ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1746 ทางที่ดีแต่งงานมันทุกๆ วัน
ต้นผลคนปราณวิญญาณเข้มข้น โดยเฉพาะช่วยยืดอายุขัยได้
เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงสามีภรรยาไม่ได้ต้องการ แต่พวกเขาก็มีญาติสนิทมิตรสหาย
คนที่เหมือนพวกเขาอย่างไรก็มีน้อยสุดขีด ส่วนใหญ่แล้วล้วนปรารถนาผลคนแต่ไม่อาจหาได้
“ที่แล้วมาทีปังกรพุทธะล้วนเป็นเช่นนี้” หยางเจี่ยนกล่าวด้วยรอยยิ้มน้อยๆ “กลับไม่ทราบว่าปฐมเทวะนพวิญญาณกับลู่ยาเต้าจวินครั้งนี้ส่งของขวัญอันใด?”
เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าจริงจังขึ้นหลายส่วน เอ่ยว่า “เดิมทีปฐมเทวะนพวิญญาณมีแท่นบัวเก้าสีที่นั่งของเทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอด วันนี้ส่งของวิเศษนี้ เป็นของขวัญแต่งงานของพวกเราสามีภรรยา”
“อ้อ?” อีกสามคนต่างประหลาดใจอยู่บ้าง “นี่เหนือความคาดหมายอยู่บ้าง”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “ถูกต้อง เทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอดเสียชีวิต ของวิเศษที่เคยเป็นพาหนะของเขากลับมาได้ ทำให้พวกเราคิดถึงคนรุ่นก่อน”
ในอดีต เทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอดนั่งบนที่นั่งวิเศษบัวเก้าสีซึ่งอยู่ในป่าฟางเชียนเจ็ดรัตนะ[1] ด้านล่างสิงโตเขียวเก้าหัวตัวหนึ่งพ่นไฟ ห้อมล้อมที่นั่งวิเศษ
ยังมีแสงศักดิ์สิทธิ์เก้าสีที่วนเวียนบนฟ้า สาดแสงเจิดจ้า มีเทวดา มัลละ(ผู้ทรงพลัง) เทวราช เทพราชา ทารกทอง สตรีหยกคอยรับใช้ข้างกาย
และมีปางถือขันน้ำ กิ่งหลิว เท้าเหยียบดอกบัว รัศมีกลมสาดส่อง
แท่นบัวเก้าสีเคยเป็นหนึ่งในของวิเศษอันเป็นที่นั่งของเทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอด
กล่าวไป พระอาจารย์เสวียนตูก็นั่งบนที่นั่งบัวเก้าสี มีฉัตรกระเรียนสิบตัดขาดคลุม แต่ว่าบัวเก้าสีที่นั่งของท่าน สีแตกต่างกับบัวที่นั่งของเทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอด
เทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอดเสียชีวิต ปฐมเทวะนพวิญญาณเข้ากับเผ่าปีศาจตอนเกิดมหาภัยพิบัติ หลบพ้นภัย
ภายหลังเขาเคยตามหาที่อยู่ของเทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอด แต่ว่าไม่มีผลลัพธ์ เพียงเจอปัทมาสน์เก้าสีที่ผุพัง นำกลับเขาดาราทะเลดวงดาว
ครั้งนี้ปฐมเทวะนพวิญญาณมาเป็นแขกเข้าร่วมพิธี นำของขวัญชิ้นหนึ่งมาเพื่อเยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงสามีภรรยา ก็คือแท่นบัวเก้าสีนี้
ถึงแม้แท่นบัวจะเสียหาย ทำประโยชน์ไม่ได้มากมาย แต่ว่าในฐานะมรดกของเทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอด ปัจจุบันกลับสำนักเต๋าได้ มีความหมายไม่ธรรมดา
เยี่ยนจ้าวเกอยื่นนิ้วออกมา แสงสว่างกะพริบ จุดแสงเล็กๆ จุดหนึ่งใหญ่ขึ้นกลางอากาศ กลายเป็นดอกบัว
ขณะมองแท่นบัวเก้าสีที่เสียหายนั้น คนที่อยู่รอบๆ ต่างสีหน้าขึงขัง ประสานมือคารวะแท่นบัว ไว้อาลัยครู่หนึ่ง
“ภายหลังสร้างอารามเต๋า บูชาแท่นบัวนี้ไว้ด้านในเถอะ” เยี่ยนจ้าวเกอเก็บแท่นบัวเก้าสี กล่าวว่า “ไม่ถึงกับฟื้นฟูสภาพของวังเมี่ยวเหยียนบูรพาครั้งอดีต แต่ก็นับว่าทำให้คนรุ่นหลังของสำนักเต๋าเรามีสถานที่ที่เอาไว้สักการะเทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอด”
“เช่นนี้ก็ประเสริฐ” พวกเฟิงอวิ๋นเซิงต่างพยักหน้าเห็นด้วย
นาจาสีหน้ามิได้เคร่งขรึมขนาดนั้น ถามเยี่ยนจ้าวเกอว่า “ของขวัญของผู้อาวุโสนพวิญญาณอยู่ตรงนี้ เช่นนั้นหรือว่าลู่ยาเต้าจวินไม่มีการแสดงออกหรือ?”
