ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1792 มีหนึ่งตัวคิดหนึ่งตัว ล้วนต้องตาย
เยี่ยนจ้าวเกอที่ยึดหยกหรูอี้ไตรรัตนะ และทําลายการฝึกฝนคัมภีร์
เกิดนภาของจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ตอนนี้บุปผาแสงสีเขียวมรกต
กะพริบในสองตาอย่างรุนแรงครั้
งหนึ่ง
เขาขมวดคิ
้
วเล็กน้อย จากนั
้
นหัวคิ
้
วก็คลายออกอย่างรวดเร็ว แสง
มรกตในม่านตาจางลงไป
ทางหนึ่งหล่อเลี้ยงหยกหรูอี้ไตรรัตนะในมือ ทางหนึ่งมองพระ
อาจารย์เสวียนตู
“วันนี้ศิษย์พี่เนี่ยกับศิษย์พี่อวี่ยังอยู่ เห็นแก่หน้าเหล่าจวิน ข้าจะไม่
สร้างความลําบากแก่ท่านเกินไป” เยี่ยนจ้าวเกอมองเจดีย์เล็กๆ
สี่เหลี่ยมที่เป็นมายากับกระแสปราณสีเหลืองดําหลายสายนั้
นบนศีรษะ
พระอาจารย์เสวียนตู“แต่ถ้าท่านคิดว่าแบกเจดีย์เหลืองดําฟ้าดินไว้
แล้ว จะไม่มีใครทําอะไรท่านได้เช่นนั
้
นออกจะนึกเอาเองไปหน่อย”
ว่าแล้ว บนศีรษะเยี่ยนจ้าวเกอก็ปรากฏฉัตรที่ปกคลุมธรรมชาติ
สามพิสุทธิ
์
เป็นหนึ่ง
ปราณพิสุทธิ
์
ไร้สิ้
นสุดไร้ประมาณที่ขอบฉัตรห้อยลงเหมือนกับผ้า
ไหมหลายเส้น
ปราณพิสุทธิ
์
หมุนวน ห่อหุ้มพระอาจารย์เสวียนตูพร้อมกับเจดีย์
เล็กๆ สี่เหลี่ยมที่เป็นมายาบนศีรษะไปด้วย จากนั
้
นก็ตกลงบนฉัตร
พระอาจารย์เสวียนตูลืมตาขึ
้
น
เขาใช้ปราณเหลืองดําฟ้าดิน หมื่นภัยไม่กล�ากราย หมื่นวิชายากทํา
ร้าย
ถึงแม้ตอนนี้พระอาจารย์เสวียนตูจะไม่อาจทําเรื่องอื่น ถึงขั
้
น
เคลื่อนย้ายยังลําบาก แต่ในทางกลับกัน คนอื่นๆ ทําลายปราณเหลือง
ดําฟ้าดินของเขาไม่ได้และยากจะโยกคลอนตําแหน่งของเขา
ใช้ปราณเหลืองดําฟ้าดินหลงหลง เยี่ยนจ้าวเกอไม่ทําลายมัน ก็ทํา
อะไรพระอาจารย์เสวียนตูไม่ได้สองฝ่ายได้แต่ยื้อยันกันที่นี่
แม้จะจะเสียหน้ายิ่
ง แต่พระอาจารย์เสวียนตูอย่างน้อยก็รักษา
ศักดิ
์
ศรีสุดท้ายไว้
เขาเชื่อว่า เจ้าแม่อู๋ตังกับนางเซียนอวิ๋
นเซียว ไม่ถึงกับใช้ค่ายกลลง
ทัณฑ์เซียนมาช่วยเยี่ยนจ้าวเกอทําลายปราณเหลืองดําฟ้าดินขอบเขา
แต่เยี่ยนจ้าวเกอไม่มีความคิดจะใช้ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนอยู่แล้ว
พระอาจารย์เสวียนตูตกลงบนฉัตร ขยับเขยื้อนไม่ได้
ต่อให้เขาคิดจะสลายปราณเหลืองดําฟ้าดินไปเอง ตอนนี้ถึงกับ
ควบคุมไม่ได้
ฉัตรกับเจดีย์องค์เล็กอันเป็นมายานั้
น ประกอบกันเป็นกรงไร้
รูปร่างกรงหนึ่ง คุมขังเขาไว้ที่นี่
ถึงเวลา เขายังถูกเยี่ยนจ้าวเกอจับกุมสะกดไว้อยู่ดี
เพียงแต่ว่าเป็นไปตามคําพูดของเยี่ยนจ้าวเกอ เพราะเห็นแก่หน้า
เหล่าจวินหลายส่วน ดังนั
้
นสภาพจึงมิได้ทุเรศเกินไป
เยี่ยนจ้าวเกอแบกฉัตรบนศีรษะ มือถือหยกหรูอี้ไตรรัตนะ สาวเท้า
ก้าวเดินในความว่างเปล่า
ในธรรมชาติที่มหาเทวะใช้นพยมโลกสร้างขึ้
น จอมมารที่อยู่ในเขต
มารนพยมโลกก่อนหน้านี้หลงเข้ามาในนี้หลังจากค่ายกลสิบสองเทพ
มารสวรรค์ถูกทําลาย
บนความว่างเปล่า ประตูหยกกับบัวขาวเคลื่อนย้ายไปมา
