ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1819 ฟ้ากําเนิดลุกไหม้
ด้านจํานวนผู้เข้มแข็งระดับมรรคา สองฝ่ายเกิดสถานการณ์สี่ต่อ สามอย่างเลือนราง
อามิตาภพุทธเจ้าเป็นอิสระ ลุกถอยเคลื่อนไหวได้ตามใจ ไม่เพียง คุกคามพระศรีอริยเมตไตรย ขณะเดียวกันก็คุ้มครองมหาวิทยราชมยุรี ทางอ้อม ทําให้ผู้เข้มแข็งมหาชาลสํานักเต๋ามิอาจไม่ดําเนินการด้วย ความระมัดระวัง
ผู้เข้มแข็งสูงส่งระดับมหาชาลของผู้สืบทอดสํานักเต๋าในปัจจุบัน รวมตัวกันคับคั่ง คนที่งัดข้อกับมหาวิทยราชมยุรีได้ตรงๆ มีไม่ต�ากว่า หนึ่งคน
ดังนั้้นวันนี้เหล่าพุทธะแห่งแดนสุขาวดีตะวันตกจึงไม่มา
แต่ว่าร่องแยกทางธรรมชาติระดับมรรคากับระดับเซียน ลบเลือน ความได้เปรียบอันเด็ดขาดของผู้สืบทอดสํานักเต๋าในด้านระดับมหา ชาล
ถึงแม้เจ้ามรรคาเจียอิ่นอามิตาภพุทธเจ้าที่แล้วมาจะสงบนิ่ง น้อย ครั้งจะฆ่าสัตว์ตัดชีวิต แต่ว่าคนในสํานักเต๋าไม่มีทางสงสัยในพลังของ เจ้ามรรคาคนหนึ่ง
อามิตาภพุทธเจ้าก็มิใช่ไร้ความกังวลเลย
ในความว่างเปล่าที่แดนสุขาวดีตะวันตกอยู่ ตอนนี้มีปราณพิฆาต ไร้สิ้นสุดเดี๋ยวสูญหายเดี๋ยวปรากฏ
แสงทองกับหมอกเหลืองเหมือนลวงคืนสู่จริง กลายเป็นเจตจํานง กระบี่แน่นขนัด ทําให้ความสงบบริสุทธิ์ของแดนสุขาวดีไม่คงอยู่อีก
ต้นโพธิ์ ดอกบัว แสงสีของสารีริกธาตุริบหรี่ลง
พวกทีปังกรพุทธะที่อยู่ด้านในรู้สึกได้ว่าความเย็นพรั่งพรู เหมือน รังสีสังหารกรายศีรษะ
ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนของผู้สืบทอดสํานักเต๋าสั่งสมสภาวะรอปล่อย ออก
เกิดอามิตาภพุทธเจ้าเล็งเป้าหมายลงมือต่อเหล่าเซียนสํานักเต๋า ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนจะลงไปยังแดนสุขาวดีตะวันตก สังหารเหล่า พุทธะตาต่อตาฟันต่อฟันทันที
ในเวลาปกติ อามิตาภพุทธเจ้าสมควรไม่หวั่นเกรงการคุกคาม เช่นนี้
แต่ว่าเรื่องราวในวันนี้เกี่ยวพันถึงความสําเร็จล้มเหลวของ สถานการณ์ใหญ่ในอนาคต ถ้าสภาพถึงเวลามิอาจไม่ตัดสินใจจริงๆ ท่านจะหวั่นเกรงค่ายกลลงทัณฑ์เซียนหรือไม่ คนในสํานักเต๋าไม่กล้า รับประกัน
เหมือนอย่างวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่นพยมโลกในปีนั้น ในห้วงเวลา สุดท้าย เทวกษัตริย์ไร้ประมาณตัดสินใจเด็ดขาด ไม่สนใจการคุกคาม ของค่ายกลลงทัณฑ์เซียนต่อโถงเซียน ต้องการขัดขวางพวกเยี่ยนจ้าว เกอและวานรให้จงได้
ความพินาศของโถงเซียนในภายหลังพิสูจน์ว่า การเลือกของเท วกษัตริย์ไร้ประมาณเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
เพียงแต่ว่าตอนนั้นเขายังถูกพระศรีอาริย์ขวางไว้ สุดท้ายปล่อยให้ ผู้สืบทอดสํานักเต๋าทําสําเร็จ วานรขึ้นสู่ระดับมรรคา
ดังนั้นถึงเวลาไม่ต้องใช้ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนลงมือ โถงเซียนก็มี ชะตาต้องพินาศ
ในฐานะหนึ่งในเจ้ามรรคาที่เกิดในอากาศโกลาหลก่อนที่ธรรมชาติ
