ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1750 คู่แต่งงานวัยหนุ่มสาว
มีแสงสว่างกะพริบในสองตาของพระอาจารย์เสวียนตู แล้วลอยไปยังกลางอากาศ กลายเป็นคัมภีร์เต๋าบทหนึ่ง
ข้อความทับซ้อน ยากจะนับจำนวน หลังจากประสานกัน กลับค่อยๆ ผนึกกลายเป็นทรงกลม
ในกลุ่มแสงเหมือนมีเตาโอสถเตาหนึ่งตั้งอยู่
แต่ว่าใจแสงสว่างยุบตัวเข้าหาตรงกลาง สุดท้ายกลายเป็นยาลูกกลอนสีทองอร่ามกลมเกลี้ยงเม็ดหนึ่ง
“ขอบคุณผู้อาวุโส” เยี่ยนจ้าวเกอเก็บยาลูกกลอน ประสานมือคารวะพระอาจารย์เสวียนตูอีกครั้ง
สิบยอดวรยุทธ์สายเอกพิสุทธิ์ มีการแบ่งเป็นห้ากำเนิดแรกเริ่มและหกสิ้นสุดหลังกำเนิดเช่นกัน
ห้ากำเนิดแรกเริ่มมีหมัดแปลงกำเนิด ดัชนีเทพปฐมกำเนิด กายกาลอวกาศจุดกำเนิด ร่างไร้ประมาณสสารกำเนิดและฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิด
ห้าสิ้นสุดหลังกำเนิดได้แก่ ปราณเหลืองดำฟ้าดิน มหาวิชาครอบฟ้า คัมภีร์มนุษย์เก้าเก้าระดับ วิชาไม้เท้าไม้เท้ากวาดทำลาย รวมถึงคัมภีร์โอสถสูงส่งที่พระอาจารย์เสวียนตูเพิ่งส่งมอบให้เยี่ยนจ้าวเกอ
ชนชาวโลกล้วนทราบว่า ค่ายกลและมรรคากระบี่สำนักเต๋าต้องมองเหนือพิสุทธิ์ ส่วนวิชากลั่นโอสถเอกพิสุทธิ์เป็นอันดับแรกอย่างไม่ต้องสงสัย
เทวกษัตริย์สายเอกพิสุทธิ์เป็นผู้ให้กำเนิดมรรคาโอสถในใต้หล้า มีคุณต่อสรรพสัตว์ แม้เป็นคนที่ไม่ได้อยู่ในสำนักเต๋า ก็ได้รับประโยชน์ไร้สิ้นสุด
คัมภีร์โอสถสูงส่งเป็นคัมภีร์เต๋าบทหนึ่ง บันทึกความลี้ลับของวิชากลั่นโอสถส่วนหนึ่งของเทวกษัตริย์เต๋า
วิชาฝีมือแต่ละอย่างด้านใน มีทั้งวรยุทธ์ มีทั้งตำรับยา ต่างเป็นนอกใน โอสถและวรยุทธ์รวมเป็นหนึ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอได้รับคัมภีร์โอสถสูงส่ง ไม่เพียงได้คัมภีร์วรยุทธสายเอกพิสุทธิ์เท่านั้น ขณะเดียวกันก็มีส่วนช่วยต่อการกลั่นโอสถของเขาด้วย
ปฐมเทวะนพวิญญาณกับพระโพธิสัตว์กวนอิมที่อยู่ด้านข้างกล่าวในใจ ‘ถึงกับเป็นคัมภีร์โอสถสูงส่ง ไม่ใช่คัมภีร์มนุษย์เก้าเก้าระดับ…’
ผู้ยิ่งใหญ่สำนักเต๋าเช่นหยางเจี่ยน นาจา ไท่อี้จินหยิน จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ต่างตาเป็นประกายเล็กน้อย
