ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1758 โปรดมารทั้งทำลายมาร
ปรากฏเงาร่างของนาจาขึ้นกลางความว่างเปล่า กัดฟันกรอดขณะมองนพยมโลก
ก่อนหน้านี้ไม่นานทีปังกรพุทธะที่อาศัยข้ออ้างรักษาอาการบาดเจ็บ แขวนป้ายไม่สู้ในแดนสุขาวดีตะวันตกไม่ยอมออกมา ตอนนี้บัญชาเหล่าพุทธะแห่งแดนสุขาวดีเข้าไปในนพยมโลกก่อนใคร
ด้านหลังศีรษะท่านมีแสงพุทธกลมสมบูรณ์สว่างขึ้น ตะเกียงโบราณสามใบปรากฏขึ้นในแสงพุทธพร้อมกัน แสงตะเกียงสั่นไหว สาดส่องเขตมารมืดมิด ขับไล่ควันดำ
ไฟตะเกียงสีทองในนี้สั่นไหวเบาๆ เหมือนกับบังเกิดแรงดึงดูดไร้สิ้นสุด ดูดจอมมารจำนวนมากที่เคลื่อนไหวในนพยมโลกเข้าไปด้านใน
มารร้ายนพยมโลกเข้าไปในไฟตะเกียงสีเทา พลันหายไป เหลือเพียงควันบางลอยอ้อยอิ่ง
อีกด้านหนึ่ง ลู่ยาเต้าจวินที่สวมงกุฎหางปลา ใส่เสื้อคลุมสีแดงตัวใหญ่ เหยียบย่างเข้าสู่เขตมารนพยมโลกเช่นกัน
สภาพในตอนนี้ของเขาแตกต่างกับก่อนหน้า
ทั่วทั้งร่างปรากฏเปลวไฟจางๆ แต่ว่าต่างจากไฟหลีก่อนกำเนิดสีแดงทอง เป็นสีเขียวหมึกผืนหนึ่ง พร่ามัวไม่เป็นมงคล
ภายใต้การครอบคลุมของแสงมาร ลู่ยาเต้าจวินขณะย่ำเดิน เหมือนเผาผลาญเส้นทางสายหนึ่งในนพยมโลก สถานที่ที่เดินไปถึง ควันมารที่สั่นไหวรุนแรงรวมกับเปลวไฟสีเขียวหมึกนั้น ทำให้ลู่ยาเต้าจวินเหมือนกับหุบเหวลึก กลืนกินทุกสิ่งที่อยู่รอบๆ
เหล่ามารแห่งนพยมโลกพากันหลีกหนีกไม่กล้าเข้าใกล้ แต่ถูกไฟมารสีเขียวหมึกม้วนใส่ ถูกกลืนหายไป
“ทำลายมารคือการโปรดมาร การโปรดมารก็เป็นการทำลายมารเช่นกัน” ไท่อี้จินหยินมองนพยมโลก “ทีปังกรคิดจะชำระล้างมารนพยมโลก สำเร็จบุญใหญ่ ขึ้นสู่ระดับมรรคา”
“ถูกต้อง ตอนนี้เบื้องต้นต่างเห็นเงื่อนงำออกส่วนหนึ่งแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “ลู่ยาเต้าจวินเดินบนเส้นทางประหลาด บุพกาลเป็นปีศาจ โบราณตอนต้นเป็นเต๋า โบราณตอนกลางเป็นพุทธ ยุคสมัยนี้จะเข้าสู่วิถีมาร แต่ว่าสิบสองเทพมารสวรรค์มีสภาวะมาก ดังนั้นไม่อาจไม่ทำลายภัยพิบัติมาร กำจัดอุปสรรคสุดท้าย เพื่อสำเร็จระดับมรรคาโดยตรง”
ไท่อี้จินหยินถอนใจกล่าวว่า “นพยมโลกควบคุมการดับสูญ อยู่ตรงข้ามกับสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ สถานการณ์ในปัจจุบัน กลับเป็นสรรพชีวิตต้องการให้นพยมโลกสิ้นสูญ”
“จอมมารตนอื่นความจริงไม่มีความสำคัญ กุญแจสำคัญคือเหล่ามารในหุบเหวทะเลมารนพยมโลกเสื่อมโทรมลงพร้อมกัน จึงนับได้ว่าโปรดเหล่ามารแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวพลางมองไปที่นพยมโลก
เป็นอย่างที่คาด เห็นทีปังกรพุทธะกับลู่ยาเต้าจวินแม้จะโปรดมารทำลายมาร แต่ว่าก็ไม่สนใจพวกมารในนพยมโลกนัก มุ่งหน้าเข้าหาทะเลเหวใจกลางเขตมารโดยตรง
