ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1784 ไร้ศัตรู! ไร้ศัตรู!
สถูปอภิรดีศูนย์กลางงดงามไร้ขอบเขต มหาพุทธะสีทองสี่องค์แยกกันสะกดสี่มุม
พลังอันแข็งแกร่งสะกดลง แม้แต่พวกมหาวิทยราชมยุรี หยางเจี่ยน สั่ยหมิงจาง ก็ยากขยับเขยื้อนได้ตามใจ ยิ่งไม่อาจออกจากอาณาเขตครอบคลุมของสถูป
มหาวิทยราชมยุรี หยางเจี่ยน ลู่ยาเต้าจวินแสดงกายทองศาสนาพุทธ ยังคงไม่อาจหลุดพ้น
เพียงแแต่แม้สถูปนี้จะมากอิทธิฤทธิ์ กลับมีความลี้ลับอีกอย่าง
มันได้แต่สะกด ไม่อาจทำร้ายคน
นี่ทำให้พลังสะกดของสถูปต่อคนแต่ละคนแตกต่างกัน โดยพื้นฐานแล้วหยุดอยู่ในขีดจำกัดบนของแต่ละคนพอดิบพอดี แยกกันรับมือ มีสูงมีต่ำ
หลังจากการแสดงผลในวินาทีแรกสุด การเปลี่ยนแปลงพลังของมันก็คงค้างที่เดิม
ในะระยะเวลาที่สถูปคงอยู่ ต่อให้รับการโจมตีจากภายนอก พลังสะกดก็ไม่อ่อนด้อย
ในทางกลับกัน ไม่อาจปรับหรือเพิ่มความแข็งแกร่งเช่นกัน
ในมหาสงครามก่อนหน้านี้ ทุกฝ่ายทุ่มเทสุดกำลัง เป็นตอนที่โจมตีด้วยพลังทั้งหมด สถูปสะกดลงมา ทุกคนใช้พลังหมดสิ้น ยากจะมีการเปลี่ยนแปลง
แต่ตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอย่ำทำลายภัยพิบัติฟ้ากำเนิด เลื่อนจากเซียนกำเนิดสุญญตาสู่เซียนสวรรค์มหาชาล กลับทำให้สถูปอภิรดีศูนย์กลางไม่อาจสะกดเขาได้ต่อ
เยี่ยนจ้าวเกอที่สามบุปผาบนกระหม่อม เป็นเซียนสวรรค์มหาชาล พลังสุดที่เขาซึ่งอยู่ในระดับสุญญตาจะเทียบเคียงได้!
การสะกดของสถูปอภิรดีศูนย์กลางต่อเขาก่อนหน้านี้ ไม่มีค่าให้กล่าวถึง
แสงพิสุทธิ์กลมสมบูรณ์หลังศีรษะเยี่ยนจ้าวเกอส่องสว่างนพยมโลก ก้าวเดินออกจากใต้พระสถูปเจดีย์อย่างทระนง เดินไปหาทีปังกรพุทธะและเหล่าพุทธะแห่งแดนสุขาวดีตะวันตก!
“เรื่องราวในโลกยากจะเป็นไปตามต้องการ” ทีปังกรพุทธะในดวงตาปรากฏความอิดโรยที่หาได้ยาก ถอนใจยืดยาว
ท่านก้มมองทะเลเลือดด้านล่าง
ประกายโลหิตใกล้เหือดแห้งแล้ว แสงสว่างของลวดลายค่ายกลก็กำลังมืดสลัว
กลับเป็นอักขระ 卍 นับพันล้านตัวที่เกิดจากแสงพุทธบริสุทธิ์ของทีปังกรพุทธะสว่างมากขึ้น ครอบคลุมลวดลายค่ายกล
วาสนาที่ทีปังกรพุทธะรอคอยมาหลายปี วางแผนมาอย่างดี อยู่ใกล้ตรงหน้า ขาดแค่ครึ่งก้าว
ห้วงเวลาสุดท้ายกำลังจะมาถึง เพียงแค่ต้องรออีกเล็กน้อย ทีปังกรพุทธะก็จะก้าวเท้าก้าวสุดท้ายได้
“ทีปังกร เชิญแล้ว การวางหมากในวันนี้ไม่ใช่ของท่าน” เยี่ยนจ้าวเกอเดินไปใกล้ๆ มองพุทธะเก่าแก่ผู้นั้น
“เหล่าจวินส่งต่อคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตให้โยม โยมกลับเดินอีกเส้นทาง จนปัญญา จนปัญญาแท้!” คำพูดของทีปังกรพพุทธะกลับทำให้คนอื่นๆ ตกตะลึง “น่าเสียดายอาตมาทราบเรื่องนี้เมื่อสายไป ไม่อย่างนั้นอาจคิดหาวิธีการได้”
