร่งพรายมาโดยตลอด
ช่วงแรกๆ เขาใช้สิบสองวิชาประกายกาฬของอิ่นเทียนเซี่ยจักรพรรดิประกายกาฬอำพราง
เพียงแต่ว่านี่ได้แต่ใช้ในช่วงแรก เป็นเพราะเทวกษัตริย์บรรพกำเนิดหลุดพ้น ทำให้เส้นทางของผู้มาภายหลังง่ายดายขึ้นในระดับหนึ่ง
ในกลุ่มผู้มาภายหลังมักมีคนที่มีความสามารถล้ำเลิศ ศึกษาหลักการไร้ขอบเขต แต่ว่าเมื่อต้องปีนป่ายขึ้นด้างบนอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายเส้นทางพิเศษก็กลับคืน ต่างกลับสุ่คัมภีร์นภาไร้ขอบเขต ปฐมคัมภีร์แห่งหยกพิสุทธิ์
ความกระอักกระอ่วนของอิ่นเทียนเซี่ยจักรพรรดิประกายกาฬอยู่ที่นี่ ถ้าหากไม่ได้คัมภีร์นภาไร้ขอบเขต เขาพึ่งพาตัวเองขึ้นสู่ที่สูงต่อ จะกลายเป็นลำบากถึงขีดสุด ถึงขั้นหยุดเดินไม่ก้าวหน้า
ความพิเศษของเนี่ยจิงเสิน มาจากบรรพครรภ์ก่อนกำเนิดของเขา นี่เป็นเงื่อยไขที่อิ่นเทียนเซี่ยไม่มี
เยี่ยนจ้าวเกอขึ้นที่สูงตลอดทาง ฝีเท้าไม่หยุด ผลักเปิดประตูเซียนไร้อุปสรรค ถึงขั้นฝ่าภัยพิบัติสัจพิศวง สำเร็จเป็นเซียนลี้ลับสงบนิ่งยังพอว่า แต่พอขึ้นสูงทีละก้าวๆ สามปราณรวมเป็นวายุ สี่ปราณรวมเป็นวายุ จนกระทั่งห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด ขึ้นสู่สุญญตา นี่ไม่ว่าอย่างไร ก็ยากจะใช้สิบสองวิชาประกายกาฬมาอธิบายได้
โชคดีที่เยี่ยนจ้าวเกอได้หมัดแปลงกำเนิดซึ่งเป็นการสืบทอดสายเอกพิสุทธิ์มานานแล้ว
หมัดแปลงกำเนิดเกี่ยวข้องกับความลับแห่งความไร้ขอบเขตในระดับหนึ่ง
สามพิสุทธิ์รวมเป็นหนึ่ง ที่แล้วมาไม่ใช่คำพูดลอยๆ
เพียงแต่ว่า หมัดแปลงกำเนิดมีส่วนที่ไม่เหมือนกับคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตและคัมภีร์โกลาหลสูญ ด้านจิตหลักการ
แต่นี่เป็นการอำพรางชั้นหนึ่งอีกรอบ
บนพื้นฐานนี้ เยี่ยนจ้าวเกอรวบรวมคัมภีร์นภาเก้าม้วนหลังในคัมภีร์นภาแรกเริ่มสิบม้วนแห่งหยกพิสุทธิ์จนครบ หนำซ้ำยังมีการฝึกฝน
คัมภีร์นภาแรกเริ่มเก้าม้วนอนุมานย้อนกลับ ถึงจะไม่อาจได้คัมภีร์นภาไร้ขอบเขต แต่ว่าจิตหลักการโดยรวมที่รองรอบไว้ในสายหนึ่ง ก็เป็นการอำพรางอีกชั้นหนึ่ง
ซึ่งความจริงแล้ว คนจำนวนมากกำลังคาดเดาว่า เยี่ยนจ้าวเกอที่ฝึกสามพิสุทธิ์ร่วมกันผลักเปิดประตูเซียน มีความหวังในการอาศัยคัมภีร์นภาเก้าม้วนหลัก อนุมานคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตอันเป็นปฐมแห่งสิบคัมภีร์ย้อนกลับหรือไม่
นี่ถึงขั้นกลายเป็นความคาดหวังของคนไม่น้อย
ถ้าเนี่ยจิงเสิน ย่อมทำความเข้าใจจากด้านนี้ได้
ดังนั้นเยี่ยนจ้าวเกอจึงไม่ห่วงว่าคนอื่นได้ยินแล้ว จะมีความคิดอย่างอื่น
แต่ต่อตัวเขาที่มีความรู้สึกปราดเปรียวผิดปกติต่อหัวข้อคัมภีร์นภาไร้ขอบเขต ยากจะไม่คิดมากขึ้น
พอคิดอย่างนี้ เยี่ยนจ้าวเกอก็อดขบคิดไม่ได้ว่า สมมติเนี่ยจิงเสินมีเจตนาบอกจริงๆ เขาได้ข่าวมาจากที่ไหนกัน
ถึงเยี่ยนจ้าวเกอจะแน่ใจในขีดความาสามารถของเนี่ยจิงเสิน แต่หากบอกว่าเขาอาศัยสายตามองดู ก็ดูออกว่าเยี่ยนจ้าวเกอครอบครองคัมภีร์นภาไร้ขอบเขต เป็นไปไม่ได้อย่างชัดเจน
เช่นนั้นถ้ามีคนบอกเขาจริงๆ จะเป็นผู้ใด?
