ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1797 เส้นทางไม่เสื่อมสลาย!
นึกถึงตลอดทางที่ผ่านมามีอันตรายรอบด้าน หลายสิ่งไม่ง่าย คน
ในสํานักเต๋าก็สะท้อนใจยิ่ง “จะโจมตีโถงเซียน ตอนนี้เป็นเวลาเหมาะ” เวลานี้เสียงหนึ่งแว่ว
เข้าหูทุกคน บนความว่างเปล่า บัวเขียว ประตูหยก มุกโกลาหล คันฉ่องดํา
หายไปนานแล้ว รูปไท่จี๋ก็หายไปด้วยเช่นกัน ระฆังสําริดกับบัวขาวแยก
ไปทางใครทางมัน มีแค่กระบองสีทองเข้ามาในธรรมชาติขมุกขมัวที่สร้างใหม่ แสงสว่างกะพริบ วานรสวมชุดนักพรตโผล่ขึ้นด้านหน้าทุกคน รูปร่างถึงแม้เหมือนแต่ก่อน แต่ว่าวานรในตอนนี้มองไปกลับ
เหมือนให้ความรู้สึกสูงใหญ่สุดขีด เอื้อมมือไม่ถึงโดยกําเนิด “ยินดีกับมหาเทวะเสมอฟ้าที่กางธงได้ชัยทันที” พวกเยี่ยนจ้าว
เกอพากันแสดงความยินดีวานร
วานรยกมือข้างหนึ่งโบกไปมา “ที่สุดก็ยังปล่อยให้มารสวรรค์ไร้ พันธนาหนีไปได้ ไม่นับเป็นชัยนะ”
“แต่ก็ทําให้มารเฒ่านั้นเสียท่าครั้งใหญ่ จําเป้นต้องซ่อนตัวเลีย แผลเช่นกัน” วานรกล่าว “นอกจากนี้กลับเป็นอามิตาภพุทธเจ้าครั้งนี้ สูญเสียพลังชีวิตหลายส่วน ลงมือไม่ได้ชั่วคราว ไม่อย่างนั้นเขาจะถูก กษัตริย์บูรพาทิ้งห่างเรื่อยๆ ถึงเวลาไม่มีเมตตไตรย ก็เป็นกษัตริย์บูรพา เร็วกว่าก้าวหนึ่ง”
พวกเยี่ยนจ้าวเกอได้ยิน ต่างตาเป็นประกาย
“ถึงตอนนั้นขอให้เทวกษัตริยมหาเทวะเจ้าลงมือ” ไท่อี้จินหยิน ประสานมือพูด
“พวกท่านลงมือเต็มที่ ข้าจะเข้าร่วมด้วย” วานรกล่าวด้วยรอยยิ้ม
รากฐานเขาอยู่ที่แดนลี่กว่าง อยู่ที่เผ่าปีศาจ แม้วันนี้จะทิ้งศิลาดิน กําเนิด แต่ยังมีอยู่น�าใจเก่าก่อน
หากแต่เขาขึ้นสู่ระดับมรรคา ความจริงเดินบนเส้นทางสํานักเต๋า
“เทวกษัตริย์ไร้ประมาณ เหอะๆ ข้าเหล่าซุนอยากจะสู้กับเขาพอดี ทางที่ดีที่สุดให้อามิตาภพุทธเจ้ากับมารสวรรค์บรรพกําเนิดอย่ามา รบกวน” วานรช้อนตา สายตาเหมือนอยู่ที่วังเทพ
“ของพวกนี้วันนี้นับว่าวัตถุกลับคืนนายเดิม” ร่างแยกสมุทรสุด ขอบโลกประคองศิลาดินกําเนิดและกระบองสารพัดนึกเดินมา
วานรกลับโบกมือ “สหายน้อยเก็บไว้เถอะ ไม่ต้องคืนข้า”
เขามองไปยังหยางเจี่ยนกับนาจาอีกรอบ พูดด้วยรอยยิ้ม “ก่อน หน้านี้เรื่องราวคับขัน ไม่ได้ทักทายคนรู้จักเก่าทั้งสอง”
“ในอดีตต่างประสบภัยพิบัติ วันนี้ได้พบกันอีกครั้งเป็นเรื่องโชคดี แล้ว” หยางเจี่ยนยิ้ม
นาจาไม่พูดอะไรอย่างหาได้ยาก มองวานร ดวงตาเป็นความ สะท้อนใจ จนไท่อี้จินหยินอาจารย์ของเขากระแอมขึ้นด้านข้าง
วานรกลับไม่ถือสาสายตาที่ไร้มารยาทอยู่บ้างของนาจา หัวเราะ พลางชี้หยางเจี่ยน “หยางเอ้อร์หลาง ท่านห่างจากระดับมรรคาไม่ไกล แล้ว ข้าเหล่าซุนรอท่านอยู่”
