ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1706 ธงเหลืองโบ่วกี้
“ยังดีที่เจ้ากล่าวเตือน พวกเราเตรียมป้องกันเรื่องธงเหลืองโบ่วกี้มานานแล้ว ท่านอาจารย์กับอาจารย์ลุงหนานจี๋จับตาตลอดเวลา แดนสุขาวดีตะวันตกกับนพยมโลกเกิดว่าเคลื่อนไหว พวกเราจะตามทันได้ทันที” นาจากล่าว
ก่อนที่เขาจะไปรบกับทีปังกรพุทธะในแดนสุขาวดีตะวันตก เยี่ยนจ้าวเกอกับไท่อี้จินหยินมีการคาดเดาเกี่ยวกับด้านนี้แต่แรก
ทีปังกรพุทธะซึ่งที่แล้วมาหน้าหนาใจดำ รับคำท้าของนาจา เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกวว่านอกจากความตายของนักบวชไป๋ซยงแล้ว อาจยังมีปัจจัยอื่น
เยี่ยนจ้าวเกอนำตัวเองไปอยู่ในสภาพของทีปังกรพุทธะ ทั้งคิดชิงความได้เปรียบมากกว่าเดิม หรือว่าจัดเตรียมเรื่องราวอื่นๆ
ไม่อย่างนั้นการยอมรับคำท้าของนาจามีความเสี่ยงมาก ประโยชน์กลับน้อยนิด สองอย่างไม่อาจเทียบเคียงกัน ไม่คุ้มค่าจริงๆ
ทีปังกรพุทธะย่อมมีตัวเลือกมากมาย กระนั้นเยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกว่า ปัญหาที่ค่อนข้างเร่งด่วนสำหรับท่านยังเป็นการช่วงชิงสารีริกธาตุศากยมุณีล้มเหลว สารีริกธาตุตกไปอยู่ในมือเผ่าปีศาจ ศาสนาพุทธสายหลักยังมาเสียธงวิเศษบัวเขียวอีก มหาวิทยราชมยุรีอาจนำการคุกคามที่ยากจัดการมา
แดนสุขาวดีตตะวันตกจำเป็นต้องหยุดการสูญเสียเพราะการเสียประโยชน์ในครั้งนี้ แก้ไขแรงกดดันและความยุ่งยากที่อาจเกิดขึ้นตามมาเป็นการเร่งด่วน
ดังนั้นเยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกว่า ความเป็นไปได้ที่ทีปังกรพุทธะคิดถึงธงเหลืองโบ่วกี้อาจมีมากกว่า
หยางเจี่ยนต้องการเข้าไปในแดนสุขาวดีตะวันตกเป็นเพื่อนนาจา จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ทดลองค้นหาธงเหลืองโบ่วกี้มาโดยตลอด ดังนั้นเยี่ยนจ้าวเกอจึงเชิญไท่อี้จินหยินไปเตรียมตัวกับจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ ถึงขั้นติดต่อกับผู้ยิ่งใหญ่สำนักเต๋าคนอื่น ถ้าหากว่าธงเหลืองโบ่วกี้ปรากฏบนโลกจริงๆ ถึงเวลาสามารถสนับสนุนได้
เขาติดตามนาจาเข้าไปในแดนสุขาวดีตะวันตกอย่างผ่อนคลายพร้อมกับเยี่ยนตี๋และหยางเจี่ยน มีเฟิงอวิ๋นเซิงคอยประสานงานด้านนอก
เพียงแต่ตอนนั้นยังไม่แน่ใจว่า แดนสุขาวดีตะวันตกจะปฏิบัติการอย่างไรกันแน่ เป็นตนเองแบ่งทัพเงียบๆ หรือว่าขอการสนับสนุนจากภายนอก
คนในสำนักเต๋าวางแผนจัดการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเพทภัย
ก่อนหน้านี้ถูกโยนออกมาจากแดนสุขาวดีตะวันตก เยี่ยนจ้าวเกอก็ติดต่อเฟิงอวิ๋นเซิงในทันที
ใกล้ๆ นี้มีจอมมารเข้าออกอย่างที่คาดไว้ ถูกเฟิงอวิ๋นเซิงขัดขวางไม่เอ่ยถึง ยังประสบการสังหารเล่นงานจำนวนมาก โดนฟาดศีรษะรอบหนึ่ง
