ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1775 สามเจ้าสู้สองมาร
บัวเขียวกับระฆังโบราณบัดเดี๋ยวสูญหายบัดเดี๋ยวปรากฏบนนพยมโลก
มารสวรรค์บรรพกำเนิดกับมารสวรรค์ไร้พันธนาสัมผัสได้ถึงการดำรงอยู่ของอามิตาภพุทธเจ้ากับกษัตริย์บูรพาไท่อี้ สายตาเปลี่ยนเป็นมืดสลัว
จังหวะเวลาที่ก่อนหน้านี้วิถีมารอุตส่าห์ชิงมาได้ สุดท้ายถูกฉุดรั้งไว้เพราะเหล่าจวินลงมือ
สองบรรพมารเงยหน้ามองไป สายตาข้ามการขวางกั้นของมิติช่องว่างและกระแสเวลา
พวกมันมองเห็นได้รางเลือนว่า พระศรีอาริย์แม้สะบักสะบอม กระนั้นภายใต้การช่วยเหลือของกษัตริย์บูรพาไท่อี้ ที่สุดก็รอดจากภัยพิบัตินี้
พระศรีอริยเมตไตรยเสียท่าไม่น้อย กษัตริย์บูรพาไท่อี้ไม่ปะทะกับคู่ต่อสู้ เพียงปกป้องพระศรีอริยเมตไตรยให้หนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิด
อามิตาภพุทธเจ้ากับเทวกษัตริย์ไร้ประมาณสูญเสียโอกาสที่จะกำจัดพระศรีอริยเมตไตรยโดยสิ้นเชิง ได้แต่หยุดลง
พระศรีอริยเมตไตรยย่อมไม่มานพยมโลกอีก ป้องกันไม่ให้นพยมโลกใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ อาศัยการโจมตีท่านเป็นเป้าหมายใหม่ ร่วมมือกับอามิตาภพุทธเจ้าและเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ
เทวกษัตริย์ไร้ประมาณบัญชาโถงเซียน อาศัยสภาวะโจมตีใส่แดนสุขาวดีบัวขาว
อามิตาภพุทธเจ้ากับกษัตริย์บูรพาไท่อี้แม้สู้กัน แต่ก็มีการเห็นพ้อง
ตอนนี้ไม่มีโอกาสกำจัดการดำรงอยู่ของพระศรีอริยเมตไตรย ถือโอกาสกลับนพยมโลก
ถ้าค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ทำลายล้างโลกจริงๆ ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดไม่ใช่เหล่าจวิน แต่เป็นคนอื่นๆ
ต่อให้สุดท้ายค่ายกลวิถีมารถูกทำลาย แค่มารสวรรค์ปัจฉิมธรรมจุติ สถานการณ์ก็จะเลวร้ายสุดขีดอยู่ดี
อามิตาภพุทธเจ้ากับกษัตริย์บูรพาไท่อี้ถึงแม้จะเป็นตัวตนที่อยู่ใกล้การหลุดพ้นที่สุด ทว่าก่อนหน้านั้น ไม่ว่ามีความเป็นเป็นได้มากขนาดไหน พวกเขาก็ยังคงมีความเป็นไปได้ที่จะเสียชีวิต
ถึงจะไม่อาจบรรลุผลลัพธ์ที่เป็นอุดมคติที่สุด อามิตาภพุทธเจ้าไม่ได้พัวพันไม่ยอมลดละต่อ แต่ว่ากลับนพยมโลกพร้อมกับกษัตริย์บูรพาไท่อี้อย่างรวดเร็ว
เยี่ยนจ้าวเกอเงยมองบัวเขียวกับระฆังโบราณ มองดูไท่ซ่างเหล่าจวินในทะเลเลือด อดนึกขึ้นไม่ได้ว่า ‘ถึงแม้ไม่มีใครคาดเดาความคิดของเหล่าจวินออก ทว่าอามิตาภพุทธเจ้ากับกษัตริย์บูรพาไท่อี้จะมากจะน้อยก็สมควรสัมผัสเงื่อนงำได้หลายส่วน’
ก่อนหน้านี้พวกเขาจากไป เหมือนมอบโอกาสให้นพยมโลก ใช่จะไม่พนันว่าเล่าจวินจะลงมือ
ผลคือนพยมโลกพนันแพ้ อามิตาภพุทธเจ้าและกษัตริย์บูรพาไท่อี้พนันชนะแล้ว
ดังนั้นเรื่องราวมาถึงขั้นนี้ สำหรับพวกเขา การวางหมากบนนพยมโลกก็ยังคงมีโอกาสชดเชย
นักพรตเหนือพิสุทธิ์หายไปในค่ายกลลงทัณฑ์เซียน
แทบจะเป็นในเวลาเดียวกัน เจ้าแม่อู๋ตังกับนางเซียนอวิ๋นเซียวที่ควบคุมค่ายกลลงทัณฑ์เซียนอีกครั้ง ก็ควบคุมค่ายกลใหญ่ ไม่ปะทะกับค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์อีกต่อไป
