ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1708 เพียงต้องการต่อสู้
ได้ยินคำพูดของฉวีซู พุทธะองค์นั้นพลันถอนใจคำหนึ่ง “ข้ามาที่นี่เพราะคำสั่งของพระพุทธองค์ ขอให้ศิษย์พี่ไตร่ตรอง”
“พระพุทธองค์เมตา ข้ารอคอยวันนี้มาโดยตลอด คิดทั้งกลางวันกลางคืน ไม่เคยหยุดสักวินาที คิดจนถ่องแท้มาแต่แรกแล้ว” ฉวีซูตอบ “แค้นของอาจารย์ มิอาจไม่ชำระ”
กระบี่พุทธะอาจารย์ของเขา เมื่อราวๆ สี่ร้อยปีก่อน ได้มรณะภาพเพราะว่าคนในสำนักเต๋าเช่นพวกเยี่ยนจ้าวเกอไปค้นหากระบี่ลวงเซียนที่โลกน้ำพุหยก
ตอนนั้นฉวีซูอยู่ในเหตุการณ์ มองดูกระบี่พุทธะมรณะต่อหน้าเขากลับไม่อาจหยุดยั้ง
ภายหลังตอนพวกเยี่ยนจ้าวเกอค้นหากระบี่ลงทัณฑ์เซียน ฉวีซูเคยสู้กับพวกเขา ได้รับความพ่ายแพ้กลับไป
หลังจากนั้นมา ฉวีซูก็อยู่ในแดนสุขาวีดบัวขาวไม่ออกไปไหน ตั้งใจฝึกฝนอย่างเดียว ถึงขั้นที่แม้แต่สงครามเส้นทางนอกรีตระหว่างแดนสุขาวดีบัวขาวกับโถงเซียนก็เข้าร่วมน้อยลง
“ศิษย์พี่ไฉนจึงยึดติดเช่นนี้” พุทธะตรงหน้าถอนใจ
“น่าอายจริงๆ” ฉวีซูตอบอย่างราบเรียบ “ข้าอย่างไรก็เป็นศิษย์ของอาจารย์ข้า”
หนึ่งวาจาสองด่าน ทั้งบ่งบอกความเกี่ยวข้องระหว่างเขากับกระบี่พุทธะ ขณะเดียวกันก็ชี้ว่าศิษย์อาจารย์ดื้อรั้นเป็นปกติ
กระบี่พุทธะในอดีตลุ่มหลงในการเสาะหาและพัฒนามรรคากระบี่ของตัวเอง ใช้ทั้งชีวิตศึกษา สุดท้ายก็เข้าสู่ศาสนาพุทธเส้นทางนอกรีตเพราะสาเหตุนี้
โดยส่วนใหญ่ฉวีซูสงบนิ่งเรียบเฉย ทว่าในเรื่องบางเรื่อง กับยึดติดไม่ต่างกับกระบี่พุทธะ
เส้นทางที่ศิษย์อาจารย์เดิน ขัดกับพระธรรม มีอารมณ์โลภโกรธหลงเป็นปกติ
ถ้าเส้นทางพวกท่านมีผลสำเร็จ สำหรับศาสนาพุทธ ต่อให้เป็นเส้นทางนอกรีต เรียกว่าเป็นสิ่งแปลกประหลาดได้เช่นกัน
แต่ว่าบางทีอาจเป็นเพราะแบบนี้ จึงมีการถือกำเนิดและการพัฒนามรรคากระบี่แขนงนี้ของพวกเขา
ความละเอียดอ่อนด้านใน ทำให้ผู้คนถอนใจชำเชย คว้าจับไม่ได้
“ศิษย์พี่ต้องการแก้แค้นให้แก่อาจารย์ท่าน แต่ว่าผู้สืบทอดสามพิสุทธิ์คนนั้นมิอาจเทียบเคียงกับอดีตได้แล้ว เกรงว่าท่านยากจะเห็นหน้าคู่แค้น หากอีกฝ่ายหลบซ่อนจะทำอย่างไร?” พุทธะองค์นั้นเกลี้ยกล่อม “ไม่เอ่ยถึงหยางเจี่ยน สั่วหมิงจาง เฟิงอวิ๋นเซิง ในผู้สืบทอดสามพิสุทธิ์ปัจจุบัยังมีนาจามหาเทพสมุทรตรีภพในอดีต อาจขวางการแก้แค้นของศิษย์พี่ท่านเช่นกัน”
ท่านเพียงบอกว่าสำนักเต๋ามียอดฝีมือมากมาย ต่างอาจขัดขวางการแก้แค้นพวกเยี่ยนจ้าวเกอของฉวีซู ถึงขั้นที่ไม่พูดถึงว่าเยี่ยนจ้าวเกอครอบครองกายทองมหาเทวะ ยิ่งอาจทำให้มหาเทวะเสมอฟ้าร่างจริงปรากฏตัว
ต่อให้ท่านไม่พูดถึง เชื่อว่าฉวีซูก็ย่อมทราบ
ที่ไม่พูดออกมา ส่วนใหญ่กลัวว่าฉวีซูจะรับไม่ได้
ทว่าคนหนุ่มห่มจีวรที่ไว้ผมตรงหน้าเหมือนกับไม่หวั่นไหว
พุทธะองค์นั้นเว้นเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวต่อ “นาจาไปหาทีปังกรพุทธะที่แดนสุขาวดีตะวันตกเพื่อทวงแค้นท้ารบ ปัทมาสน์อธิธรรมพุทธะก็ไปทางนั้นด้วย คอยโอกาสเคลื่อนไหว หมายค้นหาโอกาสตัดเหตุผลกับนาจานั่น ทว่า…เฮ่อ!”
