ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1674 รอวินาทีนี้มานานเหลือเกิน เรื่อง ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี
- Home
- ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี
- บทที่ 1674 รอวินาทีนี้มานานเหลือเกิน เรื่อง ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี
เยี่ยนจ้าวเกอเก็บหยกหยุดวิญญาณ มองไปยังหมาป่าขุยมู่ ถามว่า “ฮูหยินท่านปัจจุบันเข้าสู่โถงเซียนเส้นทางนอกรีตแล้ว ไม่ทราบว่าต่อจากนี้ท่านวางแผนอย่างไร?”
หมาป่าขุยมู่ได้ยิน พลันเงียบงันเล็กน้อย
ไป๋ฮวาซิวเข้าสู่เส้นทางนอกรีต ย่อมเป็นเรื่องที่เขาไม่ยินดีจะเห็น
ไม่ว่าจะเป็นโถงเซียนเส้นทางนอกรีต หรือแดนสุขาวดีบัวขาวศาสนาพุทธเส้นทางนอกรีต ล้วนเป็นเช่นนี้
เพียงแต่ว่าเทียบกันแล้ว แดนสุขาวดีบัวขาวยังดีกว่าเล็กน้อย อย่างไรตอนนี้หมาป่าขุยมู่ก็เป็นเผ่าปีศาจ แดนสุขาวดีบัวขาวกับเผ่าปีศาจขณะนี้เป็นพันธมิตร สองฝ่ายออยู่ในแนวแนวรบเดียวกัน
หนำซ้ำขอแค่เขาดาราทะเลดวงดาวยึดครองความได้เปรียบและตำแหน่งที่แข็งแกร่ง ไป๋ฮวาซิวเข้าสู่แดนสุขาวดีบัวขาว สำหรับหมาป่าขุยมู่แล้วไม่มีอุปสรรค แดนสุขาวดีบัวขาวไม่อาจอาศัยเรื่องนี้มาใช้บีบบังคับเขาได้
ดังนั้นเขาจึงได้เห็นด้วยกับการเชิญพุทธะแห่งแดนสุขาวดีบัวขาวมาชำระล้างไป๋ฮวาซิว
แต่ว่าถึงเวลาดันเกิดผลลัพธ์เช่นนี้ เขาสังหารนันทิเกศวรติ้งกวงไปแล้ว
สำหรับเส้นทางนอกรีต พุทธะที่ขึ้นสู่มหาชาลองค์หนึ่งมิอาจสูญเสียได้เช่นกัน
ตอนนี้สาเหตุที่โถงเซียนถูกแดนสุขาวดีบัวขาวกดจนเอวต่ำลงในศึกใหญ่หลายครั้งติดต่อกัน ความจริงหากสืบสาวถึงต้นตอ ต่างเป็นเพราะปัญหาที่เหลือในประวัติศาสตร์ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่สั่วหมิงจางกับเยี่ยนจ้วเกอสังหารทำร้ายเทวกษัตริย์โถงเซียนเป็นจำนวนมาก
หลังจากตรวจสอบจิตวิญญาณของไป๋ฮวาซิวแล้ว หมาป่าขุยมู่ก็ทราบว่า หากกล่าวในระดับหนึ่ง นันทิเกศวรที่ถูกเขาตามตัวมาชำระล้างไป๋ฮวาซิว ความจริงเป็นผู้ที่ถูกทำร้าย
ดังนั้นเขาได้สังหารนันทิเกศวรติ้งกวงไปแล้ว แม้ว่าเผ่าปีศาจจะมีสภาวะแข็งแกร่งกว่าแดนสุขาวดีบัวขาว แต่ความจริงไม่มีเหตุผลเพียงพอสำหรับหมาป่าขุยมู่
แน่นอนว่านันทิเกศวรติ้งกวงคิดดูดบำรุงไป๋ฮวาซิว ทำให้หมาป่าขุยมู่เจอพื้นที่ยึดครองเหตุผลหลายส่วน
ผลลัพธ์สุดท้าย สมควรเป็นต่างฝ่ายต่างผลักความรับผิดชอบ ความเป็นไปได้ที่แดนสุขาวดีบัวขาวจะคิดว่าโชคร้ายจะมีมากกว่า