ปราณกระบี่เทียมฟ้าไม่คงอยู่อีก ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนกลับคืนสู่ความว่างเปล่าไร้สิ้นสุด ค่อยๆ หายไป
ในเมื่อเจ้ามรรคาสี่คนสูสีกันอีกรอบ ไม่ได้สู้กันเป็นตายอีก ทางสำนักเต๋าก็ต้องต้องเหลือความระวังไว้
เหล่าจวินอยู่ในทะเลเลือด ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนโจมตีสุดกำลังอยู่ที่นี่ เกิดว่าเทวกษัตริย์ไร้ประมาณหรือพระศรีอาริย์ไปสวรรค์สำนักเต๋า ผลลัพธ์ยากคิดถึง
หรือว่า มารสวรรค์บรรพกำเนิดและมารสวรรค์ไร้พันธนา บรรลุการประนีประนอมใหม่กับเจ้ามรรคาสองสามคน ร่วมมือกันทำลายค่ายกลลงทัณฑ์เซียนก่อน
ขอแค่วิถีมารยินยอมละทิ้งการจุติของมารสวรรค์ปัจฉิมธรรม ละทิ้งค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
เหล่าจวินในเมื่อออกโรงด้วยตัวเอง ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนมีเงื่อนไขถอนตัว ถือโอกาสถอยกลับ รักษาพลังข่มขวัญไว้ห่างๆ
เฝ้าระวังเจ้ามรรคาเส้นทางนอกรีตโดยเฉพาะ
สวรรค์สำนักเต๋าที่ไม่มีเหล่าจวิน ไม่มีค่ายกลลงทัณฑ์เซียน กับแดนสุขาวดีบัวขาวที่พระศรีอาริย์เฝ้าอยู่ สำหรับเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ ที่ไหนรับมืองง่ายกว่า ไม่ต้องบอกก็ทราบได้
พระศรีอาริย์ซึ่งถึงแม้จะดูสะบักสะบอม แต่มีผู้ใดแน่ใจว่าท่านจะไม่กลายเป็นปลาใหญ่กินปลาเล็ก ปลาเล็กกินกุ้งแห้ง เทศนาสวรรค์สำนักเต๋ามาเติมเลือดให้ตัวเอง?
สถานการณ์เปลี่ยนแปลงในชั่วอึดใจ อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงที่คิดไม่ถึงได้ตลอดเวลา
พวกเยี่ยนจ้าวเกอไม่อาจไม่ป้องกันไว้ก่อน
ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนหายไป บัวเขียว ระฆังโบราณปรากฏ ไท่ซ่างเหล่าจวินในทะเลเลือดเห็นแล้ว ต่างไม่มีปฏิกิริยา เพียงแต่ต่อสู้กับมารสวรรค์บรรพกำเนิดและมารสวรรค์ไร้พันธนาต่อไป
หนึ่งปราณเป็นสามพิสุทธิ์แม้จะสลายไปชั่วคราว หากแต่เหล่าจวินที่มีเจดีย์เหลืองดำฟ้าดินบนศีรษะยังคงแข็งกล้า ทำให้บรรพมารสองคนยากจะรับมืออย่างราบรื่น
เพียงแต่วินาทีนี้ ค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์แข็งแกร่งกว่าก่อนหน้า
นพยมโลกทั้งหมดกลายเป็นทะเลเลือดไร้ขอบเขต กระแสคลื่นซัดโหม ไอความตายในวันสิ้นโลกพุ่งทะลัก กัดกินชนชาวโลกที่อยู่รอบๆ
เงาแสงบนเสาที่เป็นสัญลักษณ์ของมารสวรรค์ปัจฉิมธรรมเริ่มผนึกตัวเป็นจริงอีกครั้ง
กระนั้นมารสวรรค์บรรพกำเนิดกับมารสวรรค์ไร้พันธนาล้วนไม่ผ่อนคลาย
ตอนนี้บัวเขียวกับระฆังโบราณลงมาถึงทะเลเลือดพร้อมกันแล้ว
อามิตาภพุทธเจ้ากับกษัตริย์บูรพาไท่อี้แสดงร่างจริง ปรากฏใต้ทะเลเลือด การหมุนของค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ติดขัดอีกครา
ประกายโลหิตซัดสาดมิได้ทรงอานุภาพเท่าก่อนหน้า
“สหายร่วมเส้นทางไม่เจอกันหลายปี สบายดี” อามิตาภพุทธเจ้ากับกษัตริย์บูรพาไท่อี้พยักหน้าทักทายไท่ซ่างเปล่าจวิน
เหล่าจวินตอบด้วยรอยยิ้ม “ยังดี”
สำนักเต๋า เผ่าปีศาจ ศาสนาพุทธ เจ้ามรรคาสามคนตอนนี้ยืนอยู่กลางทะเลเลือด สั่นสะเทือนค่ายกลทั้งหมดอีกหน
ถึงสภาพจะไม่ดี แต่ว่ามารสวรรค์บรรพกำเนิดกับมารสวรรค์ไร้พันธนาจะยอมแพ้ง่ายๆ ได้อย่างไร?
