ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1696 ต่อสู้ตัดสิน
สนามรบจัดอยู่ในแดนสุขาวดีตะวันตก ในแดนสุขาวดีพุทธเกษตรของตัวทีปังกรพุทธะเอง นักบวชผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นๆ ของศาสนาพุทธ ย่อมจับตาดูการรบนี้
วินาทีนี้ ถึงแม้ไม่ได้ปรากฏตัวอย่างแท้จริง แต่ว่าสายตาที่รวมกันของนักบวชศาสนาพุทธหลายคน ตอนนี้เหมือนกับสสาร ตกอยู่บนร่างพวกเยี่ยนจ้าวเกอ
ดูผลลัพธ์การตอ่สู้ระหว่างทีปังกรพุทธะกับนาจา นักบวชศาสนาพุทธเหล่านนี้จะตัดสินใจการเคลื่อนไหวก้าวต่อไปของตัวเอง
เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋สัมผัสได้ว่า มีสายตาส่วนหนึ่ง ความจริงหยุดอยู่บนร่างพวกเขา
เทียบกับหยางเจี่ยนและนาจาที่ขึ้นสู่มหาชาลมานานซึ่งอยู่ด้านข้าง เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋เซียนกำเนิดสุญญตาสองคนเคลื่อนไหวระหว่างทะเลดอกบัวสีเขียว สองพ่อลูกไม่คิดดึงดูดสายตายังยาก
นอกจากนี้ คนหนึ่งฉายาจ้าวสยบสวรรค์ คนหนึ่งถูกยกให้เป็นเทวกษัตริย์น้อย คนธรรมดาล้วนเทียบไม่ได้
แต่จุดสำคัญยิ่งกว่าอยู่ที่ เวลามาถึงวันนี้ ไม่มีใครสงสัยข้อนี้ หรือคิดจะลงมือหยั่งความสามารถของพวกเขา ดูว่าพวกเขาสองพ่อลูกเหมาะกับฉายาเหล่านี้หรือไม่อีกแล้ว
ตรงกันข้าม แม้แต่เหล่าพุทธะแห่งแดนสุขาวดีตะวันตกต่างยอมรับว่า เยี่ยนจ้าวเกอพ่อลูกมีชื่อสมกับความจริง
โดยเฉพาะเยี่ยนจ้าวเกอ แทบได้รับการยอมรับจากทุกคนว่าเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดท่ามกลางจอมยุทธเกิดใหม่หลังมหาภัยพิบัติ
สำนักเต๋าสายหลักรุ่งเรืองขึ้นอีกครั้งหลังมหาภัยพิบัติ เขาใช้ระดับที่ยังไม่ขึ้นสูงมหาชาล กลับแสดงอิทธิพลที่คนทุกคนยากจะดูแคลน
คนแบบนี้ย่อมทำให้ผู้ยิ่งใหญ่ศาสนาพุทธทั้งหลายจับตาอย่างใกล้ชิด เพิ่มความระมัดระวัง
แต่ว่าไม่มีผู้ใดผลีผลามเคลื่อนไหว
แค่ในที่แจ้ง เยี่ยนจ้าวเกอก็มีเซียนสวรรค์มหาชาลที่แข็งแกร่งที่สุดในสำนักเต๋าอย่างหยางเจี่ยนอยู่ด้านข้างร่วมทาง
มหาวิทยราชมยุรีไม่ลงมือ ต่อให้ทีปังกรพุทธะเผชิญกับหยางเจี่ยน ก็สูญเสียความมั่นใจ
ยิ่งอย่าว่าแต่ตอนนี้ผู้คนต่างทราบว่า เยี่ยนจ้าวเกออาจทำให้มหาเทวะเสมอฟ้าปรากฏขึ้นบนโลก
ถึงแม้จะบอกว่าที่นี่เป็นแดนสุขาวดีพุทธเกษตรของอามิตาภพุทธเจ้า วานรกับหยางเจี่ยนยากเหิมเกริม แต่ว่านักบวชศาสนาพุทธทั้งหลายล้วนทราบว่า อามิตาภพุทธเจ้าไม่มีทางเข้าร่วมเรื่องราวในวันนี้
