ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1789 ทําลายโลกเก่า เปลี่ยนแปลงฟ้าดิน
ขณะมองเงาร่างที่แปลกหน้าอยู่บ้าง หากคุ้นเคยอยู่บ้างนั้น ทุกคน ที่อยู่รอบๆ ต่างสีหน้าซับซ้อน โพล่งขึ้นมา “มหาเทวะเสมอฟ้า!”
วานรที่สวมเสื้อนักพรตผู้นั้น ถึงกับเป็นซุนหงอคง ราชาวานรโสภา มหาเทวะเสมอฟ้าผู้ยิ่งยง!
‘เป็นเขาจริงๆ’ ทุกคนกล่าวในใจ
‘วานรตัวนี้หลุดจากผนึกสะกดยูไลได้ เป็นเหล่าจวินช่วยเหลือ จริงๆ’
ในยุคโบราณตอนกลาง ก่อนวานรจะถูกพระยูไลสะกด ถูกเหล่าจ วินจับเข้าไปในเตาหลอมโอสถ บางทีเพื่อซ่อนความสามารถลับใน ภายหลัง
เหล่าจวินอยู่ๆ เกิดความสนใจ กระทําตามใจชอบ ไม่มีความคิด วางหมาก กลับโยนก้อนหินไปในกระดานหมากของคนอื่น
ปัจจุบันเขาหมุนก้อนหินก้อนนี้ หลังจากยุ่งกับกระดานหมากองคน อื่น ก้อนหินก็กระโดดออกมากลายเป็นคนวางหมากคนใหม่
วานรถือกําเนิดจากเผ่าปีศาจ เป็นการสนับสนุนกษัตริย์บูรพาไท่อี้
ถึงพระศรีอาริย์จะเป็นศาสนาพุทธ แต่เปลี่ยนศาสนาพุทธเป็น เส้นทางนอกรีต ทําให้การสืบทอดของพระยูไลบนแดนอภิรดีศูนย์กลาง ปั่ นป่วน มหาเทวะเสมอฟ้าไม่มีความคิดเป็นศัตรูต่อเขา
ก่อนหน้านี้วางแผนไว้ไม่ป่าวประกาศ พระศรีอริยเมตไตรยบางที ยังไม่เข้าใจกระจ่าง
แต่พร้อมกับการพัฒนาของสภาพการณ์ และกษัตริย์บูรพาบอก เป็นนัย พระศรีอริยเมตไตรยย่อมคํานวณความจริงเรื่องราวได้
ดังนั้นท่านจึงสะกดเทวกษัตริย์ไร้ประมาณอย่างแน่วแน่
สําหรับแดนสุขาวดีบัวขาว มหาเทวะเสมอฟ้าขึ้นสู่ระดับเซียน ก็ ดีกว่าทีปังกรพุทธะ พระอาจารย์เสวียนตู จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋
“ก่อนหน้านี้เขา…” หยางเจี่ยนมองเสื้อนักพรตบนร่างวานร จิตใจ สั่นไหวเล็กน้อย หันไปมองพระอาจารย์เสวียนตู
พระอาจารย์เสวียนตูก็มองวานรเช่นกัน ตาเป็นประกาย จิตใจไม่ เป็นสรรพรส
“ท่านเองก็ไม่แน่ใจกระมังว่าก่อนหน้านี้เขาอยู่ที่หวังดุสิตหรือไม่?” เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะเหอะๆ
พระอาจารย์เสวียนตูเงียบงัน
“อาจอยู่ที่วังดุสิต และอาจอยู่อีกด้านหนึ่ง” เยี่ยนจ้าวเกอพูด “อย่างเช่นว่า หลังมหาภัยพิบัติ ท่านเองก็ไม่ได้กลับวังแปดทัศน์ กระมัง?”
