ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1715 ของปลอมสุดท้ายก็เป็นได้แค่ของปลอม
สวมอาภรณ์ขาว คลุมเสื้อคลุมสีน้ำเงินด้านนอก ขอบเสื้อคลุมขลิบขอบดำ ผมถึงแม้ว่าหวีมัดไว้ ตัดแต่งเรียบร้อย แต่ก็ยังสั้นกว่าคนทั่วไปไม่น้อย
องคาพยพหล่อเหลา ท่วงท่าสง่างาม มุมปากแฝงรอยยิ้มที่เหมือนมีเหมือนไม่มีหลายส่วน
“ธงวิเศษบัวเขียวเมื่อครู่จะมากจะน้อยสมควรแปดเปื้อนน้ำจากหุบเหวทะเลมารนพยมโลกแล้ว ก่อนจะชำระล้างอีกครั้ง น่าจะใช้ไม่ได้กระมัง?” อีกฝ่ายเอ่ย แม้แต่เสียงก็ยังเหมือนตัวเยี่ยนจ้าวเกอไม่ผิดเพี้ยน
เยี่ยนจ้าวเกอตอนนี้มองคนตรงหน้าตัวเอง เหมือนกำลังส่องกระจก
“เปลี่ยนเงาเป็นจริง” เขาอดหัวเราะฮ่าๆ ไม่ได้ “เผชิญกับเซียนกำเนิดสุญญตาคนเดียวเช่นข้า ระดับมหาชาลยิ่งใหญ่อย่างท่าน ไม่มีความจำเป็นต้องทำเช่นนี้กระมัง?”
‘เยี่ยนจ้าวเกอ’ ที่อยู่ตรงข้ามเอ่ยด้วยรอยยิ้มเช่นกัน “วาจาของเทวกษัตริย์น้อยยังพูดกับอินทรเกตุธวัชราชาพุทธะและนันทิเกศวรติ้งกวงเถอะ ข้าไม่มีทางปฏิบัติต่อท่านเหมือนเซียนกำเนิดสุญญตาทั่วไป”
“นั่นน่าเสียดายไปแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอยักไหล่อย่างไม่นำพา “ข้าความจริงสนใจยิ่งว่าท่านนอกจากเปลี่ยนเงาเป็นจริงแล้ว ยังมีความสามารถอื่นอีกหรือไม่? ถึงอย่างไรก็ไม่เคยเห็นท่านใช้มาก่อน”
“เทวกษัตริย์น้อยมาเป็นพวกเดียวกันกับนพยมโลก เรื่องราวมากมายย่อมทราบแล้ว” มารเงาตอบด้วยรอยยิ้ม
“นั่นยุ่งยากไปแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งพูด ทางหนึ่งยกเท้าก้าวเดินในความว่างเปล่า เหยียบย่างเข้าหามารเงา “ข้าชินกับการใช้วิธีนี้สอบถามคนมากกว่า”
ระหว่างขึ้นหน้า ฝ่ามือข้างหนึ่งของเขาชูสูงพร้อมกับการสืบเท้า จากนั้นก็ฟาดใส่ศีรษะมารเงาที่รูปร่างเหมือนตัวเอง
ฝ่ามือหนึ่งของเยี่ยนจ้าวเกอร่วงลง ฝ่ามือปรากฏลำแสงสองสายผสมกันไม่หยุด
สองสิ่งผสมกัน บรรยายหลักการล้ำเลิศของการเปิดฟ้าดิน แบ่งหยินหยาง
ระหว่างหนึ่งกระบวนท่า เหมือนกับแฝงหลักการของสามวรยุทธ์ใหญ่อย่างคัมภีร์นภาหยินหยางสายหยกพิสุทธิ์ ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดสายเอกพิสุทธิ์ ยังมีคัมภีร์ยุคชื่อหมิงสายเหนือพิสุทธิ์ จากนั้นก็หลอมรวมเข้าไปในรอยตราพลิกฟ้า
เพียงแต่ว่ากระแสปราณสองสายนั้น มิใช่ขาวดำ และมิใช่ขาวชาด แต่เป็นกระแสปราณหนึ่งสายมืดๆ มัวๆ ทำให้กระแสปราณสายหนึ่งสว่างไสว
วรยุทธที่ไม่เคยมีมาก่อนจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอใช้ออกมา ทำให้มารเงาที่ประสบการณ์มากมายอุทานชมเชยในที่ลับ
‘ฝึกสามพิสุทธิ์ร่วมกันช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ!’ จอมมารตนนี้กล่าวในใจ ‘หนำซ้ำยังไม่เพียงแต่มีพรสวรรค์ล้ำเลิศ ลงมือมั่นคงอำมหิต มิได้วู่วามผิดกับภายนอก’
เยี่ยนจ้าวเกอแม้ว่าจะออกการโจมตีด้วยตัวเอง แต่ว่าวิชาฝ่ามือท่าใหม่นี้ ขณะที่เกรี้ยวกราดยิ่งใหญ่ ยังแฝงความแยบคาย และการเปลี่ยนแปลงไร้สิ้นสุด
เหมือนกับวาดภาพบนกระดาษ สาดน้ำหมึกอย่างองอาจ แต่ว่าบนกระดาษล้วนเป็นสีขาว ขณะทำให้คนต้องขบคิด ก็มอบพื้นที่ที่เหลือให้ตัวเองเปลี่ยนแปลงต่อ
