ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1743 เป้าหมายอยู่ที่ใด?
“เศษศิลามนุษย์กำเนิดที่แดนอภิรดีศูนย์กลางได้ไป เข้าสู่แดนสุขาวดีตะวันตก ภายหลังสร้างเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ” นาจาส่ายหน้า กัดฟันกล่าว
“ดูเหมือนจะเป็นเช่นนี้ เพื่อสะกดพระศรีอริยเมตไตรย ดังนั้นอามิตาภพุทธเจ้ากับแดนสุขาวดีตะวันตกจึงสร้างเส้นทางนอกรีตอีกฝั่งหนึ่ง แย่งชิงและเจือจังพลังศรัทธาของพระศรีอริยเมตไตรย สะกดความก้าวหน้า” เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า
“เพราะฉะนั้นพวกเราจึงได้การคาดเดาอีกอย่าง เป็นไปได้อย่างยิ่งว่า พระศรีอริยเมตไตรยยิ่งแข็งแกร่ง ศาสนาพุทธเส้นทางนอกรีตยิ่งแข็งแกร่ง อามิตาภพุทธเจ้าก็ได้รับผลกระทบมากกว่าเดิม”
คนในตำหนักใหญ่ต่างมีสีหน้าเคร่งขรึม
ในฐานะผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคา การแก่งแย่งเกี่ยวกับการหลุดพ้น มักเป็นการถอนขนเส้นเดียวหากสะเทือนทั้งร่าง
การวากหมากของอามิตาภพุทธเจ้ากับกษัตริย์บูรพาไท่อี้ในยุคสมัยนี้เกิดขึ้นตั้งแต่พระยูไลเพิ่งหลุดพ้นไปในยุคโบราญตอนต้นแล้ว
ผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาที่เก่าแก่ที่สุดในปัจจุบันสองคนต่อสู้กัน ท่านมาข้าไป เห็นกระบวนท่าหักล้างกระบวนท่า
ความวุ่นวายภายในศาสนาพุทธ ณ แดนอภิรดีศูนย์กลาง กับมหาภัยพิบัติที่ส่งผลต่อสำนักเต๋าล้ำลึกในครั้งนั้น ต่างเป็นการแสดงออกที่รุนแรงที่สุด ในการวัดกำลังของสองเจ้ามรรคา
กระบวนการนี้ได้เร่งการถือกำเนิดของเส้นทางนอกรีตสองเส้นทาง และพิสูจน์การจุติของเจ้ามรรคาคนใหม่สองคน
เยี่ยนจ้าวเกอเคยคิดมาก่อนว่า หลังจากมหาภัยพิบัติเส้นทางนอกรีตสองเส้นทางรบทัพจับศึกมาหลายปี แดนสุขาวดีตะวันตกกับเผ่าปีศาจกลับยืนอยู่หลังฉาก พักฟื้นพลัง จนกระทั่งหลายร้อยปีมานี้ ค่อยปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
ในทัพที่เป็นปรปักษ์กันสองทัพใหญ่ก่อนหน้า เทียบกับแดนสุขาวดีตะวันตกกับเผ่าปีศาจแล้ว แดนสุขาวดีบัวขาวกับโถงเซียนหลีกเลี่ยงไม่ให้มีสภาวะอ่อนแอบ้างไม่ได้ เหมือนกับผู้ส่งสาสน์ทหารหัวหอก
ในนี้ย่อมมีสาเหตุที่พลังของยอดฝีมือเส้นทางนอกรีตในระดับเดียวกันด้อยกว่า แต่ว่าสืบสาวถึงต้นตอ การถือกำเนิดของพวกเขา เป็นผลผลิตจากการต่อสู้ของอามิตาภพุทธเจ้าและกษัตริย์บูรพาไท่อี้ตั้งแต่แรก
แน่นอนว่าในเมื่อเทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับพระศรีอาริย์ขึ้นสู่ระดับมรรคาสำเร็จ เช่นนั้นพวกเขาก็มีความมั่นใจมากพอ ในการเข้าร่วมสถานการณ์วุ่นวายครั้งนี้เช่นกัน
คนในเส้นทางนอกรีตเต็มไปด้วยความฮึกเหิม ไม่น่าประหลาดใจ
เพียงแต่ว่าในสายตาของคนที่ทราบเรื่องราวภายนอก ดูเหมือนออกจะเสียดสีไปบ้าง
ทว่าตอนนี้คนในสำนักเต๋ากลับไม่มีอารมณ์จะเสียดสีเส้นทางนอกรีต
การถือกำเนิดของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณในมหาภัยพิบัติครั้งนั้น สำนักเต๋าประสบภัย ตกสู่ก้นเหวที่ไม่เคยมีมาก่อน
วังเทพพินาศ ผู้สืบทอดกระแสตรงสามพิสุทธิ์ทรุดโทรม ผู้เข้มแข็งสำนักเต๋าจำนวนมากตกตาย
หลังจากตอนนั้น ผู้สืบทอดสำนักเต๋าก็เข้าสู่ยุคที่มืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์ จนกระทั่งหลายปีมานี้ค่อยฟื้นฟูปราณกำเนิดกลับมาได้
“พระศรีอริยเมตไตรยยิ่งแกร่ง ศาสนาพุทธเส้นทางนอกรีตยิ่งแกร่ง อามิตาภพุทธเจ้าได้รับผลกระทบยิ่งมาก เช่นนั้น…” เฟิงอวิ๋นเซิงเลิกคิ้วเบาๆ “เทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับสำนักเต๋าเราเล่า?”