เทวกษัตริย์เต๋าสายเอกพิสุทธิ์เผยหลักธรรมไปทั่วใต้หล้า มีคุณความดีสั่งสอนประชาราษฎร์
จอมยุทธ์สำนักเต๋า ขอแค่ไม่ใช่ผู้สืบทอดกระแสตรงหยกพิสุทธิ์กับเหนือพิสุทธิ์ ที่เหลือความจริงนับเป็นสายข้างของเอกพิสุทธิ์ได้ทั้งสิ้น
แม้จะเป็นสายข้างสาขาอื่นของหยกพิสุทธิ์และเหนือพิสุทธิ์ ระหว่างการพัฒนาก็มักได้รับอิทธิพลจากการสืบทอดเอกพิสุทธิ์ล้ำลึก สืบสาวถึงต้นกำเนิดยากบอกยิ่งว่านับเป็นสำนักของผู้ใด
ในทางกลับกัน เทียบกับผู้สืบทอดสายหยกพิสุทธิ์และเหนือพิสุทธิ์แล้ว ผู้สืบทอดเอกพิสุทธิ์มีจำนวนคนน้อยกว่ามาก
สิบสุดยอดวรยุทธ์สายเอกพิสุทธิ์ที่บันทึกไว้ในคัมภีร์เต้าเต๋อจิงก็มีการเผยแผ่ให้แก่คนนอกเช่นกัน เพียงแต่ว่าระหว่างแพร่หลายอยู่ด้านนอก เป็นเพราะสาเหตุหลายๆ อย่าง ก็มีสถานการณ์ขาดการส่งต่อเกิดขึ้นอีกครั้ง
แต่ว่าในนี้มีข้อยกเว้นสองอย่าง อย่างแรกคือปราณเหลืองดำฟ้าดิน อย่างที่สองคือคัมภีร์โอสถสูงส่ง
ถึงแม้จะมีตำรับโอสถกับวิชากลั่นยาที่กระจัดกระจายแพร่หลายอยู่ด้านนอก แต่ว่าคัมภีร์โอสถสูงส่งไม่เคยเผยแพร่มาก่อน ถูกเก็บไว้ในในวังแปดทัศน์กับวังดุสิตมาโดยตลอด
ในสำนักเอกพิสุทธิ์ มีแค่พระอาจารย์เสวียนตูที่พำนักอยู่ในวังดุสิตฝึกฝนคนเดียว
ปัจจุบันเยี่ยนจ้าวเกอเป็นคนที่สอง
นี่คล้ายระบุว่า หลังจากผ่านเหวลึกที่เคยตกลงไปก้นหุบ ปัจจุบันได้เห็นแสงอรุณรุ่งอีกครั้ง ผู้สืบทอดสามพิสุทธิ์ก็พัฒนาไปด้วยกันอีกขั้น
“ใกล้จะได้ฤกษ์แล้ว ตอนนี้แขกก็มาครบหมดแล้ว พวกเราเริ่มอย่างเป็นทางการเถอะ” หยางเจี่ยนยามนี้เอ่ยขึ้น
พิธีกรรมครั้งนี้มีเขาเป็นพิธีกรดำเนินพิธี ทุกคนติดตามเขาออกจากตำหนักหลังสำหรับรับแขก มาถึงในตำหนักใหญ่ที่จัดพิธี
ในตำหนักใหญ่บูชารูปปั้นบรมครูสามพิสุทธิ์ พระอาจารย์เสวียนตู จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ เจ้าแม่อู๋ตังต่างก็เป็นผู้ที่มีวัยวุฒิสุงสุดในที่นี้ จึงนั่งตำแหน่งประธาน
พระโพธิสัตว์กวนอิม ปฐมเทวะนพวิญญาณมาเป็นแขกจากแดนไกล ติดตามอยู่ด้านหลังติดๆ จากนั้นเป็นเทวกษัตริย์สำนักเต๋าคนอื่นๆ ได้แก่จักรพรรดิโกวเฉิน ไท่อี้จินหยิน สั่วหมิงจาง
