ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1735 ค้นหาจอมมารเยี่ยน
เป็นเพราะประวัติศาสตร์ยังคงสั้น ถึงจะมีเยี่ยนจ้าวเกอกับอิงหลงถูคอยดึงคนในโลกก่อนกำเนิด แต่ว่าการพัฒนาโดยรวมของสวรรค์อู๋จี๋ถานซื่อยังคงอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้น
จอมยุทธ์ที่อาศัยอยู่ที่นี่ ระดับพลังฝึกปรือและอารยธรรมการสืบทอดมรรคายุทธ ตอนนี้ยังคงค่อนข้างต่ำ
แต่พร้อมกับเวลาที่ผ่านไป ทุกอย่างย่อมยิ่งมายิ่งเร็ว เป็นเพราะการดำรงอยู่ของเสาแสงต้นนี้ในโลกก่อนกำเนิด จึงพัฒนาเร็วกว่ายามปกติ
ตอนนั้นเยี่ยนจ้าวเกอย่อมสร้างโลกชั้นสูงที่ใหญ่กว่าโลกก่อนกำเนิด
อย่างเช่นโลกหยินหยาง โลกทันใจ โลกว่างเปล่า แยกกันใช้หกคัมภีร์หลังกำเนิดหยกพิสุทธิ์มาตั้งชื่อ
ในทางเดียวกัน เพื่อการค้นคว้าของตัวเอง ในโลกเบื้องล่างแต่ละแห่งนั้น ข้อมูลต่างๆ เช่นอารยธรรมมนุษย์และประวัติศาสตร์ เยี่ยนจ้าวเกอก็มีการปรับแต่งเช่นกัน ค่อนข้างไม่สมบูรณ์
ในสายตาของคนบนโลกใบนี้ มหาภัยพิบัตินำมาซึ่งการขาดลงของประเพณีวัฒนธรรมและความว่างเปล่าในประวัติศาสตร์
แต่ว่าพร้อมกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผู้เข้มแข็งพลังฝึกปรือสูงยิ่งมายิ่งปรากฏขึ้นมาก เยี่ยนจ้าวเกอจงใจทิ้งเบาะแสบ้างจริงบ้างลวงส่วนหนึ่งไว้ ให้คนที่อยู่ที่นี่ขุดค้น
เช่นนี้ก็เพื่อเชื่อมระหว่างผู้อยู่อาศัยแต่เดิมที่ถือกำเนิดขึ้นใหม่ของสวรรค์อู๋จี๋ถานซื่อ กับสวรรค์สำนักเต๋าที่กว้างใหญ่กว่าด้านนอกโลกในอนาคต
แน่นอนว่านั่นเป็นเรื่องราวในอานาคต มิใช่จะเห็นได้ในระยะเวลาสั้นๆ
เหล่านี้มาจากเบาะแสของคำกล่าว ‘ความจริงของประวัติศาสตร์’ ส่วนใหญ่ถูกเยี่ยนจ้าวเกอหาวิธีวางเป็นภารกิจห่วงโซ่ยาวแต่ละเส้น
ความหมายตามชื่อ ภารกิจประกอบขึ้นจากห่วงจำนวนมาก ระหว่างแต่ละห่วงเป็นเอกเทศน์ ทว่าแต่ละห่วงเชื่อมต่อกัน
หลังจากทำห่วงหนึ่งสำเร็จ ก็จะหยุดลง รอคอยวาสนา ค่อยมีโอากสสัมผัสห่วงต่อไป
กล่าวจากระดับความยาก ภารกิจที่ห่วงหนึ่งทับห่วงหนึ่ง ยิ่งมายิ่งยาก
โดยพื้นฐานแล้ว ห่วงไม่กี่ห่วงท้ายสุด ล้วนต้องหลุดจากโลกเบื้องล่างโดยสมบูรณ์ ขึ้นมายังโลกเบื้องบนเช่นโลกหยินหยางจึงค่อยสัมผัสได้
ด้วยระดับในปัจจุบันของผู้อาวุโสแต่เดิมบนโลกเบื้องล่างแต่ละใบในจักรวาลอู๋จี๋ถานซื่อ ก็สัมผัสห่วงภารกิจระดับค่อนข้างสูงไม่ได้เช่นกัน
ต่อให้สัมผัสได้ พวกเขาก็ทำให้สำเร็จไม่ได้
ภารกิจห่วงโซ่ยาวเส้นหนึ่ง มักจะเชื่อมต่อกันตั้งแต่ต้นจน ก้าวหน้าพร้อมกับการพัฒนาอารยธรรมมรรคายุทธโดยรวมของสวรรค์อู๋จี๋ถานซื่อ
