ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1670 ทุกฝ่ายต่างโมโหยิ่ง
นันทิเกศวรติ้งกวงตอนนี้โมโหเช่นกัน
การชำระล้างไป๋ฮวาซิวเดิมทีไร้ความยาก ถึงอย่างไรความแตกต่างด้านระดับของสองฝ่ายก็วางอยู่ตรงนั้นในเชิงภววิสัย
ทว่าตอนนี้คนจากแดนสุขาวดีตะวันตกกับโถงเซียนมาถึง
มาถึงยังพอทำเนา กลับมีพวกหมาป่าขุยมู่กับเซียนหัวมังกรไปต้านรับ นันทิเกศวรติ้งกวงขอแค่จัดการเรื่องราวของตัวเองก็พอ
ผู้ใดคาดคิดว่า เรื่องดีมากอุปสรรค เรื่องเล็กๆ เรื่องนี้ ตอนนี้เกิดปัญหาแล้ว
นันทิเกศวรค้นพบอย่างงงงวยว่า บนร่างของสตรีอาภรณ์น้ำเงินที่ค่อยๆ ถูกตนชำระล้าง ถึงกับเกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่
แสงวิเศษพลังศรัทธาที่ถอยร่นต่อเนื่อง ค่อยๆ อ่อนแอลง ถึงกับโชติช่วงขึ้นมา กลับคืนสู่สภาพเดิมอีกครั้ง
นันทิเกศวรติ้งกวงแตกตื่น เพิ่มพลังขึ้นอีกขั้น กลับสะกดแสงวิเศษพลังศรัทธาให้กลายเป็นแสงพุทธพลังศรัทธาของฝ่ายตนได้อีกรอบ
แต่ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงตอนจบ เหมือนกับประสบโชคร้ายโชคดีก็มาหา หลังจากแสงวิเศษพลังศรัทธาอ่อนแอถึงระดับหนึ่ง อยู่ๆ ก็เจิดจ้าขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ความพยายามก่อนหน้าของนันทิเกศวรติ้งกวงสูญเปล่า
อีกฝ่ายกลับไม่กลืนกินแสงพุทธของท่านเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ตัวเอง แต่เหมือนสร้างวัฏจักรชนิดหนึ่ง ทุกๆ ครั้งที่บรรลุถึงจุดจบ ก็จะเริ่มต้นใหม่
“หือ?” สถานการณ์อย่างนี้ดึงดูดความสนใจของนันทิเกศวรพุทธะทันที
ยังกระตุ้นท่านมากกว่าเรื่ององหมาป่าขุยมู่และไป๋ฮวาซิวเสียอีก
‘หรือว่าแดนอภิรดีศูนย์กลางของเราไม่อาจชำระล้างคนของโถงเซียนได้แล้ว?’ นันทิเกศวรติ้งกวงปั้นสีหน้าเคร่งขรึมอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ถ้าหากว่าปัญหานี้เป็นจริง ผลกระทบที่ตามมาจะถึงขึ้นเหนือกว่าโถงเซียนให้กำเนิดเซียนสวรรค์มหาชาลหลายคนเสียอีก
นันทิเกศวรติ้งกวงเป็นผู้เข้มแข็งระดับสูงแห่งแดนสุขาวดีบัวขาว ผู้ยิ่งใหญ่พุทธะ ย่อมสนใจเรื่องนี้ถึงขีดสุด ขณะที่รู้สึกเหนือความคาดหมาย ก็รู้สึกเหลือเชื่อ
ปัจจุบันเส้นทางนอกรีตสองเส้นทางกำลังทำศึกกันอยู่ สงครามดำเนินมาถึงระยะเวลาหนึ่งแล้ว
แดนสุขาวดีบัวขาวยึดครองโอกาสบุกและความได้เปรียบ โจมตีดินแดนของโถงเซียน ท่านสู้ข้าชิง เหมือนฟันสุนัขเกี่ยวกัน แดนสุขาวดีบัวขาวก็ได้ประโยชน์มาบ้าง
ก่อนหน้านี้การชำระล้างจอมยุทธและคนธรรมดาของอีกฝ่าย ไม่เคยปรากฏสถานการณ์อย่างไป๋ฮวาซิวในตอนนี้มาก่อน
“แต่ว่าพลังฝึกปรือของคนที่ชำระล้างก่อนหน้าล้วนค่อนข้างต่ำ” นันทิเกศวรติ้งกวงพึมพำ “เป็นคนหลังจากผลักเปิดประตูเซียน จึงเป็นแบบนี้หรือ?”
ตอนนี้ท่านไม่สนใจว่าหมาป่าขุยมู่คิดอย่างไร เริ่มตั้งใจตรวจสอบสตรีอาภรณ์น้ำเงินตรงหน้า
เรื่องเสพสมดูดบำรุง นันทิเกศวรติ้งกวงย่อมไม่มีความคิด ท่านให้ความสนใจกับการตรวจสอบจิตวิญญาณของอีกฝ่าย
ครู่ต่อมา นันทิเกศวรติ้งกวงมีการค้นพบ “นี่เป็นอะไร?”