ขณะเดียวกัน เยี่ยนจ้าวเกอก็ได้ทราบจากเฟิงอวิ๋นเซิงว่า เป้าหมายที่แท้จริงของทีปังกรพุทธะ คือธงเหลืองโบ่วกี้จริงๆ
แดนสุขาวดีตะวันตกถึงดูเหมือนถูกสำนักเต๋าสายหลักดึงสมาธิ ยังต้องระวังเผ่าปีศาจ เป็นเหตุให้แบ่งกำลังไม่ได้
แต่สิ่งที่พวกเขาปฏิบัติกลับเป็นแผนการลอบตีเฉินชาง ปิดฟ้าข้ามทะเล ให้ยอดฝีมือวิถีมารมาช่วยนำธงเหลืองโบ่วกี้มาโดยที่เทพเจ้าไม่ทราบภูติผีไม่รู้ผ่านการแลกเปลี่ยน
ผลคือไท่อี้จินหยินเตรียมการไว้แต่แรกฉวยสภาวะเคลื่อนไหว ไม่ให้อีกฝ่ายคว้าเบี้ยตัวแรกได้
สองฝ่ายปัจจุบันเล็งเป้าหมายที่ธงเหลืองโบ่วกี้ ขยายการช่วงชิงอันรุนแรง
ตอนปรึกษากัน นาจาก็อยู่ใกล้ๆ ด้วย ตอนนี้ได้ยินเยี่ยนจ้าวเกอพูดถึง ก็พยักหน้าเอ่ยว่า “มิผิด ธงเหลืองโบ่วกี้จึงเป็นสิ่งที่ทีปังกรให้ความสำคัญที่สุดในการวางหมากตานี้ สำนักเต๋าของพวกเรานำธงเหลืองโบ่วกี้กลับมาจึงจะชนะสงครามนี้อย่างแท้จริง ถึงตอนนั้นเผ่าปีศาจใช้สารีริกธาตุศากยมุณีทำให้ข่งซวนลงมือ พวกเรามีธงเหลืองโบ่วกี้กับธงวิเศษบัวเขียวย่อมไม่กลัว กลับต้องดูว่าทีปังกรจะต้านอย่างไร”
ขณะที่เขาพูด ยังเสียดายอยู่บ้าง “แต่เสียดายที่ข้ากำจัดมันไม่ได้ การลงมือสุดท้ายของมารจิตแรกเริ่มอยู่เหนือความคาดหมายของข้าจริงๆ”
“ถึงก่อนหน้านี้จะเดาออกว่าทีปังกรพุทธะมีแผนการอื่น แต่ว่าคิดไม่ถึงจริงๆ ว่า ถึงกับมีมารจิตแรกเริ่มต้องการใช้ลูกไม้เก่าเหมือนวานรหกหูในตอนนั้น” เยี่ยนจาวเกอพยักหน้าเห็นด้วย
“แต่ว่าพี่ร่วมเส้นทางไม่ต้องถือสามากเกินไป” เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พี่ร่วมเส้นทางหยางเจี่ยนลงมือ ทีปังกรพุทธะไม่ถลกหนังออกชั้นหนึ่งอย่าได้คิดสบาย นี่จะต้องเป็นอามิตาภพุทธเจ้าดูแลเขาถึงจะทำได้”
นาจาได้ยิน สีหน้าไม่ยินยอมอยู่บ้าง แต่ก็ถอนใจชมเชยเล็กน้อย “ถ้าหากว่าสังหารตัวบัดซบนี่ได้ด้วยตัวเอง จึงระบายความแค้นได้อย่างแท้จริง”
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินดังนั้นก็หัวเราะ ถึงประสบเรื่องราวมากมาย แต่นิสัยของนาจากลับยังคงเหมือนเรื่องเล่าในอดีต
คนทั้งสองคุยกันอยู่ เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าสั่นไหว ใคร่ครวญขึ้นมา
“เป็นไร?” นาจาเห็นสถานการณ์ของเขา อดเอ่ยถามไม่ได้
เยี่ยนจ้าวเกอตอบ “เพิ่งได้รับข่าวว่า ไท่อี้จินหยินอาจารย์ท่านและใต้เท้าอายุวัฒนาหนานจี๋ ไม่ยอกหลีกทางแก่จอมมารนพยมโลก เวลาผ่านไปสักพักแล้ว ข่าวคราวกระจาย ทำพวกเผ่าปีศาจตื่นตัวแล้ว”
“ตอนนี้คนที่เกี่ยวข้องในการช่วงชิงธงเหลืองโบ่วกี้ยิ่งมายิ่งมาก สถานการณ์ยิ่งมายิ่งสับสนแล้ว”
นาจาแค่นเสียงคำหนึ่ง “อีกเดี๋ยวข้าก็สบายดีแล้ว สักพักข้าจะติดตามไป”
“ท่านยังต้องระวังให้มาก” เยี่ยนจ้าวเกอว่า “มารจิตแรกเริ่มต้องจับตาดูท่านอยู่แน่”
