ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1734 นักรบแห่งเทพสายหลักทำศึกกับสาวกเส้นทางนอกรีต
บางทีอาจรังเกียจพลังของจอมยุทธ์เส้นทางนอกรีต รังเกียจที่พวกเขารู้ว่ามันเป็นเช่นนี้แต่ไม่รู้เพราะอะไร แต่ไม่ว่าจะเป็นพวกเยี่ยนจ้าวเกอผู้สืบทอดสามพิสุทธิ์ หรือทีพวกปังกรพุทธะกับวัชรอภิณฑ์พุทธะศาสนาพุทธสายหลัก ที่แล้วมาต่างสนใจความสามารถของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับพระศรีอาริย์มาโดยตลอด
นั่นถึงอย่างไรก็เป็นผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาสองคน
ผู้เข้มแข็งที่มองเหยียดคนรุ่นเดียวกัน แทบก้มมองสรรพชีวิตเหมือนเจ้ามรรคาได้อย่างหยางเจี่ยนและมหาวิทยราชมยุรี หากเผชิญกับเทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับพระศรีอาริย์จริงๆ ยังคงสู้ไม่ได้ สามารถหนีเอาชีวิตรอดได้เป็นความโชคดีในความโชคดีแล้ว
เทวกษัตริย์วิเศษคณานับฝึกฝนคัมภีร์โกลาหลสูญสำเร็จ ไม่จำเป็นต้องใช้สี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนก็ใช้พลังของตัวเองกางค่ายกลลงทัณฑ์เซียนไม่สมบูรณ์ได้ แม้แต่การป้องกันของธงเหลืองโบ่วกี้ยังถูกฟันทำลายอย่างหักโหม ถึงจะเป็นเช่นนี้ ยังคงตกตายเพราะมารสวรรค์ไร้พันธนาที่เป็นบรรพมาร
แต่เขาหนีรอดจากเงื้อมมือมารสวรรค์ไร้พันธนา ไม่ได้ถูกฆ่าตายคาที่ได้ ภายหลังค่อยเสียชีวิตเพราะบาดเจ็บหนักไม่ได้รักษา ก็มากพอจะทำให้คนทุกคนชมเชยแล้ว
ในทางกลับกัน ก็พิสูจน์ถึงความแตกต่างระหว่างระดับมรรคากับระดับเซียนจากอีกด้านหนึ่ง
นั่นเป็นร่องน้ำธรรมชาติที่กว้างขวางยิ่งกว่าระหว่างเซียนกับมนุษย์
ดังนั้นยอดฝีมือที่ชื่อกระเดื่องมานับหมื่นปีอย่างทีปังกรพุทธะ ลู่ยาเต้าจวิน มหาวิทยราชมยุรีจึงพยายามขึ้นสู่ระดับมรรคา
หลังจากหยางเจี่ยนสัมผัสได้ถึงปัญหาระหว่างสั่วหมิงจางกับเยี่ยนตี๋ จึงค่อยนึกเสียดายเป็นอย่างยิ่ง
ดังนั้นคนในสำนักเต๋าต่างก็กระตือรือร้นและขยัยขันแข็งต่อการวางหมากในนพยมโลกต่อจากนี้
แต่ว่าถึงสำนักเต๋าจะเอาชนะได้ในตอนสุดท้าย มีคนขึ้นสู่ระดับมรรคาสำเร็จ สถานการณ์ก็ได้แต่บอกว่าดีกว่าตอนนี้ กลับไม่อาจบอกว่าสามารถนอนหมอนสูงไร้ความกังวล เริ่มกวาดทำลายสี่ทิศได้
ถึงอย่างไรคู่ต่อสู้ก็ไม่ต่ำกว่าหนึ่ง
ด้านใดด้านหนึ่งแข็งแกร่งเกินไป เป็นไปได้อย่างยิ่งกว่าจะกระตุ้นการผนึกกำลังโจมตีของฝ่ายอื่นๆ
ใช้พลังของตัวเองสยบทุกคนได้ตอนไหน และได้เปรียบชัดเจนจนไม่ต้องห่วงว่าจะบาดเจ็บสองฝ่าย จึงค่อยต้อนรับห้วงเวลาที่ทำอะไรตามใจก็ได้อย่างแท้จริง
รวมทรายเป็นปราสาท เก็บเล็กกลายเป็นมาก เยี่ยนจ้าวเกอย่อมตั้งใจคว้าโอกาสเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่พวกตัวเอง ทำให้คู่ต่อสู้อ่อนแอลงทุกโอกาส
ทำนบพันลี้อาจพังทลายเพราะรังมด
เทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับพระศรีอาริย์เดิมแข็งแกร่งจริงๆ แต่ว่าเส้นทางขึ้นสู่ระดับมรรคาของพวกเขา ไม่สมบูรณ์แต่กำเนิด คนรุ่นหลังไม่แน่ว่าจะขุดตีนกำแพงไม่ได้