เหล่ามารนพยมโลกที่พลังฝึกปรือกลางค่อนต่ำ แต่จำนวนมากมายเหลือคณานับ ต่างมอบให้โถงเซียนกับแดนสุขาวดีบัวขาว
สำหรับเส้นทางนอกรีตสองเส้นทาง การโปรดมารร้าย ทำให้พวกมันหันมานับถือ เอาพลังศรัทธามาได้เหมือนกัน
นพยมโลกอยู่ตรงข้ามกับมหาจักรวาล จำนวนมารร้ายถึงเทียบกับสรรพชีวิตไม่ได้ แต่ก็มีอยู่นับไม่ถ้วน โถงเซียนกับแดนสุขาวดีบัวขาวชำระล้างพวกมัน ประโยชน์ไม่อาจคาดคำนวณ
กระนั้นจะสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์การต่อสู้สุดท้ายในหุบเหวทะเลมารนพยมโลก
“ถึงจุดออกตัวจะต่างกัน แต่เป้าหมายสุดท้ายที่ทีปังกรพุทธะกับลู่ยาเต้าจวินคิดทำให้สำเร็จเบื้องต้นอยู่ใกล้แล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอหยีตา “แต่ปัญหาคือถึงเป้าหมายจะเหมือนกัน กลับไม่ได้บอกว่าถ้าเป้าหมายบรรลุจะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย ใครทำทุกสิ่งนี้ได้อย่างแท้จริง ผู้นั้นก็ได้ประโยชน์ ก้าวเท้าก้าวสุดท้ายได้”
อามิตาภพุทธเจ้ากับกษัตริย์บูรพาไท่อี้ร่วมมือกันสะกดมารสวรรค์ไร้พันธนากับนพยมโลก สร้างเงื่อนไขในแก่คนเบื้องล่าง
แต่ว่ารายละเอียดต่อจากนี้จะจัดการอย่างไร สองฝ่ายกลับต้องเริ่มแย่งชิงกันแล้ว
ทีปังกรพุทธะกับลู่ยาเต้าจวินลงไปถึงด้านบนหุบเหวทะเลมารนพยมโลกพร้อมกัน
ด้านหลังของแต่ละฝ่าย พระโพธิสัตว์กวนอิม มหาสถามปราบต์โพธิสัตว์ เผิงท่องเมฆหมื่นลี้ หยวนหง ราชาปีศาจกระทิง เหล่าผู้เข้มแข็งแยกเป็นสองฝั่ง คุมเชิงกัน
ด้านล่าง ท้องทะเลสีดำสนิทไม่สงบ เสียงระฆังอึงอล ผิวทะเลพลิกตัวกระเพื่อมไม่หยุด
สามารถเห็นส่วนลึกของหุบเหวทะเลมีประกายโลหิตกะพริบต่อเนื่องผ่านทะเลสีดำ
ตอนนี้หุบเหวทะเลเหมือนถูกแบ่งชั้น น้ำทะเลชั้นบนเป็นสีดำ น้ำทะเลชั้นล่างเป็นสีแดง
ทะเลเลือดต้องการทะลักขึ้นด้านบนไม่หยุด แต่ถูกอามิตาภพุทธเจ้ากับกษัตริย์บูรพาไท่อี้ร่วมมือกันกดไว้
นอกจากสิบสองเทพมารสวรรค์แล้ว ไม่เห็นร่องรอยเทพมารมหาชาล และพญามารสุญญตาตนอื่นๆ ในนพยมโลก ซ่อนตัวอยู่ในส่วนลึกของทะเลเหว ไม่โผล่หัวออกมา
ตอนนี้ผู้เข้มแข็งมหาชาลระดับสุดยอดแห่งนพยมโลกเช่นมารจิตแรกเริ่ม มารเงา มารทรายล้วนรีบกางค่ายกล ขาดพวกมันไป นพยมโลกยากจะเผชิญกับผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดอย่างทีปังกรพุทธะ และลู่ยาเต้าจวินซึ่งจู่โจมด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงหลบคมแหลม หดการป้องกัน รวบรวมพลังไว้ที่ค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์
ทว่าโดนอามิตาภพุทธเจ้าและกษัตริย์บูรพาไท่อี้ผนึกกำลังสะกด ทะเลเลือดด้านล่างหุบเหวพลันถูกจำกัด
พวกทีปังกรพุทธะกับลู่ยาเต้าจวินลง ‘ด้านล่าง’ เข้าไปในหุบเหวลึกโดยไม่เกรงใจแม้แต่น้อย
