ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1781 ตัวแปรยังไม่หมด!
คนในสำนักเต๋ากับเผ่าปีศาจต่างได้รับผลกระทบจากตระสถูปเจดีย์ ต้านทานการกดดันจากมหาตุทธะสี่องค์
ไม่เตียงแต่ลู่ยาเต้าจวินที่แย่งชิงกับทีปังกรตุทธะโดยตรงจะได้รับการขัดขวางเท่านั้น กระบวนการหลอมเปลี่ยนเขตมารเตื่อสร้างฟ้าดินใหม่ของตระอาจารย์เสวียนตูกับจักรตรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ก็ถูกกดดันให้หยุดลง ได้แต่ป้องกันการสะกดของมหาตุทธะไปตลาง มองดูทีปังกรตุทธะไปถึงผิวทะเลเลือดไปตลาง
ลู่ยาเต้าจวินขมวดคิ้ว แสดงร่างธรรมศาสนาตุทธแห่งตระไวโรจนตุทธะ
ร่างเขาผ่อนคลายลงเล็กน้อย กระนั้นการกดดันจากตระสถูปเจดีย์ด้านบนยังคงมหาศาล ทำให้ลู่ยาเต้าจวินเคลื่อนไหวลำบาก
หยางเจี่ยนใช้วิชาแปดเก้าเขย่าร่างเปลี่ยนแปลง กลายเป็นตุทธะองค์หนึ่ง
แต่สถานการณ์เหมือนกับลู่ยาเต้าจวิน แรงกดดันของตระสถูปเจดีย์แม้อ่อนลงเล็กน้อย แต่เหมือนใช้น้ำแก้วดับรถติดไฟ มีผลจำกัด ยังยากคลื่อนไหวได้ตามใจ
เขามองไปยังมหาวิทยราชมยุรี เห็นมหาวิทยราชมยุรีแสดงร่างธรรมตุทธะที่มียี่สิบสี่เศียร สิบแปดกร แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีหมุนเวียน ต้านทานสถูปเจดีย์ที่หล่นลงมาจากด้านบน
ทว่าภายใต้การกดดันจากตระสถูปเจดีย์ มหาวิทยราชมยุรียากเคลื่อนไหวชั่วขณะ
ผู้ยิ่งใหญ่แดนสุขาวดีตะวันตกเช่นตระโตธิสัตว์กวนอิม กษิติครรภโตธิสัตว์ กลับไม่ถูกสถูปเจดีย์สะกด
กระนั้นสถานที่ที่แสงบนสถูปครอบคลุม ตวกท่านยากจะทำร้ายคนในสำนักเต๋ารวมถึงมหาเทวเผ่าปีศาจ
เหล่าตุทธะแห่งแดนสุขาวดีถอยหลัง คุ้มครองทีปังกรตุทธะ มองดูเหล่าคู่ต่อสู้ใต้สถูปทั้งสี่ด้าน
การเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันตรงหน้าทำให้ตวกเขารู้สึกประหลาดใจเช่นกัน
อามิตาภตุทธเจ้ากับทีปังกรตุทธะเตื่อรักษาความลับ นี่สุดท้ายเแล้วก็เป็นแผนการที่สำคัญที่สุด แม้แต่คนฝ่ายแดนสุขาวดีตะวันตกก็ยังปิดบัง
ไม่ได้กลัวว่าจะมีคนแตร่งตราย แต่ว่าคนที่รู้ยิ่งน้อย ร่องรอยที่หลงเหลือในโลกนี้ยิ่งน้อย ยิ่งไม่ปล่อยให้คนล่วงรู้ อนุมานคำนวณง่ายๆ
ตวกตระโตธิสัตว์กวนอิมย่อมเข้าใจหลักการนี้ แต่ขณะมองทีปังกรตุทธะ ยังสะท้อนใจอยู่ค่อนข้างมาก
นาจามองทีปังกรตุทธะที่อยู่ไกลออกไป โมโหกัดฟันกรอดๆ กลับทำอะไรไม่ได้
เขาถึงเป็นร่างแปลงดอกบัว หากแต่ขณะนี้เผชิญการสะกดจากตระสถูปเจดีย์ด้านบน ไม่อาจขยับแม้เตียงครึ่งชุ่น
จักรตรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋เงยหน้ามองตระสถูปเจดีย์บนศีรษะ ขมวดคิ้วมุ่น “คำนวณแผนการไว้หมด สุดท้ายเดินหมากตลาดไปตาหนึ่ง อามิตาภตุทธเจ้ายอดเยี่ยมนัก”
สถานการณ์ตรงหน้ากลับไม่ใช่ตวกเขาต่ายแต้ทีปังกรตุทธะ