‘ถึงต่างกล่าวกันว่าสามพิสุทธิ์รวมเป็นหนึ่ง แต่หลักการวรยุทธพัฒนามาถึงวันนี้ มีความแตกต่างใหญ่หลวงยิ่ง แม้ฝึกสามพิสุทธิ์ร่วมกัน หลอมรวมได้อย่างทะลุปรุงโปร่ง ทั้งเก็บงำทั้งสั่งสม นั่นเป็นเรื่องราวยากขนาดไหน?’ มารเงามองฝ่ามือนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ พริบตาหนึ่งความคิดแวบขึ้นในห้วงสมอง ‘ยิ่งอย่าว่าแต่เหมือนอย่างนี้ ถึงกับหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่’
‘ยอด ยอดเยี่ยมจริงๆ! ทว่า…’
มารเงาแม้ถอนใจชมเชย แต่สภาวะโจมตีของเยี่ยนจ้าวเกอมาถึงศีรษะ มือไม่ช้าลงแม้แต่น้อย
มันไม่มีการเคลื่อนไหวเกินเลย ลงมือตามเยี่ยนจ้าวเกอ เหมือนกับกระจก เลียนแบบน้ำเต้า ฝ่ามือโจมตีออก
‘…ทว่าถึงแม้ยากจะเข้าใจว่าท่านทำได้อย่างไร แต่ในสายตาข้า กลับเป็นข้ามีวัตถุร่วมกันกับท่าน’
ชั่วขณะนั้น เห็นกลางฝ่ามือมารเงาถึงกับปรากฏภาพที่เหมือนหยินหยางขั้วกำเนิดผสมผสาน สองปราณหนึ่งสว่างหนึ่งมืดหมุนเวียนหลอมรวม
สภาวะที่เหมือนกับเยี่ยนจ้าวเกอ ปะทะกับฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอโดยตรง
ท่าฝ่ามือสองกระบวนท่าที่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง วินาทีนี้ปะทะกันกลางความว่างเปล่า
สภาวะที่ยิ่งใหญ่น่ากลัว แค่คลื่นหลงเหลือก็คล้ายบีบอัดความว่างเปล่าที่นี่ให้กลายเป็นหยินหยางสองลักษณ์แรกเริ่มได้ ทุกอย่างต่างถูกบดขยี้เป็นผุยผง ไม่ดำรงอยู่อีก
มารเงาเพ่งสมาธิทั้งหมด สิ่งที่สนใจความจริงมิใช่ฝ่ามือนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ
ในมือมันซ่อนของวิเศษแห่งวิถีมารชิ้นหนึ่ง เอาไว้ป้องกันอาวุธเซียนมหาชาลอย่างลูกตุ้มโกลาหล และกลองไต่สวรรค์ของเยี่ยนจ้าวเกอตลอดเวลา
ถึงอย่างไรนอกจากของวิเศษติดตัวที่มีความพิเศษไม่กี่ชิ้นของนาจา มันก็ยากจะทำซ้ำสิ่งของของคนอื่น
ทว่าในตอนที่สองฝ่ามือของสองฝ่ายปะทะกันจริงๆ ใบหน้าของมารเงาพลันเปลี่ยนแปลง
เยี่ยนจ้าวเกอครอบครองเฉียนคุน[1]สองลักษณ์ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
แต่ว่าใต้ฝ่ามือของเขากลับบังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน
หยินหยางสองปราณหนึ่งสว่างหนึ่งมืดที่วนเวียนในตอนแรก ขณะสั่นไหวก็เปลี่ยนแปลงรูปร่าง แบ่งออกเป็นกระแสปราณหกสายที่เล็กละเอียดกว่าเดิม
สองดำสองขาว แยกกันเป็นตัวแทนคัมภีร์นภาหยินหยางแห่งหยกพิสุทธิ์ กับฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดแห่งเอกพิสุทธิ์ หนึ่งแดงหนึ่งขาวเป็นตัวแทนคัมภีร์ยุคซื่อหมิงแห่งเหนือพิสุทธิ์
วิชาฝ่ามือที่เดิมเหมือนกับเยี่ยนจ้าวเกอไม่ผิดเพี้ยน กลับคืนและแบ่งแยกเป็นวรยุทธสำนักเต๋าสามชนิดที่หลักการคล้ายกันแต่ไม่อยู่ร่วมกันในทันใด
อย่าว่าแต่ภาพใหม่ที่หลอมรวมเป็นหนึ่ง มีลีลาเฉพาะตน แม้แต่การเชื่อมต่อหลอมรวมกันล้วนเปลี่ยนเป็นแหลกสลาย
สิ่งที่ทำให้มารเงาหวาดกลัวยิ่งกว่าก็คือ วรยุทธสำนักเต๋าสามชนิดหลังจากคืนสภาพและแยกตัว ถึงกับหายไปอย่างรวดเร็ว
สภาพหยินหยางสามชั้นผสมผสานไม่ทันไรก็สลายหาย อึดใจเดียวเหมือนกับนำเดือดราดหิมะ ปลาสนาการไม่เห็นอีก
ชั่วขณะนั้นมารเงาไม่รู้สึกถึงการประสานเสียงและการสั่นสั่นสะเทือนของหลักการแห่งฟ้าดิน มีแต่ความว่างเปล่า
มันเหมือนกับแค่เลียนแบบการเคลื่อนไหวของเยี่ยนจ้าวเกอ ยกมือขึ้นแล้วฟาดฝ่ามือ
ทว่าฝ่ามือนี้เป็นแค่ท่วงท่าและเปลือกกลวงที่มีแต่ผิว
แค่ลมเป่าก็สั่นแล้ว
ทว่าสิ่งที่มันเผชิญในวินาทีนี้กลับมิใช่ลมอ่อนโชยพัดหน้า แต่เป็นฝ่ามือสะท้านฟ้าของเยี่ยนจ้าวเกอ!