ได้ยินเสียงถอนใจนี้ ฉวีซูก็ทราบว่า ผลลัพธ์สมควรเป็นปัทมาสน์อธิธรรมพุทธะมรณะแล้ว
“เหตุผลเช่นนี้ ชะตาชีวิตเช่นนี้ ศิษย์พี่จินจาเป็นเช่นนี้ ข้าก็เป็นเช่นนี้” ฉวีซูกล่าวอย่างเฉื่อยชา “ไม่ว่าเป็นพวกเยี่ยนจ้าวเกอ หรือคนอื่นๆ ซึ่งเป็นผู้สืบทอดสามพิสุทธิ์ ถ้าข้าตายด้วยมือพวกเขา ก็เป็นชะตาชีวิตดลบันดาล”
พุทธะด้านหน้าโน้มน้าว “ต่อให้ศิษย์พี่ยึดมั่นเช่นนี้ ต้องการทำลายอุปสรรคนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนขนาดนี้ อดทนวางแผนไปก่อน พระพุทธองค์ย่อมมีการจัดการ ต้องมีโอกาสแน่”
“ไม่มีความจำเป็นต้องรอต่อไปแล้ว” ฉวีซูพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าสัมผัสได้ว่า หลังจากออกฌานสำเร็จสมบูรณ์ในวันนี้ ข้าบรรลุถึงระดับมหาชาลแล้ว ภายหลัง ต่อให้รอนานกว่านี้ ข้าก็ไม่มีทางแข็งแกร่งกว่าตอนนี้”
“สำหรับข้าในปัจจุบัน ระดับมรรคาไม่มีหวัง มิอาจตัดขาดเหตุผลของอาจารย์ได้ เวลายิ่งนาน ข้ากลับจะค่อยๆ ถอยหลัง”
เขาหยิบกระบี่ยาวซึ่งแขวนไว้ที่เอว ชักคมกระบี่ออกจากฝัก มองดูประกายกระบี่ดุจสายน้ำ กล่าวเบาๆ “ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด”
ฉวีซูหันไปมองพุทธะองค์นั้น กล่าวด้วยรอยยิ้ม “พระพุทธองค์มีอิทธิฤทธิ์ไพศาล ย่อมทราบสถานการณ์ในปัจจุบันของข้า”
ไม่จำเป็นต้องดูถูกตัวเอง ฉวีซูมีความสำคัญถึงขีดสุดสำหรับแดนสุขาวดีบัวขาวในตอนนี้
เป็นเพราะว่าไม่ว่าจะยึดถืออย่างไร ตำแหน่งของเขาก็ไม่อาจนับเป็นบุคคลหมายเลขสองรองจากพระศรีอริยเมตไตรย
กระนั้นถ้าหากว่าพูดถึงความสามารถส่วนบุคคล เขาเป็นอันดับหนึ่งในหมู่พุทธะแห่งแดนสุขาวดีบัวขาว และตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดรองจากรพะศรีอริยเมตไตรย
หลายปีมานี้แดนสุขาวดีบัวขาวมีสภาวะยิ่งใหญ่ สะกดโถงเซียน วันเวลาของโถงเซียนไม่ได้ดีเท่าใด แต่ยังรับมือได้
เทียบกับเหตุผลส่วนหนึ่งแล้ว เป็นเพราะว่าฉวีซูเข้าร่วมสงครามน้อยยิ่ง ไม่อย่างนั้นความยุ่งยากของโถงเซียนจะต้องเพิ่มขึ้น
การไปในครั้งนี้ของฉวีซู ถ้าหากว่าตายด้วยมือสำนักเต๋า สำหรับแดนสุขาวดีบัวขาวย่อมเป็นความสูญเสียขนาดมโหฬาร
ทว่าพระศรีอริยเมตไตรยก็ทราบเช่นกันว่า หากสะกดฉวีซูไม่ให้เขาไป กระบี่พุทธะเล่มนี้ย่อมเสียหาย ยิ่งมายิ่งอ่อนแอ เทียบได้กับสิ้นเปลือง
ดังนั้นทั้งๆ ที่ทราบว่าฉวีซูไปในครั้งนี้ไม่แน่ว่าจะรับมือได้ แต่พระศรีอริยเมตไตรยยังคงรักษาความเงียบงัน ปล่อยให้เกิดขึ้น
