ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1764 หนึ่งฝั่งสู้สามฝั่ง!
สั่วหมิงจางยื่นฝ่ามือข้างหนึ่งออกมาขนานพื้น ตรงหน้าฝ่ามือปรากฏแสงสว่างงดงาม ราวกับม่านกั้นไร้รูปร่าง กั้นระหว่างมารจิตแรกเริ่มกับเขา
กล่าวไปน่าอัศจรรย์ ม่านกั้นไร้รูปร่างที่เกิดกจากแสงตัดนภาของเขา เหมือนเชื่อมต่อกับการดำรงอยู่ที่มองไม่เห็นอีกชนิดหนึ่ง
สองสิ่งปะทะกัน กลับก่อเกิดสภาพมีรายละเอียดขึ้น
บนม่านแสงละลานตา ปรากฏแสงอาทิตย์จางๆ
แสงอาทิตย์ชนม่านแสงแหลกสลาย กลายเป็นแสงอัสดงที่เต็มไปด้วยสีสัน
แต่ไม่ว่าแสงนี้จะกะพริบเปลี่ยนแปลงอย่างไร สลายแล้วรวม รวมแล้วสลาย ก็ไม่อาจข้ามฉากกั้นตรงหน้าสั่วหมิงจางได้
บุรุษผมสั้นร่างสูงใหญ่ยื่นอีกมือออกมาคว้าใส่มารจิตแรกเริ่มแต่ไกล
เขาหุบห้านิ้ว ชักมือกลับมา
แรงดึงดูดไร้รูปร่างก่อเกิด มารจิตแรกเริ่มใต้ทะเลเลือดถึงกับโซซัดโซเซ ยืนไม่มั่นคง ราวกับถูกสั่วหมิงจางดึงออกมาจากทะเลเลือด คว้าไว้ในมือข้ามมิติ!
‘ไม่เจอกันไม่กี่ร้อยปี แข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว แข็งแกร่งถึงขั้นนี้เชียว?’ มารจิตแรกเริ่มทางหนึ่งเพิ่มความมั่นคงให้ตัวเอง ทางหนึ่งหันไปมองเนี่ยจิงเสินมารกระบี่ที่นั่งขัดสมาธิบนเสาศิลา
เนี่ยจิงเสินสีหน้าไร้อารมณ์ แสงสว่างรวมตัวเป็นกระบี่ยาวเล่มหนึ่งในมือ แล้วสะบัดออกแต่ไกล
ประกายกระบี่พุ่งผ่าน มารจิตแรกเริ่มตัวพลันเบาขึ้น ตัวเองออกแรง ค่อยฝืนตั้งหลักได้
สั่วหมิงจางเลิกคิ้วขึ้น มองไปยังเนี่ยจิงเสิน
แต่ไม่รอให้เขาใช้พลังเป็นครั้งที่สอง ในใจเกิดลางสังหรณ์
เห็นลู่ยาเต้าจวินเซ่นมีดบินสังหารเซียน เส้นแสงสีขาวครอบคลุมมายังศีรษะสั่วหมิงจาง
สั่วหมิงจางใบหน้าไม่แปรเปลี่ยน ผ่อนการจับมารจิตแรกเริ่ม หมุนตัวมาเอียงร่างเผชิญลู่ยาเต้าจวิน
เขาคลายสองแขน แล้วยื่นออกไปสองด้าน
แสงตัดนภาที่ฝ่ามือซ้ายยังคงผนึกขวางอิทธิฤทธิ์อันแปลกประหลาดเกรี้ยวกราดของมารจิตแรกเริ่ม
ฝ่ามือขวาปะทะกับมีดบินสังหารเซียน มีแสงไร้รูปร่างไหลเวียน กางฉากกั้นชั้นหนึ่งในความว่างเปล่า
เส้นแสงสีขาวที่มีดบินสังหารเซียนโจมตีมาปะทะกับแสงตัดนภาที่มือขวาของสั่วหมิงจาง ถึงกับถูกตัดขาด!
