ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1810 ท่องเที่ยวบ้านเก่า ชาติก่อนและชาตินี้
“สหายร่วมเส้นทางหลิงทิ้งมงกุฎจนทรา เป็นนางทําของนางเอง กลับไม่เกี่ยวข้องกับสหายร่วมเส้นทางเฟิง”
วันนี้เกาหานไม่รู้อะไรไม่พูด พอพูดแล้วก็ไม่จบสิ้น
ลําแสงสีทองม่วงในม่านตาเยี่ยนจ้าวเกอกพริบพร้อมกับสานกัน กลายเป็นลวดลายอาคมที่ลี้ลับ
คัมภีร์เกิดนภามิใช่ไม่มีใดทําไม่ได้ แต่ตอนนี้ขณะอนุมาน สามารถ แยกแยะจริงปลอมลวงแท้ในคําพูดของเกาหานได้
“ส่วนสหายร่วมเส้นทางเยี่ยนตี๋บิดาของท่าน…” เกาหานไม่ รอเยี่ยนจ้าวเกอถาม พูดทันที “เขาปนเปื้ อนสภาวะแปลงกําเนิด ถ้าไป สืบสาวโดยไม่ตั้งใจ ก็จะมองเงื่อนงําไม่ออกได้ง่ายๆ ข้าเองก็รอเขา มาถึงโลกซ้อนโลก หลังจากเห็นสภาพดาบกฎเกณฑ์ช่วงแรกแล้ว จึงนึก ถึงเยี่ยนซิงถางกับตี๋ชิงเหลียนสองสหายร่วมเส้นทาง”
พูดถึงตรงนี้ เขาพลันหัวเราะ “เรื่องราวในโลกพิสดารจนยาก บรรยายโดยแท้ สหายร่วมเส้นทางเยี่ยนและตี๋เป็นปู่และย่าของท่าน ลูกหลานของสหายร่วมเส้นทางเซ่าจวินหวงผู้สืบทอดของใต้เท้าหนาน
จี๋ ถึงกับเป็นมารดาท่าน นี่กลับเป็นเรื่องราวที่ก่อนหน้าคิดไม่ถึงอีกครั้ง …”
เยี่ยนจ้าวเกอไม่หัวเราะ กล่าวราบเรียบ “พิสดารยากบรรยาย จริงๆ ตอนนั้นข้าเองก็นึกไม่ถึงว่าจะได้ยินเรื่องราวในอดีตและเรื่องราว ทั้งหมดจากปากพี่ร่วมเส้นทางท่าน”
“สหายร่วมเส้นทางหลิงปฏิบัติกับใต้เท้าหนานจี๋เหมือนผู้อาวุโสใน สํานักเต๋า” เกาหานเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้าติดตามใต้เท้าหนานจี๋ เพราะมี อุดมการณ์ร่วมกัน”
“เรื่องราวในอดีต ข้าผู้แซ่เกาสงสัยอยู่บ้างไม่เคยกระจ่าง วันนี้บอก สหายร่วมเส้นทางเยี่ยนท่าน อาจมีสักวันที่ท่านแก้ไขข้อสงสัยให้ข้าได้”
เกาหานพูดจบก็ประสานมือคารวะเยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิง จากนั้นถอยกลับ หายไปในความว่างเปล่ากว้างใหญ่
เยี่ยนจ้าวเกอใช้สายตาส่งเงาร่างเกาหานจากไปไกล ไม่รั้งคนไว้ ไม่ได้พูดจา
เฟิงอวิ๋นเซิงมองเยี่ยนจ้าวเกออย่างเป็นห่วงอยู่บ้าง
“ไม่เป็นไร วางใจ” เยี่ยนจ้าวเกอสังเกตเห็นสายตาของเฟิงอวิ๋นเซิง ก็หันหน้ามายิ้มน้อยๆ “เพียงแต่มีเรื่องราวบางส่วนที่ข้าจําเป็นต้อง สะสางดีๆ”
เฟิงอวิ๋นเซิงไม่ได้พูดอะไร เพียงพยักหน้าเบาๆ
เยี่ยนจ้าวเกอหลับตา ในห้วงสมองปรากฏภาพมากมาย หมุนไม่ หยุดราวกับโคมม้าวิ่ง
สิ่งที่อยู่ในส่วนลึกความทรงจํานับไม่ถ้วน วินาทีนี้ผุดขึ้นจากก้นบึ้ง จิตใจ กวนคนไม่หยุด
อย่างค่อยเป็นค่อนไป ไข่มุกที่กระจัดกระจายหลายชิ้นถูกเส้นด้าย ไร้รูปร่างเชื่อมต่อเข้าโดยกันโดยสมบูรณ์