ถึงอย่างไร เทียบกับการเป็นสัมพันธมิตรที่สองฝ่ายบรรลุแล้ว มหาเทวะเผ่าปีศาจดั้งเดิมอย่างหมาป่าขุยมู่ มีตำแหน่งเหนือกว่านันทิเกศวรติ้งกวง
ตอนนี้เขายังคงนำไป๋ฮวาซิวกลับเขาดาราทะเลดวงดาว บรรเทาความสัมพันธ์กับแดนสุขาวดีบัวขาว ขอให้พุทธะผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนสุขาวดีบัวขาวคนอื่นๆ ชำระล้างไป๋ฮวาซิวอีกครั้ง กำจัดเพทภัยที่ทางด้านโถงเซียนอาจนำมาได้
สภาพในปัจจุบันหากไม่มีอุบัติเหตุใหญ่ ยังไม่ถึงกับกดดันให้เขาทรยศเผ่าปีศาจ ส่งตัวเองเข้าสู่อ้อมอกของแดนสุขาวดีตะวันตกกับโถงเซียน
นอกเสียจากว่าทางเผ่าปีศาจกับแดนสุขาวดีบัวขาวจัดการปัญหาของไป๋ฮวาซิวไม่ได้
ทว่าถ้าหากมีวิธที่ทำให้ไป๋ฮวาซิวหลุดจากเส้นทางนอกรีตได้จริงๆ หมาป่าขุยมู่ย่อมหวังให้นางกลับสู่เส้นทางหลักได้
ตอนนี้ได้ยินคำถามของเยี่ยนจ้าวเกอ จอมปีศาจตนนี้พลันหวั่นไหว เหลียวมองเยี่ยนจ้าวเกอ ถามตรงๆ ว่า “ก่อนหน้านี้ข้าหลีกเลี่ยงไม่พบกับภรรยา ตอนนี้นางสับสนงุนงง เข้าสู่โถงเซียนเส้นทางนอกรีต กระทบต่ออนาคตอย่างใหญ่หลวง ข้าเสียใจที่สายไปแล้ว ดั่งน้ำหกยากเก็บคืน กลับไม่ทราบว่าจะชดเชยอย่างไร? ถ้าเทวกษัตริย์น้อยมีวิธี ได้โปรกวานบอก ข้าจะต้องตอบแทนแน่”
“สำหรับสำนักเต๋าของข้า โถงเซียนเส้นทางนอกรีตเป็นภัยร้ายเช่นกัน” เยี่ยนจ้าวเกอตอบ “ข้ากับผู้อาวุโสและพวกสหายร่วมเส้นทางคนอื่นๆ หลายปีมานี้ต่างตั้งใจศึกษา หวังว่าจะทำลายความวุ่นวายได้”
เขาเว้นเล็กน้อย ค่อยกล่าวต่อ “ปัจจุบันมีผลลัพธ์ส่วนหนึ่งแล้ว แต่ยังคงมีจำกัด ไม่กล้าบอกว่ามีวิธีแล้ว ได้แต่คลำทางมา”
ได้ยินเยี่ยนจ้าวเกอไม่กล้ารับประกัน หมาป่าขุยมู่กลับเชื่อว่าคำพูดของเขาเป็นความจริง
ทว่าเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ทำให้ความคาดหวังในใจมหาเทวะเสื้อเหลืองดับมอดลงมากกว่าครึ่ง
‘ผลลัพธ์มีจำกัด’ หมายถึงว่าแน่ใจไม่มาก
‘คลำทางมา’ หมายถึงว่า ไป๋ฮวาซิวก็เทียบได้หนูทดลอง
หมาป่าขุยมู่ถอนใจคำหนึ่ง “ขออภัยเทวกษัตริย์น้อย ถ้าหากข้าเสี่ยงคนเดียวยังพอว่า แต่ภรรยาของข้ามิอาจวางใจให้นางเสี่ยงอันตรายได้จริงๆ”
“เข้าใจได้” เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า ไม่ฝืนใจ
เขาเพียงแค่จำเป็นต้องถ่ายทอดวาจา ถือว่าเพียงพอแล้ว
มีเหตุการณ์นี้ ต่อจากนี้ไม่ว่าหมาป่าขุยมู่จะอยู่ฝั่งเผ่าปีศาจกับแดนสุขาวดีบัวขาว หรือว่าหันไปอยู่ฝังโถงเซียนกับแดนสุขาวดีตะวันตก จะเผชิญหน้ากับสำนักเต๋าสายหลัก ต้องคิดให้ถี่ถ้วน
ผู้ใดทราบว่าสุดท้ายจะช่วยเหลือสามพิสุทธิ์สายหลักอย่างพวกเยี่ยนจ้าวเกอเพื่อไป๋ฮวาซิวหรือไม่?
