ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1807 ความมั่นใจรบสองแนว
“ดูจากสภาวะนี้ เทวกษัตริย์มหาเทวะเจ้าต่อสู้กับเทวกษัตริย์ไร้ ประมาณแล้ว” ทีปังกรพุทธะใบหน้าฉายแววอับจน “ขึ้นสู่มหาชาลแล้ว นิสัยยังเหมือนเดิม”
พระโพธิสัตว์กวนอิมมองโถงเซียนที่ล่มสลาย ใบหน้าปรากฏความ เมตตา แต่ว่าอารมณ์ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นพิเศษ
ในอดีต วังเทพพังทลาย มหาจักรวาลถล่มราบ ผู้สืบทอดสาม พิสุทธิ์ประสบภัย การเคลื่อนไหวยังใหญ่กว่านี้ ปัจจุบันเป็นวัฏจักรใหม่
“พระพุทธองค์มีคําสั่งลงมือไหม?” พระโพธิสัตว์กวนอิมถาม
ทีปังกรพุทธะส่ายหน้าเบาๆ “เทวกษัตริย์ไร้ประมาณยังอยู่ เมตไตรยไม่ได้เปรียบมาก ต่อจากนี้สองฝ่ายยังต้องสู้กัน เพียงแต่ต่อ จากนี้ไม่ส่งผลดีต่อพวกเราจริงๆ”
“แม้เมตไตรยจะนําหน้าเทวกษัตริย์ไร้ประมาณมาก แต่เขาสุดท้าย ยังมีรากฐานเบาบาง พลาดการวางหมากบนนพนยมโลกตานี้ไป พระ พุทธองค์คิดถอนทําลายความสับสน จําเป็นต้องหาวาสนาใหม่”
ทีปังกรพุทธะถอนใจ “ดูจากสถานการณ์ในการวางหมากบนนพ ยมโลก ถ้าขอให้มารสวรรค์บรรพกําเนิดลงมือ จะกระตุ้นเหล่าจวินออก มาได้ง่ายที่สุด แต่ว่าความคิดของเหล่าจวินเปลี่ยนแปลงง่ายมาก หลัง การวางหมากบนนพยโลกก็เปลี่ยนแปลงความคิดใหม่ ก็ยังไม่ทราบ”
“รอพระพุทธองค์กับมารสวรรค์ไร้พันธนาฟื้ นตัวใหม่ พวกเราค่อย มีเปรียบ เหล่าจวินอย่างไรเอาแน่เอานอนไม่ได้”
วาจาแม้กล่าวเช่นนี้ แต่พลาดการวางหมากบนนพยมโลก ทําให้ที ปังกรพุทธะสูญเสียถึงขีดสุด
ถ้าอามิตาภพุทธเจ้าหลุดพ้นจริงๆ ต่อจากนี้แดนสุขาวดีตะวันตก จะทําอย่างไร ถึงขั้นทําให้คนเป็นกังวล
“พระพุทธเจ้าย่อมมีการจัดการ” สมันตภัทรโพธิสัตว์ปลอบขึ้น ด้านข้าง
ทีปังกรพุทธะพยักหน้าน้อยๆ “อาตมาไม่เป็นไร พระโพธิสัตว์ไม่ ต้องห่วง”
ท่านมองทิศทางของโถงเซียน ‘ยิ่งไปกว่านั้นระหว่างแดนสุขาวดี บัวขาวกับสํานักเต๋าใช่ว่าจะไม่เกิดความขัดแย้ง ฝนนั่น…’
“สหายร่วมเส้นทางเยี่ยนมีความสามารถน่าทึ่ง พวกเราละอายที่สู้ ไม่ได้” พระโพธิสัตว์กวนอิมเอ่ย
“สําหรับเจ้ามรรคาทั้งหลาย เยี่ยนจ้าวเกอมิใช่ระดับมรรคา แต่ สําหรับคนในโถงเซียน…” สมันตภัทรโพธิสัตว์เว้นเล็กน้อย แล้วพูดต่อ “…ความจริงก็รวมพวกเราด้วย เยี่ยนจ้าวเกออยู่ตรงหน้า เกรงว่าไม่ต่าง จากเจ้ามรรคาคนหนึ่งมาถึงนัก”
“สหายร่วมเส้นทางข่งซวนกับธงวิเศษบัวเขียวยังอยู่ จะขวางเขา ได้หรือไม่ ยังไม่แน่นัก” พระโพธิสัตว์กวนอิมยิ้มฝืน “เหมือนค่ายกลลง ทัณฑ์เซียนร่างมนุษย์”
สมันตภัทรโพธิสัตว์ว่า “เมื่อครู่พูดถึงเหล่าจวิน ดูจากตอนนี้ เขา เป็นเหล่าจวินสร้างขึ้น เพียงไม่ทราบว่าบนตัวเขามีเบาะแสที่เหล่าจวิ นทิ้งไว้หรือไม่…”