ขณะเยี่ยนจ้าวเกอเร่งการฝึกฝนของตัวเอง ก็วางแผนว่าจะโบกพลั่วอย่างไร
นี่ความจริงไม่เพียงแต่เป็นการรุกคืบ ยังเป็นการป้องกันเพื่อจู่โจมเช่นกัน
การชำระล้างคนในสำนักเต๋าที่เทวกษัตริย์ไร้ประมาณเล็งผลอยู่น่ากลัวเกินไป การคุกคามแฝงยังคงดำรงอยู่
ในคนคุ้นเคยฝั่งตัวเองของเยี่ยนจ้าวเกอ มีฟู่ถิง เมิ่งหวาน เหอซีสิงสามคนที่น่าเป็นห่วง
พระศรีอาริย์กับแดนสุขาวดีบัวขาวไม่ได้ลงมือสะดวกขนาดนั้น แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะชำระล้างคนในสำนักเต๋าในความเป็นจริงเช่นกัน
วิชาฝีมือที่ร้ายกาจอย่างนี้ เยี่ยนจ้าวเกอย่อมต้องป้องกัน
ถึงแม้ด้วยพลังฝึกปรือของเขาในขณะนี้ ขอแค่ไม่ยินยอม แม้เทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับพระศรีอาริย์ลงมือเอง ก็ไม่อาจบังคับชำระล้างได้
แต่ยังมีคนส่วนใหญ่ที่ระดับพลังฝึกปรือค่อนข้างต่ำอยู่
นอกจากนี้ ในสถานการณ์ใหญ่ของนพยมโลกที่ไม่ทราบว่าจะเริ่มเมื่อใด คนในสำนักเต๋าเช่นพวกเยี่ยนจ้าวเกอ คิดจะหาประโยชน์ จำเป็นต้องทำความเข้าใจและศึกษานพยมโลกมากกว่าเดิมถึงจะกระทำได้
เยี่ยนจ้าวเกอเองก็ยอมรับว่า ถ้าการค้นคว้าของตนมีการพัฒนาอย่างใหญ่หลวงจริงๆ เขาคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เห็นฉากที่นักรบเทพสายหลักแห่งสำนักเต๋าทำศึกใหญ่กับสาวกพลังศรัทธาของเส้นทางนอกรีต
แม้จะมีรสนิยมชั่วร้ายไปบ้าง แต่ว่าด้านในก็ยังแฝงความคาดหวังของเยี่ยนจ้าวเกอด้วย
ถึงอย่างไรหากกล่าวตามความเป็นจริง การเพิ่มระดับของจอมยุทธ์ระดับกลางถึงต่ำของเส้นทางนอกรีต ก็ง่ายดายกว่าสำนักเต๋าสายหลักมากจริงๆ นอกจากระดับมหาชาลแล้ว ความได้เปรียบด้านจำนวนในระดับเดียวกันของเส้นทางนอกรีตก็เด่นชัดถึงขีดสุด
แดนเซียนของโถงเซียนนับรวมทั้งหมดสามพันแห่ง ตามปกติแล้ว เซียนสวรรค์ใช้พลังศรัทธาของแดนเซียนสองร้อยสิบหกแห่งไปจนถึงแดนเซียนสองร้อยเจ็ดสิบแห่ง เซียนกำเนิดใช้แดนเซียนสามสิบหกแห่งถึงสี่สิบห้าแห่งโดยประมาณ เซียนลี้ลับใช้พลังศรัทธาจากแดนเซียนสิบสองถึงสิบห้าแห่ง เซียนจริงแท้ใช้ราวๆ สี่ถึงห้าแห่ง
นี่บ่งบอกว่าในสถานการณ์ปกติของโถงเซียน นอกจากเซียนสวรรค์มหาชาลจำนวนประมาณสิบสองคน ยังมีเซียนกำเนิดสุญญตาเจ็ดสิบสอง เซียนลี้ลับสงบนิ่งสองร้อยสิบหก เซียนจริงแท้ไร้ช่องโหว่วเจ็ดร้อยยี่สิบ
จำนวนอาจผิดพลาดบ้าง แต่ว่าโดยรวมแล้ว คงอยู่ในระดับนี้เป็นเวลานาน
ถ้าหากว่าบังเกิดความเสียหายใหญ่หลวง นอกจากเซียนสวรรค์สุญญตาที่ไม่อาจหาได้ และการชดเชยเซียนกำเนิดสุญญตามีความยากแล้ว ระดับเซียนลี้ลับกับเซียนจริงแท้ต่างก็ชดเชยใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
จอมยุทธ์ต่ำกว่าระดับเซียน ไปจนถึงระดับที่ต่ำกว่า ยิ่งไม่จำเป็นต้องกล่าวถึง
แดนสุขาวดีบัวขาวมีรากฐานหนักแน่นกว่า มีแต่มากไม่มีน้อย
ถึงแม้จะอยู่ในสายตาของผู้สืบทอดสำนักเต๋ากับศาสนาพุทธ กล่าวอย่างโหดร้าย พูดถึงพลังนั่นก็เป็นสิ่งของไม่ได้มาตรฐาน บางครั้งก็มีชนชั้นสุดยอด ซึ่งความจริงเท่ากับถูกเส้นทางนอกรีตทำให้เสียเวลา น่าเสียดายกว่าเดิม