จากนั้นก็กล่าวกับเยี่ยนจ้าวเกอด้วยรอยยิ้ม “สหายน้อยก็อย่าช้า”
“ย่อมมีวาสนา รีบไม่ได้ ช้าไม่ได้” เยี่ยนจ้าวเกอกับหยางเจี่ยนได้ ยินต่างก็หัวเราะ
จะขึ้นสู่ระดับมรรคาได้หรือไม่ นอกจากตัวเองแล้ว ขึ้นอยู่กับ วาสนาด้วย
เหมือนทีปังกรพุทธะ ลู่ยาเต้าจวิน พระอาจารย์เสวียนตู จักรพรรดิ อายุวัฒนาหนานจี๋พลาดการวางหมากในวันนี้ ก็อาจไม่มีโอกาสอีกแล้ว
ในนี้ทีปังกรพุทธะยิ่งเตรียมตัวมาตั้งแต่ยุคโบราณตอนกลาง รอ คอยวางแผนเงียบๆ มาโดยตลอด แต่ว่าวันนี้พลาดท่า ความเป็นไปได้ ทุกอย่างในอดีตอาจกลายเป็นฟองเงา
เยี่ยนจ้าวเกอกับหยางเจี่ยนย่อมเข้าใจหลักการในนี้
แต่ว่าด้วยจิตใจของพวกเขา ความมั่นใจย่อมมีอยู่
“สหายน้อยผู้นี้จําเป็นต้องสั่งสม กลับเป็นวาสนาขึ้นสู่ระดับมรรคา ของพวกเจ้าหายากไปบ้าง” ต่อจากนั้นวานรก็พูดกับสั่วหมิงจาง และเฟิงอวิ๋นเซิง “สหายน้อยเฟิงต้องอดทนไปก่อน รอคอยยุคอนาคต มาถึง”
สั่วหมิงจางกับเฟิงอวิ๋นเซิงได้ยิน ต่างประสานมือขอบคุณวานร
หลังจากคุยกันหลายประโยค ทุกคนก็ออกจากธรรมชาติแห่งใหม่นี้
หันไปมอง เห็นกระบองสีทองท่อนหนึ่งข้ามจักรวาล พาดขวางอยู่ ในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดอันไพศาล
การเปลี่ยนแปลงพัฒนาในธรรมชาติแห่งนั้นพลันเร็วขึ้นมาก มิติ เวลาที่สับสนค่อยๆ สงบมั่นคง ดินน�าลมไฟเสถียร มีโลกหลายใบเดี๋ยว สูญหายเดี๋ยวปรากฏด้านใน
“ที่นี่เป็นฟ้าดินอันกว้างใหญ่แห่งใหม่” พวกเยี่ยนจ้าวเกอสบตากัน และกัน
ทั้งเป็นจุดศูนย์รวมการแย่งชิงครั้งใหม่ของทุกฝ่าย นับว่าเป็นการ พัฒนาหลังจากวิถีมารสิ้นสูญในการวางหมากบนนพยมโลก
ถึงแม้ว่าเป็นวานรสร้างขึ้น แต่เจ้ามรรคาคนอื่นๆ เข้าร่วมมา ถึง เวลาจะต้องมีการแย่งชิงอีกรอบ
แต่เทียบกันแล้ว สํานักเต๋ากับเผ่าปีศาจจะต้องชิงโอกาสได้ก่อน แดนสุขาวดีตะวันตก
ต่อจากนี้แดนสุขาวดีตะวันตกกับโถงเซียนต้องตั้งหลักก่อน สิ่งที่ พวกเขาจําเป็นต้องห่วงมากกว่าก็คือ สํานักเต๋าสายหลักกับเขาดารา ทะเลดวงดาวได้คืบจะเอาศอก
ซึ่งความจริง ตอนนี้พวกเยี่ยนจ้าวเกอมีความคิดจะอาศัยชัยชนะ ไล่ล่าต่อจริงๆ
ความคิดแวบขึ้น ฟ้าและเหวกลายเป็นใกล้แค่คืบ พวกเยี่ยนจ้าวเก อกลับสวรรค์สํานักเต๋า กลับนิวาสสถานของใครของมัน
เยี่ยนจ้าวเกอกลับเขากว่างเฉิงในฟ้าเหนือฟ้าพร้อมกับพวก เฟิงอวิ๋นเซิงและสวีเฟย
สหายในสํานักบนเขากว่างเฉิงย่อมต้องแสดงความยินดีที่เยี่ยนจ้าว เกอขึ้นสู่มหาชาล
หลังเยี่ยนจ้าวเกอคารวะทุกคนกลับ ก็ถามก่อนว่า “ท่านพ่อกลับ มาแล้ว?”