เหล่าพุทธะที่อยู่รอบๆ เงียบงันลงเล็กน้อย
“ตอนนี้พวกเรายังไม่ต้องสนใจ” ทีปังกรพุทธะมองไปบนความว่าง เปล่า ประตูใหญ่หยกขาวกับกระบองสีทองหายไปไร้ร่องรอย “รอดู หลังจากนี้ว่าเทวกษัตริย์ไร้ประมาณวางแผนอย่างไรเถอะ”
พวกพุทธะสีหน้าสั่นไหว สายตามองทีปังกรพุทธะ
ทีปังกรพุทธะใบหน้าสงบนิ่ง ไม่พูดอะไรอีก
…
ขณะเดียกวัน พวกลู่ยาเต้าจวินก็กําลังมองดูภัยพิบัติโถงเซียนอยู่
“สํานักเต๋า ในระดับมหาชาล แทบปรากฏสภาพสูงสุดในอดีต แล้ว” ลู่ยาเต้าจวินเลิกคิ้วน้อยๆ
เขาย้ายสายตาจากทิศทางโถงเซียนไปยังความว่างเปล่า
ธรรมชาติขมุกขมัวที่วานรสร้างขึ้นใหม่แทนที่นพยมโลก ใกล้ชิด กับมหาจักรวาลอย่างแนบแน่น เหมือนกับสองด้านของกระจก
ณ ที่แห่งนั้น เกิดข้อพิพาทขึ้นเช่นกัน
สํานักเต๋าทําลายโถงเซียน เผ่าปีศาจไม่ได้ช่วยเหลือ ฉวยโอกาส ขยับขยายธรรมชาติขมุกขมัวแห่งใหม่นั้นอย่างเต็มที่ หมายยึดครอง โอกาสก่อน
แดนสุขาวดีบัวขาวมีคนส่วนหนึ่งมุ่งหน้าไปโถงเซียน ดูว่าจะเก็บ เกี่ยวประโยชน์ส่วนหนึ่งได้หรือไม่ แต่ว่ากําลังหลักส่วนใหญ่ไปยัง ธรรมชาติขมุกขมัวแห่งนั้น ต้องการสร้างโลกใบใหม่ จะได้มีอาณาเขต มากกว่าเดิม
เช่นนี้ส่งผลดีต่อการอยู่อาศัยของมารร้ายที่พวกท่านจัดการเทศนา ไม่ต้องแย่งชิงผลประโยชน์กับผู้อยู่อาศัยแต่เดิมบนแดนสุขาวดีบัวขาว
ขณะเดียวกัน ผลผลิตและทรัพยากรที่อาณาเขตซึ่งกว้างใหญ่ กว่าเดิมนํามา อยู่ที่จํานวนคนมากกว่าเดิมที่จะใช้ชีวิตในกาลเวลา ภายหลังถวายพลังศรัทธามากกว่าเดิม
กระนั้นเขาดาราทะเลดวงดาวกับแดนสุขาวดีบัวขาวดีดลูกคิดราง แก้วเสียงดัง แต่ก็ยังได้รับการสะกดขนาดใหญ่
สํานักเต๋าสายหลักที่มีเยี่ยนจ้าวเกอเป็นผู้นําแบ่งคนมาทําลายโถง เซียน กระจายแหฟ้าตาข่ายดิน ห้อมล้อมคนในเส้นทางนอกรีต ถึงขั้น ยังมีจํานวนคนที่เฉพาะเจาะจงไล่ล่าสังหารผู้เข้มแข็งสํานักเต๋าที่ออก จากโถงเซียนเส้นทางนอกรีตก่อนหน้าโดยเฉพาะ
แต่ว่าบนพื้นฐานนี้ สํานักเต๋าสายหักยังมีกําลังเหลือ เปิดสมรภูมิ แห่งที่สอง ต่อสู้กับเผ่าปีศาจและแดนสุขาวดีบัวขาวในธรรมชาติ ขมุกขมัวแห่งใหม่นั้น
ทว่าพวกปีศาจจากเขาทะเลและพุทธะแห่งบัวขาวพอเห็นเงาร่าง ของหยางเจี่ยนกับสั่วหมิงจางโผล่ขึ้นตรงนั้นพร้อมกัน ก็อดเกิด ความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงไม่ได้
ต่อให้พระศรีอริยเมตไตรยไม่ได้มอบสารีริกธาตุชิ้นสุดท้ายให้มหา วิทยราชมยุรี อาศัยสิ่งนี้ขอการลงมือช่วยเหลือจากข่งซวน ก็ยังคงไม่ เกิดประโยชน์
สํานักเต๋าสายหลักในตอนนี้ทําสงครามสองแนว ยังมีความมั่นใจว่า เหนือกว่าศัตรู
อย่าว่าแต่เป้าหมายที่สําคัญที่สุดของพระศรีอริยเมตไตรยเป็นเท วกษัตริย์ไร้ประมาณและโถงเซียนตั้งแต่ต้นจนจบ