“เรื่องราวมาถึงขั้นนี้ อดีตพุทธะไฉนต้องเปลืองลิ้นถ่วงเวลาอีก? ไม่มีประโยชน์หรอก” เยี่ยนจ้าวเกอไม่หยุดฝีเท้า
นักบวชศาสนาพุทธเช่นวัชรอภิณฑ์พุทธะ พระโพธิสัตว์กวนอิม มหาสถามปราปต์โพธิสัตว์ ต่างสีหน้าเคร่งขรึม
ถึงพวกท่านไม่มั่นใจว่าตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอมีพลังถึงขั้นไหน แต่สัมผัสแรงกดดันมหาศาลได้รางๆ
แรงกดดันที่ทำให้ทะเลใจในห้วงจิตของพวกท่านเกิดคลื่นยักษ์
ทว่าตอนนี้ทีปังกรพุทธะขาดแค่ครู่เดียวก็จะสำเร็จ เหล่าพุทธะแห่งแดนสุขาวดีตะวันตกถอยไม่ได้ มีแต่ขึ้นหน้าขัดขวางเยี่ยนจ้าวเกอ เพื่อชิงโอกาสให้แก่ทีปังกรพุทธะ
เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าคล้ายยิ้มไม่เชิงยิ้ม มองเหล่าพุทธะแห่งแดนสุขาวดีตะวันตก ตกสู่วงล้อมของอีกฝ่ายใบหน้ายังไม่เปลี่ยนสี การก้าวเท้ากลับเร่งเร็วขึ้น ไม่หลบหลีก พุ่งเข้าไปกลางวงเหล่าพุทธะโดยตรง
วัชรอภิณฑ์พุทธะสีหน้าเคร่งขรึม สายตาแน่วแน่ เข้ามารับมือ
แสงทองยิ่งใหญ่ผนึกรวมไม่หยุด ยิ่งรวมศูนย์ ก็ยิ่งสว่างไสว
พุทธเกษตรวัชระลงมาถึงเขตมารนพยมโลก พร่างพราวจุดเพชร แสงสว่างไร้สิ้นสุดไร้ประมาณ ส่องสว่างความว่างเปล่าไร้สิ้นสุด
แม้แต่ทุกการดำรงอยู่ในพุทธเกษตรก็ถูกแสงสวางที่บริสุทธิ์สว่างไสวครอบคลุม ไม่ว่าวัตถุเรื่องราวที่มีรูปร่างหรือมิติเวลาไร้รูปร่าง ต่างเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งผนึกตัว
ทำลายอนิจจังความเป็นความตาย เกิดแก่เจ็บตายดุจฟองเงาฝันมายา ไม่แฝงความน่าสะพรึง ไม่เห็นความโลภความหวัง เป็นอิสระชั่วกาลนาน วัชระไม่พังทลาย
เสียงสวดมนต์นับไม่ถ้วนดังขึ้น ในพุทธเกษตรวัชระ วัชรอภิณฑ์พุทธะนั่งบนดอกบัว ตะเกียงทองกับสารีริกธาตุบนศีรษะสว่างโชติช่วง
เยี่ยนจ้าวเกอไม่หยุดฝีเท้า ยกมือข้างหนึ่งขั้น ห้านิ้วกำแน่นเป็นหมัด
เขาไม่มีการเคลื่อนไหวอื่นๆ
เพียงยกมือขึ้น แล้วต่อยใส่พุทธเกษตรวัชระตรงหน้าหมัดหนึ่ง!
“เพล้ง!”
เสียงกระจ่างไพเราะดังขึ้นจากด้านในพุทธเกษตรวัชระที่พร่างพราวบริสุทธิ์เหมือนเพชรนั้น
เหมือนภาชนะแตก
อาณาจักรแสงพุทธที่เหมือนไม่ดับสูญไม่พังทลาย วัชระแข็งแกร่งนิรันดร์ ถูกเยี่ยนจ้าวเกอโจมตีจนแตกแหลกในหมัดเดียว!
มิติเวลายังคงผนึกแข็ง เหมือนกับมีภาชนะของจริงที่มีรูปร่างมีสสารแตกกระจาย หลุดร่วงลงบนพื้น
เยี่ยนจ้าวเกอเดินไปด้นหน้า ไปถึงเบื้องหน้าวัชรอภิณฑ์พุทธะ ออกหมัดที่สอง
วัชรอภิณฑ์พุทธะสีหน้าไร้อารมณ์ กำหมัดต่อยไปด้านหน้า ปะทะกับหมัดของเยี่ยนจ้าวเกอเช่นกัน
สองหมัดกระแทกกัน ความว่างเปล่าในเขตมารรอบๆ พลันสั่นสะเทือน
วัชรอภิณฑ์พุทธะร่างส่าย หมัดของท่านที่กระทบกับเยี่ยนจ้าวเกอแตกร้าวเหมือนพุทธเกษตรวัชระก่อนหน้าทันที!