เขาขึ้นสู่มหาชาล ทั้งฝึกฝนคัมภีร์เกิดนภา การรับรู้ว่องไวถึงขีดสุด
เยี่ยนจ้าวเกอไม่เพียงรู้สึกว่าเยี่ยนตี๋กลับมาแล้ว ยังรู้สึกเลือนรางว่า เยี่ยนตี๋ยังฝ่าภัยพิบัติฟ้ากําเนิด สําเร็จร่างเซียนสวรรค์มหาชาลแล้ว
“เร็วกว่าพวกเจ้าเล็กน้อย แต่ว่าหลังกลับมาก็กําลังเข้าฌาน” หยวนเจิ้งเฟิงเอ่ย “หนําซ�าเป็นการเข้าฌานปิดตาย รายละเอียดไม่ ชัดเจน แต่เขาทิ้งคําพูดไว้ว่า มีความเกี่ยวข้องกับป้ายหยกที่เขาได้ กลับมาก่อนหน้า”
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยิน เหมือนนึกอะไรได้
ในป้ายหยกนั้นดูเหมือนจะซ่อนหลักการลี้ลับไว้จริงๆ ทั้งเกี่ยวข้อง กับเยี่ยนตี๋
ดูจากตอนนี้ สมควรเป็นต้องรอหลังจากเยี่ยนตี๋ขึ้นสู่มหาชาล จึง สามารถเปิดเผยความลับด้านในได้
เพียงไม่ทราบว่าต้องรอนานขนาดไหน?
ระยะเวลาเข้าฌานมียาวมีสั้น แต่ทั่วไปแล้วค่อนข้างยาวนาน…
ขณะเยี่ยนจ้าวเกอครุ่นคิดในใจ คนอื่นๆ มองเขา ทอดถอนใจไม่ หยุด
ต่อให้เป็นคนในสํานักเดียวกัน ก็รู้สึกเหมือนฝัน
สองพ่อลูกขึ้นสู่ระดับมหาชาลพร้อมกัน เป็นเรื่องยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยมี ใครทํามาก่อนในความทรงจําของทุกคน
ถ้าหากมองเฟิงอวิ๋นเซิงที่อยู่ข้างเยี่ยนจ้าวเกออีก ยิ่งทําให้ทุกคน ถอนใจชมเชยกว่าเดิม
สวีเฟยยืนยิ้มอยู่ด้านข้าง
ในฐานะคนที่เข้าร่วมการวางหมากบนนพยมโลกในวันนี้ด้วย ตัวเอง เขาได้เห็นกระบวนการการลงมือของเยี่ยนจ้าวเกอด้วยตาตัวเอง
วัชรอภิณฑ์พุทธะที่ในอดีตถูกจัดรองจากพระยูไลท่ามกลาง สามสิบห้าพุทธะแห่งแดนสุขาวดีตะวันตก การป้องกันของกายทอง ศาสนาพุทธเป็นอันดับหนึ่ง ถูกเยี่ยนจ้าวเกอฆ่าในสามหมัด
พระโพธิสัตว์กวนอิมกับสมันตภัทรโพธิสัตว์ที่รวมข้อดีของพุทธ และเต๋า เป็นเพราะเยี่ยนจ้าวเกอนึกถึงน�าใจเก่าก่อน จึงรอดไปได้
กษิติครรภโพธิสัตว์ถูกส่งเข้าไปในสังสารวัฏ
มหาสถามปราปต์โพธิสัตว์ผู้รับใช้เบื้องขวาของอามิตาภพุทธเจ้า มรณะ
ทีปังกรพุทธะบุคคลอันดับสองของแดนสุขาวดีตะวันก ถูกชิงมุกค�า ทะเล หนีเข้าป่าไป
พระอาจารย์เสวียนตูกับจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋เพราะคนใน สํานักเต๋าร้องขอชีวิต แต่คนหนึ่งถูกสะกด คนหนึ่งถูกแย่งหยกหรูอี้ไตร รัตนะ แล้วถูกเล่นงานสาหัสจนต้องหลบหนี
หกสุดยอดมารแห่งนพยมโลก มารไม้อิก มารน�ากุ่ย มารดินโบ่ว ล้วนตายด้วยน�ามือเยี่ยนจ้าวเกอ
มารจิตแรกเริ่มปฐมแห่งสุดยอดมาร อันดับแรกรองจากระดับ มรรคาถูกเยี่ยนจ้าวเกอปราบ
เยี่ยนจ้าวเกอแทบใช้พลังของตัวเองคนเดียวกวาดล้างเหล่าวีรบุรุษ
นี่ยังไม่นับเผิงท่องเมฆหมื่นที่ที่ได้รับความเสียหายเพราะเขา ตอน เขายังอยู่ในระดับเซียนกําเนิดสุญญตาก่อนหน้า
“ร่างเซียนสวรรค์มหาชาล ไม่เสื่อมสลายหลุดพ้นซึ่งทุกสิ่ง…” สวี เฟยหัวเราะเบาๆ “แม้ว่าจะเทียบกับเซียนสวรรค์มหาชาลคนอื่นๆ ที่ ศิษย์น้องเยี่ยนเดินถึงเป็นเส้นทางไม่เสื่อมสลายที่ชื่อเรียกสมกับความ จริง”
………………..