ต่อให้ท่านคิดใช้ระดับมรรคาสะกดมหาชาล ก็กริ่งเกรงการดํารง อยู่ของค่ายกลลงทัณฑ์เซียน
กษัตริย์บูรพาไท่อี้ที่ตอนนี้นําหน้าอามิตาภพุทธเจ้าหนึ่งก้าวสําเร็จ เพราะพระศรีอริยเมตไตรย นั่งบนแท่นตกปลาอย่างมั่นคงแล้ว
ขณะปกป้องพระศรีอริยเมตไตรยผ่านภัยพิบัตินพยมโลก ยังมี วานรขึ้นสู่ระดับมรรคา กษัตริย์บูรพาไท่อี้ตอนนี้ผ่อนคลายยิ่ง
สิ่งที่เขาต้องพิจารณาคือ อามิตาภพุทธเจ้ากับมารสวรรค์ไร้ พันธนาม้วนพสุธากลับมาสักวัน ร่วมมือกับมารสวรรค์บรรพกําเนิดและ เทวกษัตริย์ไร้ประมาณ
กระนั้นครั้งนี้มารสวรรค์ไร้พันธนาสะบักสะบอมยิ่ง คิดจะฟื้ นพลัง กลับมา ยังต้องเหน็ดเหนื่อย
“กษัตริย์บูรพาเอนเอียนไปทางสํานักเต๋าเล็กน้อย…” มหาเทวะ อีกาทองถอนใจ “เช่นนี้ถ้ากษัตริย์บูรพาหลุดพ้นในยุคนี้จริงๆ ยุคต่อไป พวกเราเกรงว่า…”
ลู่ยาเต้าจวินกล่าวราบเรียบ “ยุคโบราณตอนต้น สํานักเต๋ารุ่งโรจน์ ถึงขีดสุด พวกเราก็เข้าไปเป็นศิษย์ไม่น้อย รุ่งเรืองเสื่อมโทรมเป็นปกรติ ไม่มีข้อยกเว้น อนาคตเดินได้ถึงขั้นไหน ขึ้นอยู่กับตัวเอง”
“ยิ่งไปกว่านั้นเกิดว่ากษัตริย์บูรพาหลุดพ้น สําหรับสํานักเต๋าสาย หลักเป็นข่าวดีหรือ? กลัวว่าจะไม่แน่เช่นกัน”
เขามองวังกษัตริย์บูรพาในแดนลี่กว่างบนสวรรค์ไท่ซู่ “กษัตริย์ บูรพาสมควรมีแผนการ พวกเราอดทนรอคอยก็พอแล้ว”
มหาเทวะอีกาทองพยักหน้า จากนั้นสีหน้าประหลาดพิกลอยู่บ้าง “แดนสุขาวดีบัวขาวสมควรเป็นห่วงผู้สืบทอดสามพิสุทธิ์เช่นกัน”
ตอนเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในเวลานั้น นอกจากเทวกษัตริย์ไร้ ประมาณ ยังมีส่วนของพระศรีอริยเมตไตรยด้วย
ถึงขั้นที่การโรยราของสํานักเต๋า เผ่าปีศาจแห่งเขาดาราทะเล ดวงดาวและพุทธะแห่งแดนสุขาวดีตะวันตก รวมถึงหมู่มารนพยมโลก ต่างมีส่วนไม่มากก็น้อย
ตอนนี้เป็นสถานการณ์ใหญ่บีบบังคับ ดูเหมือนเขาดาราทะเล ดวงดาว แดนสุขาวดีบัวขาว กับสํานักเต๋าสายหลักยืนอยู่บนแนว เดียวกัน
แต่ว่าความกริ่งเกรงระหว่างกันและกันไม่ลดลงแม้แต่น้อย
ปัจจุบันถึงแม้สถานการณ์ใหญ่จะเปลี่ยนแปลง แต่ว่าก็ไม่เปลี่ยน การยากแยกแยะมิตรศัตรู ต่างมีสถานการณ์ที่ต่างฝ่ายต่างระวัง
สําหรับพระศรีอริยเมตไตรย กษัตริย์บูรพาไท่อี้เป็นพันธมิตรที่ เชื่อถือได้ที่สุด
ทว่าท่านจะยินดีเห็นกษัตริย์บูรพาไท่อี้หลุดพ้นหรือไม่?
“การวากหมากในนพยมโลกตานั้น ความจริงเป็นผู้สืบทอดสาม พิสุทธิ์ชนะไปแล้ว พวกเราได้แต่บอกว่าแพ้แต่ไม่ได้น่าอนาถเท่าฝั่ งอื่น” ลู่ยาเต้าจวินส่ายหน้า “เยี่ยนจ้าวเกอ ตอนนี้เพียงเพิ่งขึ้นสู่มหาชาล…”
“ยังไม่ทราบว่าวาสนาขึ้นสู่ระดับมรรคาของเขาอยู่ไหน เกิดว่าถึง เวลา…”
ลู่ยาเต้าจวินถอนใจคําหนึ่ง ไม่กล่าวมากความอีก หมุนตัวกลับเขา ดาราทะเลดวงดาว
………………..