ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1716 ไล่ทุบ!
การแสดงออกในตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอเข้าร่วมการช่วงชิงธงเหลืองโบ่วกี้ ทำให้มารเงาไม่ห่วงว่าจะมีมหาเทวะเสมอฟ้าโผล่มา
มารเงาสำนึกตัว ละวางมาดของตัวเองจนต่ำที่สุด และให้ความสำคัญกับเยี่ยนจ้าวเกอเท่าที่จะทำได้
มันวางแผน อาศัยเปลี่ยนเงาเป็นจริงแปลงเป็นเยี่ยนจ้าวเกอ จากนั้นอาศัยพลังที่แทบเหมือนกัน ทำศึกผลาญพลังกับอีกฝ่าย
สิ่งที่ผลาญทิ้งมิใช่ความอดทน แต่ดูว่าใครจะสู้ได้อึดกว่า!
ถึงมันจะเลียนแบบเยี่ยนจ้าวเกอในระดับสุญญตา ลดคุณสมบัติพิเศษจำนวนมากของตัวเองสู่ระดับสุญญตา แต่อย่างไรยังคงมีฐานร่างมหาชาลไม่เสื่อมสลายหลุดพ้นซึ่งทุกสิ่ง
หากใช้บาดเจ็บแลกบาดเจ็บ ปะทะกันไม่หยุดต่อไป ไม่อาจมีเซียนกำเนิดสุญญตาที่บดขยี้มันถึงที่สุดได้
เยี่ยนจ้าวเกอมีพลังน่าทึ่ง การป้องกันแข็งแกร่ง ถึงขั้นที่ยอดฝีมือชั้นมหาชาลจำนวนมากทำอะไรเขาไม่ได้
แต่การโจมตีของตัวเองเองเล่า?
มารเงาวางแผนใชการโจมตีคืนสนอง เพื่อล้มเยี่ยนจ้าวเกอ
มันไม่หวังจู่โจมสังหารเยี่ยนจ้าวเกอ เพียงหวังว่าจะจบการต่อสู้ได้ในระยะเวลาที่สั้นยิ่ง ช่วงชิงธงวิเศษบัวเขียวที่แปดเปื้อนน้ำทะเลหุบเหวทะเลมารนพยมโลกในมือเยี่ยนจ้าวเกอ
ถ้าหากมีผลประโยชน์มากกว่านั้น นับว่าเป็นความยินดีเหนือความคาดหมาย
กล่าวจากอีกมุมหนึ่ง ต่อให้ไม่สำเร็จ มารเงาสำนึกตัวว่าสามารถถอยได้อย่างปลอดภัย
เยี่ยนจ้าวเกอแม้มีพลังน่าทึ่งมากกว่านี้ สามารถเอาชนะเทพมารผู้โชกโชน หนึ่งในมารโบราณไม่กี่ตนแรกสุดของฟ้าดินตนนี้ แต่เขาจะชนะตัวเขาเองได้ง่ายดายปานนั้นหรือ?
ทว่าหลังจากได้สู้กันจริงๆ มารเงาจึงได้พบว่า ตนเองผิดพลาดอย่างเหลือเชื่อ
ตอนนี้ขณะมองร่างของเยี่ยนจ้าวเกอ มองดูภาพสามคัมภีร์ก่อนกำเนิดกับหกคัมภีร์หลังกำเนิดแรกเริ่มรวมกันเป็นหนึ่งอย่างรางเลือน วิชาเต๋ากลับสู่กำเนิดคืนเป็นหนึ่ง ร่างกายที่เหมือนกับเงาสลัวของมารเงาสั่นไหวน้อยๆ อย่างมิอาจควบคุม
มันจับจ้องศีรษะของเยี่ยนจ้าวเกอเขม็ง
ณ ที่แห่งนั้น เหมือนกับมีเมฆมงคลที่ยากบรรยายกลุ่มหนึ่งดำรงอยู่ ขมุกขมัวและสับสนวุ่นวาย
ละหม้ายคล้ายเมฆแปลงกำเนิดของเยี่ยนตี๋ แต่ก็ไม่เหมือน
เมฆมงคลโกลาหลนี้เดี๋ยวหายเดี๋ยวโผล่ ครู่หนึ่งมีรูปร่าง ครู่หนึ่งพร่ามัว ครู่หนึ่งหายไป
ตอนที่เมฆมงคลมีโครงสร้างชัดเจน หรือว่าหายไปโดยสิ้นเชิง มารเงาความจริงไม่สนใจ
แต่ว่าเมฆมงคลนี้ขมุกขมัวเลอะเลือน เหมือนลวงเหมือนจริง คล้ายไร้ขอบเขตไร้สิ้นสุด ทั้งเหมือนกับยุบตัวเป็นจุดจุดหนึ่งที่ยากบรรยายยากพรรณนา สายตาของมารเงาแหลมคมกว่าเดิมในทันใด
‘ยังปรับได้ไม่มั่นคงดี เป็นแค่ต้นแบบ แต่ว่า…’ มารเงาสูดหายใจลึก ร่างถอยหลบไปด้านหลัง หลีกเลี่ยงการปะทะกับเยี่ยนจ้าวเกอ หนึ่งในสิบสองเทพมารสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ ถูกเซียนกำเนิดสุญญตาคนหนึ่งไล่ตามจนต้องเตลิดหนีไปรอบๆ
‘แต่ว่า มีเงาของไร้ขอบเขตหยกพิสุทธิ์แล้ว!’ มารเงาสีหน้าไม่น่าดู ‘เก้าคัมภีร์รวบรวมครบ ฝึกสามพิสุทธิ์ร่วมกัน หรือว่านี่จะย้อนไร้ประมาณคืนมาได้ เห็นถึงบรรพกำเนิดแล้ว?’