ตอนนี้ ในสายตาของนันทิเกศวรติ้งกวง ด้านในสมองกลางหว่างคิ้วของไป๋ฮวาซิว ถึงกับซ่อนของชิ้นหนึ่ง เพ่งพินิจดู กลับเป็นไม้แห้งท่อนหนึ่ง
หลังจากแสงวิเศษพลังศรัทธาของไป๋ฮวาซิวอ่อนแอถึงขีดจำกัดหนึ่ง กิ่งไม้ท่อนนี้จะงอกกิ่งแตกหน่อ เป็นไม้แห้งพบวสันต์
พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของกิ่งไม้ แสงวิเศษพลังศรัทธาของไป๋ฮวาซิวจะกลับคืนสู่ระดับก่อนหน้า แก้ไขการชำระล้างที่นันทิเกศวรติ้งกวงเปลี่ยนแสงวิเศษเป็นแสงพุทธะ
‘ที่แท้เป็นไม้คืนอาทิตย์ กลับฉลาดนัก’ นันทิเกศวรติ้งกวงเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจ ‘แต่ขอแค่ทราบรายละเอียดด้านใน ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว ทำลายได้ง่ายดาย’
ท่านตัดกิ่งต้นไม้แห้งที่ซ่อนอยู่ในสมองของไป๋ฮวาซิวทันที
ด้วยระดับของท่าน การตัดกิ่งต้นไม้แห้งนิดหน่อยไม่ยาก กลับกันขณะที่ตัดกิ่งแก้ง ไม่ทำร้ายจิตวิญญาณของไป๋ฮวาซิว ต้องคิดถึงเวลาด้วย ทว่าไม่ใช่เรื่องยาก
หากแต่หลังจากนันทิเกศวรติ้งกวงตัดกิ่งต้นไม้แห้งแล้ว ในกิ่งต้นไม้ที่แตกหักนั้น พลันบังเกิดแสงวิเศษอันสว่างไสวอย่างไม่เคยมีมาก่อน
แสงวิเศษพลังศรัทธากลืนไป๋ฮวาซิวหายไป ขณะทำให้จิตใจนางฮึกเหิมเป็นร้อยเท่า ถึงกับเริ่มครอบคลุมนันทิเกศวรติ้งกวงด้วย!
ขณะนันทิเกศวรติ้งกวงตกใจ ในแสงวิเศษนั้นถึงกับเห็นประตูหยกขาวบานหนึ่งได้อย่างเลือนราง
‘ติดกับแล้ว!’ นันทิเกศวรติ้งกวงตอบสนองทันที
ตามปกติแล้ว ต่อให้เป็นเทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับพระศรีอาริย์ ก็ไม่อาจบังคับชำระล้างผู้ยิ่งใหญ่ชั้นสุดยอดระดับมหาชาลได้ แม้จะเป็นมหาชาลเส้นทางนอกรีตก็ตาม
กระนั้นตอนนี้นันทิเกศวรติ้งกวงเทียบได้กับเปิดประตูเชิญคนชั่วเข้ามา มอบโอกาสให้แก่เทวกษัตริย์ไร้ประมาณด้วยตัวเองในระดับหนึ่ง
‘ในไม้คืนอาทิตย์ยังซ่อนของอย่างอื่น…ธุลีบรรพกาล? มิน่าๆ ถ้าไม่ใช่เช่นนี้ เขาไม่ถึงกับได้โอกาส’ นันทิเกศวรติ้งกวงลมหายใจเร่งร้อนอยู่บ้าง ‘ของสิ่งนี้ถูกทำลายไปนานแล้วไม่ใช่หรือไม่? ไฉนเทวกษัตริย์ไร้ประมาณยังมีอยู่บนมือ?’