เพียงแต่เส้นด้ายนี้ยังคงพันกันยุ่งเหยิง
เยี่ยนจ้าวเกอสะสางทุกสิ่งนี้ไม่หยุด
จากนั้นเขาก็เริ่มทดลองทําเรื่องที่เขาคิดทํามาโดยตลอด แต่ก็ลังเล มาโดยตลอดหลังสําเร็จระดับมหาชาล
ขึ้นสู่ระดับเซียนสวรรค์มหาชาล สามบุปผาบนกระหม่อม สาร จําเป็น ปราณ จิตของเยี่ยนจ้าวเกอเหนือกว่าอดีต การควบคุมการ
เปลี่ยนแปลงมิติช่องว่าง อนาคตและอดีต แข็งแกร่งอย่างไม่เคยมีมา ก่อน
ขณะที่เปลือกร่างกลายเป็นแข็งแกร่ง ความคิดจิตใจก็แข็งกล้าถึง ขีดสุด
บนศีรษะเขาปรากฏฉัตร ฉัตรปกคลุมสวรรค์
ปลายยอดเหมือนกับทําลายการจํากัดของมหาจักรวาล ขยับขยาย ไปยังระดับที่กว้างไกลกว่า
วินาทีนี้เยี่ยนจ้าวเกอคล้ายกับมีความรู้สึกวิญญาณออกร่าง
เหมือนกับคนทั่วไป วิญญาณแยกจาก ภูติผีท่องราตรี
เซียนสวรรค์มหาชาลผู้ยิ่งใหญ่เหมือนภูติผีวิญญาณ
สําหรับคนที่มีพลังขนาดเยี่ยนจ้าวเกอ ความรู้สึกนี้ย่อมไม่ธรรมดา
‘นี่เป็นความพิสดารที่เจ้ามรรคาจึงจะมี เหนือกว่าธรรมชาติ จิต ท่องเที่ยวอยู่นอกอากาศโกลาหล…’ เยี่ยนจ้าวเกอสัมผัสได้ ‘แต่เจ้า มรรคายังคงต้องหยุดนิ่งที่นี่ มีแต่หลุดพ้น ถึงจะกระโดดไปด้านนอกได้ โดยสมบูรณ์ จากนั้นไม่มีข้อจํากัดอีก’
‘เราอยู่ใกล้ระดับมรรคาถึงขีดสุด ใช้ความพิสดารที่ผู้ยิ่งใหญ่ระดับ เจ้ามรรคาถึงจะมีได้หลายส่วน กลับไม่อาจทนได้นาน กระนั้นก็มาก พอแล้ว…’
เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกว่าจิตใจของตัวเองเหมือนกับว่าวหลุดจากป่าน โดยสารลมเคลื่อนที่ ลอยพลิ้วไม่หยุด
แต่เขายังคงรักษาความมั่นคงให้แก่ความคิดจิตใจของตัวเอง เคลื่อนที่ไปหาเป้าหมายที่กําหนด
เคลื่อนที่ไปยังเป้าหมายที่อยู่ไกลที่สุดในส่วนลึกความทรงจํา หาก ไม่เคยลืมเลือนอย่างแท้จริง
ตอนที่โลกสีน�าเงินใบหนึ่งหรือว่าดวงดาวสีน�าเงินดวงหนึ่งโผล่ขึ้น ด้านหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ เขาก็หยุดลงแล้ว
มิติเวลาที่ยากหยั่งคาดหยุดการเปลี่ยนแปลง ความมืดถดถอยไป จากคลองจักษุอย่างรวดเร็ว
ที่มาแทนที่คือ บริเวณที่เป็นห้าแสงสิบสี
ตรงหน้าเยี่ยนจ้าวเกอเป็นโลกที่เหมือนแปลกหน้าไปบ้าง ความ จริงคุ้นเคยสุดขีด
นี่นี่กําลังเป็นตอนกลางคืน ทว่าโคมไฟนับไม่ถ้วนส่องเมืองทั้งเมือง
เสียงแตรรถทําให้กลางคืนยังคึกคัก
เยี่ยนจ้าวเกอถึงขั้นแยกแยะออกในทันทีว่า ตอนนี้ยังเป็นช่วงเวลา ที่คึกครื้นที่สุดในตอนกลางคืนของเมืองแห่งนี้ การจราจรหนาแน่น ติดขัดไปหมด
มิใช่ความทรงจําที่ถูกมารจิตแรกเริ่มกระตุ้นในตอนนั้น
นี่เป็นดวงดาวในความทรงจํา เมืองในความทรงจํา ชีวิตในความ ทรงจําของเขา
เพียงแต่เขายังไม่นับว่ากลับมาอย่างแท้จริง