ถึงเยี่ยนจ้าวเกอจะเสียดายอยู่บ้างเช่นกันที่ขาดกรณีศึกษาอันเหมาะสมเอาไว้พิจารณา แต่ความจริงก็เพื่อกำจัดการคุกคามที่มหาเทวะเผ่าปีศาจตนหนึ่งอาจนำมาให้แก่ผู้สืบทอดสำนักเต๋าของตัวเองทางอ้อม
“เมื่อเป็นเช่นนี้ มหาเทวะเสื้อเหลือง พวกเราลากันเท่านี้” เยี่ยนจ้าวเกอประสานมือ
“วันนี้ขอบคุณเทวกษัตริย์น้อย วันอื่นมีวาสนาค่อยพบกัน” หมาป่าขุยมู่คารวะเยี่ยนจ้าวเกออย่างเกรงใจเช่นกัน
สองคนแยกทาง เยี่ยนจ้าวเกอนำหยกหยุดวิญญาณกลับสวรรค์สำนักเต๋าพร้อมกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก
เข้าใกล้สวรรค์สำนักเต๋า กลางอาณาบริเวณอันมืดมิดปรากฏร่างคน เป็นเฟิงอวิ๋นเซิงนั่นเอง
“ได้มาแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอแบมือ ศิลาหยกสีม่วงเข้มก้อนหนึ่งเปล่งแสงงดงามพิสดารอย่างเงียบๆ อยู่ในฝ่ามือ
เฟิงอวิ๋นเซิงมองไป เพียงรู้สึกว่าในศิลาหยกเหมือนกับสั่งสมวิญญาณมหาศาล
วิญญาณเผยความรู้สึกบริสุทธิ์ผุดผ่องสงบนิ่งออกมา
แต่ว่าในศิลาหยก เต็มไปด้วยปราณพิฆาต
ดูเหมือนขัดแย้ง กลับสอดคล้องกันเป็นหนึ่ง ในหยกศิลาสีม่วงเข้มงดงามเป็นพิเศษ
“ประเสริฐยิ่ง” เฟิงอวิ๋นเซิงพ่นลมหายใจยาว “พวกเรารีบไปสวรรค์ชื่อหมิงเหอหยาง ศิษย์พี่อวี่รอมานานไปแล้ว”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “ถูกต้อง พวกเราไป”
คนทั้งสองไปสวรรค์ชื่อหมิงเหอหยาง เข้าไปในมรกตท่องฟ้า
พวกหลงซิงเฉวียนกับเกาเสวี่ยพอที่ได้รับข่าวยิ่งลิงโลด ออกมารับพวกเยี่ยนจ้าวเกอไปยังสถานที่ที่อวี่เย่พักผ่อนแต่แรก
เกาชิงเสวียนที่ตอนแรกเข้าฌาน ถึงขั้นตื่นตัว ออกฌานก่อนกำหนดเพื่อหลานสาวของตัวเอง
กลุ่มคนรวมตัวกันอยู่ในห้องสงบใจที่อวี่เย่อยู่ เยี่ยนจ้าวเกอนำของวิเศษอย่างหยกหยุดวิญญาณ พู่โลหิตแก่นศิลา สารสมุทรปราณวิญญาณออกมา จากนั้นก็ก่อตั้งค่ายกล
หลังก่อตั้งค่ายกลเสร็จ เยี่ยนจ้าวเกอตรวจสอบรอบหนึ่ง แล้วส่งอวี่เย่ที่ตอนนี้ยังไม่มีสติเข้าไปด้านในค่ายกล
แสงสว่างหลายสายลอยขึ้นในค่ายกล ครอบคลุมร่างของอวี่เย่
ลวดลายค่ายกลและยันต์อาคมหลายสายเหมือนผนึกตัวเป็นสัญลักษณ์และรูปภาพมากมายที่จับต้องได้ สลักอยู่ในอากาศ ประกอบเป็นลำแสงกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าที่คนธรรมดายากเข้าใจความหมาย
ลำแสงหลายสายที่เหมือนกับผ้าต่วนหลายเส้นเริ่มโอบล้อมร่างของอวี่เย่
ในกระบวนการนี้ ของเหลวสีแดงก่ำที่ผิวภายนอกเหมือนกับก้อนหิน แต่แฝงไขเลือดไว้ด้านใน มีหมอกสีเลือดหลายสายลอยขึ้น ปกคลุมร่างของอวี่เย่ ซึมเข้าไปจากในรูขุมขนบนผิว
หยกหยุดวิญญาณที่เหมือนกับศิลาหยกสีม่วงเข้มกลายเป็นแสงสีม่วงสายหนึ่ง จมเข้าไปในสมองของอวี่เย่อย่างช้าๆ
สารสมุทรปราณวิญญาณแตกละเอียดอย่างไร้เสียงด้วยผลกระทบจากพลังแห่งค่ายกล จากนั้นกลายเป็นควันขาวหลายสาย หายเข้าไปในร่างอวี่เย่ผ่านการหายใจของนาง
ของวิเศษมากมายที่เหลือเริ่มถูกร่างของอวี่เย่ดูดซับไว้พร้อมกัน โดยการจัดการจากวิชาค่ายกลของเยี่ยนจ้าวเกอ
แถบแสงราวผ้าต่วนหมุนวนไม่หยุด สุดท้ายหลังจากของวิเศษชิ้นอื่นๆ ถูกหลอมเปลี่ยน ก็ค่อยๆ โดนอวี่เย่ดูดจนหายไป กดให้การหมุนวนของลำแสงช้าลง เริ่มค่อยๆ กลายเป็นฝุ่นแสงหลายจุด หายเข้าไปในร่างอวี่เย่
………………..