ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1745 ไม่ช่วยใครทั้งสิ้น
วาจาของเยี่ยนจ้าวเกอเพิ่งออกจากปาก สายตาของเฟิงอวิ๋นเซิง หยางเจี่ยน นาจาก็มองมาที่เขาพร้อมกัน
สามคนกลับไม่สงสัยเยี่ยนจ้าวเกอ ตรงกันข้าม ใบหน้าของพวกเขาต่างปรากฏสีหน้าเหมือนนึกอะไรออก
“ความสำคัญของพวเราอยู่ที่การแย่งชิงวาสนาระดับมรรคาของเซียนสวรรค์มหาชาลทั้งหลายในการวางหมากตานี้ของนพยมโลก” เยี่ยนจ้าวเกอดวงตาล้ำลึก “อามิตาภพุทธเจ้ากับกษัตริย์บูรพาไท่อี้ต้องการวางแผนในหมากตานี้ ที่วางแผนได้เพราะการเปลี่ยนแปลงในนพยมโลก ทำให้ยุคสมัยสิ้นสุดเปลี่ยนผ่านก่อนกำหนด”
เขาไม่ได้พูดต่อ
การพูดถึงเรื่องที่ส่งผลต่อจุดอ่อนของผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคา ไม่อาจไม่ระวัง ไม่อย่างนั้นจะดึงดูดความสนใจของอีกฝ่ายได้ง่ายดายยิ่ง
แต่ว่าคนอื่นๆ เข้าใจความนัยของเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว
“สหายร่วมเส้นทางพูดถูกต้อง ตรงกับความคิดข้าพอดี!” นาจาปรบมือกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เช่นนั้นถึงเวลา การเปลี่ยนแปลงจะใหญ่มากแล้ว” หยางเจี่ยนว่า “กุญแจสำคัญอยู่ที่ว่าผู้ใดจะขึ้นสู่ระดับมรรคาได้”
“ใครก่อนใครหลังเป็นปัญหาใหญ่” เขามองเยี่ยนจ้าวเกอ “ถ้าพวกอาจารย์อาเสวียนตูตัดสินผลแพ้ชนะได้ก่อน แต่พวกเราแพ้ในการวางหมากตานี้ ตัวเลือกบางอย่างต่อให้ไม่ต้องการ ก็จำเป็นต้องตัดสิน”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “เป็นอย่างที่พี่ร่วมเส้นทางพูด”
“ถ้าหากพวกเราทายไม่ผิด อย่างนั้นระหว่างอามิตาภพุทธเจ้ากับใต้เท้ากษัตริย์บูรพาในปัจจุบัน กลับเป็นใต้เท้ากษัตริย์บูรพามีโอกาสรุกก่อนหลายส่วน” นาจายามนี้เอ่ยขึ้น “ตามเหตุผล สมควรเป็นอามิตาภพุทธเจ้ารีบกว่า เขากลับไม่ผูกมิตรพูดกับพวกเราให้ชัด กลายเป็นกษัตริย์บูรพาให้คนส่งจดหมายมาเตือน”
ครั้งนี้พระโพธิสัตว์กวนอิมเป็นตัวแทนแดนสุขาวดีตะวันตกมาเข้าร่วมพิธี ทั้งมีความต้องการจะบรรเทาความสัมพันธ์กับผู้สืบทอดสำนักเต๋า ไม่ขาดทั้งของขวัญและมารยาท
แต่ว่าเกี่ยวกับการแย่งชิงระหว่างอามิตาภพุทธเจ้ากับกษัตริย์บูรพาไท่อี้ กลับไม่พูดถึงเลย