สองศาสดาเส้นทางนอกรีตอย่างเทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับพระศรี
อาริย์ไม่ได้เข้าร่วมสงครามระดับมรรคาของเหล่าจวิน อามิตาภพุทธ
เจ้า มารสวรรค์บรรพกําเนิด
เป้าหมายของพวกเขาเป็นการชําระล้างให้มวลมารนพยมโลกหัน
มานับถือตนเอง กลายเป็นแหล่งที่มาของพลังศรัทธาแห่งใหม่
สองศาสดาเส้นทางนอกรีตจับตาการวางหมากบนนพยมโลกใน
วันนี้มาโดยตลอด นอกจากจะใส่ใจการแย่งชิงกันเองของอามิตาภพุทธ
เจ้ากับกษัตริย์บูรพาไท่อี้แล้ว ยังสนใจด้วยว่าผู้ใดจะขึ
้นระดับมรรคาได้
แรงขับอยู่ที่ ‘ประชากร’ อันมหาศาลเหมือนกันในนพยมโลก
ในกระบวนการที่มหาเทวะเสมอฟ้าทําลายนพยมโลก สร้าง
ธรรมชาติขึ
้
นใหม่ได้กวาดล้างมารร้ายระดับกลางถึงต�าจํานวนมาก
เหลือมารโบราณกับจอมมารไม่กี่ตนที่ระดับพลังฝึกปรือค่อนข้างสูง ต่อ
ลมหายใจเข้ามาในธรรมชาติฟ้าดินแห่งใหม่
สําหรับเทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับพระศรีอาริย์หากชําระล้างจอม
มารเหล่านี้ให้หันมานับถือได้ย่อมประเสริฐ
แต่ว่าในนี้ไม่รวมหกสุดยอดมารเช่นมารจิตแรกเริ่
ม
สองศาสดาเส้นทางนอกรีตไม่สนใจพวกมัน
ค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์กลายเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว
พวกจอมมารไม่จําเป็นต้องเฝ้าค่ายกลต่ออีก
การวางหมากในวันนี้นพยมโลกยากจะได้อะไรมาอีก สมควรขบ
คิดว่าจะหลีกเลี่ยงการสูญเสียมากกว่านี้อย่างไร
พวกมารจิตแรกเริ่
มทราบแก่ใจ ดังนั
้
นพากันหนี
กระนั
้
นคนในสํานักเต๋าไปตลอดจนลู่ยาเต้าจวินก็จับตามองพวก
มันมาโดยตลอด
ลู่ยาเต้าจวินตามหามารไฟปิ่งก่อน
เขาไม่ได้อะไรเลยจากการวางหมากในวันนี้จําเป็นต้องสั่
งสมและ
เตรียมตัวใหม่เพื่อแผนการในอนาคต
พวกหยางเจี่ยนถึงจะจับตามองทางด้านเยี่ยนจ้าวเกอ พระ
อาจารย์เสวียนตูและจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋แต่ก็ไม่ได้ปล่อย
เหล่ามาร พากันสกัดพวกมารจิตแรกเริ่
ม
เยี่ยนจ้าวเกอเล่นงานจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋อย่างสาหัส
สะกดพระอาจารย์เสวียนตูในระยะเวลาสั้
นๆ
พวกหยางเจี่ยนและนาจาเห็นดังนั้
น มีความรู้สึกซับซ้อน แต่ก็โล่
งอก
“น�ากุ่ย ดินโบ่ว เอาชีวิตมา!” เยี่ยนจ้าวเกอฝีเท้าไม่เร่งไม่ร้อน แรง
กดดันดุจขุนเขาครอบคลุมเหล่ามาร
มารดินโบ่วมองเยี่ยนจ้าวเกอ เสียงแหบแห้งเหมือนกับทรายเสียดสี
“วันนี้นพยมโลกเราประสบภัยพิบัติใหญ่ไม่อาจหวังไปมากกว่านี้
สามารถลิ
้
มรสท่วงทําของเซียนสวรรค์สํานักเต๋าที่สําเร็จการฝึกสาม
พิสุทธิ
์
ร่วมกันได้ถือเป็นเรื่องโชคดี!”
ร่างมันกระจัดกระจายในฉับพลัน กลายเป็นเม็ดทราบนับไม่ถ้วน
ภายใต้พายุม้วนพัด เดี๋ยวแยกตัวเดี๋ยวรวมตัว กลายเป็นพายุทรายที่น่า
กลัวหลายสาย พุ่งเข้าใส่เยี่ยนจ้าวเกอด้วยตัวเอง!
เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งถือหยกหรูอี้ไตรรัตนะ ยื่นมือข้างที่ว่างออก
มากางห้านิ้
ว จากนั
้
นก็กํามือ!