หลังบรมครูสามพิสุทธิ์หลุดพ้น ตําหนักหยก ตําหนักแปดทัศน์ ตําหนักมรกตก็ซ่อนเร้นอย่างรวดเร็ว ไท่ซ่างเหล่าจวินพํานับในตําหนัก โอสถ
หลังมหาภัยพิบัติ ตําหนักหยก ตําหนักแปดทัศน์ ตําหนักมรกต ยิ่ง ไม่มีข่าวคราวโดยสมบูรณ์
มีแต่ก่อนชิงค่ายกลลงทัณฑ์เซียน พระอาจารย์เสวียนตูขอให้ เหล่าจวินให้ชี้ทาง หลังบอกหยางเจี่ยนแล้ว หยางเจี่ยนก็ปลอมเป็นเจ้า แม่โฮ่วถูไปตําหนักหยก เอาตะเกียงเครื่องเคลือบหยกมายามา
ที่อยู่ของตําหนักแปดทัศน์ แม้แต่ผู้สืบทอดเอกพิสุทธิ์อย่างพระ อาจารย์เสวียนตูก็ไม่เคยทราบ ไม่ได้ไปมาหลายปีแล้ว
ตอนนี้ได้ยินเยี่ยนจ้าวเกอพูดขึ้น พระอาจารย์เสวียนตูเงียบงันไม่ พูดจา
“อย่าว่าแต่ใต้เท้ากษัตริย์บูรพากับพระศรีอริยเมตไตรย” เยี่ยน จ้าวเกอกล่าว “ต่อให้สําหรับอามิตาภพุทธเจ้ากับเทวกษัตริย์ไร้ ประมาณ ถ้าหากได้แต่เลือกระหว่างพวกท่านทั้งสองกับมหาเทวะเสมอ ฟ้าแล้ว พวกเขาก็จะเลือกมหาเทวะเสมอฟ้าเช่นกัน”
“อย่างน้อยพวกเขายังลองทุ่มดูได้ ดูว่ามหาเทวะเสมอฟ้าเลื่อนสู่ ระดับมรรคา จะกระตุ้นพระยูไลที่หลุดพ้นไปแล้วกลับมาหรือไม่” เยี่ยน จ้าวเกอทางหนึ่งพูดทางหนึ่งส่ายหน้า
“ทุกสิ่งสุดท้ายเป็นไปตามที่เหล่าจวินคาดไว้ พวกเรายังไม่อาจ เปลี่ยนชะตาชีวิตนี้ได้” จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋มองวานร จากนั้น มองเยี่ยนจ้าวเกอ “แต่เจ้ายอมเช่นนี้จริงๆ หรือ?”
เยี่ยนจ้าวเกอสบตากับจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋นิ่งๆ
“ท่านโกรธที่ศิษย์น้องเสวียนตูวางแผนเล่นงานเนี่ยจิงเสิน โกรธข้า ที่วางแผนเล่นงานภรรยาท่าน แต่ท่านไหนเลยไม่อยู่ในแผนการของ เหล่าจวินเช่นกัน?” จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋กล่าวเสียงทุ้ม “ท่าน ยินยอมจริงๆ หรือ?”
“หมากบนกระดานหมากแตกต่างกับก้อนหินบนกระดานหมากอยู่ แล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างสงบนิ่ง “แน่นอนว่าสามารถกล่าวได้ว่า
เป็นการข่มเหงคน ถูกผิดสําเร็จล้มเหลวหันมองล้วนว่างเปล่า ตอนนี้
ด่วนสรุปยังเร็วไป” เขาชี้วานรที่กําลังก้าวเข้ามาในนพยมโลก พลันหัวเราะ “แต่ถ้า
หากนับแค่เรื่องในวันนี้ ข้ายินดีที่ช่วยเหลือได้” เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะอย่างยินดี ทําให้คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจสาเหตุ
มีแต่เฟิงอวิ๋นเซิงยิ้มน้อยๆ มองเขา เข้าใจความคิดในใจเขา เรื่องอื่นๆ ปรึกษาได้ แต่เรื่องนี้เยี่ยนจ้าวเกอไม่คิดใช้เหตุผล ต่อให้ถูกคนด่าว่าเป็นติ่งเดนตาย เขาก็คร้านจะสนใจ เหตุกาลก่อนผลภายหลังไม่ต้องถาม เพียงขอให้วันนี้สุขใจ! “ยิ่งอย่าว่าแต่ไม่ช่วยมหาเทวะ หรือให้ข้าช่วยพวกท่านสองคน”
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะเย็นชาพร้อมกับมองจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋เงียบงันเล็กน้อย เขามองเยี่ยนจ้าวเก
ออย่างล�าลึก “ถูกต้อง ถูกผิดสําเร็จล้มเหลวหันมองล้วนว่างเปล่า” เยี่ยนจ้าวเกอเลิกคิ้วเบาๆ หัวเราะเย็นชาจับจ้องอีกฝ่าย
“สหายน้อย พวกเราเจอกันอีกแล้ว!” วานรยามนี้ก้าวเข้ามาในเขต มาร มาถึงตรงหน้าพวกเยี่ยนจ้าวเกอ หัวเราะพลางพูดกับอีกฝ่ายว่า “ครั้งนี้รับน�าใจเจ้าอีกแล้ว ข้าเหล่าซุนซาบซึ้งยิ่ง”
“สมควรเรียกท่านว่ามหาเทวะ หรือว่าอีกฉายาหนึ่ง?” เยี่ยนจ้าว เกอพบวานร หัวเราะขึ้น
วานรหัวเราะร่า “ชื่อแซ่ของข้าซุนหงอคง ถึงแม้เป็นเฒ่ายูไลตั้งให้ แต่ข้าคือข้า ไฉนต้องถือสาชื่อแซ่? ทิ้งแล้วเป็นไร ไม่ทิ้งแล้วเป็นไร? ที่ เรียกเป็นข้าก็พอ ไม่จําเป็นต้องใส่ใจ”
“มหาเทวะกลับใจกว้างกว่าวันวาน ไม่ทราบว่ายังขี้โมโหอยู่ หรือไม่?” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ข้าซุนหงอคงไม่ใช่ใจกว้าง แต่เรื่องเล็กๆ เหล่านี้ไม่ควรค่าแก่การ เอ่ยถึง สิ่งที่ข้าต้องการคือเรื่องใหญ่!” วานรทางหนึ่งพูด ร่างกายทาง หนึ่งเริ่มขยายใหญ่ เหมือนกับต้องการดันทําลายนพยมโลก
“สหายน้อยจําได้ไหมว่า ข้าเคยบอกว่าสักวันจะต้องหลุดพ้น ไป ตามหาเฒ่ายูไลถกเหตุผล!” วานรยักษ์ค�าฟ้ายันดินตวาดขึ้น “วันนี้เป็น ก้าวแรก!”
