ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1766 ลูกตุ้มฟาดนกเผิง กระบองหวดนกยูง!
การต่อต้านบทเพลงมหามรรคาสูงส่งของเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ เห็นได้ชัดว่าเหนือกว่าหนอนเก้าเศียร
แต่ได้รับผลกระทบจากบทเพลงมหามรรคาสูงส่ง การเคลื่อนไหวของเขาช้าลงครึ่งจังหวะ
เยี่ยนจ้าวเกอเซ่นลูกตุ้มโกลาหลฟาดลงอีกครั้ง ครั้งนี้โดนกลางหลังเผิงท่องเมฆหมื่นลี้อย่างถนัดถนี่!
แสงทองกระจัดกระจาย เผิงท่องเมฆหมื่นลี้แค่นเสียงคำหนึ่ง พุ่งไปด้านหน้า
ถึงจะเจ็บปวดรวดร้าว หน้ามืดไปหมด แต่ว่าเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ก็ไม่กล้าหยุดนิ่ง ยังคงกระพือปีกสุดกำลัง
เป็นเพราะด้านหลังเขา เยี่ยนจ้าวเกอง้างลูกตุ้มโกลาหล ไล่ตามมาด้วยความเร็วสูง
เผิงท่องเมฆหมื่นลี้ส่งเสียงร้องแหลม อ้าปากพ่นแสงสีทองสายหนึ่งออกมาใส่เล็บเท้า
ห่วงสามห่วงบนเสามังกรหลบเร้น มีแค่หนึ่งห่วงรัดอยู่บนเล็บเท้าของเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ มิได้แน่นมากนัก
ตอนนี้ถูกพ่นแสงทองใส่ ก็หลุดจากเล็บเท้าของเผิงท่องเมฆหมื่นลี้
แต่เพราะการหยุดชะงักนี้ ลูกตุ้มโกลาหลฟาดใส่ตัวเขาอีกรอบ!
เผิงท่องเมฆหมื่นลี้ยืนเอียงตัวเลี่ยงจุดอ่อน ยังคงถูกฟาดจนวิญญาณเกือบหลุดจากร่าง
ครั้งนี้เขาแม้แต่เสียงโอดโอยยังร้องออกมาไม่ได้ แทบจะสลบตายคาที่
เผิงท่องเมฆหมื่นลี้กัดฟันกรอด ฝืนประคับประคอง วูบไหวร่าง รักษาระยะห่างระหว่างตนกับเยี่ยนจ้าวเกอ หลบการไล่ตามจู่โจมของเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง
ไม่มีพันธนาการจากเสามังกรหลบเร้น ถึงแม้มีอาการบาดเจ็บ เผิงท่องเมฆหมื่นลี้กางปีก ยังคงเหมือนไม่เห็นการดำรงอยู่ของมิติช่องว่างและกาลเวลา เคลื่อนย้ายไปไกล หลบการโจมตีครั้งที่สามของลูกตุ้มโกลาหลด้วยความเร็วสูง
แม้แต่การไล่ตามโจมตีอีกครั้งของไท่อี้จินหยิน ก็ยังถูกนกเผิงยักษ์หลบได้
แต่ว่าในตอนนี้ ตรงหน้าเผิงท่องเมฆหมื่นลี้พร่ามัว กลับปรากฏเงาร่างของหยางเจี่ยน
หยางเจี่ยนไล่ล่าลู่ยาเต้าจวินไปทั่ว ก่อนหน้านี้ไม่เคยสนใจเผิงท่องเมฆหมื่นลี้
ทว่าวินาทีนี้ร่างเขาเปล่งแสงระยิบระยับ คงอยู่ทุกที่เหมือนเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ ทั้งๆ ที่เห็นเขายังไล่ตามลู่ยาเต้าจวินอยู่ แต่ว่าเขาอีกคนตอนนี้กลับตามเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ทันแล้ว
ดาบสามปลายสองคมที่สว่างไสวฟันลงมา
เผิงท่องเมฆหมื่นลี้รับบาดเจ็บ ลนลานไม่มีเวลาเลือกทาง ถลันหลบอย่างลำบากอีกครั้ง
เขาถลึงตา ได้แต่มองดูคมดาบทะลวงทรวงอกของตัวเอง!