“หรือมีแค่จดหมายฉบับหนึ่ง?”
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินก็ยิ้มขึ้น “ลู่ยาเต้าจวินมิได้ตระหนี่ปานนั้น แต่ว่ากับน้ำทิพย์ของพระโพธิสัตว์กวนอิมเป็นน้ำกับไฟมาเจอกัน น้ำและไฟกลายเป็นภัยพิบัติ ลางไม่ค่อยดี”
พูดจบเขาก็งอนิ้วดีด แสงไฟสีแดงทองสายหนึ่งกะพริบกลางอากาศ แวบเดียวก็หายไป
แต่ว่ากลางอากาศกลับทิ้งความร้อนไว้ เหมือนเปลือยใต้ดวงอาทิตย์ร้อนแรง
“ที่แท้เป็นแก่นไฟหลีก่อนกำเนิดบริสุทธิ์” หยางเจี่ยนเห็นแสงไฟนั้นพลันเข้าใจ กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถึงน้ำและไฟกลายเป็นภัยพิบัติ แต่ว่าพวกเจ้าสามีภรรยาแต่งงานใหม่ ภัยพิบัติก็กลายเป็นโชคลาภ มีแต่หยินหยางส่งเสริม พิณเส้อสอดประสาน”
เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงต่างหัวเราะ “ขอบคุณคำอวยพรของพี่ร่วมเส้นทาง”
“แต่ว่าแก่นไฟหลีก่อนกำเนิดนี้คล้ายให้ความรู้สึกประหลาดอยู่บ้าง…” หลังหยางเจี่ยนหยอกล้อ ก็ใคร่ครวญขึ้น
“พี่ร่วมเส้นทางความรู้สึกปราดเปรียว ข้าเองก็รู้สึกอย่างเดียวกัน” เยี่ยนจ้าวเกอพูด “เหมือนกับทีปังกรพุทธะ ของขวัญของลู่ยาเต้าจวินชิ้นนี้ก็เป็นในคำพูดมีคำพูดเช่นกัน”
“หากให้ข้าพูด ในของขวัญสี่อย่างวันนี้ กลับเป็นของชิ้นนี้ของลู่ยาเต้าจวินมีคุณค่ามากที่สุด”
เยี่ยนจ้าวเกอตาเป็นประกาย
พวกเฟิงอวิ๋นเซิงจิตใจสั่นไหว
“เกี่ยวข้องกับมารไฟปิ่งนพยมโลก มีความเกี่ยวข้องกับวิญญาณมารเมล็ดเพลิงที่ลู่ยาเต้าจวินได้จากด้านในตะเกียงเคลือบหยกมายาหรือ?” เฟิงอวิ๋นเซิงกล่าวอย่างไม่แน่ใจนัก
“พูดถูกแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “เขามอบการชี้แนะบางส่วนแก่เรา ในการวางหมากที่นพยมโลก ถ้าพวกเราลงมือได้สะดวก กลับทำให้เขาสบายเช่นกัน”
ถึงแม้ตอนแรกจะแลกเปลี่ยนกับนพยมโลก ใช้การกลับมาอย่างปลอดภัยของมารไฟปิ่ง แลกกับการช่วยเหลือลงมือช่วงชิงสารีริกธาตุศากยมุณีจากนพยมโลก แต่พอหันหลัง ลู่ยาเต้าจวินก็ขายนพยมโลกให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอ ไม่มีลังเลแม้แต่น้อย
ต่อให้ไม่นานก่อนหน้านี้ เยี่ยนจ้าวเกอจะสังหารปัทมาสน์อธิธรรมพุทธะ ฉวีซูแห่งแดนสุขาวดีบัวขาว ยังมีหนอนเก้าเศียรฝ่ายเขาดาราทะเลดวงดาวติดต่อกัน
สถานการณ์ในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงยากหยั่งคาด มิตรศัตรูยากแยกแยะเช่นนี้
“มีคุณค่ามากที่สุดจริงๆ” หยางเจี่ยนครุ่นคิดพลางพูด