เขายกมือขึ้น กระแสปราณหลายสายผนึกรวมกลางฝ่ามือ กลายเป็นกระบองท่อนหนึ่งในพริบตาเดียว!
กระบองนั้นตั้งขึ้น ถึงกับเหมือนกระบองสารพัดนึกของจริงหาก แข็งแกร่งกว่า เกรี้ยวกราดกว่า ดุร้ายกว่า!
ใต้ค่ายกลทะเลเลือด มารสวรรค์บรรพกําเนิดกับมารสวรรค์ไร้ พันธนาเห็นดังนั้น ต่างนิ่วหน้า
“สหายร่วมเส้นทางเชิญ” มารสวรรค์บรรพกําเนิดพูดกับอามิตาภ พุทธเจ้า
ขณะที่พูด มันยกฝ่ามือหนึ่งขั้น ฟาดเงาแสงที่เป็นสัญลักษณ์มาร สวรรค์ปัจฉิมธรรมบนเสาด้านข้างจนแหลก!
ร่างที่เปลี่ยนมาจากวิญญาณเจี่ยนซุ่นหวาสลายหายตามไป
มารสวรรค์บรรพกําเนิดทิ้งโอกาสจุติของมารสวรรค์ปัจฉิมธรรมใน ยุคสมัยนี้
ค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ที่เดิมอ่อนแอหยุดนิ่ง ไม่อาจ ประคับประคองได้อีก เริ่มสูญสลายโดยสิ้นเชิง
อามิตาภพุทธเจ้าเห็นดังนั้น อยู่ๆ ก็หยุดพัวพันเหล่ามาร มุ่งหน้าไป นอกทะเลเหว
แต่ว่ากษัตริย์บูรพาไท่อี้ขวางเส้นทางของท่านทันที
ไท่ซ่างเหล่าจวินใช้หนึ่งสู้สอง ขวางมารสวรรค์บรรพกําเนิดกับมาร
สวรรค์ไร้พันธนา ในนพยมโลก วานรยักษ์ควงกระบอง เพียงกวนคนไปทางท้องฟ้า
ความว่างเปล่าในเขตมารถูกฉีก โจมตีใส่พื้นครั้งหนึ่ง อาณาเขตนพยมโลกแหลกสลายเป็นแผ่นผืน วานรยักษ์ร้องคําราม หมุนกระบองในมือเป็นวง และกวาดทําลาย
ไปทั่วสี่ทิศ ควันดํามลาย สายฟ้าโลหิตกระจัดกระจาย มิติเวลาถล่มเป็นแผ่น
ผืน เหมือนกับกระแสคลื่นยิ่งใหญ่ กระจายไปด้านนอก! จุดเชื่อมความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดระหว่างนพยมโลกกับมนุษย์ใน
โลกภายนอก เริ่มสั่นสะเทือนไม่หยุด มหาจักรวาลและโลกในมนุษย์ได้รับผลกระทบ ความว่างเปล่าพับ
จีบกระเพื่อม เหมือนคลื่นทะเลที่ถั่งโถม กระบองในมือมหาเทวะเสมอฟ้าหมุนวนเหมือนกรงล้อเพลิง ถึง
ตอนสุดท้ายการหมุนพลันหยุดลง วานรใช้สองมือชูกระบองขึ้น จากนั้นฟาดลงอย่างหนักหน่วง!
เริ่มจากจุดเล็กๆ จุดหนึ่ง เขตมารนพยมโลกถล่มทลาย ล่มสลายไป ยังจุดหนึ่งอย่างบ้าคลั่ง!
……………….