ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1677 การจัดการของเยี่ยนจ้าวเกอ
ถึงปกติจะดูเหมือนมีความรู้สึกซึมเซาอยู่บ้าง แต่ตลอดทางถึงวันนี้ เจตนารมณ์ของอวี่เย่ย่อมไม่เลว ถึงขั้นที่แข็งแกร่งกว่าคนส่วนใหญ่ เหมือนกับคำพูดที่หลงเสวี่ยจี้ซึ่งแทบเหมือนมองดูนางเติบโตขึ้นมา
ทว่าในทางกลับกัน ความแข็งแกร่งกับความแน่วแน่ บางครั้งก็หมายถึงความหัวรั้นและทิฐิ
ความแน่วแน่และความยึดมั่นย่อมแตกต่างกัน แต่ว่าในสถานการณ์พิเศษส่วนหนึ่ง ขอบเขตของทั้งสองอย่างอาจพร่ามัว
ด้วยนิสัยของอวี่เย่ ถึงในการใช้ชีวิตประจำวันจะเรียบง่ายสบายๆ มีเรื่องที่ยึดมั่นอยู่น้อย ทว่าตอนเรียนวรยุทธฝึกฝนกระบี่ ที่แล้วมายึดถือไม่ยอมแพ้ อดทนต่อความอ้างว้างและความลำบากได้
สิ่งที่นางสนใจมีไม่กี่อย่าง แต่ว่าสิ่งที่นางสนใจมักจะต้องใส่ใจอย่างล้ำลึกกว่าคนทั่วไป
เหมือนที่นางครอบครองวิญญาณฟ้าแฝง ปกติดูเหมือนมักเหม่อลอย แต่ว่ายามฝึกวรยุทธกลับมีสมาธิเป็นพิเศษ
ดังนั้นตอนนี้ภายนอกนางยิ่งสงบนิ่ง ไม่ว่าจะเป็นหลงเสวี่ยจี้หรือพวกเยี่ยนจ้าวเกอ และเฟิงอวิ๋นเซิงกลับยิ่งกังวล
เป็นเพราะด้วยนิสัยของอวี่เย่ นั่นมักหมายถึงระลอกคลื่นที่รุนแรงกว่าในใจ
“พวกเราไปดูด้วยกันเถอะ” เยี่ยนจ้าวเกอถอนใจคำหนึ่ง
หลงเสวี่ยจี้พยักหน้า นำเยี่ยนจ้าวเกอและเฟิงอวิ๋นเซิงกลับไปในนิวาสสถานแห่งนั้น
ขณะนี้ อวี่เย่นั่งเงียบๆ ถามเกาชิงเสวียน “ท่านยาย ตอนนี้เจ้าแม่อู๋ตังกำลังควบคุมค่ายกลลงทัณฑ์เซียนหรือ?”
“มิผิด” เกาชิงเสวียนตอบ เจ้าแม่อู๋ตังกับเจ้าแม่อวิ๋นเซียวหลายปีมานี้สับเปลี่ยนกันควบคุมค่ายกลลงทัณฑ์เซียน แลกอิสระภาพความปลอดโปร่งในปัจจุบันเพื่อคนในสำนักเต๋าเรา”
อวี่เย่พยักหน้าเบาๆ
เวลานี้นางเห็นพวกเยี่ยนจ้าวเกอเดินเข้ามา ก็พูดขึ้นทันที่ว่า “ศิษย์น้องเยี่ยน ขอบคุณเจ้ามากที่หลายปีมานี้เดินทางเหนื่อยยากเพื่อข้า”
“ศิษย์พี่อวี่อย่าได้เกรงใจ” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยเสียงเบา
อวี่เย่มองเขา “เรื่องที่เกิดขึ้นในหลายปีมานี้ ท่านตาท่านยายเพิ่งเล่าให้ข้าฟัง พวกเขาพูดถึงว่า ศิษย์น้องเยี่ยนยังมีอวิ๋นเซิง ก่อนหน้านี้พวกเจ้า….ได้…”
พูดถึงตรงนี้ ดวงตาที่ก่อนหน้านี้ยังสงบดุจสายน้ำ ในที่สุดบังเกิดระลอกคลื่น
“อืม พวกเราพบศิษย์พี่เนี่ยแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอเงียบงันเล็กน้อย แต่ยังพยักหน้า
“ข้าได้ยินท่านปู่พูดถึงการคาดเดาของเจ้าที่บรรพครรภ์ก่อนกำเนิดของเขาจะส่งอิทธิพลต่อสุดยอดมารที่เกิดขึ้นร่วมกับฟ้า” อวี่เย่เสียงเบายิ่ง “ครั้งนี้พบเขา เป็น…เป็นอย่างไรบ้าง?”
