ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1762 หมากสังหารระดับมรรคา
บรรยากาศรอบๆ ผนึกแข็งชั่วขณะ
ลู่ยาเต้าจวินกลับไม่ได้มองมหาวิทยราชมยุรีและทีปังกรพุทธะ เงยหน้าขึ้นมองพระศรีอาริย์ที่อยู่นอกนพยมโลก
เวลานี้ได้ยินเสียงมนตราบทสวดแว่วออกมาจากในบัวขาวบนนพยมโลก
เสียงมนตรายิ่งใหญ่กังวาน ได้ยินครั้งแรกยากเข้าใจความหมาย เพียงรู้สึกลี้ลับน่าประหลาด แต่ไม่ทันไรในใจผู้คนก็เหมือนเกิดเสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกัน
“ผ่านวันนี้ได้ จะให้วิทยราชสมความปรารถนา”
ทุกคนล้วนสั่นสะท้าน มหาวิทยราชมยุรีประนมมือ “ขอบคุณพระศรีอาริย์ทรงเมตตา”
เสียงนั้นถึงกับเปล่งจากพระศรีอริยเมตไตรย สัญญาว่าขอแค่ผ่านสถานการณ์ของนพยมโลกในวันนี้ไปได้ จะมอบสารีริกธาตุศากยมุณีชิ้นสุดท้ายให้มหาวิทยราชมยุรี ไม่สร้างความลำบากให้
วาจาเช่นนี้ตัดความกระอักกระอ่วนระหว่างข่งซวนและเผ่าปีศาจ
อีกด้านหนึ่ง การวางหมากในนพยมโลก ณ วันนี้ได้ยึดมหาวิทยราชมยุรีกับแดนสุขาวดีบัวขาวบนเรือลำเดียวกันแล้ว
มหาวิทยราชมยุรีสีหน้าสงบราบคาบ แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีไหลเวียนทั่วร่าง มองทีปังกรพุทธะ สาวเท้าไปเบื้องหน้า
เหล่าพุทธะแห่งแดนสุขาวดีตะวันตกยากต้านทาน ได้แต่ถอยหนี
“รบกวนสหายร่วมเส้นทางแล้ว” ลู่ยาเต้าจวินขึ้นหน้า ไฟมารเขียวหมึกหลอมเปลี่ยนทะเลเลือด ขณะเดียวกันส่งกระแสเสียง “จำเป็นต้องระวังผู้สืบทอดสามพิสุทธิ์
มหาวิทยราชมยุรีพยักหน้าโดยไร้เสียง ใช้สภาวะหนึ่งคนขวางด่าน หมื่นคนไม่อาจข้าม ยืนเหนือทะเลเลือด กั้นผู้ยิ่งใหญ่ศาสนาพุทธเช่นทีปังกรพุทธะไว้ด้านนอก
ไฟมารสีเขียวหมึกที่ลู่ยาเต้าจวินปล่อยออกมาถั่งโถมบนคลื่นประกายโลหิต แผ่ขยายไปยังลวดลายค่ายกลที่เกิดกจากขีดสิบสองขีดเกาะเกี่ยวกัน
กลางทะเลเลือด อามิตาภพุทธเจ้าเห็นทีปังกรพุทธะที่อยู่ฝ่ายตนเสียเปรียบ ไม่ได้รีบร้อน
ท่าทำท่าผ่อนคลายสบายๆ กดดันมารสวรรค์ไร้พันธนา
เวลานี้อามิตาภพุทธเจ้าก็ถามอย่างสงบ “สหายร่วมเส้นทางตัดสินใจอย่างไร?”