หนึ่งกระบวนท่าแยกแยะผิดพลาด มารเงากลับไม่หลบไม่หลีก ไม่ป้องกัน รับกระบวนท่านี้เปล่าๆ
ของวิเศษวิถีมารที่ตอนแรกมันคิดใช้สะกดอาวุธเซียนมหาชาลในมือเยี่ยนจ้าวเกอ เวลานี้ถูกกดดันให้ใช้ป้องกันตัว
ทว่าบนศีรษะเยี่ยนจ้าวเกอแว่วเสียงกลองของกลองไต่สวรรค์ ฉุดรั้งของวิเศษของมารเงา ทำให้ฝ่ามือนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอฟาดใส่เต็มๆ!
“ของปลอมสุดท้ายก็เป็นของปลอม” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยรอยยิ้มบางๆ
มารเงาครางหนักๆ คำหนึ่ง ถูกฟาดกระเด็นออกไปด้านหลัง!
รูปร่างลักษณะพิเศษที่มันเลียนแบบเยี่ยนจ้าวเกอหายไปอย่างรวดเร็ว กลับเป็นเงาดำมืดสลัวอีกครั้ง ถึงกับถูกเยี่ยนจ้าวเกอใช้หนึ่งฝ่ามือฟาดกลับร่างเดิม!
แม้มันจะขึ้นสู่มหาชาล สุญญตายากทำร้าย วินาทีนี้ก็ยังเห็นดาว
ก่อนหน้านี้มันเลียนแบบเยี่ยนจ้าวเกอในระดับสุญญตา ในระดับหนึ่งแล้ว เท่ากับลดความพิเศษส่วนหนึ่งของตัวเองถึงระดับสุญญตา
ถ้าหากว่ามันเลียนแบบพลังต่อสู้ของเยี่ยนจ้าวเกอโดยสมบูรณ์ยังพอว่า ไม่ถึงกับเสียท่าในการปะทะตรงๆ กับผู้เข้มแข็งมหาชาลส่วนใหญ่
ทว่าเมื่อครู่เยี่ยนจ้าวเกอฟาดฝ่ามือหนึ่งมา ไม่เพียงทำให้สภาวะโจมตีของมารเงาพังทลาย ยังทำให้การป้องกันของมันเปลี่ยนเป็นเหมือนกระดาษกาว ฟาดระเบิดในฝ่ามืดเดียว!
มารเงาไม่เปลี่ยนเงาเป็นจริงแปลงเป็นเยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่แน่ว่าจะทุลักทุเลเช่นนี้ การเปลี่ยนแปลงเมื่อครู่เล่นงานตัวมันสาหัส
มารเงาโซซัดโซเซ ร่างถอยหลัง เยี่ยนจ้าวเกอไม่ผ่อนคลายแม้แต่น้อย หลังจากหนึ่งฝ่ามือก็เป็นอีกหนึ่งฝ่ามือ ฟาดใส่ศีรษะมารเงา
มารเงาเพ่งตามองไป เห็นภาพธรรมชาติผนึกรวมทั่งร่างเยี่ยนจ้าวเกอ รวมเป็นฐานของโลก ฝ่ามือที่ชูสูงแสดงสภาวะเปิดผ่าความขมุกขมัว สร้างฟ้าดิน บรรยายหลักการวิเศษแห่งโกลาหลเปิดกำเนิด
สามคัมภีร์ก่อนกำเนิดแรกเริ่มและหกคัมภีร์หลังกำเนิดวินาทีนี้ประสานกันอย่างสมบูรณ์แบบ ถึงกับมีจิตของการรวมเป็นหนึ่งกับธรรมชาติ สรรพวิชากลับคืนสู่จุดมุ่งหมาย
………………..
[1] เฉียนคุน เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงฟ้าและดิน