“ยากจะฟันธง” เยี่ยนจ้าวเกออธิบาย “รอบๆ ยังมีมารจิตแรกเริ่มกับจอมมารตนอื่นล้อมอยู่ ต่อให้มีจุดพิเศษจริงๆ ก็ไม่เปิดเผยง่ายๆ”
เขามองอวี่เย่ มองหลงซิงเฉวียน เกาชิงเสวียน ยังมีหลงเสวี่ยจี้ และเกาเสวี่ยพอ เอ่ยอย่างใคร่ครวญว่า “ความจริงเมื่อครู่ข้ากำลังพูดกับอวิ๋นเซิงว่า บางทีเราอาจเจรจากับนพยมโลก ทำการหยั่งเชิงดูได้”
“อ้อ?” อวี่เย่ดวงตาพลันเป็นประกายขึ้นมา
พวเกาชิงเสวียนกับหลงซิงเฉวียน สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นทันที
เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งสำรวจอวี่เย่ ทางหนึ่งบอกเล่าแผนการของตนง่ายๆ
เมื่อจบแล้ว เขาก็สบตากับดวงตาสองข้างที่สว่างไสวของอวี่เย่ เอ่ยเบาๆ “นี่สำหรับศิษย์พี่อวี่ท่าน ต้องรับความเสี่ยงส่วนหนึ่ง ถ้าหากติดต่อกันจริงๆ ผู้ที่อยู่ตรงหน้าท่านจะเป็นเทพมารที่ขึ้นสู่มหาชาลแล้วตนหนึ่ง”
ความเสี่ยงที่ว่า มิใช่บอกว่าเนี่ยจิงเสินอาจทำร้ายนาง
แต่ว่านางอาจเผชิญกับการยั่วยวนของเทพมารตนหนึ่ง จิตใจมีช่องโหว่วเพียงเล็กน้อย อาจถูกขยายให้ใหญ่ทันที
“ข้าเข้าใจ” อวี่เย่สูดหายใจลึกคำหนึ่ง ค่อยๆ กล่าว “ถ้าข้าไม่ได้เตรียมตัว ข้าจะไม่ไป”
นางหันมองเฟิงอวิ๋นเซิง “เพียงแต่ต้องให้อวิ๋นเซียงรับความเสี่ยงเพื่อข้า ข้ารู้สึกผิดยิ่ง”
“ศิษย์พี่อวี่อย่ากังวล” เฟิงอวิ๋นเซิงยิ้มเล็กน้อย “นพยมโลกกับข้า ผู้ใดเสี่ยงมากกว่า ยังไม่แน่นัก ดังนั้นอาจจะเป็นอีกฝ่ายไม่ตอบรับ”
อวี่เย่พ่นลมหายใจออกยาวๆ ปิดสองตา ปรับจิตใจของตัวเอง
“ศิษย์พี่อวี่เตรียมตัวเสร็จแล้ว พวกเราจะติดต่อกับทางนพยมโลก” เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นก็พยักหน้ากล่าว
อีกฝ่ายเพิ่งฟื้นขึ้นมา รับข้อมูลมากมายปานนี้ ต้องใช้เวลาย่อยสลาย เยี่ยนจ้าวเกอจึงบอกลาทันที
พวกหลงซิงเฉวียน เกาเสวี่ยพอ และหลงเสวี่ยจี้สามพ่อลูก ออกมาพร้อมกับเยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิง เพียงทิ้งเกาชิงเสวียนไว้ดูแลหลานสาว
หลังทุกคนออกมา ต่างสบตากัน สุดท้ายถอนใจกันคำหนึ่ง
“ถึงจะเป็นความปรารถนาของศิษย์พี่อวี่ แต่ว่าข้าผู้แซ่เยี่ยนอยู่ด้านใน ย่อมหวังให้ศิษย์พี่เนี่ยหันหลับกลับจากในทะเลทุกข์ ในนี้อาจมีความวู่วาม ขอให้ทั้งสามท่านอภัยด้วย” เยี่ยนจ้าวเกอประสานมือ
วาจานี้ของเขากล่าวให้เกาเสวี่ยพอกับหลงเสวี่ยจี้ฟัง
สำหรับพวกเยี่ยนจ้าวเกอ และสำหรับอวี่เย่ เนี่ยจิงเสินอาจมีความหมายอีกอย่างหนึ่ง
ทว่าสำหรับสายเหนือพิสุทธิ์แห่งมรกตท่องฟ้าแล้ว นั่นเป็นผู้สืบทอดหยกพิสุทธฺ์ที่โดดเด่น เพียงแค่มีไมตรีเป็นคนเส้นทางเดียวกัน ไม่ว่าอย่างไรก็เทียบกับอวี่เย่ที่เป็นญาติของพวกเขาได้
เนี่ยจิงเสินช่วยเหลืออวี่เย่ ขณะเดียวกันยังกลายเป็นมารเพราะนาง พวกเกาเสวี่ยพอย่อมคำนึงถึงน้ำใจส่วนนี้