ทุกคนล้วนทราบว่า เก้าคัมภีร์หลังกำเนิดในคัมภีร์นภาแรกเริ่มรวบรวมครบ ไม่มีทางอนุมานย้อนกลับเพื่อให้ได้คัมภีร์นภาไร้ขอบเขต ปฐมแห่งคัมภีร์นภาแรกเริ่ม
แต่ว่าคัมภีร์นภาเก้าม้วนที่เหลือ ล้วนถือกำเนิดจากคัมภีร์นภาไร้ขอบเขต รองรับสายเดียวกัน
ก่อนหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ ไม่เคยมีคนที่ฝึกสามพิสุทธิ์ร่วมกันแล้วบรรลุถึงขอบเขตชั้นสูงแบบนี้มาก่อน
สามพิสุทธิ์รวมเป็นหนึ่ง เชื่อมโยงกันและกัน ถึงแม้จะแยกประเภท แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอผู้ฝึกสามพิสุทธิ์ร่วมกัน อาจเป็นคนที่ศึกษาการเชื่อมโยงระหว่างวรยุทธสามพิสุทธิ์อย่างล้ำลึกที่สุดบนโลกใบนี้นอกจากเหล่าจวิน
ถึงเขาจะไม่ได้ฝึกฝนคัมภีร์โกลาหลสูญ แต่เคยอ่านเนื้อหามาก่อน ทั้งแตกฉานในหมัดแปลงกำเนิดแห่งเอกพิสุทธิ์
ด้วยเหตุนี้ หลายปีมานี้ คนจำนวนมากกำลังคาดเดาว่า เยี่ยนจ้าวเกอที่ฝึกสามพิสุทธิ์ร่วมกันผลักเปิดประตูเซียน มีความหวังในการอาศัยคัมภีร์นภาเก้าม้วนหลัง อนุมานย้อนกลับถึงคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตอันเป็นปฐมแห่งสิบคัมภีร์หรือไม่
‘เขา…ทำสำเร็จแล้วจริงๆ?’ มารเงาตอนนี้เห็นเมฆมงคลโกลาหลที่เดี๋ยวสูญหายเดี๋ยวปรากฏบนศีรษะเยี่ยนจ้าวเกอ จิตใจเกิดความสงสัย รู้สึกสั่นสะเทือนอยู่เลือนราง ‘เขาครอบครองคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตที่สมบูรณ์มาโดยตลอดโดยไม่ป่าวประกาศ หรือว่าอนุมานได้คัมภีร์นภาไร้ขอบเขตที่สมบูรณ์ด้วยตัวเองจริงๆ?’
‘หากให้เวลาส่วนหนึ่งแก่เขา เขาจะอนุมานคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตที่สมบูรณ์ออกมาได้หรือไม่?’
เมื่อครู่ตอนที่มันใช้เปลี่ยนเงาเป็นจริงเลียนแบบเยี่ยนจ้าวเกอสำเร็จ ก็สัมผัสความผิดปกติได้แล้ว
การเลียนแบบคนอื่นอย่างเช่นนาจา หลังจากมารเงาเลียนแบบสำเร็จ ล้วนใช้วรยุทธของอีกฝ่ายได้อย่างคล่องแคล่วในทันที
แต่การเลียนแบบเยี่ยนจ้าวเกอเมื่อครู่ ถึงรูปร่างหน้าตาจะเลียนแบบสำเร็จ แต่กลับต้องรอเยี่ยนจ้าวเกอออกกระบวนท่า มันจึงค่อยทำซ้ำได้
แทบจะเหมือนเห็นกระบวนท่าค่อยเรียนหนึ่งกระบวนท่า
ถ้าเยี่ยนจ้าวเกอไม่ลงมือ สถานการณ์ถึงขั้นเปลี่ยนเป็นสองคนยืนนิ่งๆ มองกันไปมา
ตอนแรกมารเงานึกว่านี่เป็นความน่าอัศจรรย์ในการฝึกสามพิสุทธิ์ร่วมกันของเยี่ยนจ้าวเกอ ส่งผลต่อการเปลี่ยนเงาเป็นจริงของตัวเองในระดับหนึ่ง
ทว่าดูจากตอนนี้ สาเหตุด้านนี้อาจมีมากกว่านี้
สาเหตุอีกอย่างที่สำคัญยิ่งคือ เยี่ยนจ้าวเกอถึงกับค่อยๆ อนุมานย้อนกลับถึงความลี้ลับส่วนหนึ่งของคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตได้แล้ว เพียงแต่ยังไม่สมบูรณ์
ดังนั้นเขาจึงมิอาจตัดการแปลงเงาเป็นจริงของมารเงาได้เหมือนคัมภีร์ตัดนภาของสั่วหมิงจาง
การเปลี่ยนเงาเป็นจริงยังคงแสดงผลระดับหนึ่งได้ แต่ว่ามีแค่เปลือกเท่านั้น
วินาทีที่ความจริงกับความลวงสัมผัสกันอย่างแท้จริง ตัวปลอมก็ถูกฟาดกลับสู่ร่างเดิมโดยสมบูรณ์
นี่สำหรับมารเงา อาจแตกต่างจากตอนเริ่มเลียนแบบก็ล้มเหลวทันทีอย่างตอนเผชิญสั่วหมิงจาง
อย่างน้อยถ้าเป็นแบบนั้น มันก็ไม่ถึงกลับดูเหมือนมีแผนเป็นมั่นเหมาะ ความจริงกลับส่งตัวเองไปให้เยี่ยนจ้าวเกอฟาดอย่างโง่งม!