มารสวรรค์ไร้พันธนาตอนแรกเงียบ จากนั้นก็ถอนใจ
บรรพมารตนที่ห้าตนนี้ไม่ได้พูดอะไรมาก แต่ว่ายืดตัวขึ้น ออกจากบนเสาหินที่ก่อนหน้าเฝ้ามาโดยตลอด
มารสวรรค์ไร้พันธนาพอออกไป ค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ก็พลันสั่นไหวอย่างรุนแรง
ลวดลายค่ายกลที่ลี้ลับยากหยั่งคาดมีขีดหนึ่งขีดหายไป
ค่ายกลทั้งหมดเริ่มหายไป ทะเลเลือดจมลงด้านล่างในพริบตา ประกายโลหิตค่อยๆ สลายตัว
ลู่ยาเต้าจวินสีหน้าพลันเคร่งขรึม ทีปังกรพุทธะใบหน้าไม่มีแววยินดี
นพยมโลกตรงหน้าถึงกับละทิ้งการก่อตั้งค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์
เมื่อเป็นแบบนี้ วาสนาโปรดมารแก้ไขภัยของพวกเขาพลันเพิ่มการหักมุมนับไม่ถ้วน ถึงขึ้นกลายเป็นดอกไม้ในกระจก ดวงจันทร์ในน้ำ
ส่วนลึกของทะเลเหว หลังมารสวรรค์ไร้พันธนาออกจากเสาหิน ก็โจมตีกษัตริย์บูรพาไท่อี้โดยตรง
ถึงประกายโลหิตที่วนเวียนรอบร่างมันจะสลายไป แต่ไม่ได้สนใจอามิตาภพุทธเจ้า เพียงตั้งสมาธิโจมตีกษัตริย์บูรพาคนเดียว
มารสวรรค์ไร้พันธนากางแขนแปดข้าง แต่ละข้างประสานมุทรา ในความว่างเปล่าปรากฏคันฉ่องสีดำนับไม่ถ้วน ผนึกแสงกระจกสีขาว ส่องใส่กษัตริย์บูรพาไท่อี้
กษัตริย์บูรพาไท่อี้ไม่ได้ประหลาดใจ เพียงส่งเสียงถอนใจซึ่งล่องลอย
เสียงระฆังที่ยิ่งใหญ่ไร้ประมาณวินาทีนี้สะท้อนทั่วฟ้า
แสงกระจกจำนวนเหลือคณานับต่างหยุดชะงักกลางทาง จากนั้นก็พังทลายเหมือนกับรูปแกะสลักทราย
คันฉ่องดำที่คงอยู่ทุกที่ มีจำนวนนับไม่ถ้วน บนผิวกระจกพากันปรากฏรอยแตก
กษัตรย์แห่งยุคบุพกาล ผู้ปกครองหมื่นเผ่าพันธุ์ผู้นี้ตอนนี้ลงมือ ต่อให้มีมารสวรรค์ไร้พันธนาที่อยู่ในระดับมรรคาเหมือนกันขวางกั้น ก็ทำให้ทั่วฟ้าสั่นสะเทือนได้
แม้ว่าทะเลเหวใจกลางนพยมโลกยังคงสภาพต่ออยู่ ทว่าเขตมารด้านนอกเริ่มพากันถล่ม
ควันดำยิ่งใหญ่ไพศาลเหมือนกับถูกจุดไฟเผา สลายไปไม่หยุด
ในเสาสิบสองต้นที่ก้นทะเลเหว บนยอดเสาที่เป็นสัญลักษณ์ของมารสวรรค์ธรรมชาติต้นนั้น เงาแสงมายาถึงขั้นค่อยๆ จางลงส่วนหนึ่ง
ค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ยากจะโคจร ประกายโลหิตลดต่ำ มารนพยมโลกเช่นมารจิตแรกเริ่มรีบร้อนเก็บประกายโลหิต รักษาเสาสิบสองต้นที่ก้นเหว และความมั่นคงของเขตมารนพยมโลกสุดกำลัง หลีกเลี่ยงไม่ให้การศึกระหว่างผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาส่งผลกระทบทำลายถึง
ได้ยินเสียงระฆังดังขึ้น ผู้ยิ่งใหญ่ศาสนาพุทธด้านนอกนพยมโลกต่างก็ร่างสั่น โคจรวิชาต้านทาน
สวรรค์สำนักเต๋า แดนสุขาวดีตะวันตก เขาดาราทะเลดวงดาว โถงเซียน แดนสุขาวดีบัวขาว ไปจนถึงแต่ละแห่งหนในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดอันกว้างใหญ่ ตอนนี้ต่างได้ยินเสียงระฆังที่ไพเราะดังขึ้น
พวกเยี่ยนจ้าวเกอมองศึกใหญ่ในทะเลเหวนพยมโลก สีหน้าไร้ความเกรงกลัว กลับฉายแววกระตือรือร้น จับตาดูพัฒนาการของเรื่องราวอย่างใกล้ชิด
มารสวรรค์ไร้พันธนาละทิ้งค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ หมายถึงนพยมโลกเปลี่ยนไปดำเนินเป้าหมายรอง ใช้แผนการที่เตรียมไว้
ละทิ้งความหวังในยุคสมัยนี้ของนพยมโลก หันไปช่วยแดนสุขาวดีตะวันตก
จ่ายด้วยการบาดเจ็บล้มตายและค่าตอบแทนส่วนหนึ่ง ช่วยอามิตาภพุทธเจ้าหลุดพ้น เพื่อชิงการจุติอย่างแท้จริงของมารสวรรค์ไร้รูปในภายหลัง กำหนดผลแพ้ชนะในยุคสมัยถัดไป
ไม่ว่านพยมโลกยังมีแผนการในที่ลับอย่างอื่นอีกหรือไม่ อย่างน้อยตอนนี้โดยเปลือกนอกแล้ว นี่เป็นท่าทีและการตัดสินใจของมารสวรรค์ไร้พันธนา
คันฉ่องดำหลายใบถูกกระแทกแหลก แต่มีใบใหม่เกิดขึ้น
มารสวรรค์ไร้พันธนาพัวพันกษัตริย์บูรพาไท่อี้ รั้งเขาไว้ในนพยมโลกชั่วคราว
ส่วนอามิตาภพุทธเจ้าที่ก่อนหน้านี้ร่วมมือกับกษัตริย์บูรพาไท่อี้สะกดนพยมโลก ไม่มีความคิดจะรุมโจมตีมารสวรรค์ไร้พันธนากับกษัตริย์บูรพาอีก
บัวเขียวลอยขึ้น ออกจากนพยมโลก!
