ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1744 จุดจบยุคสมัย
ในตำหนักใหญ่เงียบลงอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ครุ่นคิดเพราะความซับซ้อน
พวกเขามองกันไปกันมา ต่างเห็นว่าแต่ละคนมีคำตอบแล้ว
เพียงแต่คำตอบนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกกดดันอยู่ชั่วขณะ
“การวางหมากในนพยมโลกต่อจากนี้ ไม่เพียงเกี่ยวกับการแย่งชิงวาสนาระดับมรรคาของเซียนสวรรค์มหาชาลทั้งหลายเท่านั้น ยังเป็นวินาทีตัดสินแพ้ชนะของใต้เท้ากษัตริย์บูรพาและอามิตาภพุทธเจ้าด้วย?” นาจาเลียริมฝีปากโดยสัญชาตญาณ
เยี่ยนจ้าวเกอพิงหลังกับเก้าอี้ เงยหน้ามองเพดานตำหนัก “เป็นแบบนี้จริงๆ การวากหมากในนพยมโลกอาจจะจบยุคสมัยนี้ก่อนกำหนดก็ได้!”
ตามปกติแล้ว หนึ่งยุคสมัย เท่ากับหนึ่งศักราช คือหนึ่งแสนสองหมื่นเก้าพันแปดร้อยปี
เมื่อถึงเวลา ยุคสมัยจะเปลี่ยนผ่าน เปลี่ยนฟ้าดินเอง
ผู้ที่ไม่ถึงระดับมหาชาลล้วนกลายเป็นฝุ่นกระจัดกระจาย กลายเป็นเถ้าธุลีแห่งยุคสมัยตามการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัยโชคชะตา
แม้แต่เซียนกำเนิดสุญญตาที่ห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด มีอายุขัยหนึ่งศักราช ก็จะเข้าสู่จุดสิ้นสุดของชีวิต ตกตายลงก่อน
มีแต่ผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดเหนือสุญญตาคอยดูแลประคับประคอง จึงอาจหลบพ้นมหาภัยฟ้าดินที่ตามทฤษฎีแล้ว หนึ่งแสนสองหมื่นเก้าพันหกร้อยปีจะเกิดขึ้นสักครั้งตามธรรมชาตินี้
แต่เป็นเพราะสาเหตุพิเศษบางประการ ยุคสมัยอาจเปลี่ยนผ่านก่อนกำเนิด ยุคสมัยในปัจจุบันจบลง เข้าสู่ยุคถัดไป ตอนที่ยังไม่ครบหนึ่งแสนสองหมื่นเก้าพันหกร้อยปี
อย่างเช่น ตอนที่ผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาหลุดพ้น ฟ้าดินสั่นสะเทือน มหามรรคาพลิกคว่ำ ยุคสมัยประกาศการจบลงก่อนกำหนด เริ่มการเปลี่ยนผ่าน เข้าสู่ยุคถัดไป
“นพยมโลกฝืนธรรมชาติ สร้างภัยแก่สรรพสัตว์ การวากหมากนี้ถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวใหญ่ มีความเป็นไปได้ที่จะเร่งให้ยุคนี้จบลงก่อน” หยางเจี่ยนกล่าวอย่างแช่มช้า “ใต้เท้ากษัตริย์บูรพากับอามิตาภพุทธเจ้าต่างเตรียมตัวไว้แล้ว เพื่อหลีกเลียงราตรียาวนานความฝันมากมาย พวกเขาอาจจะเร่งการมาถึงของวิธีนี้ก็ได้”
“โดยเฉพาะใต้เท้ากษัตริย์บูรพา” เฟิงอวิ๋นเซิงพูดต่อ “พระศรีอริยเมตไตรยอยู่วันหนึ่ง อามิตาภพุทธเจ้ากลับช้ากว่าใต้เท้ากษัตริย์บูรพาหนึ่งก้าว ใต้เท้ากษัตริย์บูรพาเตรียมตัวไว้สมบูรณ์แบบแล้ว จุดจบของยุคสมัยนี้ยิ่งเร็วยิ่งดี”
เพียงแต่วินาทีนั้นเมื่อมาถึง พระเมตไตรยพุทธเจ้ายังคงอยู่ ลากถ่วงเท้าของอามิตาภพุทธเจ้า เช่นนั้นกษัตริย์บูรพาไท่อี้จัได้รับชัยชนะ
ตรงกันข้าม ถ้าหากว่าการวากหมากนี้ อามิตาภพุทธเจ้ากำจัดพระศรีอริยเมตไตรยได้สำเร็จ เช่นนั้นท่านไม่จำเป็นต้องสู้กับกษัตริย์บูรพาไท่อี้ ก็จะได้รับชัยชนะเอง ผู้หลุดพ้นจะเป็นท่าน ไม่ใช่กษัตริย์บูรพาไท่อี้
“ตามคำพูดของบรมครูรวมถึงบรมครูเอกพิสุทธิ์กับเหนือพิสุทธิ์สองท่าน จำนวนที่หลุดพ้นเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นสิ่งที่จำกัด” หยางเจี่ยนพึมพำ “รายละเอียดถึงจะยังไม่แน่นอน แต่ไม่มีทางมากเด็ดขาด”
