ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1777 ท้องฟ้าร่วงหล่นก็ไม่เป็นไร
“วันนี้ไม่เร็วไป” สั่วหมิงจางจ้องมองมหาวิทยราชมยุรี “รอหลังจากนี้ อาจจะช้าไปแล้ว”
คนทุกคนที่อยู่รอบๆ ผู้ที่รู้จักการเปลี่ยนแปลงแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีมากที่สุดนอกจากตัวสั่วหมิงจาง ไม่มีใครเกินข่งซวน
พุทธะจีวรขาวที่นั่งบนหลังยูงทอง ตอนนี้ดวงตาเคร่งขรึมกว่าเดิม
“อาตมาว่ายังเร็วไป” มหาวิทยราชมยุรีพูดทีละคำ
แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีครอบฟ้าคลุมดินสาดลงไม่หยุด
สั่วหมิงจางครึ่งก้าวไม่ถอย เผชิญความน่าเกรงขามเทียมฟ้าโดยตรง
จุดที่ความลี้ลับจากพลังในคัมภีร์ตัดนภาไปถึง ขจัดควันมารใกล้ๆ จนว่างเปล่า
ในนพยมโลกปรากฏที่ว่าง ไม่ว่าปราณมารหรือสรรพวัตถุในธรรมชาติ ทุกสิ่งไม่คงอยู่
แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีของมหาวิทยราชมยุรีกระจายไปทั่ว กวาดล้างสี่ทิศ ม้วนพัดชำระล้างทุกอย่างรอบๆ สิ่งที่อยู่ใกล้ๆ ไม่ว่าคนหรือสิ่งของ ล้วนมลายไปหมด
มีแต่สั่วหมิงจางกับแดนบริสุทธิ์รอบๆ ตัวเขา ที่กั้นแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีซึ่งเชี่ยวกรากยิ่งใหญ่ไว้ด้านนอก
เหมือนคลื่นน้ำเทียมฟ้าห้าสี ขอแค่สูงอีกหน่อย ก็ถล่มทำนบไร้รูปร่างสายนั้นได้
แต่ว่าความแตกต่างเล็กน้อยนี้ กลับไม่อาจข้ามได้
ยอดน้ำยิ่งสูง ทำนบก็ยิ่งสูง
ทำนบที่ก่อนหน้านี้ทำให้คนรู้สึกว่าอันตรายคับขัน กำลังจะถล่มลง เวลายิ่งผ่านไป ก็ทำให้คนเริ่มรู้สึกว่า ไม่เพียงไม่อันตราย ยังมั่นคงดุจภูเขาไท่ซาน ไม่อาจก้าวข้ามได้
ถึงเวลา แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีที่เคยกวาดล้างสี่ทิศนั้น กลับขัดเกลาคัมภีร์ตัดนภาของสั่วหมิงจางอย่างต่อเนื่อง ช่วยเขาปรับปรุงสิ่งที่ตนได้ร่ำเรียนไม่หยุด ยิ่งมายิ่งแข็งแกร่ง
มหาวิทยราชมยุรีสีหน้าเคร่งขรึม แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสียังคงเจิดจ้า สาดลงอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย หมายจะทำลายแสงตัดนภาของสั่วหมิงจาง
สั่วหมิงจางไม่ถอยแม้แต่น้อย ปะทะตรงๆ กับมหาวิทยราชมยุรีถึงที่สุด
แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีสายแล้วสายเล่าถูกทำลาย จากนั้นก็มีชุดใหม่พุ่งมา
แสงตัดนภาสายแล้วสายเล่าถูกดูดไว้ แต่ก็มีชุดใหม่แทนที่
พุทธะจีวรขาวที่นั่งบนยูงทององค์หนึ่ง บุุรุษผมสั้นที่บนศีรษะมีเงาแสงมังกรอัคคีคนหนึ่ง
สองคนยืนประจัญหน้า ระยะห่างของสองฝ่ายเหมือนไม่ไกล แต่ก็ห่างราวฟ้าและเหว
ขอบเขตที่ตาเนื้อเห็นได้ชัดเส้นหนึ่ง เหมือนกำแพงขั้นกลางระหว่างทั้งสอง
กำแพงทางหนึ่งมีห้าสีไหลเวียน ทางหนึ่งแสงส่องระยิบระยับ
แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีกับแสงตัดนภาประกอบเป็นโลกสองชั้น ต่างก็สะกดปะทะกับอีกฝ่าย ไม่ยอมหลีกให้แก่กัน
ศึกใหญ่ศึกนี้ย่อมดึงดูดสายตาของคนมากมาย
‘อารมณ์ของสหายร่วมเส้นทางสั่วผู้นั้นยิ่งมายิ่งผ่อนคลาย’ ไท่อี้จินหยินพูดในใจ ‘ตอนนี้ถึงฝ่ายหนึ่งจะโจมตีบ้าคลั่ง ฝ่ายหนึ่งป้องกัน แต่ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป สหายร่วมเส้นทางสั่วจะมีพลังเหลือโต้กลับเป็นโจมตีแล้ว’
วัชรอภิณฑ์พุทธะกับทีปังกรพุทธะนึกถึงภาพตอนที่สั่วหมิงจางต่อสู้กับพวกท่านเมื่อก่อนหน้า ‘ทุกครั้งที่พบกัน ล้วนพุ่งทยาน เวลาล่วงเลยถึงวันนี้ ห่างจากตอนที่เขาขึ้นสู่ระดับมหาชาลแต่พันกว่าปีเอง…’
ทีปังกรพุทธะส่ายหน้า ไม่มีเวลานึกย้อนถึงตอนนั้น
สั่วหมิงจางขัดขวางมหาวิทยราชมยุรี คนอื่นในสำนักเต๋าก็ไม่ได้อยู่ว่าง
นาจาท้าสู้ทีปังกรพุทธะอีกครั้ง โจมตีอย่างบ้าคลั่งทันที
พระโพธิสัตว์กวนอิมหมายจะหยุดนาจา แต่ตรงหน้าพร่ามัว ถูกหยางเจี่ยนขวางไว้ “พระโพธิสัตว์กวนอิมไม่มอบโอกาสให้พวกเขาตัดเหตุผลแล้ว?”
