ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1705 ผลแพ้ชนะยังไม่แบ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอจับปัทมาสน์อธิธรรมพุทธะ หรือก็คือจินจา กลับไม่ได้กำจัดอีกฝ่ายในทันที แต่มาถึงด้านหน้านาจา
นาจาสีหน้าซับซ้อนอยู่บ้างขณะมองปัทมาสน์อธิธรรมพุทธะ
ปัทมาสน์อธิธรรมพุทธะตอนนี้เพราะอาการบาดเจ็บ ไอติดต่อกันไม่หยุด แต่ว่าสีหน้าท่านกลับสงบลงหลายส่วน
“วันนี้ดูแล้วเป็นวันตัดเหตุผลระหว่างพวกเราจริงๆ ถึงแม้เป็นโยมกำจัดอาตมา มิใช่อาตมากำจัดโยม” ปัทมาสน์อธิธรรมพุทธะถอนใจยาว จากนั้นไม่มองนาจาอีก แต่หันมองเยี่ยนจ้าวเกออย่างยากลำบาก “เทวกษัตริย์น้อย สมคำร่ำลือ”
“น่าเสียดายหากรู้แต่แรกว่าโยมจะสร้างกระบี่เนรเทศเซียน คงไม่ยอมให้โยมเติบโตถึงขั้นนี้” พุทธะกล่าวเบาๆ “โชคดีที่มรรคาฟ้าเป็นนิรันรด์ ไม่มีทางเอนเอียง วิชากระบี่ของโยมนี้ไม่อาจฝึกได้ง่ายกระมัง? ถ้าหากว่าพัฒนาได้ ไม่ว่าจะกับแดนอภิรดีศูนย์กลางของอาตมา หรือมารร้ายโถงเซียน ต่างเป็นการคุกคามใหญ่หลวงสุดขีด”
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม “ต่อให้ไม่มีกระบี่เนรเทศเซียนของข้า พวกท่านจะเดินทางไกลได้อย่างไร?”
“ถูกต้อง พวกโยมผู้สืบทอดสามพิสุทธิ์ได้รับค่ายกลลงทัณฑ์เซียน มีโอกาสพักหายใจ ค่อยๆ ฟื้นฟูปราณกำเนิดขึ้นมาแล้ว” ปัทมาสน์อธิธรรมพุทธะพยักหน้า “หนำซ้ำระดับพลังฝึกปรือของโยมยังพุ่งทะยาน มิอาจกล่าวร่วมกับอดีตได้”
ท่านเงยหน้าถอนใจคำหนึ่ง “ตอนแรกปล่อยให้พวกโยมเพิ่มความวุ่นวายแก่มารร้ายโถงเซียน ก็เพื่อตามใจพวกโยม มาถึงวันนี้ในที่สุดตัดหางไม่ขาด เกิดผลพวงตามมา”
“รู้ว่าจะมีวันนี้ ตอนแรกถือโอกาสสะกดพวกโยมพร้อมกับมารร้ายโถงเซียน คงไม่ถึงกับมีวันนี้ แต่ว่าตอนนี้กล่าวเรื่องเหล่านี้ก็ไม่มีความหมายแล้วเช่นกัน”
ปัทมาสน์อธิธรรมพุทธะพูดพลางส่ายหน้าติดต่อกัน
“พอแล้วแล้วกระมัง” เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะ “วาจานี้เปลี่ยนเป็นพระศรีอริยเมตไตรยกล่าวไม่มีปัญหา ท่านกล่าวออกจะประเมิณตัวเองสูงส่งไป ไม่ว่าโถงเซียนหรือพวกท่าน ต่อหน้าแดนสุขาวดีตะวันตกกับเผ่าปีศาจล้วนอ่อนแอเกินไปแล้ว”
“วิธีการเก่าของเส้นทางนอกรีตพวกท่านไว้ปลอบระดับกลางถึงล่างยังพอว่า ผู้นำระดับเท่าท่าน ไหนเลยมองไม่เห็นข้อนี้?”
ปัทมาสน์อธิธรรมพุทธะได้ยินไม่มีโทสะ ยิ้มเล็กน้อย “แดนอภิรดีศูนย์กลางของอาตมาประสบเหตุเปลี่ยนแปลงในอดีต เดินมาถึงวันนี้ ย่อมมีวาสนา อ่อนแอกับไม่อ่อนแอ มิใช่ดูแค่วิธีต่อสู้เปรียบทักษะ ไม่อย่างนั้นพวกโยมผู้สืบทอดสามพิสุทธิ์ตอนแรกอ่อนแอถึงขีดสุด ไหนเลยเดินมาจนมีสภาพอย่างตอนนี้?”