มารเงาที่เมื่อครู่เลียนแบบเยี่ยนจ้าวเกอ ลดระดับตัวเองสู่ชั้นสุญญตา รับฝ่ามือหนึ่งของเยี่ยนจ้าวเกอ ตอนนี้ยังรู้สึกเจ็บปวดแสนสาหัสอยู่
ถ้าไม่ใช่เพราะพื้นฐานยังเป็นเทพมารมหาชาล เมื่อครู่มันอาจถูกเยี่ยนจ้าวเกอฟาดตายคาที่ไปแล้ว
หนึ่งก้าวผิด ก้าวที่เหลือผิด ตอนนี้มารเงารับบาดเจ็บ ถูกเยี่ยนจ้าวเกอสะกดโดยสมบูรณ์ คิดจะอาศัยระดับกดทับพร้อมรับมือเยี่ยนจ้าวเกออีก มีความลำบากมากมายแล้ว
ขณะนี้เยี่ยนจ้าวเกอยิ่งมายิ่งผ่อนคลาย ควบคุมการเปลี่ยนแปลงเดี๋ยวสว่างเดี๋ยวมือเดี๋ยวหายเดี๋ยวโผล่ของเมฆมงคลโกลาหลบนศีรษะ ขณะเดียวกันก็ก้าวเท้าติดต่อกัน ฝ่ามือผ่าเฉียนคุน ไล่จู่โจมมารเงา
ขณะที่ตีกลองไต่สวรรค์จจนดั่งสั่นสะเทือนฟ้า อีกมือหนึ่งของเขาถือลูกตุ้มโกลาหล ยิ้มเย็นชาพลางฟาดใส่ใบหน้ามารเงา
มารเงาถอนใจจนปัญญา ได้แต่หมุนตัวหลบหนี
คล้ายกับตอนเผชิญสั่วหมิงจาง วินาทีนี้มันละทิ้งแผนการ หากสู้กันต่อไป เกรงว่าจะตายด้วยน้ำมือเยี่ยนจ้าวเกอจริงๆ
มิติเวลาที่ปั่นป่วนก่อนหน้า ตอนนี้ค่อยๆ มีวี่แววว่าจะฟื้นตัว
มิติเวลากลับเป็นปกติ การย้ายมิติเวลาของผู้เข้มแข็งระดับมหาชาลของมารเงา ย่อมราบรื่นกว่าเซียนกำเนิดสุญญตา
แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอเปิดฉากไล่ล่ามารเงา มีอาวุธเซียนระดับมหาชาลสองชิ้นอย่างกลองไต่สวรรค์กับลูกตุ้มโกลาหลช่วยเหลือ ทำให้มารเงายากจะใช้ความเร็วสลัดหลุดอยู่ชั่วขณะ ได้แต่ถูกเยี่ยนจ้าวเกอไล่ทุบ
นี่ยังดีที่ในกลุ่มผู้เข้มแข็งระดับเดียวกัน มารเงาเชี่ยวชาญการเคลื่อนไหววิชาเคลื่อนที่ ไม่อย่างนั้นมันที่สูญเสียความน่าอัศจรรย์ของการคงอยู่ทุกที่ไป ไม่แน่ว่าจะหนีพ้นเยี่ยนจ้าวเกอที่เชี่ยวชาญความเร็วในวิชาเคลื่อนที่เช่นกัน
กลางความว่างเปล่าค่อยๆ มีร่องรอยของคนคนอื่น ผลคือทุกคนอ้าปากตาค้างขณะมองมารไม้อีก หนึ่งในมารที่เก่าแก่ที่สุด ถูกเซียนกำเนิดสุญญตาคนหนึ่งไล่ตามเตลิดเปิดเปิง ไม่มีหน้ามีตาโดยสิ้นเชิง!
………………..