“ถูกต้อง ดังนั้นนพยมโลกจึงดึงดูดความเคียดแค้นขนาดนั้น ถ้าพวกมันทำสำเร็จ เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าสิบสองเทพมารสวรรค์จะไปด้วยกัน หกสุดยอดมารจะเปลี่ยนแปลงอย่างปาฏิหาริย์ในห้วงนาทีสุดท้าย นี่เป็นความน่าอัศจรรย์ที่จำเพาะของนพยมโลก” เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงสบตากัน กล่าวอย่างแช่มช้า
เฟิงอวิ๋นเซิงสีหน้าสงบนิ่ง ไม่ได้พูดอะไร
“ถ้าใต้เท้ากษัตริย์บูรพากับอามิตาภพุทธเจ้าต่างก็ตัดสินผลแพ้ชนะสุดท้ายในการวางหมากตานี้ที่นพยมโลก เช่นนั้นเทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับพระศรีอาริย์ไม่มีทางไม่สนใจแน่” นาจาเอ่ย “ยุคสมัยนี้พวกเขาช่วงชิงไม่ได้ ก็ต้องเตรียมตัวเพื่อยุคสมัยถัดไป”
พระศรีอาริย์กับเทวกษัตริย์ไร้ประมาณจะมีท่าทีอย่างไรกันแน่ ปัจจุบันเกรงว่ายากจะบอกให้ชัดเจน
โดยเฉพาะสำหรับเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ สภาพการณ์ละเอียดอ่อนที่สุด
พระศรีอาริย์ก็เป็นเช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่าพื้นที่ว่างในการเลือก และช่องว่างสำหรับเคลื่อนไหวของท่านมีน้อยกว่า
ท่าทีของนพยมโลกในนี้ก็ทำให้คนครุ่นคิด แน่นอนว่าสิ่งที่พวกมันต้องพิจารณามากที่สุดก็คือ ถึงคนอื่นๆ คิดจะใช้ประโยชน์จากพวกมัน แต่ว่าในห้วงนาทีสำคัญที่สุด ทุกคนจะต้องโจมตีพวกมันก่อน ไม่ยอมให้นพยมโลกล้ำเส้น
จะทำลายขีดจำกัดล่างของศัตรูอย่างไรเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์ หรือถ้าเกิดความล้มเหลว จะหยุดอย่างไร จะปกป้องตัวเองอย่างไร ก็คือปัญหาที่วางตรงหน้านพยมโลก
“ถ้าหากว่ากษัตริย์บูรพาไท่อี้กับอามิตาภพุทธเจ้าตัดสินผลแพ้ชนะสุดท้ายในการวางหมากตานี้ นพยมโลกอาจจะเป็นพันธมิตรแฝงของพวกเขา” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยเสียงเบา
อีกสามคนต่างพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
หลังจากตายไหนเลยสนใจน้ำท่วมสูงเทียมฟ้า
พูดอีกอย่างกล่าวได้ว่า หลังหลุดพ้นไหนเลยต้องสนใจนพยมโลกพลิกฟ้า?
นี่ไม่ใช่ไม่มีความเป็นไปได้ ตรงกันข้าม เป็นปัญหาที่แท้จริงข้อหนึ่ง
จริงอยู่ไม่ว่ากษัตริย์บูรพาไท่อี้หรืออามิตาภพุทธเจ้า ถึงจะหลุดพ้นจริงๆ ก็จะหนุนผู้เข้มแข็งใต้บัญชาสุดกำลัง เพื่อแย่งชิงโอกาสขึ้นสู่ระดับมรรคาในครั้งนี้
ด้านหนึ่งเป็นการผนึกรวมขุมกำลังของตัวเองไว้ก่อน ด้านหนึ่งเนเพราะทิ้งการดูแลไว้หลังตัวเองหลุดพ้น
ช่วงชิงได้ย่อมต้องช่วงชิง แต่นั่นไม่ส่งผลต่อการติดต่อแย่งตัวพันธมิตรจำนวนมากกว่าเดิมของเจ้ามรรคาสองคน
“ในสถาการณ์อื่นๆ ที่เงื่อนไขเหมือนกัน เปรียบเทียบกันแล้ว นพยมโลกจะต้องยินดีช่วยอามิตาภพุทธเจ้า” เฟิงอวิ๋นเซิงยามนี้เอ่ยขึ้น “มองอีกมุมหนึ่ง ถ้าการวางหมากตานี้ของนพยมโลกล้มเหลว พยายามปกป้องตัวเองสุดกำลัง รอคอยโอกาสครั้งต่อไป เช่นนั้นการหลุดพ้นของอามิตาภพุทธเจ้าส่งผลดีต่อพวกมันยิ่งกว่า”
พวกเยี่ยนจ้าวเกอร้องเป็นเสียงเดียวกัน “มารสวรรค์ไร้รูป!”