ท่านหลับสองตา “ก็แค่จุดจบของอาตมาเป็นวันนี้แล้ว”
“จินจา เรื่องราวถึงวันนี้ วาจาอื่นไม่ต้องกล่าวแล้วจริงๆ” นาจายามนี้เอ่ยขึ้น “อย่างที่ท่านว่า วันนี้ในเมื่อท่านมาหาข้าเพื่อตัดเหตุผล เช่นนั้นขอสนองแก่ท่าน”
ว่าแล้ว นาจามองเยี่ยนจ้าวเกอ “สหายร่วมเส้นทาง โปรดมอบความตรงไปตรงมาแก่เขา อย่าได้หยามเหยียดเขา”
“ถึงครั้งนี้ปัทมาสน์อธิธรรมพุทธะมาตามหาท่านเป็นฉกฉวยวิกฤติคน แต่ข้ายินดีมอบศักดิ์ศรีสุดท้ายแก่เขา” เยี่ยนจ้าวเกอมองปัทมาสน์อธิธรรมพุทธะ พูดว่า “สหายร่วมเส้นทาง เชิญแล้ว”
ว่าแล้ว กลางฝ่ามือเขาก็มีแสงไฟสว่างขึ้น
“นะโมอามิตาพุทธ” ปัทมาสน์อธิธรรมพุทธะเปล่งเสียงสรรเสริญคุณ หลับตาลง แสงพุทธพลังศรัทธาบนร่างค่อยๆ สลาย ลมหายใจเงียบสงัด ดับสูญในเปลวเพลิงกลางฝ่ามือเยี่ยนจ้าวเกอ
เงาร่างพุทธะยิ่งมายิ่งเล็ก สุดท้ายก็หายไป
หลังจากเปลวเพลิงดับลง กลางฝ่ามือเยี่ยนจ้าวเกอก็เหลือเพียงสารีริกธาตุชิ้นหนึ่ง
เขามอบสารีริกธาตุให้นาจา นาจารับไว้ สายตาเปลี่ยนแปลง สุดท้ายถอนใจไร้เสียง
ตั้งแต่ยุคโบราณตอนต้น เป็นเพราะความเกี่ยวข้องกับหลี่จิ้ง ความสัมพันธ์ระหว่างเขา จินจา และมู่จา ไม่ได้ดีแต่อย่างใด ยากจะบอกว่ามีความเคารพนับถือระหว่างพี่น้อง
ภายหลังเพราะสาเหตุมากมาย ในที่สุดก็อยู่ร่วมกันไร้เรื่องราว
เวลาผ่านไปนานไปแล้ว การเกาะเกี่ยวบุญคุณความแค้นในตอนแรกค่อยๆ จืดจางลง
ตอนเกิดมหาภัยพิบัติ จินจาถึงจะเข้าสู่แดนสุขาวดีบัวขาวเส้นทางนอกรีต แต่ว่าตอนสำนักเต๋าประสบภัยมิได้สอดมือ
มู่จาติดตามพระโพธิสัตว์กวนอิมกับพระสมันตภัทรโพธิสัตว์พำนับอยู่ในแดนสุขาวดีตะวันตก ไม่ได้เข้าร่วมเรื่องมหาภัยพิบัติเช่นกัน
ดังนั้นนาจาเพียงเคียดแค้นหลี่จิ้ง รวมถึงทีปังกรพุทธะอย่างล้ำลึก กับจินจาและมู่จามิได้มีความเคียดแค้นมากเกินไป
น่าเสียดายถึงเวลา สุดท้ายก็ยังต้องตัดขาด
มู่จากับหลี่จิ้งผูกพันเป็นพ่อลูกมาโดยตลอด นาจาสังหารหลี่จิ้ง เขากับมู่จาไม่อาจอยู่ร่วมกัน
จินจาเดินคนละทางกับหลี่จิ้งและมู่จามาแต่แรก สองฝ่ายถึงขั้นเป็นคู่ต่อสู้ ทว่าระหว่างเขากับนาจา สุดท้ายก็ยังต้องสู้กันรอบหนึ่ง
ความซับซ้อนในความรู้สึกที่มีต่อกัน ยิ่งทำให้นาจาในใจไม่เป็นสรรพรส
เยี่ยนจ้าวเกอมาถึงด้านข้างนาจา มือหนึ่งทาบกลางหลังอีกฝ่าย
พิธีผสมฟ้าขับไล่มารทำงาน ครอบคลุมนาจา โคจรไม่หยุด ควันดำที่ลอยวนเวียน เริ่มยิ่งมายิ่งจาง
“พี่ร่วมเส้นทางสงบใจปรับปราณ อีกฝ่ายทำอะไรพวกเราไม่ได้” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย
“อืม” นาจาสงบใจ พยักหน้ารับคำ นั่งขัดสมาธิกลางอากาศ ต้านทานควาสามารถที่มารจิตแรกเริ่มใช้กับร่างของเขาด้วยการช่วยเหลือของเยี่ยนจ้าวเกอ