เป็นไปตามคำพูดก่อนหน้าของสั่วหมิงจาง ไม่มีการคุกคามจากมหาวิทยราชมยุรี ไม่มีการสะกดจากเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ ความได้เปรียบด้านความเร็วของหยางเจี่ยนเด่นชัดขึ้นมาท่ามกลางคนที่อยู่รอบๆ แทบคงอยู่ทุกที่ คนคนเดียวดูแลได้ทั่วทั้งสมรภูมิ
เขาทั้งคุ้มครองพระอาจารย์เสวียนตูที่หลอมเปลี่ยนนพยมโลก ขณะเดียวกันก็คุ้มครองพวกเยี่ยนจ้าวเกอซึ่งนั่งเข้าฌานกับเฟิงอวิ๋นเซิงที่รักษาตัว
ลู่ยาเต้าจวินขมวดคิ้ว วูบไหวร่าง พุ่งลงด้านบนทะเลเลือด ปล่อยไฟมารสีเขียวหมึกออกมา เชื่อมกับลวดลายค่ายกลของค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์
ตอนนี้เขาไม่โจมตีพระอาจารย์เสวียนตู เพ่งความสนใจที่พิธีกรรมของตัวเอง ต้องการเปรียบความเร็วกับพระอาจารย์เสวียนตู
ขึ้นอยู่กับว่าพระอาจารย์เสวียนตูหลอมเปลี่ยนนพยมโลกได้ก่อน หรือเขาหลอมเปลี่ยนลวดลายค่ายกลทะเลมารได้ก่อน
กระนั้นหยางเจี่ยนจับจ้องลู่ยาเต้าจวินมาโดยตลอด ขณะวูบไหวร่าง ก็มาถึงตรงหน้าลู่ยาเต้าจวิน ดาบสามปลายสองคมแทงใส่ทรวงอกอีกฝ่าย
ลู่ยาเต้าจวินจนปัญญา รีบเปลี่ยนเป็นรุ้งหลบหลีก
เขาเผชิญกับหยางเจี่ยนในด้านความเร็ว ความจริงไม่เสียเปรียบอย่างไร
แต่เมื่อมีหยางเจี่ยนคอยรบกวน ลู่ยาเต้าจวินไม่อาจหลอมเปลี่ยนลวดลายค่ายกลทะเลเลือด ไม่อาจตรึงหยางเจี่ยน ชิงโอกาสให้ทีปังกรพุทธะ เช่นนั้นมิสู้ทำให้พระอาจารย์เสวียนตูสมความปรารถนา
กษิติครรภโพธิสัตว์มองทีปังกรพุทธะที่ถูกนาจาพัวพัน อดขมวดคิ้วไม่ได้
ท่านคิดขึ้นหน้า ถูกหยางเจี่ยนสกัดไว้เช่นกัน
“พระพุทธองค์เมตตา” กษิติครรภโพธิสัตว์เปล่งคำสรรเสริญคุณ แสดงร่างธรรม ถึงกลับกลายเป็นนรกทะเลเลือดที่คล้ายนพยมโลก
พุทธะบำเพ็ญทุกขกิริยาองค์หนึ่งนั่งอยู่กลางนรก ได้รับความยากลำบากในนรก แต่ยังคงความบริสุทธิ์ไว้
ด้นล่างพุทธะปรากฏจานหมุน พอหมุนขึ้นมา ถึงกับเปิดสังสารวัฏ
กลับเป็นกษิติครรภโพธิสัตว์คิดลากหยางเจี่ยนเข้าไปในสังสารวัฏ
ต่อให้ไม่อาจทำให้หยางเจี่ยนตกไปในสังสารวัฏได้จริงๆ ก็ต้องจำกัดการเคลื่อนไหวของเขา ทำให้เขาไม่อาจใช้พลังของคนคนเดียวสะกดทั่วสมรภูมิได้
หยางเจี่ยนเห็นดังนั้น หัวเราะฮ่าๆ วิชาแปดเก้ามีผลไร้ขอบเขต
บนศีรษะเขายังคงมีเงาแสงของนกเผิงยักษ์ปีกทอง ตนเขย่าร่างเปลี่ยนแปลง กลับกลายเป็นสิงโตขนาดมหึมาตัวหนึ่ง!