สถานการณ์ในตอนนี้ที่อิงหลงถูพูดถึง คือในตอนที่มีคนกำลังดำเนินภารกิจพื้นฐานอยู่ ได้สัมผัสกับห่วงเริ่มต้นของภารกิจห่วงโซ่ยาวเส้นหนึ่งในโลกเบื้องล่างใบหนึ่ง
รายละเอียดเรื่องราวความจริงเรียบง่ายยิ่ง
ตอนที่ทำภารกิจพื้นฐานก่อนหน้านี้ ในโลกเบื้องล่างใบนั้นว่ากันว่าเคยมีจอมมารสะท้านโลกตนหนึ่งโผล่มา ร้ายกาจเทียมฟ้า ตั้งตัวเป็นใหญ่ กดอัดค่ายสำนักอื่นๆ ในโลกใบนี้ให้เสียดสีกับพื้นรอบแล้วรอบเล่า
ของวิเศษคุ้มครองสำนักของค่ายพรรคต่างๆ ล้วนถูกจอมมารชิงไปจนว่างเปล่า
แต่ภายหลังจอมมารหายไปไม่ทราบที่อยู่ แม้แต่ของวิเศษจำนวนมากบนโลกใบนี้ก็หายไปด้วย
นิกายมารที่จอมมารสร้างขึ้นก่อนกำเนิด เป็นเพราะการแย่งชิงตำแหน่งเจ้านิกาย จึงตกสู่ความวุ่นวายภายใน
พรรคอื่นๆ ที่หายใจรวยริน ในที่สุดหลังจากได้ผ่อนคลาย ก็ร่วมมือกันล้มล้างนิกายมาร
คนที่ถูกเสาแสงดึงออกมาจากในโลกก่อนกำเนิด แยกเป็นสองกลุ่ม ถูกส่งเข้าไปในโลกเบื้องล่างใบนี้
กลุ่มหนึ่งเข้ากับฝ่ายนิกายมาร อีกกลุ่มย่อมเข้ากลับฝ่ายทัพพันธมิตรต่อต้านมาร
ผลคือสองฝ่ายทำศึกใหญ่ติดต่อกัน หลังจากเรื่องราวที่ทั้งน่ายินดีและน่าเศร้า ทัพพันธมิตรได้รับชัยชนะ บุกเข้าไปในแท่นหลักของนิกายมาร
แต่ว่าผู้มาจากภายนอกสองกลุ่มกลับพบเรื่องหนึ่ง
เจ้านิกายผู้ก่อตั้งนิกายมารในตอนแรก มิใช่ธาตุไฟเข้าแทรกตายไป หรือหายสาบสูญไปง่ายๆ แต่ว่าสร้างร่องแยกที่เชื่อมไปยังโลกที่แตกต่าง มุ่งหน้าไปที่นั่น แม้แต่ของวิเศษที่เขาขูดรีบมาก็นำไปด้วย
จึงไปกระตุ้นภารกิจห่วงโซ่นี้เข้า
ภารกิจต่อต้านของโลกเบื้องล่างใบนี้ ถึงสุดท้ายจะแบ่งผลแพ้ชนะ แต่ว่าทัพสองฝ่ายก็กระตุ้นภารกิจห่วงโซ่พร้อมกันแล้ว
ดังนั้นหลังจากพวกเขากลับโลกก่อนกำเนิด แยกกันรับรางวัลและการลงทัณฑ์ที่ผลแพ้ชนะของภารกิจพื้นฐานนำมา ก็ถูกอิงหลงถูกโยนไปยังโลกอีกใบหนึ่งโดยตรง
แน่นอนว่า คนสองกลุ่มที่เพิ่งสู้รบจนสะเก็ดไฟเวียนว่อน เลือดสดอาบเต็มใบหน้า ครั้งนี้รับภารกิจเดียวกัน จะต่อต้านกันหรือร่วมมือกันต่อ นั่นยากจะบอกแล้ว
ถึงอิงหลงถูกจะไม่วางใจอยู่บ้าง แต่ก็ยังทำตามกฎที่เยี่ยนจ้าวเกอตราขึ้นอย่างเคร่งครัด ต่างส่งคนไปในโลกเบื้องล่างอีกใบนี้ ถ้าหากพวกเขาทำห่วงโซ่ภารกิจนี้สำเร็จได้ อย่างนั้นพวกเขาจะพบว่า จอมมารตนนั้นทำอย่างเดิม กวาดล้างโลกใบนี้ ทั้งยังฮุบของวิเศษระดับสุดยอดแต่ละชนิดไปจนว่างเปล่า จากนั้นก็หายตัวไปอีก
ครั้งนี้พวกเขาจะได้รับเบาะแสเพิ่มเติมอย่างอื่น ชี้ไปที่ห่วงถัดไป
แต่ว่าห่วงในภายหลัง มิใช่สิ่งที่พวกเขาจะกระตุ้นได้ในระดับปัจจุบัน ต้องรอวาสนามากกว่าเดิมในอนาคต
เฟิงอวิ๋นเซิงกับอิงหลงถูย่อมทราบเนื้อหาห่วงต่อจากนี้