บรมครูสามพิสุทธิ์หลุดพ้นไปแล้ว แต่ยังมีไท่ซ่างเหล่าจวินมีชีวิตอยู่
“พุทธคือพุทธ เต๋าคือเต๋า สองระบบมรรคาสุดท้ายมีความแตกต่าง” หยางเจี่ยนเอ่ย “หนำซ้ำการขึ้นสู่ระดับมรรคาของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ ยังแตกต่างกับพระศรีอริยเมตไตรย นอกจากศิลามนุษย์กำเนิดแล้ว ยังเกี่ยวกับศิลาฟ้ากำเนิดด้วย”
“ยิ่งไปกว่านั้น คู่ต่อสู้ของอามิตาภพุทธเจ้าคือกษัตริย์บูรพาไท่อี้ ไม่จำเป็นต้องให้เกิดเหตุการณ์แทรกซ้อน ลากเหล่าจวินเข้ามามีเอี่ยว”
หากมีผลกระทบต่อตัวเหล่าจวินจริงๆ มีแต่ฟ้าเท่านั้นที่ทราบว่าเหล่าจวินจะสอดมือทันทีหรือไม่
ถึงแม้ไม่มีผลกระทบ เหล่าจวินจะสนใจเรื่องนี้หรือไม่ อามิตาภพุทธเจ้าก็ยากยืนยัน
ถ้าไม่มีความจำเป็น ท่านย่อมไม่ไปหาเรื่องทดลองด้วยตัวเอง
ในความจริงแล้ว การโน้มน้าวคนสำนักเต๋าจนกลายเป็นเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ ก็เป็นตัวเลือกที่ไร้ทางเลือกเช่นกัน
วิถีของพุทธะเส้นาทงนอกรีตถูกพระศรีอาริย์ยึดครองแล้ว
นพยมโลกมีระบบของตัวเอง ไม่เดินบนวิถีพลังศรัทธา
ตอนนั้นเผ่าปีศาจอยู่ใต้หนังตาของกษัตริย์บูรพาไท่อี้
ดังนั้นถ้าไม่ใช่ไม่มีทางเลือกอื่น อามิตาภพุทธเจ้าไม่มีทางเลือกจากในสำนักเต๋า นี่จะมากจะน้อยก็มีความเสี่ยงที่จะดึงไท่ซ่างเหล่าจวินเข้ามาอยู่บ้าง
ถึงแม้ว่าจนกระทั่งตอนนี้เหล่าจวินจะยังคงแสร้งเป็นหูหนวก ดูเหมือนแดนสุขาวดีตะวันตกจะเสี่ยงสำเร็จ แต่จะมากจะน้อยยังคงมีความกังวลบางส่วน
จะอย่างไรก็ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ๆ เหล่าจวินจะคิดบัญชีย้อนหลังตอนไหน
ยิ่งไปกว่านั้น เหล่าจวินไม่แน่ว่าจะไม่มีการเคลื่อนไหวจริงๆ
เยี่ยนจ้าวเกอนั่งบนเก้าอี้ ใคร่ครวญเงียบๆ
‘คัมภีร์นภาไร้ขอบเขตในวังเทพที่มีแต่เราที่เห็นได้…’ เยี่ยนจ้าวเกอครุ่นคิด ‘เราคล้ายมีการสอดประสานเหนือคนอื่นๆ ต่อวรยุทธ์สายเอกพิสุทธิ์…ควรเอาเมฆแปลงกำเนิดของท่านพ่อมารวมด้วยหรือไม่?’
ขณะเยี่ยนจ้าวเกอไตร่ตรอง นาจาที่อยู่ด้านข้างสีหน้าเหยเก กัดฟันกรอดๆ “เป็นแดนสุขาวดีตะวันตกส่งเสริม จึงทำให้เทวกษัตริย์ไร้ประมาณจุติ จนก่อเกิดมหาภัยพิบัติครั้งนั้นอย่างที่คิดไว้!”