สิงโตตัวนั้นถึงกับมีเก้าหัว ตอนนี้อ้าปากหลายปาก พากันคำรามใส่นรกกับกษิติครรภโพธิสัตว์เบื้องล่าง
ในเสียงคำราม ประตูสังสารวัฏค่อยๆ ปิดลง ภาพนรกเริ่มสลาย
ผู้ยิ่งใหญ่เผ่าปีศาจเช่นลู่ยาเต้าจวินเห็นแล้ว ต่างมีสีหน้าประหลาดพิกล
เป็นเพราะสิงโตเก้าหัวที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของหยางเจี่ยนในตอนนี้ เป็นร่างที่แท้จริงของปฐมเทวะนพวิญญาณ
สิงโตเก้าหัวพาหนะของจักรพรรดิตงจี๋ชิงหัว หรือเทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอดส่งเสียงคำราม เปิดบึงเลือดนรก ประตูแห่งสังสารวัฏ
เสียงคำรามเดียวกันสามารถปิดมันได้
ปัจจุบันปฐมเทวะนพวิญญาณตัวจริงอยู่บนเขาดาราทะเลดวงดาว ไม่ได้เข้าร่วมการวางหมากบนนพยมโลกในวันนี้
กลับเป็นหยางเจี่ยนเปลี่ยนร่าง ทำลายอิทธิฤทธิ์ของกษิติครรภโพธิสัตว์
เห็นประตูสังสารวัฏกำลังจะปิด บึงเลือดนรกกำลังพังทลาย กษิติครรภโพธิสัตว์สวดมนต์เบาๆ สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง
พระโพธิสัตว์สามองค์ พระโพธิสัตว์กวนอิม สมันตภัทรโพธิสัตว์ มหาสถามปราปต์โพธิสัตว์ เข้าไปในบึงเลือดนรกพร้อมกัน
“รบกวนพี่ร่วมเส้นทางแทนตำแหน่งของศิษย์พี่มัญชุศรี” กษิติครรภโพธิสัตว์พยักหน้าให้มหาสถามปราปต์โพธิสัตว์
โพธิสัตว์สี่องค์กลับสู่ตำแหน่งพร้อมกัน บึงเลือดนรกเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ภาพอันโหดร้ายทารุณในนรกเช่นเกวียนทับ น้ำแข็งยะเยือก ถอดเปลือก ดึงไส้ หม้อน้ำมันปรากฏขึ้นทีละภาพ
และอาณาเขตครอบคลุมของนรกก็ขยายด้วยความเร็วสูงสุดขีด จากล่างขึ้นบน ม้วนพัดใส่หยางเจี่ยน
โลกธรรมโพธิสัตว์สังสารวัฏสิบภพนรกภูมิ!
ถึงปรากฏสภาพนรกไร้ขอบเขต แต่มีโพธิสัตว์สวดมนต์ถอนกรรม โปรดสรรพสัตว์ เปลี่ยนทุกข์เป็นอนัตตา
ตรงนี้ พระโพธิสัตว์สี่องค์ร่วมมือกัน คิดจะทำลายควาสามารถการเปลี่ยนแปลงวิชาแปดเก้าของหยางเจี่ยน
ขณะเดียวกัน ทีปังกรพุทธะไม่สนใจการโจมตีคลั่งของนาจาตรงหน้า เซ่นมุกค้ำทะเลสิบแปดชิ้น แล้วฟาดใส่ศีรษะหยางเจี่ยนอย่างเหี้ยมหาญ!
หยางเจียนมองพระโพธิสัตว์กวนอิมกับสมันตภัทรโพธิสัตว์ “ทั้งสองท่านใช้สายตาเก่ามองดูข้า”
เขายืนนิ่ง มองข้ามผลกระทบจากโลกธรรมโพธิสัตว์สังสารวัฏสิบภพนรกภูมิโดยสมบูรณ์ ใช้วิชาแปดเก้า กายเนื้อแข็งแกร่งถึงขีดสุด ต้านทานการถล่มจากมุกค้ำทะเลสิบแปดชิ้น!
“เปรี้ยงๆๆ…” แว่วเสียงสิบแปดเสียง มุกค้ำทะเลที่หนักอึ้งเหมือนธรรมชาติท้องฟ้ากระแทกใส่ศีรษะหยางเจี่ยนติดต่อกัน ถึงกับแม้แต่ร่องรอยก็ไม่อาจทิ้งเอาไว้!
………………..