แต่ว่าจำนวนอันมหาศาล รวมถึงความเร็วในการชดเชย ยังคงทำให้คนไม่อาจมองข้าม
พูดถึงความเร็วการยกระดับเพียงอย่างเดียว ไม่มีฝ่ายใดเร็วกว่าเทพมารกรอกศีรษะของนพยมโลก
ถึงแม้ความโหดร้ายของเงื่อนไขทางฝั่งนพยมโลก แทบเรียกได้ว่ามีอยู่เพียงหนึ่ง ไม่เพียงลำบากกว่าเส้นทางนอกรีต ยังเข้มงวดยิ่งกว่าศาสนาพุทธกับเผ่าปีศาจเสียอีก
การค้นคว้าในสวรรค์อู๋จี๋ถานซื่อ ณ ตอนนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ เป็นการศึกษานพยมโลกและเส้นทางนอกรีตสองด้านพร้อมกัน
ปัจจุบันเห็นเงื่อนงำขั้นต้น หากบอกว่ามีผลสำเร็จ ยังห่างไกล
แต่ว่าเขามีความอดทนมากพอ นี่เป็นแผนการที่วางไว้ระยะยาว กินเวลาพันปีหรือหมื่นปี
การขุดมุมกำแพงเส้นทางนอกรีต ตัดขนแกะเส้นทางนอกรีต ก็เป็นแผนการระยะยาวเช่นกัน
สิ่งที่ส่งผลกระทบในระยะใกล้เพียงหนึ่งเดียวคือการศึกษานพยมโลกให้ล้ำลึกกว่าเดิม
“วางใจ ข้าจะมาบ่อยๆ ฮานหลงเอ๋อร์เจ้าจงจัดการตามขั้นตอน จดจำข้อมูลที่ข้าบอกให้เจ้าจดบันทึกไว้ก็พอ” เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มพลางตบไหล่ของอิงหลงถูก “ไม่เกินมือเจ้าหรอก”
คำเรียก ‘ฮานหลงเอ๋อร์’ สำหรับอิงหลงถูที่เติบโตขึ้น เลื่อนสู่ระดับเซียน เรียกได้ว่าเป็นยอดฝีมือ และอัจฉริยะสำนักเต๋าแล้ว ในเวลาส่วนใหญ่กลายเป็นประวัติศาสตร์แล้ว
คนอื่นเรียก เป็นการยั่วยุ
มีแต่คนไม่กี่คนได้แก่เยี่ยนจ้าวเกอ เฟิงอวิ๋นเซิง สวีเฟย เยี่ยนตี๋ หยวนเจิ้งเฟิงจึงจะเรียกเขาแบบนี้ หนำซ้ำยังเรียกในที่ลับ น้อยครั้งจะพูดถึงในที่สาธารณะ
อิงหลงถูกกลับยินดีให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอเรียกแบบนี้มากกว่า ไม่ต้องการให้เยี่ยนจ้าวเกอเรียกเขาอย่างจริงจังว่า ‘ศิษย์น้องอิง’
เพียงแต่ตอนนี้ได้ยินคำพูดของเยี่ยนจ้าวเกอ อิงหลงถูใบหน้าปรากฏรอยยิ้มขื่นขม “ศิษย์พี่เยี่ยนท่านว่าอย่างไรก็เอาอย่างนั้นเถอะ แต่ว่าข้ายังคงไม่ชินกับบทบาทในตอนนี้ มีคนหนุ่มที่โดดเด่นมากส่วนหนึ่ง ขณะมองพวกเขาเสี่ยงอันตราย แต่ข้าต้องวางตัวเป็นกลาง คอยมองอยู่ด้านข้างไม่ก้าวก่าย มักรู้สึกอดไม่ได้อยู่บ้าง
“ห้องอันอับอุ่นเลี้ยงดอกไม้ไม่ได้ แม้จะไม่อยู่ที่นี่ ไม่ใช้วิธีการนี้ ในสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจีย ในสถานที่ใดๆ ในการสืบทอดสำนักแห่งไหน คนต่างต้องรับการเคี่ยวกรำ หยกไม่เจียไม่เป็นภาชนะ” เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะถามว่า “จริงด้วย เห็นเจ้าเพิ่งส่งไปกลุ่มหนึ่ง คราวนี้ส่งไปที่ใด? ภารกิจเป็นอะไร?”
ได้ยินคำถามของเขา อิงหลงถูสีหน้าพลันพิกลขึ้นมา อึกอักอยู่นานโข กล่าวอ้ำๆ อึ้งๆ “พวกเขาเดิมเพิ่งทำภารกิจในโลกใบหนึ่งสำเร็จ ผลคือมีคนได้สัมผัสกับห่วงหนึ่งในภารกิจห่วงโซ่ยาวหมายเลขสาม ดังนั้นข้าจึงส่งพวกเขาไปทางนั้นแล้ว”
“ภารกิจห่วงโซ่เส้นยาวหมายเลขสาม…” เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางตัวเอง
เฟิงอวิ๋นเซิงที่อยู่ด้านข้างกุมหน้าอย่างจนปัญญา “…ค้นหาจอมมารเยี่ยน”
………………..