การแลกเปลี่ยนก่อนหน้า อามิตาภพุทธเจ้าสละอำนาจมารสวรรค์ไร้รูป ปล่อยกลับนพยมโลก
แต่ขอแค่อามิตาภพุทธเจ้ายังอยู่ มารสวรรค์ไร้รูปก็ยากจะถือกำเนิดอย่างแท้จริง
แต่ถ้าเกิดว่าอามิตาภพุทธเจ้าหลุดพ้น เช่นนั้นมารสวรรคืไร้รูปก็สามารถถือกำเนิดที่นพยมโลกได้ ทำให้นพยมโลกมีผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคา บรรพบุรุษวิถีมารอีกตนเพิ่มขึ้นมา
และการหลุดพ้นของอามิตาภพุทธเจ้า ยังหมายถึงการมรณะของพระศรีอริยเมตไตรย
เจ้ามรรคาบนโลกนอกจากวิถีมารนพยมโลกนี้หายไปสองคนพร้อมกัน สำหรับนพยมโลกที่เป็นศัตรูร่วมกันแล้ว ศัตรูแฝงที่ต้องเผชิญก็น้อยลงกว่าเดิม
“เหตุเปลี่ยนแปลงใหญ่ในครั้งนี้ ในเมื่อจะเร่งให้ยุคสมัยเปลี่ยนผ่านก่อนกำเนิด เช่นนั้นเกรงว่านพยมโลกยากจะเก็บตัวแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอตาเป็นประกายเย็นเยียบ “และไม่อนุญาตให้พวกมันพลิกพสุธามาอีก”
“ทุกคนต่างต้องการเข้าร่วม ยากจะแบ่งแยกให้ชัดเจนว่าใครเป็นมิตร ใครเป็นศัตรู สถานการณ์เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายยิ่ง” หยางเจี่ยนทางหนึ่งใคร่ครวญทางหนึ่งกล่าว
เขาสังเกตเห็นว่านาจากัดฟัน มองมายังเขา จากนั้นมองเยี่ยนจ้าวเกอและเฟิงอวิ๋นเซิง ต้องการพูดอะไรกลับหยุดไว้
หยางเจี่ยนเห็นดังนั้นก็ยิ้มขึ้น “อยากพูดอะไรก็พูดเถอะ”
“กษัตริย์บูรพาบอกให้พวกเรารู้เรื่องจริงในอดีต บอกให้พวกเรารู้ถึงสภาพการณ์ในปัจจุบันระหว่างเขากับอามิตาภพุทธเจ้า คิดแผนการอะไรอยู่ ข้าเองก็ดูออก ไม่ใช่ไม่คิดให้พวกเราช่วยเขา” นาจาว่า “มหาภัยพิบัติในอดีต สืบย้อนถึงต้นตอแล้ว ความจริงสมควรนับว่าเป็นการแย่งชิงระหว่างพวกเขาสองเจ้ามรรคา ร่วมกันสร้างภัยพิบัติของสำนักเต๋าเรา แต่เปรียบเทียบกันแล้ว ข้ายินยอมช่วยใต้เท้ากษัตริย์บูรพามากกว่า ไม่คิดช่วยอามิตาภพุทธเจ้าที่สร้างเทวกษัตริย์ไร้ประมาณด้วยมือตัวเอง”
หยางเจี่ยนมองเขา กล่าวเสียงอ่อนโยน “นอกจากเจ้ามรรคาช่วงชิงการหลุดพ้นแล้ว สหายร่วมเส้นทางระดับมหาชาลทั้งหลายก็จะแย่งชิงวาสนาการขึ้นสู่ระดับมรรคาเช่นกัน”
“ผู้ใดชนะผู้ใดแพ้ ก็จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ในยุคสมัยถัดไป กวนคนกับปัญหาหลังหลุดพ้นของเจ้ามรรคา จะมีผลลัพธ์ที่แตกต่างมากมาย ดังนั้นพวกเราจำเป็นต้องตั้งใจเลือก”
นาจาพยักหน้า ก่อนจะส่ายหน้าอย่างเคียดแค้น “ช่วยฝั่งไหนก็น่าอึดอัดทั้งนั้น!”
“บางที…” เยี่ยนจ้าวเกอยามนี้พลันพูดขึ้น “พวกเราไม่จำเป็นต้องช่วยฝ่ายไหนเลยก็ได้”
………………..