ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1757 เจ้ามรรคาแย่งชิงกัน
บนนพยมโลก สถานที่ที่คล้ายไม่อาจเอื้อมถึง บัวเขียวดอกหนึ่ง บัวขาวดอกหนึ่ง ประตูหยกบานหนึ่ง ระฆังโบราณใบหนึ่งปรากฏขึ้นตามลำดับ
ตอนนี้อามิตาภพุทธเจ้า พระศรีอริยเมตไตรย เทวกษัตริย์ไร้ประมาณ กษัตริย์บูรพาไท่อี้ ผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาทั้งสี่ พากันลงมาถึงนพยมโลก
เขตมารนพยมโลกที่ตอนแรกเต็มไปด้วยแรงกดดัน ภายใต้การครอบคลุมของพวกเขา ความแปรปรวนเด่นชัดกว่าเดิม
ไม่เพียงแต่ชายฝั่งยมโลกกำลังหดหาย ถึงขั้นแม้แต่เขตมารนพยมโลกเริ่มสั่นไหวไม่สงบ
มีเพียงส่วนลึกของนพยมโลก ท้องทะเลผืนหนึ่งมีน้ำทะเลสีดำสนิท ยังคงราบเรียบดุจกระจก มองไม่เห็นคลื่นน้ำระลอกคลื่น ราวกับทวีปที่ผนึกตัวกัน
ด้านใต้ผิวมหาสมุทรสีดำอันราบเรียบ มิติเวลาซ้อนทับเปลี่ยนแปลง ยากจะทราบถึงเลศนัย
คล้ายกับว่าหาก ‘มุ่งลง’ ตลอดทาง จะเป็นโลกที่สูงล้ำใบแล้วใบเล่า
ยิ่งไปถึงส่วนลึก ยิ่งลี้ลับเก่าแก่ กระชากขวัญวิญญาณ และเหมือนสถานที่ที่ไม่อาจเอื้อมถึง ตั้งตรงข้ามกับเจ้ามรรคาทั้งสี่เหนือนพยมโลก
ณ ที่แห่งนั้น คล้ายมีเสาสิบสองต้นกระจายกันตั้งอยู่ เรียงกันไม่มีแบบแผน สูงต่ำหยาบละเอียดไม่เหมือนกัน ราวกับว่าไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ ให้พูดถึง
บนเสาสิบสองต้นเดิมทีว่างเปล่า ตอนนี้ทั้งหมดล้วนมีภาพเงาเดี๋ยวสูญหายเดี๋ยวปรากฏ
โดยเฉพาะตรงกลางมีคันฉ่องสีดำใบหนึ่ง เงียบสงัดไร้เสียง สะท้อนภาพด้านนอกนพยมโลก
ถึงแม้เรื่องราวที่เกิดขึ้นด้านนอกจะปรากฏแต่สายตา แต่ว่าสิบสองเทพมารสวรรค์บนเสาสิบสองต้นในส่วนลึกของหุบเหวทะเลมารนพยมโลก คล้ายมองไม่เห็น
เงาลวงมากมายบนยอดเสาต่างสาดประกายแสงสีแดงออกมา แดงฉานราวเลือด
ประกายโลหิตเหล่านี้พากันตกลงไปกลางความมืดด้านล่าง เหมือนลึกจนไม่เห็นก้น
แต่ว่าไม่ทันไร ประกายโลหิตที่เข้มข้นก็สะท้อนกลับมาจากเบื้องล่าง
เหมือนกับเลือดสดๆ เติมเต็มบึงเลือด ค่อยๆ ยกตัวขึ้น สุดท้ายเอ่อล้น ประกายโลหิตกลืนกินเสาสิบสองต้นนั้น
จากนั้นเห็นส่วนลึกของหุบเหวทะเลมารนพยมโลก ประกายโลหิตทะลัก เกาะเกี่ยวกันเป็นอักขระอาคมที่มีสิบสองขีดกลางอากาศ มองไปเรียบง่าย แต่ลี้ลับไร้ขอบเขต
ทะเลเลือดที่ยิ่งใหญ่ แสงสว่างสาดขึ้นด้านบน ทะลุหุบเหว ทะลุผิวทะเลของทะเลดำ ทะลุเขตมารนพยมโลก
ผู้คนที่รวมกันอยู่ด้านนอกเขตมาร ถูกประกายโลหิตนั้นส่องใส่ ต่างเกิดความรู้สึกอึดอัด