ขณะมารสวรรค์ไร้พันธนาตรึงกษัตริย์บูรพาไท่อี้ กลับกันกษัตริย์บูรพาไท่อี้ก็ทำให้มารสวรรค์ไร้พันธนายากจะกลับไปบนเสาศิลาเช่นกัน
พริบตานี้เอง อามิตาภพุทธเจ้ากลับไปเหนือนพยมโลกอีกครั้ง เป้าหมายคือพระศรีอริยเมตไตรยที่อยู่บนบัวขาว!
บัวขาวได้ลอยออกไปไกลในตอนที่มารสวรรค์ไร้พันธนาออกจากเสาศิลาแล้ว
กระนั้นบนนพยมโลก เวลานี้เพิ่มควันเลือดขมุกขมัวชั้นหนึ่ง
ควันเลือดมาถึงนพยมโลก
ตอนแย่งชิงค่ายกลลงทัณฑ์เซียน เพื่อแลกเปลี่ยนเอามารสวรรค์ไร้รูปกลับมานพยมโลก มารสวรรค์ไร้พันธนาเคยลงมือช่วยเหลืออามิตาภพุทธเจ้า
ตอนนั้นพระศรีอริยเมตไตรยระวังตัวป้องกัน ต่อให้ไม่ได้สู้ ยังมีโอกาสถอยหนีไปก่อน ดังนั้นอามิตาภพุทธเจ้าจึงเล็งเป้าหมายไปที่ค่ายกลลงทัณฑ์เซียน
ทว่าในตอนนี้อยู่บนนพยมโลก มารสวรรค์ไร้พันธนาหยุดค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ ค่ายกลหมุนทวน ควันเลือดพุ่งสู่ฟ้า ทำให้พระศรีอริยเมตไตรยยากจะจากไปชั่วขณะ
ถึงแม้จะขัดขวางได้แค่ระยะเวลาสั้นๆ ต่อจากนี้อีกเดี๋ยวพระศรีอริยเมตไตรยอาจจะทำลายควันเลือดได้
ทว่าเทวกษัตริย์ไร้ประมาณเกาะกุมเวลา โจมตีคู่ต่อสู้เก่าของตัวเองอย่างเหี้ยมหาญ ทำให้พระศรีอริยเมตไตรยไม่อาจหนีรอด
แค่การถ่วงเวลาสั้นๆ อามิตาภพุทธเจ้าเข้าร่วม พระศรีอริยเมตไตรยไม่อาจต้านทาน
บัวขาวยักย้ายเคลื่อนที่ แต่บัวเขียวกับประตูหยกไม่ยอมเลิกรา ไล่ตามไม่ทั่วท้องฟ้าไร้สิ้นสุด ไม่ยอมลดละ!
วินาทีนี้การแย่งชิงวาสนาระดับเต๋าถึงกับกลายเป็นหมากสังหารที่เล็งเป้าไปยังผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาอีกคน!
กลางนพยมโลก ลู่ยาเต้าจวินสีหน้าเคร่งขรึม
สถานการณ์ในตอนนี้ ไม่เพียงแต่ไม่ส่งผลดีต่อกษัตริย์บูรพาไท่อี้กับพระศรีอริยเมตไตรยเท่านั้น ยังไม่ส่งผลดีต่อตัวลู่ยาเองด้วย
ตอนนี้สถานการณ์ที่ดีกำลังจะสุญเปล่าเหมือนใช้ตะกร้าไผ่ตักน้ำ
ไฟมารเขียวหมึกพลันกลายเป็นสีแดงทองในสองตาของเขา
หย่อมไฟกะพริบ ในเสาสิบสองต้น ณ ส่วนลึกของทะเลเหวด้านล่าง บนเสาอันเป็นสัญลักษณ์ของมารไฟปิ่ง เงาแสงพลันส่ายวูบวาบ
ขณะแปรปรวน ทะเลเลือดถึงจะลดต่ำ แต่ว่าลวดลายค่ายกลของค่ายกลใหญ่ที่เสียหายและกำลังพังทลายยังคงอยู่ ความเร็วในการถล่มช้าลงมาก
ลู่ยาเต้าจวินรีบฉวยโอกาสเกาะกุมเวลา หลอมเปลี่ยนทะเลเลือดที่อ่อนแรง กำลังชิงโอกาสนั้นได้
ทว่าทันใดนั้นเอง ผู้เข้มแข็งสำนักเต๋าอย่างพวกเยี่ยนจ้าวเกอในที่สุดก็เคลื่อนไหวแล้ว!
………………..