เหล่าเจ้ามรรคาเปิดศึกใหญ่อีกครั้งหนึ่งในทะเลเลือดทันที
สถานการณ์เหมือนกับไปตอนที่อามิตาภพุทธเจ้ากับกษัตริย์บูรพาไท่อี้ร่วมมือกันลงมายังทะเลเลือดเป็นครั้งแรก กาลเวลาเหมือนหมุนกลับมา
ครั้งนี้พระศรีอาริย์ไม่เข้าใกล้นพยมโลกอีก รุกถอยได้ตามใจมากขึ้น ทั้งมีเหล่าจวินอยู่ในทะเลเลือด มีค่ายกลลงทัณฑ์เซียนซ่อนแฝงไม่ปล่อยออก ส่งผลคุกคามด้านนอก
นพยมโลกต่อให้คิดจะแลกเปลี่ยนกับอามิตาภพุทธเจ้าไปสะกดกษัตริย์บูรพาไท่อี้ ก็ยากจะแสดงประสิทธิผลได้เหมือนครั้งก่อน
ถ้าหากว่าผู้ที่อยู่ที่นี่ไม่ใช่เหล่าจวินนพยมโลกยังทดลองแลกเปลี่ยนคู่ต่อสู้กับอามิตาภพุทธเจ้าได้
ให้อามิตาภพุทธเจ้าสะกดเหล่าจวิน ส่วนนพยมโลกรวบรวมกำลังโจมตีกษัตริย์บูรพาไท่อี้
พูดถึงที่สุด อามิตาภพุทธเจ้ากับกษัตริย์บูรพาไท่อี้ก็แย่งชิงตำแหน่งหลุดพ้นในยุคสมัยนี้
การกำจัดพระศรีอริยเมตไตรยที่ส่งผลต่อตนเป็นวิธีการหนึ่ง แต่วิธีการที่ตรงไปตรงมากว่าอีกหนึ่งวิธี เป็นการกำจัดกษัตริย์บูรพาไท่อี้อย่างไม่ต้องสงสัย!
เพียงแต่โอกาสอย่างนี้หายากยิ่งกว่า
อย่างเช่นตอนนี้ นพยมโลกรวบรวมพลังโจมตีกษัตริย์บูรพาไท่อี้ อามิตาภพุทธเจ้ากลับใช่ว่าจะเอาเหล่าจวินอยู่
เหล่าจวินย่อมไม่แน่ว่าจะทำร้ายอามิตาภพุทธเจ้าได้ แต่ขอแค่แบกเจดีย์เหลืองดำฟ้าดินไว้ อามิตาภพุทธเจ้าก็ได้แต่มองเขาช่วยเหลือกษัตริย์บูรพาไท่อี้ตาปริบๆ
ดังนั้นมารสวรรค์บรรพกำเนิดกับมารสวรรค์ไร้พันธนาจึงไม่กล่าวมากความ อาศัยชัยภูมิจากค่ายกล ใช้สองสู้สาม ทำศึกกับพวกเหล่าจวิน
ค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ถึงอย่างไรยังไม่สมบูรณ์แบบ ในสถานการณ์ปัจจุบัน ได้รับผลกระทบมหาศาล
กระแสคลื่นสีเลือดเริ่มหุบตัว ถอยกลับสู่นพยมโลกใหม่
ถึงขั้นที่ไอเลือดเทียมฟ้านั้นค่อยๆ สลายไป เขตมารนพยมโลกปรากฏสภาพมืดมิด
ทะเลเลือดยิ่งใหญ่ไพศาลลดระดับลง ค่อยๆ ตกลงไปยังก้นเหวนพยมโลก
ลวดลายค่ายกลที่ลี้ลับซึ่งขีดสิบสองขีดประกอบขึ้นนั้น ตอนนี้มองไปมืดสลัวลงมาก
ทุกคนที่ก่อนหน้านี้ลำบากเพราะประกายโลหิต สายตาต่างเปล่งแสงจางๆ
นพยมโลกถูกสะกดอีกครั้ง โอกาสของทีปังกรพุทธะ ลู่ยาเต้าจวิน พระอาจารย์เสวียนตูมาถึงอีกรอบ
………………..