ถึงจะเป็นผู้อยู่บนมหาชาล ถูกประกายโลหิตสาดใส่ จิตใจเกิดความหงุดหงิดรุ่มร้อน
“ดูถูกไม่ได้จริงๆ ด้วย” เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งสร้างความมั่นคงให้แก่สภาพจิตใจของตัวเอง ทางหนึ่งสังเกตเฟิงอวิ๋นเซิงที่อยู่ด้านข้าง
เทียบกับคนอื่นๆ เฟิงอวิ๋นเซิงสบายกว่ามาก
นี่ไม่เกี่ยวกับพลังของนาง แต่เป็นเพราะว่าการเชื่อมต่อระหว่างนางกับนพยมโลกยังไม่ขาดสะบั้น
เฟิงอวิ๋นเซิงมิได้หงุดหงิดรุ่มร้อนเหมือนคนอื่นๆ กลับมีความรู้สึกผ่อนคลาย รู้สึกได้ว่าประกายโลหิตนั้นกำลังดึงดูดนาง ทำให้นางอดเกิดความคิดเข้าหามันไม่ได้
นี่ย่อมเป็นสภาพที่ไม่ปกติอย่างหนึ่ง
เฟิงอวิ๋นเซิงรักษาความกระจ่างในจิตใจ กดทับการสั่นไหวที่แปลกประหลาดนั้น
นางสัมผัสได้ถึงสายตาของเยี่ยนจ้าวเกอ ส่ายหน้าเบาๆ บอกว่าตัวเองไม่มีอุปสรรคใหญ่โต
ผ่านไปหลายปี บ้างเป็นนางคลำทาง บ้างเป็นพวกเยี่ยนจ้าวเกอกับหยางเจี่ยนช่วยเหลือ ต้องการสะกดผลกระทบหลงเหลือจากนพยมโลกเพิ่มมาโดยตลอด สิ่งที่ได้มาเป็นที่เห็นได้
“เช่นนั้นก็ดี” เห็นเฟิงอวิ๋นเซิงไม่เป็นไร เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าเอ่ย “ยังไม่ใช่เวลาที่พวกเราจะลงมือ อดทนรอคอยไปก่อน”
เขาเงยหน้ามองด้านบนนพยมโลก มองบัวเขียว บัวขาว ประตูหยก ระฆังโบราณที่ลอยอยู่ตรงนั้น
อามิตาภพุทธเจ้ามีการเคลื่อนไหวเป็นคนแรก
ปรากฏสารีริกธาตุชิ้นหนึ่งบนดอกบัวสีเขียว สารีริกธาตุเปล่งแสงที่ไม่โดดเด่นสายหนึ่งออกมา
แต่ว่าแสงนั้นส่องผ่านนพยมโลก สาดไปในหุบเหวลึก ถึงกับทะลุทะเลเลือด ส่องใส่เสาสิบสองต้นนั้น
เส้นแสงหาคันฉ่องสีดำเจออย่างแม่นยำ ส่องใส่ผิวคันฉ่อง
บนคันฉ่องผนึกประกายกระจกสีขาวบริสุทธิ์สาดออกไป สกัดเส้นแสงสารีริกธาตุ หยุดยั้งไม่ให้อีกฝ่ายส่องใส่ตัวคันฉ่อง
อยู่ในนพยมโลก ทั้งมีทะเลเลือดและตราอาคมสิบสองเส้นเสริมพลัง แสงกระจกสีขาวบริสุทธิ์กั้นเส้นแสงสารีริกธาตุไว้ด้านนอกได้โดยสมบูรณ์ ยากจะรุกคืบอีก
ทะเลเลือดขยายตัวอีกครั้ง กำลังจะล้นออกไปด้นนอกหุบเหวทะเลมารนพยมโลก
ทว่าในเวลาเดียวกัน ระฆังสำริดสั่นไหวเบาๆ เสียงระฆังดังขึ้น
ลวดลายคลื่นอันไร้รูปร่างกระเพื่อมอยู่ในนพยมโลก
หมอกดำที่พลิกตัวเหมือนผนึกตัว สายฟ้าสีแดงที่กะพริบกำลังจะหยุด
น้ำทะเลในทะเลดำซึ่งตอนแรกสงบนิ่งเริ่มพลิกตัว สภาวะของประกายโลหิตเทียมฟ้าซึ่งตอนแรกทะลักขึ้นด้านบนอ่อนโทรมในทันใด
อามิตาภพุทธเจ้ากับกษัตริย์บูรพาไท่อี้ที่ต่อสู้กัน ตอนนี้ร่วมมือกัน!