เลือดสดสาดกระจาย พลันมีแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีทะลัก ม้วนคลุมเผิงท่องเมฆหมื่นลี้
กลับเป็นมหาวิทยราชมยุรีเห็นท่าไม่ดี ใช้พลังมหาศาลถั่งโถม อาศัยแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีของตัวเองดูดเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ ช่วยเหลือน้องชายแท้ๆ ไว้
เผิงท่องเมฆหมื่นลี้ที่ลมหายใจรวยรินหายไปในแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสี หยางเจี่ยนเห็นดังนั้น เลิกคิ้วเล็กน้อย มองไปยังมหาวิทยราชมยุรี
แต่ว่าเจ้านกยูงก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่
มหาเทวะเสมอฟ้าควงกระบองสารพัดนึกฟาดมาดุจผลักภูเขาถมทะเล
มหาเทวะเพ่งความสนใจทั้งหมดยังเอาตัวไม่รอด ตอนนี้แบ่งสมาธิไปช่วยเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ กลับยากหลีกเลี่ยงไม่เปิดช่องโหว่วให้อีกฝ่าย
กระบองที่สามารถถล่มจักรวาลตีกราดมา ทำลายผลมงคลที่ท่านถือไว้ในมือซ้ายข้างแรก ตัดหางนกยูงหลายเส้นที่ท่านถือไว้ในมือซ้ายข้างที่สอง
บนร่างซีกขวาของท่านปรากฏรอยเลือดแดงฉานเป็นหย่อมๆ ย้อมจีวรสีขาว
รับประทานกระบองนี้ไป มหาวิทยราชมยุรีร่างเอียง เกือบจะตกร่วงจากหลังยูงทอง
ท่านรีบกระจายแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสี ป้องกันวานรอีกรอบ
วานรได้เปรียบแล้วไม่ปรานี ยิ่งสู้ยิ่งดุ เริ่มไล่ตามโจมตีข่งซนอย่างคลุ้มคลั่ง ทำให้มหาวิทยราชมยุรีซึ่งที่แล้วมามีแต่กวาดทำลายสี่ทิศผู้นี้ถอยหนีติดต่อกัน ยากจะตั้งหลักได้ใหม่
ถึงจะใช้หนึ่งสู้สาม แทบอาศัยพลังของฝั่งเดียวปะทะกับนพยมโลก แดนสุขาวดีตะวันตก และเผ่าปีศาจสามฝั่งพร้อมกัน แต่ว่าความแข็งแกร่งของเทวกษัตริย์สำนักเต๋ายังแสดงให้เห็นอย่างหมดจดในสงครามนี้
‘เฟิงอวิ๋นเซิงได้รับผลกระทบจากค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ รั้งอยู่ด้านนอกนพยมโลกไม่ได้ร่วมสงคราม แม้เป็นเช่นนี้ ผู้สืบทอดสามพิสุทธิ์เหล่านี้ก็ร้ายกาจจริงๆ’ ลู่ยาเต้าจวินตาเป็นประกาย
‘จำเป็นต้องถ่วงเวลาจนกายทองมหาเทวะสามร่างแยกตัว ข่งซวนลงมือได้ สถานการณ์จะมีโอกาสพลิกกลับอีกครั้ง’ เขามองพระอาจารย์เสวียนตู ‘แต่รอถึงเวลานั้น เสวียนตูอาจทำสำเร็จแล้ว’
หย่อมเพลิงสีเขียวหมึกลุกโชนในสองตาของลู่ยาเต้าจวินไม่หยุด ‘มารสวรรค์ไร้พันธนา พวกเจ้ายังมีกระบวนท่าอันใด รีบใช้ออกเถอะ’
กลางทะเลเลือด เหล่ามารนพยมโลกเงยหน้ามองด้านบน ต่างเห็นได้ว่าพระอาจารย์เสวียนตูกำลังหลอมเปลี่ยนปราณมารนพยมโลกและน้ำทะเลในทะเลเหวอย่างต่อเนื่อง
สำหรับนพยมโลกของพวกมันแล้ว สถานการณ์ตรงหน้าคับขันยิ่งกว่า
เหมือนกับได้ยินเสียงในใจของลู่ยาเต้าจวิน ในทะเลเลือด มารสวรรค์ไร้พันธนาที่กำลังต่อสู้กับกษัตริย์บูรพาไท่อี้ ทางหนึ่งพัวพันกษัตริย์บูรพาไท่อี้ ทางหนึ่งประสานมุทราด้วยมือเดียว
ก้นทะเลเหว เป็นเพราะว่าการออกไปก่อนหน้าของมารสวรรค์ไร้พันธนา บนเสาต้นหนึ่งในเสาสิบสองต้นตอนนี้ว่างเปล่า
แต่ว่าในตอนนี้เอง บนเสาต้นนั้นพลันเพิ่มกระจกบานหนึ่ง
บนกระจกมีแสงสว่างรวมตัวเลือนราง เชื่อมต่อกับมารสวรรค์ไร้พันธนาที่อยู่ไกลออกไป
ในหน้ากระจกค่อยๆ มีเงาแสงชั้นหนึ่งลอยขึ้น เป็นมารสวรรค์ไร้พันธนานั่นเอง
เงาลวงชั้นนี้พอปรากฏ ประกายโลหิตที่ตอนแรกกดต่ำมืดสลัว พลันสว่างไสวขึ้นมา!
