ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1791 พวกท่านไม่มีโอกาสแม้แต่นิดเดียว
เห็นการเคลื่อนไหวของเยี่ยนจ้าวเกอ ยอดฝีมือผู้ยิ่
งใหญ่เช่นพวกห
ยางเจี่ยน นาจา ไท่อี้จินหยินต่างทอดถอนใจ
“หวังว่าสหายร่วมเส้นทางเยี่ยนจะปรานี” หยางเจี่ยนส่ายหน้า
ถอนใจ
เยี่ยนจ้าวเกอฝีเท้าไม่หยุด “พี่ร่วมเส้นทางคํานึงถึงน�าใจพวก
เดียวกัน ข้าผู้แซ่เยี่ยนเข้าใจได้วันนี้แม้ว่าฝนผ่านฟ้ากระจ่างแล้ว แต่
เหมือนวัวหายล้อมคอก พวกเขาชดเชยไม่ได้แล้ว”
“ไม่มีคําว่ากล่าวสักเล็กน้อย คิดทําเหมือนไม่เคยเกิดเรื่องอะไรสัก
อย่าง ใช้ได้หรือ?”
หยางเจี่ยนได้ยิน เงยหน้าถอนใจ ไม่กล่าวอีก
นาจาและไท่อี้จินหยินเพียงแต่เงียบเสียง
เยี่ยนจ้าวเกอก้าวเท้าเหมือนไม่ยาว แต่พริบตาเดียวบรรลุถึง
ตรงหน้าจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋กับพระอาจารย์เสวียนตู
เห็นไท่ซ่างเหล่าจวินไม่สนใจเรื่องที่เกิดทางด้านนี้โดยสิ้
นเชิง
เหมือนสัมผัสไม่ได้หนานจี๋และเสวียนตูสีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
ความเย็นเยียบที่ก้นบึ้
งจิตใจเข้มข้นกว่าเดิม
พวกเขาพากันหนีไปทิศทางที่ต่างกันโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
พระอาจารย์เสวียนตูร่างเปลี่ยนเป็นความว่างเปล่ามายา คล้าย
กลายเป็นการดํารงอยู่ที่ไร้รูปไร้สสาร
ร่างเขาหายไปในความว่างเปล่า คิดข้ามขอบเขตธรรมชาติฟ้าดิน
แห่งใหม่นี้กลับสู่วังดุสิตที่อยู่สูงไกลไร้สิ้
นสุด
จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋นั่
งบนโครงรถที่เปลี่ยนมาจากสายฟ้า
เสียงเปรี้ยงดังขึ้
น แสงสายฟ้ากะพริบ โครงรถหลุดออก กลายเป็น
แสงสายฟ้ายิ่
งใหญ่ ม้วนจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋เคลื่อนไปสู่ความ
ว่างเปล่า ออกจากที่นี่ด้วยความเร็วสูง
สายฟ้าดังขึ
้
นติดต่อกัน สายฟ้าอนัตตา สายฟ้านิรันดร์สายฟ้าชั่
ว
พริบตา สามวิชาสายฟ้าถูกใช้พร้อมกัน ความเร็วการเคลื่อนที่ของ
จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ถึงขั
้
นสูงกว่าพระอาจารย์เสวียนตู
เทวกษัตริย์สํานักเต๋าทั้
งสองที่มีชื่อเสียงมาตั้
งแต่ยุคโบราณตอนต้น
เวลานี้ไม่มีความคิดลงมือต่อสู้กับเยี่ยนจ้าวเกอ เพียงแต่แยกกันหนีไป
คนละทาง ส่วนเยี่ยนจ้าวเกอจะไปทางไหน ได้แต่ให้ฟ้าลิขิตแล้ว
ถึงจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋จะเชี่ยวชาญคัมภีร์เกิดนภา แต่
ตอนนี้คํานวณไม่ออกว่าตัวเองมีความหวังจะหนีรอดสักกี่ส่วน
กระนั
้
นอย่างน้อยพลังที่เยี่ยนจ้าวเกอแสดงออกมาตอนกวาดล้าง
เหล่าพุทธะแห่งแดนสุขาวดีตะวันตกก่อนหน้านี้ก็ทําให้ทุกคนทราบ
แล้วว่า ต่อให้พระอาจารย์เสวียนตูกับจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋
ร่วมมือกัน เผชิญกับเยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่มีโอกาสชนะแม้แต่น้อย
แยกกันหนีอาจมีโอกาส
หากอยู่สู้โอกาสแม้แต่น้อยก็ไม่มี
เยี่ยนจ้าวเกอเหมือนมองทะลุความคิดของพวกเขา
“ไม่ว่าพวกท่านจะทําอย่างไร ก็ไม่มีโอกาสแม้แต่นิดเดียว” เขา
แค่นเสียงพูด
ทุกคนตรงหน้าพร่ามัว เพียงรู้สึกเหมือนปรากฏเยี่ยนจ้าวเกอสอง
คน!