เหล่าพุทธะที่บรรลุมรรคผลศาสนาพุทธแล้ว สัมผัสได้อย่างรางเลือนว่า ในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดด้านนอกแดนสุขาวดีตะวันตก มีพลังงานที่แฝงไว้ไม่เปิดเผยสายหนึ่ง ตั้งความแหลมคมแต่ไม่ปล่อยอก กระนั้นกลับชี้ที่แดนสุขาวดีตะวันตก
เหมือนกับกระบี่คมกริบเล่มหนึ่งที่ยังอยู่ในฝัก แต่ก็พร้อมจะอวดคมทุกเวลา
ขณะที่เหล่าพุทธแห่งแดนสุขาวดีจ้องมองพวกเยี่ยนจ้าวเกอ ด้านนอกก็มีคนจับจ้องที่นี่เช่นกัน
ค่ายกลลงทัณฑ์เซียน…
การดำรงอยู่นี้ได้เปลี่ยนสภาพการดำรงอยู่ของคนในสำนักเต๋าโดยสิ้นเชิง
คิดถึงการปรากฏขึ้นอีกครั้งของค่ายกลลงทัณฑ์เซียนเกี่ยวข้องกับเยี่ยนจ้าวเกออย่างแนบแน่น ผู้ยิ่งใหญ่ศาสนาพุทธอดรู้สึกซับซ้อนกว่าเดิมไม่ได้
เยี่ยนจ้าวเกอเวลานี้มองซ้ายมองขวา ถึงสัมผัสได้ว่ามีคนไม่น้อยกำลังจับตามองพวกเขา แต่ตลอดทาง ไม่เห็นพุทธะองค์อื่นเผยโฉมจริงๆ
ก่อนหน้านี้เขายังคิดว่าจะเจอยุทธวิชัยพุทธะหรือไม่
เทียบกับนักบวชศาสนาพุทธคนอื่นๆ แล้ว บุญกุศลพุทธะอาจารย์ผู้มีพระคุณของยุทธวิชัยพุทธะ มรณะลงเพราะร่างจริงของกายทองมหาเทวะที่เยี่ยนจ้าวเกอหาวิธีทำให้ปรากฏขึ้นมา
ทว่าจนถึงปัจจุบัน ยุทธวิชัยพุทธะไม่เคยปรากฏตัว
เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกอย่างเลือนรางว่า ตอนนี้ถ้าหากไม่เผยโฉม อีกเดี๋ยวหลังจากนาจากับทีปังกรพุทธะแบ่งผลแพ้ชนะ ยุทธวิชัยพุทธคงยิ่งไม่ปรากฏตัวแล้ว
ข้ามผ่านจักรวาลมากมาย พวกเยี่ยนจ้าวเกอกับนาจามาถึงแดนสุขาวดีพุทธเกษตรแห่หนึ่งภายใต้การนำของพระโพธิสัตว์กวนอิม
ณ ที่แห่งนี้มีเจดีย์มากมายตั้งสุมกัน ดอกบัวหลายดอกเบ่งบาน ต้นโพธิ์หลายต้นโยกกิ่ง ไฟตะเกียงหลายหย่อมสว่างนิรันดร์
แสงสว่างสาดส่อง ไม่มีราตรีมืดมิด มีเพียงแสงสว่าง
พวกเยี่ยนจ้าวเกออยู่ด้านใน เสียงมนตราบทสวดมนต์ดังขึ้นไม่ขาด จมูกได้กลิ่นไม้จันทร์ ทำให้คนจิตใจสงบ
ในแดนสุขาวดีตะวันตกตั้งไว้ด้วยวัดแห่งหนึ่ง ที่ประตูวัด พุทธะเก่าแก่องค์หนึ่งนั่งอยู่ตรงนั้น กำลังมองพวกเยี่ยนจ้าวเกอกับนาจาด้วยรอยยิ้ม
“ทุกคนเดินทางมาไกล ยินดีต้อนรับๆ” ทีปังกรพุทธะน้ำเสียงราบเรียบ เหมือนกับไม่ทราบแม้แต่น้อยว่า ก่อนหน้านี้นาจาด่าทอท่านอยู่ด้านนอกแดนสุขาวดีตะวันตกมาเกือบสองร้อยปีแล้ว
นาจานำหน้า จ้องมองทีปังกรพุทธะเขม็ง “ทีปังกร เรื่องระหว่างพวกเรา ทุกคนล้วนทราบแก่ใจดี ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องโกหกหลอกลวงเหล่านั้นแล้วกระมัง?”