หลังจากเซียนสวรรค์มหาชาลทั้งหมดนั่งลงแล้ว ก็เป็นผู้อาวุโสที่ใกล้ชิดกับเยี่ยนจ้าวเกอและเฟิงอวิ๋นเซิงที่สุดเช่นพวกเกาชิงเสวียนกับเยว่เจิ้นเป่ย
ต่อมาแขกเหรื่อเช่นเกาหาน หลิงชิง ถงซินหลิน ฟู่อวิ๋นฉือ เฉาเจี๋ยก็นั่งลงตามลำดับ
เขากว่างเฉิงในฐานะเจ้าบ้าน ย่อมนั่งลงอีกด้านหนึ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอมีบิดามารดา เฟิงอวิ๋นเซิงเป็นลูกกำพร้า ให้ฟู่เอินซูอาจารย์ผู้มีพระคุณเป็นมารดา
ในตำหนักใหญ่เหมือนกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต จุแขกที่มาแสดงความยินดีทั้งหมดในโถงเดียวได้
เยี่ยนจ้าวเกอยืนอยู่หน้ารูปปั้นสามพิสุทธิ์ ศิษย์พี่ศิษย์น้องที่มีความสัมพันธ์อันดีอย่างสวีเฟย อิงหลงถู เซี่ยกวงอยู่ด้านข้าง
ตามพิธีแล้ว สมควรเป็นผู้อาวุโสฝ่ายชายยืนเป็นเพื่อน แต่เยี่ยนจ้าวเกอกลับเลือกคนรุ่นเดียวกัน
แต่ทุกคนก็ไม่ถือสา บุคคลอย่างเขาตบแต่งคู่ร่วมเส้นทาง จะมีสักกี่คนแต่งงานเหมือนคนธรรมดา?
ถ้าเขาอยากยืนคนเดียวเดินคนเดียว ทุกคนก็ตามใจเขา
ความหมายของพิธีกรรมนี้ อยู่ที่การแต่งงาน อยู่ที่บ่าวสาว รูปแบบเป็นอย่างไร ทุกคนเดิมไม่ถือสาอยู่แล้ว
เสียงเซียนดังคลอเคล้า ตรงหน้าทุกคนสว่าง เห็นเงาร่างอ้อนแอ้นเก้าสายปรากฏขึ้น
สตรีแปดคนได้แก่พวกเมิ่งหวนและกวนอวี่ลั่วเข้ามาในตำหนักใหญ่พร้อมเฟิงอวิ๋นเซิง
เฟิงอวิ๋นเซิงใส่เสื้อคลุมผ้าแพรสีแดงตัวใหญ่ หมวกหงส์ชุดเสียเพ่ย ใบหน้าคลุมด้วยผ้าแดงคลุมศีรษะชิ้นหนึ่ง เหมือนกับเจ้าสาวที่แต่งออกตามประเพณี
เซียนสวรรค์มหาชาลทั้งหลายไม่กล่าวมากความ แม้แต่แขกคนอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ ตอนนี้ได้เห็นภาพนี้ ต่างรู้สึกสดใหม่
สำหรับพวกเขาที่มีชีวิตยาวนาน ผ่านเรื่องราวมากมาย ได้พบปะผู้คนหลากหลาย ทุกสิ่งในโลกคนธรรมดาอย่างนี้กลับแปลกหน้ามากแล้ว
โดยเฉพาะขณะมองเฟิงอวิ๋นเซิงที่ถูกผ้าแดงคลุมหน้า บางคนอดบ่นในใจไม่ได้
ถึงมองไม่เห็นใบหน้า แต่ไม่ว่าใครล้วนทราบว่า จ้าวสาวคนใหม่ที่ดูงดงาม กลับเป็นเซียนสวรรค์มหาชาลที่ขึ้นสู่จุดสูงสุดของระดับเซียนแล้วคนหนึ่ง
นอกจากนี้ยังเหี้ยมหาญสุดขีด คนที่ฆ่าทิ้งอาจไม่มาก แต่ตอนมีชีวิตล้วนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในยุคหนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงสะท้านใต้หล้า ผลคือต่างด่าวดิ้นด้วยดาบของเฟิงอวิ๋นเซิง