ตอนเทวกษัตริย์ไร้ประมาณกำลังจะจุติ ได้สะกิดให้พระศรีอาริย์ตื่นตัว ลงมือขัดขวาง
สุดท้ายวังเทพพังพินาศ มหาจักรวาลถูกม้วนเข้าสู่สงคราม เป็นเหตุให้แหลกสลาย
“บัญชีแต่ละบัญชีในเรื่องราวเหล่านี้ ไม่ช้าก็เร็วพวกเราต้องทวงคืน” หยางเจี่ยนเอ่ย “แต่ว่ายังต้องอยู่กับความเป็นจริง อย่าให้ความเคียดแค้นครอบงำสมอง”
เขามองนาจา “ผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาแข็งแกร่งขนาดไหน พวกเราล้วนทราบดี ไม่จำเป็นต้องสาธยายอีกรอบ ต้องการคิดบัญชีเก่า ตอนนี้พวกเราไม่มีความสามารถ จำเป็นต้องค่อยๆ เดินไปที่สูงยิ่งกว่าทีละก้าวๆ จึงจะมีความมั่นใจมากพอ”
นาจาผงกศีรษะ “พี่ร่วมเส้นทางวางใจ ข้าทราบดี”
เขานิสัยทะนงตัว มักมือเร็วกว่าใจ ดังนั้นจึงมักมีการกระทำวู่วาม
ตอนนี้นั่งพูดคุยอยู่ในตำหนักใหญ่กับพวกเยี่ยนจ้าวเกอ ย่อมใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว
“อันดับแรก พวกเราต้องเดินก้าวต่อไปนี้ให้ดี” หยางเจี่ยนพยักหน้าให้นาจา จากนั้นเอ่ยว่า “ตอนนี้พวกเรารู้ความลับส่วนหนึ่งในตอนนั้นแล้ว ทั้งยังมีการคาดเดาจังหวะเคลื่อนไหวของใต้เท้ากษัตริย์บูรพากับอามิตาภพุทธเจ้า”
“ต่อจากนี้สมควรพิจารณาถึงปัญหาอีกข้อหนึ่งแล้ว…”
ได้ยินหยางเจี่ยนพูดถึงตรงนี้ เยี่ยนจ้าวเกอที่ก่อนหน้านี้ใช้ความคิดเงียบๆ เอ่ยต่อ “สมควรพิจารณาว่าทำไมลู่ยาเต้าจวินจึงส่งจดหมายฉบับนี้แก่พวกเรา เขาคิดใช้สิ่งนี้เพื่อให้ได้อะไร? ไม่ ไม่ถูกต้อง…”
เยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้าขึ้นมองเฟิงอวิ๋นเซิง หยางเจี่ยน นาจา “สมควรพูดว่า ใต้เท้ากษัตริย์บูรพาทำไมจึงส่งจดหมายฉบับนี้ให้พวกเรา?”
การทำความเข้าใจหยั่งเชิงเจ้ามรรคาสองคนอย่างล้ำลึกเช่นนี้ ระดับความยากด้านใน ไม่ต้องกล่าวมากความ
ในความจริง ถ้าไม่ใช่ตอนนี้พลังฝักปรือของคนในตำหนักใหญ่ต่างแข็งแกร่งมากพอ เปลี่ยนเป็นคนที่มีพลังฝึกปรือค่อนข้างต่ำ แค่การถกถึงอามิตาภพุทธเจ้ากับกษัตริย์บูรพาไท่อี้ ก็อาจทำให้อีกฝ่ายตื่นตัวแล้ว
ลู่ยาเต้าจวินส่งข้อมูลที่เกี่ยวกับเจ้ามรรคาสองคนมาที่เร้นลับขนาดนี้ ไม่บอกว่าเป็นกษัตริย์บูรพาไท่อี้เห็นด้วย อย่างน้อยก็เป็นเขาอนุญาต
เมื่อไม่มีกษัตริย์บูรพาไท่อี้ช่วยอำพราง อามิตาภพุทธเจ้าจะต้องถูกสะกิดความตื่นตัว ปฐมเทวะนพวิญญาณยังไม่มาถึงสวรรค์สำนักเต๋า ก็คงถูกขวางทาง
“ใต้เท้ากษัตริย์บูรพา บอกเรื่องในอดีตกับพวกเราเพื่ออะไรกัน?” เยี่ยนจ้าวเกอนั่งเคาะนิ้วกับพื้นโต๊ะด้านข้างเบาๆ “ไม่ว่าจะเป็นการแก่งแย่งแห่งระบบมรรคา หรือว่าเป็นหนี้ชีวิตคน โถงเซียนกับเทวกษัตริย์ไร้ประมาณเป็นศัตรูแค้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเราจริงๆ แดนสุขาวดีตะวันตกกับอามิตาภพุทธเจ้าเป็นมือมืดหลังฉาก”
“แต่นี่มิได้หมายความว่าผู้สืบทอดสำนักเต๋าเช่นพวกเราจะชี้เป็นชี้ตายกับแดนสุขาวดีตะวันตกกับโถงเซียนในระยะเวลาอันสั้นทันที ยิ่งไปกว่านั้นทางแดนสุขาวดีบัวขาวก็ไม่สะอาดหมดจด มีหนี้เลือดของสำนักเต๋าพวกเราเช่นกัน” เยี่ยนจ้าวเกอระบายลมหายใจออกยาวๆ “ใต้เท้ากษัตริย์บูรพาส่งข้อมูลให้พวกเรา เป้าหมายอยู่ที่ใด?”
………………..