หลังจากนั้นพวกผู้ทดสอบที่มีเบาะแสก่อนหน้า และกระตุ้นห่วงต่อไปสำเร็จ จะค้นพบว่า ราชามารที่ว่ามิใช่มีแค่คนคนเดียว
การดำรงอยู่เช่นนี้ถึงแม้มีชรามีหนุ่ม สถานะไม่ต่ำกว่าหนึ่ง แต่กลับคล้ายมีเป้าหมายเดียวกัน กำลังทำแผนการที่เหมือนกันให้สำเร็จลุล่วง
ห่วงแต่ละห่วงถูกกระตุ้น สัมผัสกับคนที่คล้ายๆ กันคนแล้วคนเล่า ความจริงเหมือนปรากฏใกล้ตรงหน้า แต่ความสงสัยจะยิ่งมายิ่งมาก
ภายหลังรอหลังมาถึงโลกเบื้องบน ผู้ทสอบจะพบว่า ทุกสิ่งทุกอย่างชี้ไปที่คนคนเดียว มือมืดหลังฉากคนเดียวกัน
เขาแปลงร่างมาพันปี เดินทางไปยังโลกทุกใบ ช่วงชิงสรรพชีวิต
เบื้องหลังนี้คล้ายชี้ที่เป้าหมายซึ่งอยู่สูงกว่า
จอมมารตนนี้คล้ายเกี่ยวข้องกับภัยพิบัติที่สร้างการขาดตอนของอารยธรรมประวัติศาสตร์ในสวรรค์อู๋จี๋ถานซื่อ ณ เวลานี้
เช่นนี้ภารกิจห่วงโซ่ยาวจะค่อยๆ ใกล้จบ
“ความจริงตนถึงตอนนี้ก็ใช้ได้แล้ว” เฟิงอวิ๋นเซิงกล่าวอย่างจนปัญญา “ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอีกแล้วกระมัง?”
“นั่นจะได้อย่างไร?” เยี่ยนจ้าวเกอพูดฉะฉานมีเหตุผล “ตอนท้ายของเรื่องราวอย่างนี้ย่อมต้องมีการพลิกผัน ต้องมีการฟอกขาว ต้องมีความเสียใจถึงจะถูก”
เฟิงอวิ๋นเซิงเหลือบมองเขาอย่างไม่พอใจ
ห่วงสุดท้ายของภารกิจห่วงโซ่นี้ กลับเป็นทุกคนพบว่า ที่แท้จอมมารตนนั้นเจ็บปวดเกินบรรยาย เขาจึงเป็นผู้ที่ปกป้องโลกในสวรรค์อู๋จี๋ถานซื่ออย่างยากลำบาก เป็นคนที่ประสบภัยพิบัติใน ‘มหาภัยพิบัติ’ ครั้งนั้น จนถึงตอนนี้ ตั้งแต่แรกเริ่ม เป็นเขารักษาสถานการณ์ ป้องกันศัตรูภายนอกมาโดยตลอด
เหตุการณ์เหล่านี้อยู่ๆ ก็เป็นการเอาทองปิดหน้า น่าเคารพขึ้นมา
ไม่มีเหตุผลก็สร้างเหตุผลได้ ไม่มีเรื่องราวก็แต่งเรื่องได้ เอาเป็นว่าไม่ได้ฟอกเขาไม่ยอมเลิก
ถ้าหากเป็นแบบนี้ เฟิงอวิ๋นเซิงย่อมไม่นำพา อย่างมากสุดรู้สึกเยี่ยนจ้าวเกอเล่นหนักไปหน่อย เตือนให้เขาระวังไว้อย่าเล่นจนเลยเถิด
แต่ตรงนี้มีปัญหาหนึ่งข้อ
จอมมารตนนั้น แซ่เยี่ยน...
อืม ถูกต้อง เป็นร่างแปลงของเยี่ยนจ้าวเกอเอง
เยี่ยนจ้าวเกอเผชิญสายตาจนปัญญาของเฟิงอวิ๋นเซิง กล่าวด้วยใบหน้าไร้เดียงสาว่า “เจ้าวางใจเถอะ ถึงเวลานั้นจอมมารเยี่ยนจะสละชีพ แม้จะมีรายละเอียดที่ไม่สมบูรณ์บ้างก็ต้องเคารพคนตาย คนอื่นๆ ไม่ทางสืบสาวลึกเกินไป ทุกคนมีแต่จะรำลึกถึงนึกเลื่อมใส”
“หนำซ้ำถึงเวลาข้าส่งเงา ไม่แสดงลักษณะที่แท้จริงของตัวเอง ต่อให้ในอนาคตระดับพลังฝึกปรือของคนในสวรรค์อู๋จี๋ถานซื่อจะสูงส่ง ไปถึงด้านนอก จะไม่ทราบว่าจอมมารเยี่ยนตนนั้นคือข้า”
“ยังดีที่ท่านจำได้!” เฟิงอวิ๋นเซิงใช้มือกุมหน้า น้ำเสียงไร้เรี่ยวแรง “น่าอับอายไปแล้ว เสียหน้าเสียตาจริงๆ!”
………………..