“วางใจ ครั้งนี้ข้ามีการป้องกันแล้ว มันไม่ได้โอกาสง่ายปานนั้น” นาจาต้องการทดลองดู ปรารถนาใคร่ตามหามารจิตแรกเริ่มเพื่อตัดสินสูงต่ำซึ่งหน้า
ด้วยการช่วยเหลือของเยี่ยนจ้าวเกอ ในที่สุดเขาก็ค่อยๆ ขับไล่ควันดำที่วนเวียนอยู่ทั่วร่างได้ กลับสู่สภาพปกติอีกครั้ง
สองคนร่วมทางกันทันที
นาจาไม่เป็นไรแล้ว กลับเพราะติดต่อกับเยี่ยนตี๋ไม่ได้มาโดยตลอด ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอเป็นห่วงอยู่บ้าง
เฟิงอวิ๋นเซิงไม่ได้รวมตัวกับพวกเยี่ยนจ้าวเกอเพราะเหตุนี้ นางทางหนึ่งรอคอยประสานงานกับหยางเจี่ยนอยู่ด้านนอกแดนสุขาวดีตะวันตก ทางหนึ่งค้นหาเยี่ยนตี๋ที่ก่อนหน้านี้ก็ถูกกีดกันออกมาจากในแดนสุขาวดีตะวันตกบริเวณใกล้เคียง
ขณะพวกเยี่ยนจ้าวเกอสองคนอยู่ระหว่างทาง นาจาหาวิธีติดต่อกับไท่อี้จินหยิน
ข่าวสารล่าสุดที่ได้มาเพิ่ม บอกว่าการช่วงชิงที่เกี่ยวกับธงเหลืองโบ่วกี้ในตอนนี้ยิ่งมายิ่งสับสน
ทีปังกรพุทธะถูกหยางเจี่ยนเล่นงานในแดนสุขาวดีตะวันตก นอกจากอามิตาภพุทธเจ้ากับมหาวิทยราชมยุรีแล้ว พุทธะบนแดนสุขาวดีองค์อื่นก็ช่วยท่านไม่ได้เช่นกัน
ดังนั้นเหล่าพุทธแห่งแดนสุขาวดีตะวันตก ในที่สุดก็เคลื่อนไหวอย่างเหิมเกรม รุดมาช่วงชิงธงเหลืองโบ่วกี้
กลับกันตอนนี้แผนการแท้จริงถูกเปิดเผยแล้ว ไม่จำเป็นต้องหลบๆ ซ่อนๆ อีก ลงมืออย่างตรงไปตรงมาสุดกำลัง เพิ่มโอกาสชนะฝั่งตัวเอง
เรื่องราวที่เดิมทีวางแผนในที่ลับ วันนี้กลายเป็นมหาศึกอีกครั้ง
“ธงเหลืองโบ่วกี้สูญหายไปนาน คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้เห็นเดือนเห็นตะวันจริงๆ” นาจาทางหนึ่งพูด ทางหนึ่งทอดถอนใจ “อาจารย์อาเจียงอยู่ๆ ข่าวสารก็หายไป สุดท้ายก็ตกตายไปแล้ว เพียงไม่ทราบว่าสุดท้ายโดนใครทำร้าย? อาจารย์อาเจียงถือธงเหลืองโบ่วกี้ ตามเหตุผล การปกป้องตัวเองสมควรไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย”
“หมื่นวัตถุในโลกเกิดและข่ม กลับเป็นเรื่องที่ยากบอกยิ่ง” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย “มีธงเหลืองโบ่วกี้อยู่ในมือ ในสถานการณ์ปกติปกป้องตัวเองได้ไร้ความกังวลอย่างแท้จริง แต่ผลลัพธ์คือไม่ทราบอยู่ที่ไหน วันนี้ค่อยพิสูจน์ว่าประสบเหตุไม่คาดฝัน อธิบายว่าตอนนั้นมีคนทำลายการป้องกันของธงเหลืองโบ่วกี้ ทว่ากลับไม่อาจรักษาคน ทำให้คนได้รับบาดเจ็บหลบหนี ภายหลังบาดเจ็บสาหัสไม่ได้รักษา นั่งมรณะไป”
นาจาขมวดคิ้ว “น้ำทะเลจากหุบเหวทะเลมารนพยมโลกทำให้ธงเหลืองโบ่วกี้แปดเปื้อนได้ แต่ว่าครั้งนี้พวกมันอาศัยเบาะแสที่เฒ่าทีปังกรมอบให้ค้นหา อธิบายว่าตอนแรกมิใช่พวกมันลงมือ แต่แม้แต่ข่งซวนยังทำลายธงเหลืองโบ่วกี้ไม่ได้ หากว่าเจ้ามรรคาผู้นั้นลงมือ อาจารย์อาเจียงไม่อาจหนีพ้นกระมัง? เช่นนั้นเป็นใครกระทำกันแน่?”
………………..