ในสถานการณ์ที่กษัตริย์บูรพาไท่อี้ลงมือสะกดการเปลี่ยนแปลงของเขตมารนพยมโลก ความสามารถของอามิตาภพุทธเจ้าก็พลันมีพลังเพิ่มขึ้น
เส้นแสงสารีริกธาตุชิ้นนั้นยืดตัวใหม่ ทำให้มารสวรรค์ไร้พันธนาแบ่งสมาธิไม่ได้ จำเป็นต้องรับมือด้วยพลังทั้งหมด
ในความไร้รูปร่าง มารสวรรค์ไร้พันธนากับทะเลเลือดถูกเฉือนออกมา
แม้จะไม่ถึงขั้นต่างฝ่ายต่างสู้ แต่ความสัมพันธ์ของสองฝ่ายก็มิได้แนบแน่นเท่าก่อนหน้า
ได้รับผลกระทบเช่นนี้ สภาวะขยายตัวของทะเลเลือดก็อ่อนลงอีกขั้นหนึ่ง
ตรงนี้ลดตรงนั้นเพิ่ม กลายเป็นวัฏจักรชนิดหนึ่ง สภาวะขยายตัวของทะเลเลือดยิ่งอ่อนแอ กษัตริย์บูรพาไท่อี้สะกดการเคลื่อนไหวของมันได้ราบรื่นกว่าเดิม ทั้งทำให้การต่อสู้ระหว่างอามิตาภพุทธเจ้ากับมารสวรรค์ไร้พันธนากลายเป็นการดวลเดี่ยว
พระพุทธเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดบนโลกท่านนี้แสดงความสามารถแท้จริงในความสงบนิ่ง สะกดมารสวรรค์ไร้พันธนาโดยไม่มีความผิดพลาดแม้แต่น้อย!
บางทีนพยมโลกอาจกลายเป็นผู้ช่วยในการรับมือแดนสุขาวดีบัวขาวของแดนสุขาวดีตะวันตก
ก่อนหน้านั้น ไม่ส่งผลต่อการลงมือของอามิตาภพุทธเจ้าแม้แต่น้อย
นพยมโลกไม่ละทิ้งค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์แม้เพียงวินาที จะกลายเป็นเป้าหมายอันดับแรกของขุมกำลังต่างๆ
ไม่ว่าอามิตาภพุทธเจ้ากับกษัตริย์บูรพาไท่อี้ต่างก็ยินดีจะอาศัยมันเร่งการกำเนิดเจ้ามรรคาคนใหม่ที่เป็นของขุมกำลังตัวเองอย่างแท้จริง
นั่นเป็นผู้ช่วยที่น่าเชื่อถือกว่านพยมโลก
นพยมโลกละทิ้งค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ อามิตาภพุทธเจ้าค่อยคิดถึงตัวเลือกอย่างอื่น
สำหรับนพยมโลกแล้ว ถ้าทำให้ค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์เสร็จสมบูรณ์ได้ เช่นนั้นจะเปลี่ยนแปลงวิถีของโลกได้โดยสิ้นเชิง ถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆ ไหนเลยจะถอยง่ายๆ?
“สิบสองเทพมารสวรรค์อย่างไรก็ขาดพร่องไม่สมบูรณ์ กางค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ ยากจะแสดงความสามารถด้วยพลังทั้งหมด” พระอาจารย์เสวียนตูโผล่ขึ้นด้านข้างพวกเยี่ยนจ้าวเกอ มองไปด้านบนนพยมโลกเช่นกัน
ณ ที่แห่งนั้น บัวขาวกับประตูหยกยังคงไม่มีการเคลื่อนไหว ต่างฝ่ายต่างสะกดกัน แต่ก็คอยป้องกันสภาพการณ์ฉับพลันอื่นๆ พร้อมกัน
อาจเป็นนพยมโลก และอาจเป็น…สำนักเต๋าสายหลัก!
“สิ่งที่พึ่งพาได้ซึ่งดีที่สุดในปัจจุบันของพวกเรา ย่อมเป็นค่ายกลลงทัณฑ์เซียน” เยี่ยนจ้าวเกอมองนพยมโลก “แต่ถ้าพวกเราเสี่ยงชิงลงมือก่อน ยากบอกยิ่งว่าพวกเขาจะหันหน้ามาผนึกกำลังรับมือพวกเรา เด็ดกระบี่ทำลายค่ายกลก่อนหรือไม่”
พระอาจารย์เสวียนตูสีหน้าเป็นปรกติ พยักหน้าเล็กน้อย
คิดหยิบเกาลัดในกองไฟ ย่อมไม่อาจรีบร้อน
แต่ถ้าลงมือช้าไป ผลคือจะได้แต่ใช้สายตามองอีกฝ่ายประสบความสำเร็จ
พูดไปรวบรัด จะควบคุมความสำคัญด้านในอย่างไร กลับยากยิ่งกว่าปีนป่านสวรรค์
นพยมโลกตรงหน้าได้รับผลกระทบจากกษัตริย์บูรพาไท่อี้ สั่นสะเทือนไม่หยุด
แต่สำหรับคนจำนวนมากแล้ว นี่เป็นโอกาสในการเคลื่อนไหว
ทว่าผู้ยิ่งใหญ่สำนักเต๋าทั้งหลายยังคงรักษาความสุขุม เหมือนกับตอนที่นพยมโลกชิงคนจากแดนสุขาวดีบัวขาวผละไปเมื่อก่อนหน้า ใช้สายตามองดูทีปังกรพุทธะกับลู่ยาเต้าจวินปรากฎตัว บัญชาเหล่ายอดฝีมือ แยกกันเข่นฆ่าเข้าหานพยมโลก!
………………..