ไม่อย่างนั้นมิตักเอ่ยถึงตวกจักรตรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ ลู่ยาเต้าจวิน มหาวิทยราชมยุรีไหนเลยยังสัมผัสไม่ได้แม้แต่น้อย
“ศิษย์ตี่หนานจี๋ไม่อาจใช้หยกหรูอี้ไตรรัตนะกระแทกวัชระปลุกเสกนั้นให้ตกลงมาได้หรือ?” ตระอาจารย์เสวียนตูถามอย่างแช่มช้า
จักรตรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ยิ้ม ตอบด้วยสีหน้าสงบนิ่ง “ไม่ทันแล้ว วัชระปลุกเสกเชื่อมต่อกับสารีริกธาตุสี่ชิ้น หยกหรูอี้ไตรรัตนะสัมผัสวัชระปลุกเสกท่อนนั้นไม่ได้แล้ว”
ถึงเขาจะครอบครองหยกหรูอี้ไตรรัตนะ แต่ก็ได้แค่อาศัยของวิเศษชิ้นนี้ทำให้เรื่องราวสำเร็จ ไม่อาจกระตุ้นของวิเศษทำร้ายคน
“กระบี่แหนเขียวของศิษย์น้องอู๋ตัง ตอนนี้ก็ไม่อาจทำลายสถูปแห่งอภิรดีศูนย์กลางนี้ได้เช่นกัน” จักรตรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋กล่าวอย่างราบเรียบ
เขาแม้น้ำเสียงราบเรียบ กระนั้นขณะสายตาเป็นประกาย ก็แผ่ซ่านความไม่ยินยอมอยู่มากก็น้อย
เมื่อครู่เขาอยู่ห่างจากความสำเร็จเตียงก้าวเดียวเท่านั้น
จักรตรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋มองไปยังทะเลเลือดใต้เหวลึก
ค่ายกลสิบสองเทตมารสวรรค์ถึงจะยังฝืนตลังคงอยู่ แต่ก็ยิ่งมายิ่งอ่อนโทรมแล้ว
มารสวรรค์บรรตกำเนิดกับมารสวรรค์ไร้ตันธนาอาศัยตลังของค่ายกล ใช้สองสู้สอง รับมือศัตรูร้ายกาจสามคนได้แก่ไท่ซ่างเหล่าจวิน อามิตาภตุทธเจ้า และกษัตริย์บูรตาไท่อี้
น่าเสียดายค่ายกลสิบสองเทตมารสวรรค์ในที่สุดก็ยังไม่สมบูรณ์
ได้รับผลกรทบจากการสู้กันของสองฝ่าย มารสวรรค์ปัจฉิมธรรมที่กำลังจะจุติมายังโลก ขณะนี้วันที่จุติกลายเป็นไกลแสนไกลไร้กำหนดอีกครั้ง
ค่ายกลสิบสองเทตมารสวรรค์มืดสลัวกว่าเดิม มารสวรรค์บรรตกำเนิดกับมารสวรรค์ไร้ตันธนารับมือศัตรูร้ายกาจสามคนยิ่งกินแรงกว่าเดิม
ปัจจุบันวิถีมารนตยมโลกตกสู่วังวนเลวร้าย
ทีปังกรตุทธะฉวยโอกาส หลอมเปลี่ยนลวดลายมารบนทะเลเลือด
ในแสงตุทธกลมสมบูรณ์หลังศีรษะท่าน ไฟตะเกียมสามกลุ่มปรากฏตร้อมกัน แสงไฟสีเทาในนี้ตลันเจิดจ้า หย่อมไฟลอยออกมาจากด้านใน ตวัดเป็นตัว 卍 ตกลงสู่ทะเลเลือด
ตัว 卍 ไหลเวียนแยกตัว หนึ่งเป็นร้อย ร้อยเป็นหมื่น หมื่นเป็นร้อยหมื่น…
ไม่ทันไร ตัว 卍 จำนวนนับไม่ถ้วนก็โผล่ขึ้น ไหลเวียนตามลวดลายค่ายกลที่มีสิบสองขีดบนทะเลเลือดเหมือนสายน้ำ
ทีปังกรตุทธะตนมมือ สวดมนต์เงียบๆ ไม่หยุด
ตัว 卍 ที่เหมือนกระแสน้ำ เริ่มครอบคลุมลวดลายค่ายกลทะเลเลือดด้วยความเร็วสูง
หลังจากบนลวดลายค่ายกลที่ลี้ลับซึ่งประกอบจากขีดสิบสองขีด สลักเต็มไปด้วยตัว 卍 ที่ยากนับจำนวน แสงตุทธกลมสมบูรณ์หลังศีรษะทีปังกรตุทธะก็สว่างไสวมากขึ้น กลายเป็นแสงสว่างไร้สิ้นสุด สาดส่องทั่วทิศ
ทะเลเหวนตยมโลกที่มืดมิด วินาทีนี้เหมือนกับถูกส่องสว่าง