ต้องการให้พวกเขาใช้คืนน้ำใจไม่มีปัญหา แต่หากให้อวี่เย่ที่อุตส่าห์ช่วยมาได้ไปเสี่ยงอันตรายใช้คืนน้ำใจ ย่อมยากจะบอกว่ายินดี
เนี่ยจิงเสินกับหลงชิงเฉวียนยังนับได้ว่าเป็นคนในสำนักเดียวกัน แต่กับเกาชิงเสวียนแม่ลูกแล้ว กั้นห่างไว้ระดับหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย
ยิ่งอย่าว่าแต่ ยังมีเรื่องของหลี่อิงกษัตริย์เถา
เพียงแต่ว่า เป็นเพราะเนี่ยจิงเสินกับอวี่เย่ ปัจจุบันความเกี่ยวข้องก็ยิ่งวุ่นวาย หนี้เลอะเลือนมากมายยิ่งมายิ่งพร่ามัว
“จ้าวเกอกล่าวอันใด เรื่องสหายน้อยเยี่ยน พวกเราต้องรับผิดชอบ” เกาเสวี่ยพอถอนใจกล่าว “ปัจจุบันเพียงหวังว่าฟ้าจะช่วยคุ้มครองคนดี”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าเงียบๆ บอกลาหลงซิงเฉวียนสามพ่อลูกพร้อมกับเฟิงอวิ๋นเซิง ออกจากมรกตท่องฟ้า ผละไปจากสวรรค์ชื่อหมิงเหอหยาง
สามีภรรยามุ่งหน้าไปยังสวรรค์ไท่อันหวงหยาก่อน
ณ ที่แห่งนั้น สั่วหมิงจางกำลังชำระล้างธงวิเศษบัวเขียว
ความสกปรกส่วนใหญ่บนธงต่างถูกขจัดแล้ว ตอนนี้กำลังเปล่งแสงสีขึ้นใหม่
ทว่ายิ่งเป็นความสกปรกที่เหลืออยู่เป็นจุดสุดท้ายก็ยิ่งฝังแน่น คิดจะทำความสะอาดให้หมดจด กลับจำเป็นต้องเปลืองเวลาและพลังสมาธิมากกว่าก่อนหน้า
เยี่ยนจ้าวเกอไม่รีบร้อน พูดถึงเรื่องที่ตนวางแผนจะเจรจากับนพยมโลกกับสั่วหมิงจาง
ถึงแม้ไม่คิดใช้กำลัง แต่เกิดต้องสู้กับนพยมโลก ฝั่งสำนักเต๋าขาดการลงมือของสั่วหมิงจางไปไม่ได้
การกดข่มของเขาต่อมารไม้อิก หรือมารเงา เรียกได้ว่าเป็นความสุดขั้วอย่างหนึ่ง ได้เปรียบอีกฝ่ายมากมาย
ครั้งกระโน้นสั่วหมิงจางเพิ่งขึ้นสู่มหาชาล ก็เล่นงานจนมารเงาได้แต่กุมหัววิ่งหนี
และการเผชิญกับสั่วหมิงจางในปัจจุบัน สุดยอดมารที่ยิ่งใหญ่อย่างมารเงาเกรงว่าจะไม่แตกต่างกับพญามารระดับสุญญตาตนหนึ่ง
สั่วหมิงจางไม่ลงมือ ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนไม่ฟาดฟัน ผู้ยิ่งใหญ่สำนักเต๋าคนอื่นๆ นอกจากหยางเจี่ยนแล้ว เกรงว่าจะมีวิธีจัดการมารเงาอยู่ไม่มาก
ถึงอย่างไรตำแหน่งเจอแข็งแกร่งจึงแข็งแกร่งของจอมมารตนนี้ก็มิใช่เรื่องโกหก ตอนนั้นเคยเปลี่ยนเป็นจักรพรรดิจื่อเวยผู้นำแห่งสี่เทวราชสำนักเต๋า หนำซ้ำยังต่อสู้กับอีกฝ่ายโดยไม่ตกเป็นรอง
แต่เมื่อเผชิญกับคู่ต่อสู้ที่กดข่มการเปลี่ยนแปลงความสามารถของมันได้ มารเงาก็แสดงความกระอักกระอ่วนถึงขีดสุดแล้ว
สั่วหมิงจางได้ยินคำพูดของเยี่ยนจ้าวเกอ ตัวเองไม่มีข้อโต้แย้ง ยอมอนุญาต
บอกลาพวกสั่วหมิงจางแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงออกจากสวรรค์ไท่อันหวงหยาอีกรอบ มุ่งหน้าไปยังจักรวาลอีกแห่งที่อยู่ไกลออกไป สวรรค์อู๋จี๋ถานซื่อ
จักรวาลที่เยี่ยนจ้าวเกอใช้มุกค้ำทะเลอีกชิ้นสร้างขึ้น
………………..