น้ำทิพย์บริสุทธิ์หายาก ประสิทธิผลน่าอัศจรรย์ แต่ว่ามิได้มีความหมายพิเศษใด
ผลคนก็เป็นเช่นนี้ ความหมายที่แฝงอยู่เบื้องหลัง จำเป็นต้องให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอแยกแยะให้ถูกต้องจึงจะเกิดคุณค่า
แท่นบัวเก้าสีหลักๆ เป็นความหมายถึงการระลึกถึง
มีแต่แก่นไฟหลีก่อนกำเนิดนี้ นอกจากคุณค่าของตัวมันเองแล้ว ยังเกี่ยวข้องกับสถานการณ์บนนพยมโลกต่อจากนี้อย่างแนบแน่น มีประโยชนืไม่ธรรมดา
“แม้แต่แขกภายนอกยังมอบของวิเศษเช่นนี้ให้มากมาย ทำให้พวกเราไม่มีหน้าพบผู้คนอยู่บ้างจริงๆ” นาจาเงยหน้ามองฟ้า “ข้าสมควรเตรียมของวิเศษอีกชิ้นหนึ่ง ตอนนี้สองมือว่างเปล่า ออกจะใช้ไม่ได้อยู่บ้าง”
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะ “ไหนเลยต้องทำเช่นนั้น? ขอแค่มุกค้ำทะเลที่จดใส่บัญชีไว้ ภายหลังพี่ร่วมเส้นทางไม่ลืมก็พอ”
“นั่นลืมไม่ได้อยู่แล้ว” นาจาโบกมือ
“พิธีวันพรุ่งนี้ยังต้องรบกวนพี่ร่วมเส้นทางควบคุม” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวกับหยางเจี่ยน
“เป็นเกียรติอย่างสูง” หยางเจี่ยนพูดด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่รบกวนพวกเจ้าสามีภรรยาแล้ว”
พูดจบเขากับนาจาก็บอกลาผละไป
“การแต่งงานช่างดีจริงๆ ได้ของขวัญมาเต็มถุงเต็มถังทีเดียว” ในตำหนักใหญ่ เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยใบหน้ามีความสุข “ถ้าหากว่าแต่งงานได้วันละครั้งคงจะดีทีเดียว”
เฟิงอวิ๋นเซิงมองท่าทางโลภมากของเขา อดโมโหและขบขันไม่ได้ “หรือว่าต้องการเป็นสามีใหม่มันทุกวัน เปลี่ยนเจ้าสาวคนใหม่ทุกคืน?”
“ประโยคหลังไม่เป็นไร ประโยคหน้ายังต้องการ” เยี่ยนจ้าวเกอมองนาง หัวเราะเหะๆ “รวมกับประโยครับของขวัญทุกวันก็ใช้ได้แล้ว”
“อืม ข้าเชื่อว่าอาศัยความไร้ยางอายของท่าน ท่านสามารถกระทำเรื่องแต่งงานทุกวันเพื่อรับของขวัญได้จริงๆ” เฟิงอวิ๋นเซิงเขี่ยนิ้วข้างหนึ่งบนแก้มเบาๆ พูดกับเยี่ยนจ้าวเกอ “แต่ว่าพวกเราคล้ายมิได้มีเวลาถึงขนาดทำวันละครั้งกระมัง?”
เยี่ยนจ้าวเกอยื่นแขนไปดึงนาง หัวเราะเอ่ยว่า “น่ายินดีจะตาย”
“ถูกต้อง แต่ถ้ายึดตามประเพณีแต่งงานบนโลก ตอนนี้ท่านสมควรเจอข้าไม่ได้กระมัง?” เฟิงอวิ๋นเซิงพลันหัวเราะ หมุนตัวจากไป “เจอกันพรุ่งนี้”
เยี่ยนจ้าวเกอกอดความว่างเปล่า มิได้หงุดหงิด เบ้ปาก “พรุ่งนี้ดูว่าเจ้าจะหนีไปที่ใด!”
………………..
[1]ป่าฟางเชียนเจ็ดรัตนะ ที่อยู่ของเทียนจุนทั้งหลาย