ทั
้
งๆ ที่เยี่ยนจ้าวเกอไม่รีบไม่ร้อน เดินไปด้านหน้าอย่างสงบใน
ความว่างเปล่าที่เดิม
แต่ขณะเดียวกัน ตรงหน้าพระอาจารย์เสวียนตูกับจักรพรรดิอายุ
วัฒนาหนานจี๋ที่หลบหนีถึงกับปรากฏเยี่ยนจ้าวเกอด้านละคน
ไม่ใช่เงาลวง ยิงไม่ใช่ความรู้สึกหลอน ่ แต่เป็นเยี่ยนจ้าวเกอเหมือน
กับดํารงอยู่พร้อมกันบนตําแหน่งที่แตกต่างของเวลาอย่างแท้จริง
คนอื่นๆ ในสํานักเต๋าเห็นดังนั้
น ส่วนใหญ่ถอนใจชมเชย พระ
อาจารย์เสวียนตูกับจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋เห็น จิตใจท้อถอยยิ่
ง
กว่าเดิม
พวกเขาเร็ว เยี่ยนจ้าวเกอเร็วกว่าพวกเขา!
เยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้เหมือนกับเผิงท่องเมฆหมื่นลี้หรือหยาง
เจี่ยน เผชิญกับผู้เข้มแข็งระดับเดียวกัน เห็นชัดว่าคงอยู่ทุกที่เหมือนกัน
ถึงแม้พระอาจารย์เสวียนตูกับจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋จะ
แยกกันหนีไปคนละทาง เยี่ยนจ้าวเกอก็ขวางพวกเขาพร้อมกัน!
“วาสนากับภัยพิบัติอยู่ร่วมกันจริงๆ” จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋
เหนื่อยล้าอยู่บ้าง พ่นลมหายใจยาวๆ ร่างพลันเริ่
มเล็กลง
เซียนสวรรค์มหาชาลที่ยิ่
งใหญ่สูงไกล อิทธิฤทธิ
์
มากมาย ชั่
วครู่
เดียวเหมือนหดกลายเป็นข้าวเปลือกเม็ดหนึ่งในมหาสมุทร
ไม่เพียงแต่ร่างกายหดเล็ก บุปผาเซียนก็หายไปด้วย ไม่ปล่อย
ออกมาด้านนอกแม้แต่น้อย
นี่ทําให้ในประสาทรับรู้ของคนอื่นๆ เขาไม่เพียงหดเล็ก ยิ่
งเหมือน
หายไปจากที่เดิม
ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอยิ้
มเล็กน้อย ยื่นนิ้
วออกมาแตะกับความว่างเปล่า
พร้อมกับที่เขาแตะนิ้
วนี้มิติเวลาสั่
นไหว ปรากฏแสงสายฟ้าใหม่
เงาร่างของจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋โผล่ขึ้
นตรงหน้าผู้คน
ร่างกายเหมือนใหญ่ขึ
้
นอีกครั
้
ง กําลังจะถูกเยี่ยนจ้าวเกอทิ่
มนิ
้
วใส่
กลางหว่างคิ
้
วระหว่างสองตา
นี่กลับไม่ใช่ความประสงค์ของจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋แต่เป็น
เยี่ยนจ้าวเกอใช้นิ้
วเดียวทําลายอิทธิฤทธิ์
องเขา ลากเขาออกมาจากจุด
สุดขีด
จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋เผยตัวเองอย่างไม่อาจควบคุม ยิ่
ง
เหมือนส่งหน้าผากตวเองเข้าหานิ้
วของเยี่ยนจ้าวเกอ
“สั่
ง!” ตอนนี้จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋สีหน้ากลับคืนสู่ความ
สงบนิ่
ง สายตาเย็นชาเหมือนน�า
ในเสียงตวาดเบาๆ ลําแสงสายหนึ่งลอยขึ
้
นจากร่างเขา กะพริบสี
ม่วง เขา ทองเหลือง
ลําแสงกลายเป็นหยกหรูอี้ท่อนหนึ่ง ขวางอยู่ตรงหน้าจักรพรรดิ
อายุวัฒนาหนานจี๋
เป็นหยกหรูอี้ไตรรัตนะที่เทวกษัตริย์บรรพกําเนิดทิ้
งไว้หลังหลุด
พ้น
ก่อนหน้านี้ของวิเศษชินนี้เป็นกุญแจสําคัญที่จักรพรรดิอายุวัฒนา ้
หนานจี๋กับพระอาจารย์เสวียนตูแย่งชิงกัน และเป็นกุญแจสําคัญที่
จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ใช้ทะลวงสู่ระดับมรรคาในการวางหมาก
บนนพยมโลกเช่นกัน