ลู่ยาเต้าจวินเห็นดังนั้น จิตใจพลันหนักอึ้ง
หยางเจี่ยนโจมตีเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ถอยไป ร่างวูบไหว จู่โจมใส่ลู่ยาเต้าจวิน
ลู่ยาเต้าจวินเก็บมีดบินสังหารเซียน กลายเป็นรุ้งถอยหลัง หลบความร้ายกาจของหยางเจี่ยนก่อน จากนั้นเขย่าน้ำเต้าในมือ เป้าหมายเปลี่ยนจากสั่วหมิงจางเป็นหยางเจี่ยน
หยางเจี่ยนหัวเราะ ไม่หลบหลีก เพียงส่ายร่างน้อยๆ เขย่าร่างเปลี่ยนแปลง
กายเนื้อเขาทดแทนวิญญาณ แสงทองกะพริบในจิตใจ เกิดบัวทองหลายดอก
ฉากเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นตอนชิงค่ายกลลงทัณฑ์เซียน เป็นหยางเจี่ยนเผชิญกับมีดบินสังหารเซียนดาวข่มตลอดกาล
ตอนนั้นหยางเจี่ยนสามารถทำให้ตัวเองไม่ถูกมีดบินสังหารเซียนกดข่ม เพียงแต่ค่อนข้างกินแรง
ทว่าตอนนี้หยางเจี่ยนเขย่าร่างเปลี่ยนแปลง ทะเลดอกสีทองอร่ามผืนหนึ่งเกิดขึ้นในจิตใจ
ลู่ยาเต้าจวินกับทีปังกรพุทธะตรงหน้าพร่ามัว เหมือนเห็นธงเหลืองโบ่วกี้ของวิเศษด้านการป้องกันแห่งหยกพิสุทธิ์กางต้านลม
แต่ว่าตอนนี้ทุกคนต่างอยู่ในทะเลเหวนพยมโลก ไม่ว่าจะเป็นธงเหลืองโบ่วกี้หรือธงวิเศษบัวเขียวต่างใช้ไม่ได้ นำออกมาจะแปดเปื้อนทันที
ที่มหาวิทยราชมยุรีมีแผนอยู่เต็มอก เป็นเพราะทราบเรื่องนี้ หนำซ้ำยังรู้ด้วยว่าร่างจริงของมหาเทวะเสมอฟ้าไม่อาจคงอยู่ด้านนาน
ตอนนี้หยางเจี่ยนทำให้ดอกสีทองบานในจิต ทะเลดอกเป็นมายา ต้านทานแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีของมหาวิทยราชมยุรีไม่ได้
แต่ว่าบัวทองบานออก ป้องกันมีดบินสังหารเซียนที่ส่งผลต่อวิญญาณคนโดยไร้สิ่งใดต้านทานได้
ไม่เพียงแต่ปกป้องหยางเจี่ยนเท่านั้น แม้แต่สั่วหมิงจางที่อยู่ด้านล่างก็ปกป้องไปด้วย ไม่ให้มีดบินสังหารเซียนรบกวน
มาตรว่าน้ำเต้าบนมือหยางเจี่ยนจะแห้งเหี่ยวไปแล้ว ของวิเศษอันเป็นที่เลื่องลือชิ้นนี้กลับสู่มือลู่ยาเต้าจวินอีกครั้ง หากหยางเจี่ยนไม่เกรงกลัวเขาอีกต่อไป
สั่วหมิงจางเห็นดังนั้น ไม่สนลู่ยาเต้าจวินอีก แต่ย้ายความสนใจไปที่มารจิตแรกเริ่มที่อยู่ด้านล่างต่อ
เขาสะกดมารจิตแรกเริ่ม ทำให้คนอื่นๆ ในสำนักเต๋าพลันผ่อนคลายไม่น้อย
นาจาไม่มีมารจิตแรกเริ่มคอยรบกวน ยกหอกขึ้นพลิกเจดีย์ทองเหลือที่กดทับตัวเองอยู่คว่ำ โจมตีใส่ทีปังกรพุทธะโดยทวีสมาธิขึ้นเป็นร้อยเท่า สู้อย่างสาแก่ใจ
เผ่าปีศาจก้มมองเหล่าวีรบุรุษใช้แข็งปะทะแข็ง ใช้โจมตีสู้โจมตีไม่ถอยแม้ครึ่งก้าวกับแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีของมหาวิทยราชมยุรี
ผู้เข้มแข็งคนอื่นๆ ในสำนักเต๋าลงมือ ไม่มีข้อกริ่งเกรงอีกต่อไป ไม่มีความจำเป็นต้องป้องการการโจมตีที่แทรกซึมสู่ทุกที่ของมารจิตแรกเริ่ม
พระอาจารย์เสวียนตูระบายลมหายใจคำหนึ่ง รูปไท่จี๋บนศีรษะที่ตอนแรกการหมุนช้าลง เพิ่มความเร็วการหมุนขึ้นมาใหม่ ดึงดูดพัดคลุมโลกนพยมโลกรอบๆ
ในทะเลเลือด มารจิตแรกเริ่มนั่งขัดสมาธิบนเสาศิลา ตั้งหลักเอาไว้
หลังเนี่ยจิงเสินลงมือหนึ่งครั้ง ก็นั่งนิ่ง หลับสองตาราวหลับไหล