ปัญญานี้กวนใจเยี่ยนจ้าวเกอยิ่ง
ถึงแม้จะเดินถึงย่างก้าวในปัจจุบัน แตว่าความจริงเยี่ยนจ้าวเกอมีความสงสัยเกี่ยวกับคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตในมือตนอยู่พอประมาณ
สมมติว่ามีคนบอกเนีย่จิงเสิน เช่นตอนนี้ตามคำพูดในตอนนี้ของเนี่ยจิงเสิน บ่งบอกถึงอะไร?
สะกิดเตือน หรือข้อควรระวัง?
เยี่ยนจ้าวเกอมองไม่ออกชั่วขณะ
ยิ่งไปกว่านั้น คำพูดนั้นของเนี่ยจิงเสินตีความอย่างไรกันแน่ ยังไม่แน่นอน
เปลี่ยนมุมมองดู ไม่ว่าเป็นวิธีการใด ความจริงตั้งอยู่บนเงื่อนไขข้อหนึ่ง
คำพูดของเนี่ยจิงเสินมาจากความหวังดี
แม้การคาดเดาในตอนนั้นของเยี่ยนจ้าวเกอถูกต้อง เป็นเพราะบรรพมารก่อนกำเนิด เนี่ยจิงเสินกลายเป็นมารทองแกผู้อยู่ร่วมกับฟ้า ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ จริงๆ
แต่ว่าความจริงเป็นเช่นนี้หรือไม่ เยี่ยนจ้าวเกอไม่แน่ใจเช่นกัน
ดูจากเปลือกนอก แม้ลักษณะพิเศษหลังจากเนี่ยจิงเสินกลายเป็นมารจะไม่เหมือนกับจอมมารตนอื่น ทว่าท่าทียามเขาอยู่ต่อหน้าตนกับเฟิงอวิ๋นเซิง ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกตึงเครียด
ด้านอ่อนโยนของเนี่ยจิงเสินที่แล้วมาเพียงแสดงให้คนใกล้ชิดได้เห็น สำหรับศัตรูหรือคนแปลกหน้า เย็นชาประหยัดถอ้ยคำเหมือนเมื่อครู่
มารทองแกเดิมเย็นชาดุร้าย ไม่ใช่กลอกกลิ้งถนัดการปลอมแปลงเหมือนอย่างมารจิตแรกเริ่มและมารเงา
แน่นอนว่า สภาพแวดล้อมก่อนหน้า ต่อให้มีความตั้งใจ ก็ไม่ส่งผลดีต่อการแลกเปลี่ยนในเบื้องลึกของสองฝ่าย
นี่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอไม่แน่ใจ
คำพูดนั้นของเนี่ยจิงเสินมาจากคามหวังดี ตีความได้มากมาย ยากจะตัดสินได้
แต่ถ้ามาจากเจตนาร้าย เช่นนั้นก็อาจเป็นการโน้มนำอย่างตั้งใจ เพทภัยไร้สิ้นสุด
เยี่ยนจ้าวเกอขมวดคิ้วมุ่น เกิดความคิดเป็นพันเป็นหมื่นในใจชั่วขณะ
“จ้าวเกอ…” เฟิงอวิ๋นเซิงมองเยี่ยนจ้าวเกอ สองคิ้วขมวดเล็กน้อยเช่นกัน
“ความเป็นไปได้หลายอย่าง ก็เตรียมการไว้ให้มาก ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาเห็นผลลัพธ์” เยี่ยนจ้าวเกอใคร่ครวญครู่หนึ่ง คิ้วคลายออก ยิ้มเล็กน้อย “สำหรับตัวข้า ข้ายังคงยินดีเชื่อศิษย์พี่เนี่ย”
“ไม่ ไม่ใช่ปัญหาเชื่อไม่เชื่อ” เยี่ยนจ้าวเกอพึมพำ “เป็นความหวัง เป็นความเชื่อ…”