ทว่าตอนนี้เผชิญกับดัชนีของเยี่ยนจ้าวเกอ จักรพรรดิอายุวัฒนา
หนานจี๋ได้แต่เซ่นหยกหรูอี้ไตรรัตนะออกมา
นี่เป็นคําว่ากล่าวที่เขามอบให้แก่เยี่ยนจ้าวเกอและเฟิงอวิ๋
นเซิง
มาตรว่าจะเสียดายปานใด ตอนนี้ได้แต่เป็นวีรบุรุษหักข้อมือ
ไม่อย่างนั้
น เขาอาจถูกเยี่ยนจ้าวเกอฆ่าตายคาที่จริงๆ
เยี่ยนจ้าวเกอจี้นิวออก
้ หยกหรูอี้ไตรรัตนะขวางอยู่ตรงหน้า
จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋
ถึงแม้อีกฝ่ายไม่อาจผลักดันของล�าค่าชิ้
นนี้ได้ตามใจ แต่ตอนนี้ก็
เกิดผลสกัดขวางหลายส่วน
นิ
้
วของเยี่ยนจ้าวเกอแตะบนผิวหยกหรูอี้ไตรรัตนะ พลังงานเปลี่ยน
แข็งเป็นอ่อน
แสงสว่างสีม่วง ขาว ทอง ไหลเวียนกะพริบไม่หยุด ถูกปราณพิสุทธิ
์
รอบตัวเขาม้วนคลุม
ขณะกระแสปราณรอบตัวเยี่ยนจ้าวเกอกะเพื่อม รูขุมขนบนมือเขา
เปิดปิด แสงสว่างเป็นจุดๆ ที่เล็กเหมือนเม็ดข้าวโพดลอยขึ้
นราวกับดาว
เจิดจรัส
แสงหลายจุดนั
้
นปรากฏสีม่วง ขาว เหลือง ส่องสะท้อนกับประกาย
แสงบนหยกหรูอี้
ในขณะเดียวกัน ร่างของจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ก็กลายเป็น
แสงสายฟ้าใหม่ ฉวยโอกาสหนีไปยังที่ไกล
“แค่นี้ก็พอแล้ว?” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างไม่นําพา
เขายื่นมืออกมาจับหยกหรูอี้ไตรรัตนะ ในสองตาปรากฏประกาย
แสงสีเขียวมรกต
มืออีกข้างที่่
ว่างโจมตีใส่เงาหลังของจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋
การโจมตีที่เหมือนมองไม่เห็นโดยตรงกระทบร่างจักรพรรดิอายุ
วัฒนาหนานจี๋แต่ว่าร่างของจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋พลันสั่
นไหว!
ในม่านตาสองข้างของเขาปรากฏประกายแสงสีเขียวมรกตเช่นกัน
กะพริบพร้อมเกาะเกี่ยวกันไม่หยุด กลายเป็นลวดลายอาคมที่ลี้ลับ
จากนั
้
นก็แหลกสลาย!
แสงสีเขียวกะพริบขึ
้นในม่านตาของจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋
แล้วแหลกสลายหมดสิน
้ กลายเป็นแสงส่างเป็นจุดๆ ก่อนจะหาย
สาบสูญ
เขาครางหนักๆ คําหนึ่ง จิต ปราณ สารกําเนิดลดต�าลง สามบุปผา
บนศีรษะมืดสลัว
จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ไม่กล้าหยุดอยู่ต่อ รีบร้อนหลบหนี
หลอมรวมกับส่วนลึกความว่างเปล่า
ตรงหน้าพระอาจารย์เสวียนตูที่อยู่อีกด้าน ปรากฏเงาร่างของเยี่ยน
จ้าวเกออย่างชัดเจนเช่นกัน
เยี่ยนจ้าวเกออ้าปากพ่นควันขาวสายหนึ่งออกมา ควันขาวยิ่
งใหญ่
ดุจธารสวรรค์ไหลเชี่ยวรุนแรง พุ่งใส่พระอาจารย์เสวียนตู
“ถ้ารู้แต่แรกว่าสังขารของศิษย์น้องจื่อเวยอยู่ในมือนพยมโลกแล้ว
ข้าก็ไม่จําเป็นต้องทําแบบนี้เพิ่
ม กลับบ่มผลทุกข์ในวันนี้เกิดภัยพิบัติ
เช่นนี้…”
ในเสียงถอนใจเบาๆ ของพระอาจารย์เสวียนตูกระแสปราณสี
เหลืองดําสองสายรวมตัวบนศีรษะ กลายเป็นเจดีย์สี่เหลี่ยมที่เป็นมายา
องค์หนึ่ง
เป็นปราณเหลืองดําฟ้าดิน
ตอนนี้การตอบโต้ไม่มีประโยชน์ไม่อาจหนีรอด พระอาจารย์
เสวียนตูหยุดความคิดอื่นๆ หลับสองตา ใช้ปราณเหลืองดําฟ้าดิน นั่
งนิ่
ง
ในความว่างเปล่า
………………..