“แดนสุขาวดีตะวันตกกีดกันพวกเราออกมา สมควรไม่ใช่แค่จินจารอหาเรื่องข้าที่นี่” นาจาว่า “มารจิตแรกเริ่มคิดจะวางแผนเล่นงานข้า นพยมโลกสมควรมีคนซุ่มโจมตีถึงจะถูก”
นพยมโลกแลกเปลี่ยนกับแดนสุขาวดีตะวันตก เนื้อหาหนึ่งในนี้ คือนพยมโลกไปค้นหาธงเหลืองโบ่วกี้แทนแดนสุขาวดีตะวันตก
การแลกเปลี่ยนนี้เป็นนพยมโลกทำได้เป็นธรรมชาติ ข้อแรกพวกมันมีธงแดนเมฆสีม่วง ข้อสองพวกมันมีน้ำทะเลในทะเลเหวนพยมโลกไว้สะกดธงเหลืองโบ่วกี้ ดังนั้นจึงมอบของวิเศษนี้ให้แดนสุขาวดีตะวันตก เพื่อที่นพยมโลกจะได้สิ่งที่ต้องการ ไม่น่าแปลกใจ
แต่ว่าถ้าหากมีโอกาสให้กำเนิดไท่จือบัวมารหรือว่าเทพมารดอกบัวที่กำเนิดจากนาจาไท่จือที่สามแห่งดอกบัว เหมือนการให้กำเนิดวานรหกหูในตอนนั้น นพยมโลกย่อมยินดีเห็นมันสำเร็จ
ทางด้านนี้ นาจาไม่จำเป็นต้องดูถูกตัวเองเกินไป
เทพมมารที่พลังขีดความสามารถคล้ายกับเขา ความหมายเชิงกลยุทธ์ใช่ว่าจะแย่กว่าธงเหลืองโบ่วกี้ คู่ควรให้นพยมโลกแบ่งทัพเป็นสองทางเพื่อช่วงชิง
ถึงอยางไรด้วยขีดความสามารถของนาจา ในสภาพแวดล้อมของแดนสุขาวดีตะวันตก ต่างหักหาญกับทีปังกรพุทธะได้
นพยมโลกใช้ประโยชน์จิตมารของเขาให้กำเนิดจอมมารตนหนึ่ง ทั้งครอบครองความเหี้ยมโหดและคุณสมบัติฆ่าฟันเทียมฟ้าที่พัวพันเขาในตอนแรกได้
ความเหี้ยมโหดสำนึกฆ่าฟันในตอนแรกของนาจาหายากมาตั้งแต่ยุคโบราณ เข้ากันดีกับวิถีมาร ต่างฝ่ายต่างช่วยเหลือกัน ถึงเวลาจอมมารตนนั้นถึงขั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าตัวนาจาเอง
สืบเนื่องจากเยี่ยนจ้าวเกอและพิธีผสมฟ้าขับไล่มาร ทำให้การคิดคำนวณของมารนพยมโลกล้มเหลว
แต่ว่าต้นอีกฝ่ายส่งคนมาแย่งชิงโดยตรงไม่ได้
ดังนั้นเมื่อครู่ขณะปัทมาสน์อธิธรรมพุทธะมาบุก นาจายังกังวลว่า ใกล้ๆ จะมีผู้เข้มแข็งแห่งวิถีมารเข่นฆ่าออกมาฉับพลัน
“มีการรบกวนจากจอมมารจริงๆ” เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย “แต่ว่าภรรยาข้าเฝ้าอยู่ด้านนอกแดนสุขาวดีตะวันตกมาโดยตลอด พวกเราไม่ต้องเป็นห่วง”
การรับรู้ของเฟิงอวิ๋นเซิงต่อวิถีมารปราดเปรียวยิ่งกว่าคนอื่นๆ
วิถีมารนพยมโลกแยกทัพเป็นสองทาง ด้านหนึ่งต้องการตามหาธงเหลืองโบ่วกี้ ทางหนึ่งต้องการจับตาดูทางนี้ ยากทำลายแนวป้องกันของนาง
“ครั้งนี้ต้องขอบคุณเจ้ากับสหายร่วมเส้นทางเฟิงจริงๆ” นาจาหันไปมองแดนสุขาวดีตะวันตก “น่าเสียดายข้ามั่นใจยิ่ง กลับจัดการทีปังกรพุทธะไม่ได้”
“ไม่เป็นไร” เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม “ผลแพ้ชนะของการวางหมากครั้งนี้ยังไม่แบ่งแยก สมรภูมิที่แท้จริงอยู่ที่ธงเหลืองโบ่วกี้”
………………..