อยู่ท่ามกลางแถวรถ ทุกคนต่างเหมือนไม่มองไม่เห็นเยี่ยนจ้าวเกอ คล้ายกับเขาโปร่งแสง หรือไม่คงอยู่
“จวงจื่อฝันเป็นผีเสื้อ ผีเสื้อฝันเป็นจวงจื่อ?” เยี่ยนจ้าวเกอพลัน หัวเราะขึ้นมา
เขาเคลื่อนไหวกลางเมือง
ถนนทุกเส้นที่ผ่าน มีความทรงจําที่แจ่มชัดกว่าผุดขึ้น ค่อยๆ ร้อย เรียงเป็นแผ่นผืน
เยี่ยนจ้าวเกอเดินเข้าไปในบ้านที่อยู่ในความทรงจํา
ในบ้านไร้คน
“ก่อนหน้านี้คนเดียวกินอิ่ม ทั้งบ้านก็ไม่หิว สะดวกดีนัก”
“ไหนเลยเหมือนตอนนี้ มีพ่อมีแม่ ยังตบแต่งภรรยาตะกละผู้หนึ่ง เป็นเซียนสวรรค์มหาชาลแล้วยังชอบรับประทานปานนั้น โชคดีที่กินไม่ อ้วน”
ขณะบ่นไปเรื่อย เยี่ยนจ้าวเกอก็กวาดมองรอบๆ
“เวลาที่นี่หยุดลงในวินาทีที่เราจากมา” เยี่ยนจ้าวเกอพึมพํา “มิใช่ เวลาของที่นี่หยุดนิ่ง แต่เพราะเราได้แต่กลับมาที่เวลานี้”
ตอนนี้จากไป ครั้งหน้ากลับมา จะกลับมาที่จุดเวลานี้
“ฮ่า! ถ้าเราอาศัยอยู่ที่นี่ แล้วมีความน่าอัศจรรย์เช่นนี้ ไหนเลยไม่ เท่ากับชีวิตสามารถบันทึกได้ใหม่เรื่อยๆ? ถึงจะมีแค่บันทึกเดียว ไม่อาจ สมปรารถนาไปเสียหมดอยู่บ้าง” เยี่ยนจ้าวเกออดหัวเราะพลาง่ายหน้า ไม่ได้
แต่ดวงตาของเขาไม่มีความขบขัน
ขณะมองตนเองในรูปถ่ายบนกรอบ เยี่ยนจ้าวเกอเหม่อลอย เล็กน้อย
มิใช่เขาจดจําหน้าตาตัวเองไม่ได้ ตรงกันข้าม ขณะมองภาพนั้น เหมือนกับเขากําลังส่องกระจก “รูปร่างหน้าตาที่เหมือนกัน ชื่อที่เหมือนกัน ดังนั้นจึงเป็นเรา
หรือ?” เยี่ยนจ้าวเกอพึมพํา “ไม่ สมควรไม่ใช่แค่นี้…” เขามองบ้านที่ว่างเปล่า “ถ้าบอกว่าวิญญาณเราออกร่างแล้ว อย่างนั้นตัวของเราไปไหน
แล้ว?”
เยี่ยนจ้าวเกอครุ่นคิดเล็กน้อย หมายจะนํากรอบรูปนั้นไป ผลคือทําไม่สําเร็จ
เขาไม่ได้รู้สึกขุ่นข้อง แต่ก็ไม่ได้ผ่อนคลาย หากหยุดนิ่งอยู่กับที่ เริ่ม ไตร่ตรอง
ครู่ต่อมาจิตใจเขาก็สั่นไหว อยู่ๆ ก็เกิดวัตถุอย่างหนึ่งขึ้นในความคิดจิตใจของเขา วัตถุที่มีอยู่จริงชิ้นหนึ่ง
พลังที่แข็งแกร่งในจุดสูงสุดแห่งมหาชาลของเยี่ยนจ้าวเกอ กระโดดจากอากาศโกลาหลมาถึงที่นี่เหมือนกับวิญญาณเดียวดาย วัตถุ สิ่งนี้กลับมาถึงที่นี่จริงๆ
หยกหรูอี้ไตรรัตนะที่เทวกษัตริย์บรรพกําเนิดเคยทิ้งไว้
ของวิเศษชิ้นนี้บอกว่าไม่ธรรมดาย่อมไม่ธรรมดา แต่ไม่ว่าเยี่ยน จ้าวเกอหรือจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋หรือ จักรพรรดิโกวเฉิน ล้วนมิ อาจควบคุมของวิเศษโจมตีศัตรู แสดงพลังด้านในด้วยตัวเองไม่ได้อย่าง แท้จริง
ในเวลาส่วนใหญ่ นอกจากความหมายเชิงสัญลักษณ์แล้ว เป็น เพียงของล�าค่าที่พิสดารอยู่บ้างเท่านั้น
แต่ตอนนี้ เยี่ยนจ้าวเกอเชื่อมจิตกับหยกหรูอี้ไตรรัตนะ เสียงฟุ่บดัง ขึ้น กรอบรูปที่เขาต้องการหายไปจากที่เดิม
………………