“พระพุทธองค์เมตตา” ไฟตะเกียงสีเทาในแสงพุทธกลมสมบูรณ์ด้านหลังทีปังกรพุทธะเจิดจ้าอย่างฉับพลัน
หย่อมไฟลอยออกมาจากในแสงพุทธ เกาะเกี่ยวในทะเลลึกสีดำสนิท ปรากฏอักขระตัว ‘卍’ ตกลงด้านบนทะเลเลือด
ลู่ยาเต้าจวินทั่วตัวเปล่งแสงเช่นกัน ไฟมารสีเขียวหมึกลอยขึ้น คนเหมือนกลายเป็นดวงอาทิตย์ร้อนแรงสีเขียวหมึกดวงหนึ่ง สาดส่องทะเลเลือด
มารดับสูญเกิดใหม่ ไร้สิ้นสุด
ด้วยความสามารถของทีปังกรพุทธะและลู่ยาเต้าจวิน อาจมีวิธีสังหารจอมมารตนอื่นๆ โดยสมบูรณ์ หรือสะกดพวกมันไม่ให้คืนชีพ แต่ว่าในนี้ย่อมไม่รวมหกสุดยอดมาร
ต่อให้พวกเขาสังหารจอมมารอย่างมารจิตแรกเริ่มและมารเงาได้จริงๆ อีกฝ่ายก็แค่ต้องรอจังหวะเวลาที่จะคืนชีพกลับมาในครั้งหน้า
ทว่าตอนนี้แตกต่าง
ค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์กางขึ้น จะเป็นนาทีที่นพยมโลกแข็งแกร่งที่สุด
แต่ว่าเรื่องราวล้วนมีสองด้าน ก่อนหน้านั้นเป็นโอกาสของพวกทีปังกรพุทธะกับลู่ยาเต้าจวิน
เพียงแต่โอกาสมีเพียงหนึ่ง ระหว่างทีปังกรพุทธะกับลู่ยาเต้าจวินยังต้องตัดสินสูงต่ำ
“เต้าจวิน ล่วงเกินแล้ว” ทีปังกรพุทธะพนมมือไหว้ลู่ยาเต้าจวิน
จากนั้นเห็นมุกค้ำทะเลสิบแปดชิ้นลอยขึ้น เส้นแสงห้าสีกะพริบ ทำให้ตาลาย ทั้งสะกดวิญญาณ
แทบเป็นในเวลาเดียวกัน ลู่ยาเต้าจวินเซ่นน้ำเต้าใบหนึ่ง
ปากน้ำเต้ามีเส้นแสงสายหนึ่งโผล่ขึ้น สูงสามจั้งกว่าๆ ในแสงปรากฏวัตถุอย่างหนึ่ง ยาวเจ็ดชุ่นมีห้าส่วน มีคิ้วมีตา มีสองปีก แสงสีขาวสองสายในดวงตาครอบคลุมมา เป้าหมายคือทีปังกรพุทธะ
เป็นมีดบินสังหารเซียน!
“เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเขาจริงๆ ด้วย” ร่างของหยางเจี่ยนโผล่ขึ้นด้านข้างพวกเยี่ยนจ้าวเกอ ยิ้มแย้มขณะมองลู่ยาเต้าจวินในนพยมโลก
คนในสำนักเต๋าอย่างพวกเยี่ยนจ้าวเกอ เฟิงอวิ๋นเซิง นาจาหันไปมองเขา
หยางเจี่ยนโบกมือ “น้ำเต้าที่ข้าเหี่ยวไปแล้ว สงสัยสมควรเป็นลู่ยาหลอมมีดบินสังหารเซียนอีกชิ้นสำเร็จ แต่ว่าดูเหมือนแม้อาศัยความสามารถของลู่ยา คิดหลอมขึ้นใหม่ จำเป็นต้องใช้เวลานาน”
ในนพยมโลก ทีปังกรพุทธะเห็นมีดบินสังหารเซียน ไม่กล้าชะล่าใจ รีบร้อนหลบหลีก
เพียงแต่เช่นนี้ กลับยากหลบพ้นแสงสีขาวสองสายที่สาดขึ้นจากมีดบินสังหารเซียน
ในแสงพุทธกลมสมบูรณ์หลังศีรษะท่าน ไฟตะเกียงสีเทาก่อนหน้านี้แสดงยันต์อาคมสะกดทะเลเลือด แต่ตอนนี้ได้แต่หยุดลงก่อน
ในตะเกียงโบราณสีเทา เงาลวงสายแล้วสายเล่าลอยออกมา
เงาลวงเหล่นี้รบกวนแสงขาวสองสายนั้น ทำให้ทีปังกรพุทธะหลบพ้นความแหลมคมของมีดบินสังหารเซียนได้
ลู่ยาเต้าจวินที่อยู่ตรงข้ามเผชิญการกระแทกติดต่อกันจากมุกค้ำทะเลสิบแปดชิ้น ถูกกดดันให้หยุดการสะกดทะเลเลือดของไฟมารสีเขียวหมึก กลายเป็นรุ้งหลบหลีก