ความแข็งแกร่งของหุบเหวโกลาหลสูญ อย่าว่าแต่ในตำหนักใหญ่ ณ วันนี้ ทอดตามองทั่วแผ่นดิน ไม่เกินระดับมรรคา ผู้ที่เรียกว่าเป็นศัตรูของนางได้ มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้น
ตัวตนเช่นนี้ขณะนี้เป็นจ้าวสาวคนใหม่เหมือนมนุษย์ปุถุชนธรรมดา ยากจะไม่ทำให้ผู้ชมรู้สึกประหลาด
ทว่าทุกคนหันไปมองเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ตรงหน้ารูปปั้นสามพิสุทธิ์ ในใจค่อยๆ กระจ่าง
เหมือนกับเฟิงอวิ๋นเซิง เยี่ยนจ้าวเกอในวันนี้ได้แต่งชุดมงคลสีแดงเช่นกัน
เทวกษัตริย์น้อยที่ในอดีตทำให้เซียนสวรรค์มหาชาลจำนวนมากกริ่งเกรง ตอนนี้ขณะมองเฟิงอวิ๋นเซิงที่ผ้าแดงคลุมหน้า สายตาอ่อนโยนอย่างไม่เคยมีมาก่อน
คนทั้งสองมองกันแต่ไกล ถึงจะกั้นด้วยผ้าแดง แต่กลับเหมือนแลกเปลี่ยนถอยคำนับพันหมื่น
ขณะมองพวกเขาทั้งสอง จิตใจของคนที่ร่วมพิธีเหมือนได้รับผลกระทบ รู้สึกว่าฉากเหตุการณ์นี้สมเหตุสมผลแล้ว
เซียนสวรรค์มหาชาลเช่นหยางเจี่ยน สั่วหมิงจาง เจ้าแม่อู๋ตัง ไท่อี้จินหยินย่อมทราบดีว่า นี่ความจริงเกี่ยวกับระดับพลังฝึกปรือของพวกเยี่ยนจ้าวเกอ ความรู้สึกที่ร่ำร้องเคลื่อนไหวกลับส่งผลต่อโลกความจริง ถึงขั้นมีอิทธิพลต่อสภาพจิตใจของคนอื่นๆ
ทว่าในวินาทีนี้ พวกหยางเจี่ยนย่อมยินดีปล่อยผ่าน มองเรื่องยิ่งใหญ่ที่หมื่นปียากพบพานตรงหน้าร่วมกัน
พวกสตรีอย่าเมิ่งหวานรอยล้อมเฟิงอวิ๋นเซิงก้าวเดินขึ้นหน้า มาถึงตรงหน้ารูปปั้นสามพิสุทธิ์
คนที่เหลือล้วนแยกตัว เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวยืนเคียงกัน ชายอยู่ซ้ายหญิงอยู่ขวา
นาจาที่ชมชอบความคึกครื้น ชิงแย่งหน้าที่โฆษกพิธี ตะโกนเสียงดัง “หนึ่งกราบฟ้าดิน!”
ขณะที่กราบฟ้าไว้ดิน ความจริงเทียบกับกราบไว้บรมครูสามพิสุทธิ์
เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงกราบไหว้พร้อมกัน
คนทั้งสองแก่นเซียนและบุปผาเซียนรวมตัว ทำให้โลกทั้งใบเหมือนร่ำร้องเคลื่อนไหว สวรรค์จู๋ลั่วหวงเจียกำลังสั่นสะเทือน ราวกับทั่วฟ้าร่วมยินดี
………………..