มารไฟปิ่งกับมารดินโบ่วที่อยู่ด้านข้างพากันลงมือ จู่โจมสั่วหมิงจาง รบกวนการกดดันของเขาต่อมารจิตแรกเริ่ม
สั่วหมิงจางมือซ้ายรักษาม่านกั้นระลอกแสง ตัดขวางมารจิตแรกเริ่มไม่เปลี่ยนแปลง มือซ้ายทิ่มใส่อากาศ
แสงตัดนภากระจายไปทั่ว ไม่ว่าเพลิงโหมลุกโชน หรือพายุทรายกรีดลม ต่างก็สลายหายไปกลางอากาศ ไม่เห็นร่องรอย
อีกด้านหนึ่ง ขณะหยางเจี่ยนป้องกันมีดบินสังหารเซียนของลู่ยาเต้าจวิน เงาแสงเผิงยักษ์กระพือปีกอยู่บนศีรษะ ร่างกายบัดเดี๋ยวปรากฏบัดเดี๋ยวสูญหายทุกที่ในทะเลเหว สะกดเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ ทำให้เขายากจะพึ่งพาความได้เปรียบด้าน ‘ความเร็ว’ แสดงความร้ายกาจ
หงหยวนเพิ่งจะลอยตัวขึ้น ก็ถูกหยางเจี่ยนสกัดไว้
สองคนปะทะพลังกายเนื้อกัน วานรขาวขนาดมหึมาถูกชนปลิวไปด้านหลัง ยังคงไม่มีเปรียบภายใต้ฝีมือของหยางเจี่ยน
ลู่ยาเต้าจวินเห็นมีดบินสังหารเซียนทำอะไรหยางเจี่ยนกับสั่วหมิงจางไม่ได้ ก็ไม่พัวพันต่อ เปลี่ยนเป้าหมายในทันที
เส้นแสงสีขาวหักเลี้ยว ครอบคลุมใส่พระอาจารย์เสวียนตู
หยางเจี่ยนเปลี่ยนแปลงร่างด้วยความเร็วสูง กั้นอยู่ระหว่างพระอาจารย์เสวียนตูกับมีดบินสังหารเซียน ต้านทานแสงขาวแทนพระอาจารย์เสวียนตู
“ฮ่าห์!” เผิงท่องเมฆหมื่นลี้ตะโกนขึ้น ขยับปีก กลับไล่ตามสกัดหยางเจี่ยน
หยางเจี่ยนไปถึงไหน เขาก็ไล่ไปถึงนั่น ฉุดรั้งมือเท้าของหยางเจี่ยน
ลู่ยาเต้าจวินฉวยโอกาสกระตุ้นมีบินสังหารเซียน ฟันใส่พระอาจารย์เสวียนตูอีกครั้งทันที
“ขึ้น!” พระอาจารย์เสวียนตูทำอะไรไม่ได้ หยุดรูปไท่จี๋ที่หมุนอยู่ชั่วคราว
กระแสปราณบนศีรษะสีเหลืองดำรวมตัวกัน เกิดเป็นเจดีย์เล็กสี่เหลี่ยมที่เป็นมายาองค์หนึ่ง
เงาแสงเจดีย์เล็กครอบคลุมลง ปราณขาวของมีดบินสังหารเซียนพลันถอยกลับไม่สำเร็จ
ปราณเหลืองดำฟ้าดิน!
ปฐมแห่งห้าสิ้นสุดหลังกำเนิดการสืบทอดสายเอกพิสุทธิ์ วรยุทธการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งสำนักเต๋า มีเพียงหนึ่งเดียว!
หนึ่งเจดีย์ตั้งบนศีรษะ หมื่นภัยไม่กล้ำกราย หมื่นวิชาไม่ทำลาย
พูดถึงพลังป้องกันอย่างเดียว ถึงขั้นเหนือกว่าห้าจริยะหงส์อมตะอยู่รวมกัน ฐานของโลกหยกพิสุทธิ์ หรือว่าการรวมกันของกายกาลอวกาศจุดกำเนิด และร่างไร้ประมาณสสารกำเนิดที่เป็นการสืบทอดเอกพิสุทธิ์เหมือนกันเสียอีก
นอกจากนี้ยังเป็นการป้องกันเด็ดขาดในทุกๆ ด้าน ไม่ว่ามีรูปร่างไร้รูปร่าง ไม่ว่าเป็นการโจมตีที่เล็งผลต่อกายเนื้อหรือจิตใจ ต่างก็ถูกปราณเหลืองดำฟ้าดินที่เป็นมายาบนศีรษะกันไว้
ถึงขั้นที่วิชาอันแปลกประหลาดของมารจิตแรกเริ่มยากจะรุกล้ำโจมตี
ระดับพลังฝึกปรือของพระอาจารย์เสวียนตู วินาทีนี้ใช้วรยุทธชนิดนี้ออกมา มีแต่ผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาถึงจะทำลายได้ รองจากระดับมรรคาต่อให้เป็นค่ายกลลงทัณฑ์เซียนที่สมบูรณ์ ในระยะเวลาสั้นๆ ยากจะทำลายเงาแสงเจดีย์เล็กบนศีรษะพระอาจารย์เสวียนตู
เพียงแต่ขณะที่ใช้วิชานี้ พระอาจารย์เสวียนตูกลับไม่อาจกระทำเรื่องอื่น ได้แต่หยุดอยู่กับที่
………………..