ลวดลายค่ายกลที่ก่อนหน้านี้ขาดไปหนึ่งขีด จึงยากจะโคจรต่อ ได้แต่ฝืนประคองไว้ที่เดิม ตอนนี้มีแสงสว่างไสวอีกครั้ง
ขีดที่สิบสองปรากฏขึ้นใหม่ ลวดลายค่ายกลสมบูรณ์
ค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ที่ก่อนหน้านี้กำลังจะพังทลาย โคจรอีกหน!
ประกายโลหิตไพศาลเริ่มพลิกตัวขึ้นด้านบน พุ่งสู่ฟากฟ้าอีกครั้ง
พระอาจารย์เสวียนตูทั่วร่างสั่นสะท้าน รูปไท่จี๋บนศีรษะพลันหยุดหมุน
ยิ่งไปกว่านั้น เหมือนมีพลังที่มองไม่เห็นทำให้รูปไท่จี๋หมุนทวน
ปราณพิฆาตและความตายซึ่งไร้สิ้นสุดไร้ประมาณแผ่พุ่ง คล้ายวันสิ้นโลกมาถึง
ค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ถึงกับถูกตั้งขึ้นมาใหม่
ถึงยังไม่นับว่าสมบูรณ์ แต่ว่าในนพยมโลกทั้งหมด ปรากฏสภาวะเต๋าเสื่อมมารเติบโตอีกครา
พวกเยี่ยนจ้าวเกอมองไปยังส่วนลึกของทะเลเลือด มองดูกระจกที่ปรากฏภาพเงาของมารสวรรค์ไร้พันธนาบานนั้น
นั่นคล้ายกับร่างปลอมของบรรพมารตนที่ห้า ขณะที่ทำให้มารสวรรค์ไร้พันธนาถอนตัวออกมาจากการต่อสู้กับกษัตริย์บูรพาไท่อี้ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ยังควบควบคุมค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ได้
แม้เทียบกับตอนแรกที่ค่ายกลโคจรไม่ได้ บนกระจกปรากฏรอยแตกถี่ยิบ พร้อมกับเวลาที่ผ่านไป รอยแตกยิ่งมายิ่งหยาบ ยิ่งมายิ่งยาว
แต่ว่าตอนนี้กระจกบานนั้นเข้าแทนที่มารสวรรค์ไร้พันธนาจริงๆ แล้ว ประคับประคองลวดลายค่ายกลสิบสองสายของค่ายกลใหญ่ชั่วคราว
จอมมารเช่นมารจิตแรกเริ่มเริ่มเกาะกุมเวลา เพ่งสมาธิทั้งหมดไปกับการกระตุ้นให้ค่ายกลหมุนวน
มารสวรรค์ไร้พันธนายังคงพัวพันกับกษัตริย์บูรพาไท่อี้ ยอมรับว่าตนไม่อาจกลับไปถึงบนเสาศิลา แต่ก็ไม่ให้กษัตริย์บูรพาไท่อี้ออกจากนพยมโลก
“ถ้าใต้เท้ากษัตริย์บูรพาถอนตัวไปสนับสนุนพระศรีอาริย์ เจ้ามรรคาสี่คนจะมีสภาพคู่คี่สู่สีอีกครั้ง ไม่มีใครทำอะไรกันได้ กลับวางมือเท่านี้” พวกเยี่ยนจ้าวเกอเข้าใจ “ถึงเวลาสมควรเป็นโชคร้ายของนพยมโลกอีกครั้ง ถูกเจ้ามรรคาสี่คนกลุ้มรุม”
เป็นอย่างที่คาด มารสวรรค์ไร้พันธนาพัวพันกษัตริย์บูรพาไท่อี้ อามิตาภพุทธเจ้ากับเทวกษัตริย์ไร้ประมาณไม่มีความคิดกลับมานพยมโลกโดยสมบูรณ์
ปล่อยให้ค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ก่อตั้งขึ้นใหม่ แต่บัวเขียวกับประตูหยกกยังไล่ตามบัวขาวไม่ลดละ
บัวขาวใช้หนึ่งสู้สอง ปรากฏสภาพเพลี้ยงพล้ำแล้ว
………………..