“เรื่องราวบนโลกไม่จีรัง บางทีพวกคู่แค้นของข้าวันพรุ่งนี้อาจตายด้วยน้ำมือคนอื่นๆ บางทีการฝืนต่อลมหายใจ อยู่ไปวันๆ ในที่สุดอาจมีวันหนึ่งที่เห็นความตายของพวกเขาได้ ถึงขั้นมีโอกาสถมหินลงบ่อ” ฉวีซูเอ่ยอย่างแช่มช้า “หรือบางที เป็นพวกเขามีสักวันที่ลากข้าซึ่งอ่อนแอเหลือเกินจากซอกมุมที่หลบซ่อน”
พุทธะองค์นั้นได้ยิน คิดพูดอะไรอีก แต่ริมฝีปากสั่นไหว สุดท้ายไม่ได้ส่งเสียง
“นั่นล้วนมิใช่สิ่งที่ข้าต้องการ” ฉวีซูยิ้ม “ข้าแก้แค้นให้แก่อาจารย์ อาจตายด้วยน้ำมือผู้สืบทอดสามพิสุทธิ์คนอื่น ตายด้วยน้ำมือคู่แค้น ไม่ว่าเป็นผลลัพธ์ไหนล้วนได้ทั้งสิ้น”
“ตอนนี้เป็นเวลาที่ข้าแข็งแกร่งที่สุด การใช้พลังทั้งหมด ตัดขาดทุกอย่างนี้ด้วยตัวเองจึงเป็นสิ่งที่ข้าต้องการ”
พูดจบ เขาก็ผลักมือ กระบี่ยาวกลับคืนในฝักอีกครั้ง จากนั้นก็พยักหน้าให้คนร่วมเส้นทางตรงหน้า ยืนบนบัวขาว ค่อยๆ ลอยขึ้นไปด้านนอก
พุทธะองค์นั้นมองฉวีซูด้วยสายตาซับซ้อน หลังจากเงียบงันเล็กน้อย ก็เอ่ยว่า “ผู้ที่ทำให้ปัทมาสน์อธิธรรมพุทธะมรณะ มิใช่นาจา หากเป็นเยี่ยนจ้าวเกอนั่น”
เยี่ยนจ้าวเกอสังหารปัทมาสน์อธิธรรมพุทธะ ไม่ได้ขัดขวางไม่ให้แสงพุทธพลังศรัทธาย้อนกลับสู่แดนสุขาวดีบัวขาว
สำหรับเขาในตอนนี้ ไม่มีความจำเป็นต้องปิดบังการสังหารคนในเส้นทางนอกรีตอีกแล้ว
เป็นเพราะค่ายกลลงทัณฑ์เซียน ต่อให้เส้นทางนอกรีตส่งยอดฝีมือที่แข็งแกร่งกว่าลงมาแก้แค้นอย่างรวดเร็ว อย่างมากสุดเป็นระดับมหาชาล ไม่อาจเป็นเทวกษัตริย์ไร้ประมาณหรือพระศรีอาริย์ลงมือด้วยตัวเอง
ดังนั้นแดนสุขาวดีบัวขาวจึงทราบว่าเป็นใครลงมือ
“เยี่ยนจ้าวเกอหรือ?” ฉวีซูตาเป็นประกายเล็กน้อย “เขาอยู่ใกล้ๆ พุทธเกษตรตะวันตกนอกรีตหรือ?”
“ตอนนี้ไม่ทราบว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่ว่าธงเหลืองโบ่วกี้อาจปรากฏขึ้นมา เขาสมควรไปตามหาของวิเศษนี้กับผู้สืบทอดสามพิสุทธิ์คนอื่น” พุทธะองค์นั้นว่า “ศิษย์พี่ท่านสะดวกลองไปดู”
“ที่นั่นตอนนี้มียอดฝีมือรวมตัวมากมาย ทว่าสถานการณ์สับสน ขุมกำลังแต่ละกลุ่มเป็นสุนัขเอาฟันเกี่ยวกัน พัวพันกันไม่เลิกรา กลับส่งผลดีต่อการตามหาเยี่ยนจ้าวเกอนั่นเพื่อชำระแค้นของท่าน ดีกว่าไปทะลวงป้อมปราการหลายชั้นที่ครอบคลุมกันและกันของผู้สืบทอดสามพิสุทธิ์จำนวนมาก”
ฉวีซูขอบคุณท่าน นั่งขัดสมาธิลงบนบัวขาว ให้บัวขาวรองรับ ลอยออกจากพุทธเกษตรแห่งนี้ บินออกจากแดนสุขาวดีบัวขาว
………………..