“เหมือนที่อวิ๋นเซิงพูดก่อนหน้า เปรียบกับพวกเราแล้ว ความจริงนพยมโลกจึงเป็นพันธมิตรที่เหมาะสมที่สุดของแดนสุขาวดีตะวันตก แน่นอนว่าระหว่างพวกเขาจะต้องมีการระวังกันและกัน” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย “อีกด้านหนึ่ง ถึงจะสืบสาวถึงที่สุด เจ้ามรรคาสองคนแข่งขันกัน พวกเรากับแดนอภิรดีศูนย์กลางล้วนเป็นเหมือนประตูเมืองติดไฟลามถึงปลาในบ่อ แต่ว่าครั้งกระโน้นเทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับมหาภัยพิบัติสุดท้ายก็เป็นแดนสุขาวดีตะวันตกทำให้เกิดขึ้น”
ในสถานการณ์ที่ไม่มีตัวเลือกอื่น การเลือกช่วยฝ่ายหนึ่งระหว่างสองฝั่ง คนในสำนักเต๋าจำนวนไม่น้อยเกรงว่าจะมีความคิดใกล้เคียงกับนาจา ยอมช่วยเหลือกษัตริย์บูรพาไท่อี้
อามิตาภพุทธเจ้ากับแดนสุขาวดีตะวันตกรู้เรื่องนี้แก่ใจดี
“พูดถึงตรงนี้ ข้าไม่อาจไม่กล่าวคำว่า ‘ยอมรับ’ ต่อทีปังกรพุทธะ” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างโมโหและขบขัน “พวกท่านดูของขวัญชี้นี้ ชั่วร้ายจริงๆ”
เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงแต่งงาน พระโพธิสัตว์กวนอิมมาเข้าร่วมพิธี ทั้งมอบของขวัญให้ เป็นน้ำทิพย์บริสุทธิ์ขวดหนึ่ง
น้ำทิพย์นี้ในโลกมีอยู่ไม่มาก ถนัดการชำระล้างขจัดสิ่งชั่วร้ายความสกปรก เป็นของวิเศษระดับสุดยอดจริงๆ เหมือนกับที่หลังจากธงวิเศษบัวเขียวถูกน้ำทะเลจากทะเลเหวนพยมโลกทำให้แปดเปื้อน ก็ใช้น้ำทิพย์นี้ทำความสะอาดได้
นอกจากของขวัญที่พระโพธิสัตว์กวนอิมมอบให้เองแล้ว ทีปังกรพุทธะกลับมีของขวัญชิ้นหนึ่งไหว้วานให้ท่านนำมา
เมื่อครู่ตอนเจอกัน พระโพธิสัตว์กวนอิมได้ส่งมอบของขวัญของทีปังกรพุทธะให้แก่เยี่ยนจ้าวเกอ
เฟิงอวิ๋นเซิงกับนาจาได้ยิน สายตามองมาอย่างสนใจ
ตอนเยี่ยนจ้าวเกอพบกับพระโพธิสัตว์กวนอิม ปฐมเทวะนพวิญญาณมาเยี่ยมพอดี ดังนั้นเยี่ยนจ้าวเกอจึงนั่งสนทนากับปฐมเทวะนพวิญญาณโดยไม่ได้หยุดพัก
ก่อนหน้านี้รับของขวัญของพระโพธิสัตว์กวนอิม ยังไม่ทันได้จัดการ เฟิงอวิ๋นเซิงกับนาจาไม่ได้เห็น กลับเป็นหยางเจี่ยนก่อนหน้าอยู่เป็นเพื่อนแขก ต้อนรับพระโพธิสัตว์กวนอิม จึงรู้เรื่องแล้ว
ได้ยินคำพูดของเยี่ยนจ้าวเกอ หยางเจี่ยนอดหัวเราะพลางพยักหน้าไม่ได้ เผยสีหน้ารู้สึกเหมือนกัน
“นี่ พวกท่านดู” เยี่ยนจ้าวเกอกางแขนเสื้อ เผยให้เห็นห่อผ้าแพรห่อหนึ่ง
เปิดห่อผ้าแพรออก มองแวบแรก ด้านในเหมือนวางด้วยเด็กอ้วนที่ยังอายุสองสามขวบ มีแขนขา และหน้าตา
นาจาเห็นดังนั้นพลันงงงัน
“ผลคน?”