เขากวาดมองรอบๆ กวาดผ่านใบหน้านักบวชศาสนาพุทธหลายองค์ข้างกายทีปังกรพุทธะ จำผู้ยิ่งใหญ่ศาสนาพุทธอย่างวัชรอภิณฑ์พุทธะได้
พวกวัชรอภิณฑ์พุทธะยืนนิ่งอยู่ด้านข้าง คารวะพวกเยี่ยนจ้าวเกอ หยางเจี่ยน นาจา และเยี่ยนตี๋อย่างเฉื่อยชา
“สิ่งที่ควรมาสุดท้ายต้องมา มิอาจรีบร้อน และไม่อาจช้า” ทีปังกรพุทธะยิ้มพลางมองนาจา “เชิญด้านนี้”
ท่านหมุนตัวเข้าสู่วัด นาจาไร้ความเกรงกลัว ติดตามอยู่ด้านหลังอีกฝ่าย เข้าไปด้านใน
พวกเยี่ยนจ้าวเกอติดตามด้านหลัง เข้าไปด้านในพร้อมกันอย่างสงบนิ่งเช่นกัน
รอหลังแขกเข้าไปแล้ว พระโพธิสัตว์กวนอิมกับวัชรอภิณฑ์พุทธะในฐานะสักขีพยานฝั่งทีปังกรพุทธะ และเป็นกึ่งเจ้าบ้าน ก็พากันเข้าไป
หลังเข้าวัด ตรงหน้าเยี่ยนจ้าวเกอก็เหลือเพียงแสงสว่างผืนหนึ่ง
แสงนี้ยากบรรยายสีสัน มีแต่ความสว่างและความบริสุทธิ์สุดขั้ว
อยู่ด้านใน สัมผัสความร้อนและอุณหภูมิไม่ได้ เพียงรู้สึกว่าตนเหมือนกับส่วนเกิน ถูกที่นี่กีดกัน
เยี่ยนจ้าวเกอโคจรวิชา แสงตรงหน้าค่อยๆ หายไป เหลือเพียงความกว้างใหญ่แรกเริ่ม ว่างเปล่าไร้สิ่งใด ไม่เห็นขอบเขต กลับมีความรู้สึกเหมือนการเปิดฟ้าดินช่วงต้นหลายส่วน
ในโลกเห็นเพียงตะเกียงใบหนึ่ง แสงไฟส่ายไหวเบาๆ
ทีปังกรพุทธะเข้าไปในไฟตะเกียงหย่อมนั้น จากนั้นนั่งขัดสมาธิ แสงพุทธกลมสมบูรณ์ด้านหลังศีรษะท่านสว่างไสวมากขึ้น ในแสงพุทธปรากฏภาพเงาของไฟตะเกียงหย่อมหนึ่ง ยิ่งมายิ่งชัดเจน
“นาจาโยมต้องการตัดเหตุผลกับอาตมา ย่อมไม่มีใดไม่ได้” ทีปังกรพุทธะยิ้ม “เพียงแต่โยมสมควรทราบแล้วว่า สภาพการณ์ในปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก มิได้มีกฎเกณฑ์เท่าก่อนมหาภัยพิบัติแล้ว พวกเราสองคนสู้กัน ถ้าหากว่ารุนแรงเกินไป ยากไม่กระตุ้นให้เกิดศึกใหญ่ระหว่างผู้สืบทอดสามพิสุทธิ์อย่างพวกโยมกับแดนสุขาวดีศาสนาพุทธของอาตมา ตอนนี้มีแต่จะถูกคนอื่นฉวยโอกาส”
“หากโยมไม่ถือสา เรื่องราวในตอนนั้น อาตมาชดเชยให้โยมได้ ละวางการประหัตประหารระหว่างเราสองฝ่าย โยมเห็นว่าอย่างไร?”
“เจ้าต้องชิงโอกาสขึ้นสู่ระดับมรรคากับอาจารย์อาเสวียนตู ยังมีลู่ยาเต้าจวิน ข้ากลับไม่ต้องแย่งชิงด้วย” นาจามองท่านเขม็ง กล่าวอย่างเย็นชา “ข้าไม่เห็นค่าการชดเชยของเจ้า สิ่งที่ข้าต้องการ มีแต่อาศัยหอกในมือถึงจะกระทำได้”
“หยุดกล่าววาจาไร้สาระ พวกเรามาตัดสินให้รู้ดำรู้แดง” นาจาพูดจบ ก็เหยียบกงล้ออัคคี ตั้งหอกไฟ ไม่รอพวกเยี่ยนจ้าวเกอ หยางเจี่ยน และพระโพธิสัตว์กวนอิมนั่งลง แทงหอกหนึ่งใส่ทีปังกรพุทธะ!
“ผ่านไปหลายปี ยังใจร้อนปานนี้” ทีปังกรพุทธะอดยิ้มพลางส่ายหน้าไม่ได้ ยื่นมือขึ้นมาชี้ศีรษะของนาจา
จากนั้นเห็นเจดีย์แสงสีเจิดจ้า ฝังเต็มด้วยสารีริกธาตุองค์หนึ่ง ตกใส่นาจา
ความกังวลก่อนหน้าของพวกเยี่ยนจ้าวเกอเป็นจริง
ถึงเจดีย์ทองเหลืองหลูอี้ของหลี่จิ้งราชาเจดีย์สวรรค์จะถูกทำลายไปแล้ว แต่ที่ศาสนาพุทธยังคงมีความสามารถที่เอาไว้ข่มกายเซียนบัววิเศษของนาจา!
………………..