ในความว่างเปล่าเหมือนมีฝ่ามือขนาดยักษ์ที่มองไม่เห็น อาณาเขต
ครอบคลุมกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต ปกคลุมจักรวาลทั
้
งหมด
จากนั
้
นมือยักษ์ที่ไร้รูปร่างนี้ก็กําแน่น กําพายุทรายสีดําน่ากลัว
หลายสายนั
้
นเอาไว้กลางฝ่ามือ!
ท่ามกลางเสียงคํารามต�าที่ประกอบด้วยความเจ็บปวดหลายส่วน
มารดินโบ่วปรากฎร่างขึ
้
นใหม่ แต่ถูกเยี่ยนจ้าวเกอกําไว้ในมือ
ถึงแม้จอมมารตนนี้จะแสดงใบหน้าเจ็บปวด แต่ดวงตายังคงเยือก
เย็น ทนการกดดันจากพลังที่เหมือนพลิกคว�าธรรมชาติได้ของเยี่ยนจ้าว
เกอ
แรงกดดันสูงถึงระดับหนึ่ง ร่างมารดินโบ่วแหลกสลายอีกครั้
ง
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าความตาย
กลับกัน เป็นอิทธิฤทธิ์
อย่างหนึ่งของมารดินโบ่ว
มารที่เป็นตัวแทนดินโบ่วตนนี้เป็นมารทราย ร่างกายรวมตัว
กระจายตัวไม่แน่นอน กระจัดกระจายประกอบกันใหม่ได้ดั่
งใจ
การโจมตีของคนจํานวนมากถึงขั้
นไม่อาจสร้างความเสียหายให้แก่
มัน ต่อให้ทําลายส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั่
วทั
้
งร่าง สุดท้ายเพียงประกอบ
กันใหม่อีกครั้
ง
ตอนนี้ร่างของมารทรายแหลกสลายอีกครั้
งเพราะแรงกดดันจาก
เยี่ยนจ้าวเกอ
เม็ดทรายนับไม่ถ้วนหลังแหลกสลายเหมือนต่างมีชีวิตเป็นของ
ตัวเอง ไหลในฝ่ามือเยี่ยนจ้าวเกอ หมายจะมุดเข้าไปในร่างชายหนุ่ม!
นี่เป็นหนึ่งในความสามารถชั่
วร้ายของมารทราย เอาชนะคู่ต่อสู้ที่
แข็งแกร่งมาได้นับไม่ถ้วน
เยี่ยนจ้าวเกอเพียงแค่ยิม
้
กระแสปราณเคลื่อนไหล กอปรเป็นสิ่
งกีดขวางไร้รูปรางบนผิวหนัง
ของเขา
เม็ดทรายของมารทรายที่ปกติกายทองพุทธะและเกราะเกล็ดของ
จอมปีศาจต่างสามารถมุดทะลุได้ตอนนี้กลับไม่อาจพุ่งเข้าไปในร่าง
เยี่ยนจ้าวเกอโดยสมบูรณ์
กลับกัน อุณหภูมิในฝ่ามือเยี่ยนจ้าวเกอสูงขึ้
น เปลวเพลิงไร้สีโปร่ง
แสงสว่างขึ
้
น หลอมละลายเม็ดทรายที่จับไว้ในมือ
อย่างไร้สุ้มไร้เสียง เม็ดทรายนับไม่ถ้วนหลอมละลาย ถูกหลอม
กลายเป็นหนึ่งเดียว
กลิ่
นอายของมารดินโบ่วยิ่
งมายิงอ่อนแอ ่
เสียงคํารามเจ็บปวดดังไม่ขาดหูเสียงยิ่
งมายิ่
งดุร้าย แต่ก็ยิ่
งมายิ่
ง
เบาเช่นกัน
มารดินโบ่วขัดขืนเพื่อเอาชีวิตรอด ขอแค่มีเม็ดทรายหนึ่งเม็ดหนี
ออกไปได้มาตรว่าพลังชีวิตได้รับความเสียหายใหญ่หลวง มันก็อยู่ได้
กระนั
้
นฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอเหมือนกับโลกทั้
งใบสําหรับมัน ไม่
ว่ามันเคลื่อนย้ายอย่างไร ก็ไม่อาจกระโดดออกจากด้านใน
เปลวเพลิงโปร่งแสงไร้สียิ่
งมายิ่
งโชติช่วง แค่เวลาสั
้
นๆ มารดิน
โบ่วหนึ่งในหกสุดยอดมารตนนี้ก็ถูกเยี่ยนจ้าวเกอหลอมละลายตาย!
เยี่ยนจ้าวเกอโปรยเปลวไฟในมือ ชั่
งน�าหนักผลึกโปร่งแสงก้อน
หนึ่งที่เย็นลงด้วยความเร็วสูง สายตามองไปยังมารไม้อิก มารน�ากุ่ย มาร
จิตแรกเริ่
ม “วันนี้พวกเจ้ามีหนึ่งนับหนึ่ง ล้วนต้องตาย”
………………..