เฟิงอวิ๋นเซิงถึงจะเคยเห็นผลคนในความจริงเป็นครั้งแรก แต่ก่อนหน้านี้ก็ได้เห็นรูปร่างของผลทิพย์จำนวนจำกัดของฟ้าดินแห่งนี้ผ่านรูปภาพมาก่อน จึงทราบรูปลักษณ์ภายนอกของมัน
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ในสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจีย บนเขากว่างเฉิงในฟ้าเหนือฟ้า ยังมีต้นผลคนต้นหนึ่งที่เยี่ยนจ้าวย้ายมาปลูกไว้
เพียงแต่ว่าต้นผลต้นนั้น เกิดขึ้นหลังจากการทาบกิ่งหลังกำเนิด ปราณวิญญาณอ่อนแอมาก สรรพคุณของผลจึงอ่อนลง
ส่วนผลคนสองผลที่เยี่ยนจ้าวเกอรองไว้บนมือในตอนนี้ กลับเป็นของจริง งอกขึ้นจากต้นผลคนในอารามอู่จวงบนจวนของมหาเซียนเจิ้นหยวน รวบรวมความงามทั้งหมดในฟ้าดินไว้ งดงามไร้ขอบเขต เหนือกว่าผลทิพย์ที่ได้จากต้นผลต้นนั้น
“ผลคนสดใหม่เพิ่งปลิดมาไม่นาน...” เฟิงอวิ๋นเซิงมองผลสองผลนั้น หัวคิ้วขมวดมุ่น
ต้นผลคนมีความพิสดารสุดขีด และล้ำค่าถึงขีดสุด
ยังไม่เอ่ยถึงว่าตอนปลิดผลหากพบห้าธาตุจะตายลง มีความพิถีพิถันมากมาย ถ้าไม่ระวัง ผลจะเสียเปล่า ต่อให้เป็นหลังจากเก็บมา ก็จำเป็นต้องรีบรับประทาน
ไม่อย่างนั้นถ้าปล่อยไว้นาน ผลจะแข็งอย่างรวดเร็ว ประสิทธิผลลดลงมาก รสชาติก็ย่ำแย่เช่นกัน
“ต้นผลคนของมหาเซียนเจิ้นหยวนในอารามอู่จวงต้นนั้นอยู่ที่แดนสุขาวดีตะวันตก?” เฟิงอวิ๋นเซิงขมวดคิ้วถาม
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “สมควรไม่ผิดแล้ว”
“ทีปังกรพุทธะส่งสิ่งนี้ให้พวกเรา คงไม่ใช่เพียงยึดถือเป็นของขวัญกระมัง?” เฟิงอวิ๋นเซิงถาม “เขายังมีความหมายอื่น? บอกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับมหาเซียนเจิ้นหยวนกับพวกเราหรือ?”
“ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมข้าจึงบอกว่าทีปังกรชั่วร้ายนัก” เยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “ส่งผลมาสองผล ดูเหมือนไม่พูดอะไร กลับบ่งบอกถึงอะไรสักอย่าง ให้พวกเราเดาเอง”
เดาถูกเป็นของขวัญชิ้นหนึ่ง แต่ถ้าเดาผิด เช่นนั้นเป็นไปได้ว่าจะถูกหลอกลวงแล้ว
“เจ้าทีปังกร…” นาจากัดฟัน ปรารถนาใคร่ไปหาทีปังกรพุทธะที่แดนสุขาวดีตะวันตกเพื่อคิดบัญชี ต่อสู้อีกรอบในทันที
“ว่ากันว่าอารามอู่จวงพินาศในมหาภัยพิบัติไปแล้ว เกี่ยวกับต้นผลคนก็ยังไม่มีรายละเอียด” เฟิงอวิ๋นเซิงว่า “ดูจากตอนนี้ ต้นผลคนไม่ได้ถูกทำลาย กลับถูกคนย้ายไปปลูกในแดนสุขาวดีตะวันตก แต่มหาเซียนเจิ้นหยวนเป็นอย่างไรกันแน่?”
หลังมหาภัยพิบัติ มหาเซียนเจิ้นหยวนก็หายตัวไปอีกครั้ง
จากข้อมูลที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอครอบครองอยู่ในปัจจุบัน จุดแรกเริ่มของมหาภัยพิบัติมาจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้นภายในวังเทพ และเป็นตอนที่เทวกษัตริย์ไร้ประมาณถือกำเนิด มีผู้ยิ่งใหญ่สำนักเต๋าไม่ต่ำกว่าหนึ่งเข้าขัดขวาง น่าเสียดายสุดท้ายไม่ประสบผลสำเร็จ
มหาเซียนเจิ้นหยวนเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเข้าร่วมด้วย
แต่ในทางกลับกัน เขาจึงกลายเป็นหนึ่งในบุคคลต้องสงสัยที่แปลงกายเป็นเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ
“ความเป็นไปได้สามประการ” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย “ข้อแรก มหาเซียนเจิ้นหยวนยังอยู่ แต่ว่าซ่อนตัวอยู่ในแดนสุขาวดีตะวันตกไม่เคยถามไถ่เรื่องทางโลก เหมือนกับพวกปฐมเทวะนพวิญญาณและปีศาจเสื้อคลุมเหลืองเมื่อก่อนหน้า ดังนั้นพวกเราจึงไม่เคยได้ร่องรอยของเขา”
“ข้อสอง มหาเซียนเจิ้นหยวนตายไปแล้ว ต้นผลคนตกอยู่ในมืออามิตาภพุทธเจ้าหรือเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ”
“ข้อสาม มหาเซียนเจิ้นหยวนคือเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ ต้นผลอยู่ในมือเขามาโดยตลอด”
เยี่ยนจ้าวเกอชั่งน้ำหนักผลไม้ในมือ แค่นหัวเราะกล่าวว่า “ของกลับเป็นของดีจริงๆ อดีตพุทธะท่านผู้เฒ่าก็ชั่วร้ายจริงๆ”
………………..