ถ้าไม่ใช่ผู้คนทราบว่าธุลีบรรพกาลดับสูญไปนานแล้ว กับดักที่คล้ายกันไม่ทราบมีอยู่ขนาดไหน
แต่เป็นเพราะแบบนี้ จึงทำให้นันทิเกศวรประมาทไปชั่วขณะ
ท่านฝืนบังคับตัวเอง ท่องนามพระศรีอริยเมตไตรย ไม่ให้เทวกษัตริย์ไร้ประมาณได้โอกาส
ถึงจะเข้ากับเส้นทางนอกรีต แต่สุดท้ายนันทิเกศวรติ้งกวงเป็นมหาชาล ต้านทานสุดกำลัง ตกสู่การยื้อยันชั่วขณะ
ทว่าตอนนี้ใบหน้านันทิเกศวรติ้งกวงย่ำแย่สุดขีด
ตอนนี้เทวกษัตริย์ไร้ประมาณต้องการชำระล้างท่าน ดังนั้นท่านจึงฝืนต้านไว้ได้
เกิดว่าเทวกษัตริย์ไร้ประมาณหมดความอดทน สภาพอย่างในตอนนี้สามารถกระแทกนันทิเกศวรข้ามมิติให้มรณะได้โดยตรง แม้แต่พระศรีอริยเมตตไรยก็ปกป้องไม่ได้
นึกถึงตรงนี้ นันทิเกศวรพุทธะมองสตรีอาภรณ์น้ำเงินนางนั้นอีกครั้ง ดวงตาฉายประกายดุร้าย
หากต้องพูดความในใจจริงๆ ไม่เพียงแต่หมาป่าขุยมู่เห็นนันทิเกศวรติ้งกวงเป็นที่ขัดตา นันทิเกศวรติ้งกวงเห็นหมาป่าขุยมู่เป็นที่ขัดตายิ่งกว่า
ในยุคโบราณตอนต้น ท่านเป็นเซียนติ้งกวงหูยาวระดับมหาชาล อีกฝ่ายแค่ระดับสุญญตา
ท่านเข้าสู่ศาสนาพุทธในยุคโบราณตอนกลาง กลายเป็นนันทิเกศวรติ้งกวง ผลคือเมื่อยุคโบราณตอนกลางจบลง เข้าสู่ยุคนี้ แดนอภิรดีศูนย์กลางเกิดความวุ่นวาย ศาสนาพุทธเอาตัวเองไม่รอด ท่านถูกผู้ยิ่งใหญ่เหนือพิสุทธิ์ที่มีความแค้นในใจเล่นงานสาหัส เป็นเหตุให้หล่นจากระดับมหาชาล
การร่วงหล่นนี้สร้างอาการบาดเจ็บบอบช้ำเกินไป นันทิเกศวรติ้งกวงถึงกับไม่อาจพึ่งพาตัวเองฝ่าภัยพิบัติฟ้ากำเนิด
สุดท้ายท่านไร้หนทาง ได้แต่สวามิภักดิ์กับแดนสุขาวดีบัวขาว เข้าสู่เส้นทางนอกรีตสำเร็จผลพุทธอีกครั้ง สำเร็จระดับมหาชาลอีกรอบ
ทว่าเทียบกับตอนแรก สุดท้ายเป็นปัจจุบันไม่เหมือนในอดีต
หมาป่าขุยมู่ที่ประสบภัยพิบัติขึ้นทำเนียบสถาปนาเทพในอดีต กลับลงทำเนียบสถาปนาเทพหลังมหาภัยพิบัติ วันนี้ถึงกลับไม่เดินบนเส้นทางนอกรีต ก็ขึ้นสู่มหาชาล
พอเทียบสองเรื่องราว จะให้นันทิเกศวรติ้งกวงสงบใจได้อย่างไร?
เพียงแต่ว่า นี่เป็นเวลาหนึ่ง นั่นเป็นเวลาหนึ่ง ไม่ว่าท่านยินดีหรือไม่ วันนี้หมาป่าขุยมู่เหนือกว่าท่าน เขาดาราทะเลดวงดาวเหนือกว่าแดนสุขาวดีบัวขาว
ดังนั้นนันทิเกศวรติ้งกวงปรับสภาพจิตใจอย่างรวดเร็ว ร่วมมือกับหมาป่าขุยมู่และเซียนหัวมังกร
ผลลัพธ์กลับเป็นเพราะแบบนี้จึงประสบภัย นันทิเกศวรติ้งกวงพลันเกิดความคิดชั่วร้าย
พอสังหารไป๋ฮวาซิวเสร็จ ก็ตัดการชำระล้างของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณต่อท่านได้ หลุดจากสภาพจนตรอกในตอนนี้ ขณะเดียวกันยังรักษาความปลอดภัยของตัวเอง ไม่ถึงกับถูกเทวกษัตริยืไร้ประมาณสะกดสังหารข้ามมิติหลังจากหมดความอดทน
ต่อให้สร้างความโกรธให้แก่หมาป่าขุยมู่เพราะสาเหตุนี้ ถึงเวลานั้นก็มีพระศรีอาริย์เจรจากับกษัตริย์บูรพาไท่อี้ ย่อมไม่ให้ท่านส่งชีวิตเพื่อไป๋ฮวาซิว
‘สตรีนางนี้ชาติภพนี้ยังไม่เสียพรหมจรรย์ ถือโอกาสหนึ่งไม่ทำสองไม่หยุด[1]…’ ความคิดชั่วร้ายพอบังเกิด ความกริ่งเกรงก่อนหน้าของนันทิเกศวรติ้งกวงหายไปหมด กลับกันสามารถผลักให้กลายเป็นฝีมือของโถงเซียนและเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ ถึงตอนนั้นทำลายศพลบร่องรอยก็พอ
………………..
[1] หนึ่งไม่ทำสองไม่หยุด หมายถึง อย่าทำแต่แรก ถ้าทำแล้วให้ทำจนสำเร็จ