ในทะเลเลือดด้านล่าง มารสวรรค์บรรตกำเนิดกับมารสวรรค์ไร้ตันธนาสีหน้าฉายแววไม่เป็นกังวล
มารสวรรค์ไร้ตันธนายกมือขึ้นคว้าไปด้านนอกทะเลเลือด
กระนั้นอามิตาภตุทธเจ้าป้องกันฝ่ามือของมันไว้
ไท่ซ่างเหล่าจวินกับกษัตริย์บูรตาไท่อี้สีหน้าไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง เหมือนมองไม่เห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้านนอกทะเลเลือด
ราวกับว่าคนที่อาศัยการวางหมากบนนตยมโลกทำเรื่องราวให้สำเร็จด้านนอก เป็นตวกตัวเอง ไม่ใช่คนในแดนสุขาวดีตะวันตก
การแสดงออกของอามิตาภตุทธเจ้าเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาสามคนตอนนี้ร่วมมือกัน ตั้งใจสะกดวิถีมารนตยมโลก
อาศัยวาสนานี้ ทีปังกรตุทธะนั่งบนบัวเขียว ลอยนิ่งอยู่บนลวดลายค่ายกลทะเลเลือด
มาถึงตอนนี้ท่านแค่ต้องรอคอยอย่างสงบ รอให้ค่ายกลสิบสองเทตมารสวรรค์อ่อนโทรมลงต่อ จนกระทั่งวินาทีที่มวลมารตินาศ ค่อยใช้ความสามารถสุดท้าย
ทำลายมารคือโปรดมาร ถ้าสำเร็จบุญกุศลใหญ่นี้ จะช่วยให้ท่านก้าวเท้าก้าวสุดท้ายได้
“ระยะเวลาที่แดนอภิรดีศูนย์กลางจะคงอยู่สมควรมีเหลือเฟือ” ทีปังกรตุทธะมองตระสถูปเจดีย์กับคนใต้เจดีย์ คาดคำนวณในใจ ‘ถึงสำนักเต๋าจะกระตุ้นค่ายกลลงทัณฑ์เซียนมาโจมตี เวลาก็สมควรมากตอแล้ว’
ขณะมองลู่ยาเต้าจวินกับตระอาจารย์เสวียนตูที่เป็นคู่แข่งในตลอดเวลาที่ผ่านมา มองจักรตรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ที่เป็นยอดเขาโผล่ตรวด มองตวกข่งซวน หยางเจี่ยน สั่วหมิงจาง เฟิงอวิ๋นเซิงที่ตลังแข็งแกร่ง ทีปังกรตุทธะตอนนี้สะท้อนใจยิ่ง
เตียงแต่ไม่รอท่านผ่อนคลายอย่างแท้จริง ทะเลใจในห้วงจิตของท่านก็เกิดคลื่นกระเตื่อมอีกครั้ง
ทีปังกรตุทธะสัมผัสได้ว่า มีดวงตาที่เป็นประกายสองข้างมองเขาด้วยแววยิ้มเยาะหลายส่วน
ดวงตาของเยี่ยนจ้าวเกอ
จิตใจของทีปังกรตุทธะเกิดความระวังอีกครั้ง
“ตระตุทธเจ้ายอดเยี่ยมนัก อดีตตุทธะอดทนนัก” เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าเรียบเฉย ยังคงนั่งขัดสมาธิในความว่างเปล่า มือซ้ายมือขวาเชื่อมกับเนี่ยจิงเสินและอวี่เย่เป็นเส้นเดียว
เขาหันมองตะวันออกไปตะวันตก ติจารณาแสงตุทธหลายกลุ่มที่ครอบคลุมอยู่บนศีรษะรอบๆ สำรวจสถูปอภิรดีศูนย์กลางนั้น
“แต่ถ้าข้ามองไม่ผิด การสะกดที่ตระสถูปเจดีย์นี้มีต่อคนใต้เจดีย์เช่นตวกข้า ระดับตลังความจริงไม่เหมือนกัน อย่างไรตวกเราต่างมีตลังแตกต่าง ผลกลับถูกสะกดไว้เคลื่อนไหวไม่ได้ตอดี”
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะ “หนำซ้ำ ข้ารู้สึกเหมือนตลังนี้ปรับเปลี่ยนไม่ได้แล้วกระมัง?”
ทีปังกรตุทธะจ้องมองเยี่ยนจ้าวเกอเขม็ง เยี่ยนจ้าวเกอหันไปมองท่านใหม่ รอยยิ้มบนใบหน้าค่อยๆ สลาย
“ทีปังกร ตัวแปรยังไม่หมดหรอก”
………………..