รอยแตกลามตามแขนของวัชรอภิณฑ์พุทธะ ขยายเข้าหาส่วนอื่นๆ บนร่างท่านอย่างรวดเร็ว
พระโพธิสัตว์กวนอิมเห็นดังนั้นไม่กล้าประมาท รีบร้อนยกแจกันบริสุทธิ์ขึ้น เอียงปากแจกัน ฝนทิพย์พากันไหลออกมา
ด้านหนึ่งตกใส่ร่างวัชรอภิณฑ์พุทธะ หล่อเลี้ยงกายทอง ช่วยรักษาอาการาดเจ็บและซ่อมแซม
ด้านหนึ่งโอบล้อมเยี่ยนจ้าวเกอ ฝนทิพย์ไหลริน วนเวียนรอบตัว ลดระดับพลังการโจมตีของอีกฝ่าย
ในหนึ่งกระบวนท่า ทั้งโจมตีศัตรูทั้งช่วยคน โพธิสัตว์เมตตาสงสาร เทวราชถลึงตา ล้วนหลอมรวมเป็นหนึ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่สนใจ อ้าปากเป่าลม
ควันขาวสายหนึ่งถูกเป่าออกมาจากปากเยี่ยนจ้าวเกอแค่เส้นเดียว แต่ว่าพอถึงกลางอากาศกลับกลายเป็นยิ่งใหญ่เหมือนกระแสน้ำยาวเหยียด
ควันขาวกระจายทั่ว ถึงกับปัดเป่าฝนทิพย์ที่โด่งดังทั่วโลกของพระโพธิสัตว์กวนอิมกระจายหาย
‘แม้แต่พวกหยางเจี่ยน นาจา สั่วหมิงจาง เฟิงอวิ๋นเซิง ต่างก็มีกระบวนการพัฒนาขึ้นต่อเนื่อง ระดับแบ่งแยกชัดเจน’ คนในศาสนาพุทธโอดครวญในใจ ‘เยี่ยนจ้าวเกอผู้นี้พึ่งขึ้นสู่มหาชาล ก็แข็งแกร่งถึงขั้นนี้แล้ว?!’
ถึงแม้จะได้พวกเดียวกันช่วยเหลือ ถึงแม้ศัตรูตรงหน้าจะแข็งแกร่ง แต่วัชรอภิณฑ์พุทธะไม่ยอมถอย
พุทธะองค์นี้เปล่งคำสรรเสริญคุณคำหนึ่ง ตะเกียงทองบนศีรษะพลิกคว่ำ สารีริกธาตุร่วงลง
ท่านไม่สนใจแขนซ้ายที่ได้รับบาดเจ็บของตัวเอง และไม่ได้คิดเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวเอง ต้านทานพลังของเยี่ยนจ้าวเกอ
แต่ยกมือขวาของตัวเองขึ้น รวบรวมพลังทั้งหมด กระตุ้นสารีริกธาตุ โต้กลับใส่เยี่ยนจ้าวเกอ
พุทธะที่ขึ้นชื่อเรื่องการป้องกันองค์นี้ วินาทีนี้กลับรวบรวมพลังทั้งชีวิตในการโจมตีนี้!
เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าฉายแววชมเชย แต่ไม่มีความคิดต่อต้าน
หมัดที่เขาใช้ทำลายแขนซ้ายของวัชรอภิณฑ์พุทธะข้างนั้น โจมตีไปด้านหน้าเป็นครั้งที่สาม!
พลังงานอันบ้าคลั่งทำลายฟ้าดินกระแทกกระทั้น ร่างของวัชรอภิณฑ์พุทธะพังทลายด้วยความเร็วสูง!
ไม่รอหมัดขวาที่วัชรอภิณฑ์พุทธะใช้โต้กลับกระทบร่างตน เยี่ยนจ้าวเกอก็ต่อยหมัดหนึ่งใส่ร่างวัชรอภิณฑ์พุทธะจนแตกร้าว!
พุทธะขนาดมหึมาระเบิดแหลกเป็นละอองแสงสีทองทั่วฟ้า
วัชรอภิณฑ์พุทธะที่ได้รับการยกย่องว่าการป้องกันกายทองเป็นอันดับหนึ่งท่ามกลางนักบวชศาสนาพุทธระดับมหาชาล ถูกเยี่ยนจ้าวเกอต่อยจนมรณะในสามหมัด!
………………..