จะถูกผ่าเปิด เก่าแก่ที่สุดในฟ้าดิน การตัดสินใจในห้วงเวลาสําคัญของ
อามิตาภพุทธเจ้า ย่อมไม่มีทางลังเลมากไปกว่าเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ โดยเฉพาะตอนนี้ท่านยังตามหลังกษัตริย์บูรพาไท่อี้ ‘แต่ละฝ่ายต่างมีความลําบากของตัวเอง อามิตาภพุทธเจ้าก็ไม่
ผ่อนคลายเช่นกัน’ ถึงแม้จะเผชิญกับบัวเขียวดอกนั้น เซียนสวรรค์มหาชาลสํานักเต๋า
กดดันมหาศาล แต่ว่าทุกคนไม่มีความคิดถอยหนี พวกเยี่ยนจ้าวเกอต่างเงยหน้ามองไปบนความว่างเปล่า ที่แห่งนั้นนอกจากอามิตาภพุทธเจ้า ยังมีเจ้ามรรคาหกคนกําลังทํา
ศึกใหญ่ ถึงแม้จะดูเหมือนไม่รุนแรง แต่นั่นความจริงเป็นศึกใหญ่น่าสะพรึง
ทําลายล้างฟ้าดิน ในระหว่างการต่อสู้ ค่อยปรากฏความแตกต่างของความได้เปรียบ
เสียเปรียบ การต่อสู้ระหว่างมารสวรรค์บรรพกําเนิดกับกษัตริย์บูรพาไท่อี้ ยัง
มองอะไรไม่ออก
ศึกใหญ่ของวานรกับเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ ต่างฝ่ายต่างมีจู่โจม ตั้งรับ ยากแบ่งแยกสูงต�าชั่วขณะ
ทว่าการต่อสู้ของพระศรีอริยเมตไตรยกับ มารสวรรค์ไร้พันธนา สภาพกลับเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง
พระศรีอริยเมตไตรยค่อยๆ ยิ่งมายิ่งได้เปรียบ
‘ภัยพิบัติแห่งนพยมโลกในตอนนั้น มารสวรรค์ไร้พันธนาเกือบตก ตาย ผลกระทบดูเหมือนล�าลึกกว่าที่คาดไว้’ ทุกคนเห็นดังนั้น เริ่มแน่ใจ ‘ถึงปัจจุบันจะฟื้ นฟู แต่ว่าเทียบกับจุดสูงสุดในอดีต ยังคงมีระยะห่าง…’
ถ้ามิใช่กริ่งเกรงว่าอามิตาภพุทธเจ้าอยู่ด้านข้าง ต้องระวังตัว ตลอดเวลา ความได้เปรียบของพระศรีอริยเมตไตรย เกรงว่าจะชัดแจ้ง กว่าเดิม
เวลาผ่านไป ประตูหยกก็เหมือนเริ่มตั้งรับมากกว่าโจมตีเพราะการ จู่โจมจากกระบองสีทอง
บัวเขียวบนความว่างเปล่าหมุนวนเล็กน้อย ชั่วขณะที่ลางเรือน เหมือนเข้าใกล้ประตูหยกกับคันฉ่องดํามากขึ้นส่วนหนึ่ง
“ถึงเวลาแล้ว รอต่อไป มหาวิทยราชมยุรีจะสําเร็จสมบูรณ์แล้ว”
เห็นวานรกับพระศรีอริยเมตไตรยพยายามช่วยพวกเขาดึงดูด ความสนใจของอามิตาภพุทธเจ้า พวกเยี่ยนจ้าวเกอในที่สุดก็ เคลื่อนไหว!
เยี่ยนจ้าวเกอ เฟิงอวิ๋นเซิง สั่วหมิงจาง หยางเจี่ยนพุ่งเข้าหาแสงห้า สีในความว่างเปล่ากลุ่มนั้น
จอมปีศาจเช่นลู่ยาเต้าจวินไม่เคลื่อนไหว
นาจากับเหล่าปีศาจที่เห็นดังนั้นแม้จะไม่ยินยอมอยู่บ้าง แต่ก็ยืนนิ่ง กับที่ไม่เคลื่อนไหว เพื่อคอยประสานงานอยู่ด้านหลังพวกเยี่ยนจ้าวเกอ อดยิ้มหนักใจไม่ได้ สายตาเต็มไปด้วยความอิจฉา
ถึงจะมีเงื่อนไขทรงประสิทธิภาพอย่างค่ายกลลงทัณฑ์เซียน แต่ ต้องการถอนเขี้ยวจากปากเสือใต้หนังตาของเจ้ามรรคา ก็เป็นขีดจํากัด ล่างอย่างต�าสุดแล้ว
อย่างน้อยมีความหวังว่าจะเอาชีวิตรอดภายใต้การลงมือของเจ้า มรรคาได้ ไม่อย่างนั้นแม้แต่เสี่ยงอันตรายยังไม่มีคุณสมบัติ เท่ากับส่ง ตัวเองไปตาย
แม้แต่ลู่ยาเต้าจวินก็ยังไม่มีความมั่นใจมากพอ ยิ่งอย่าว่าแต่จอม ปีศาจตนอื่น
ผู้สืบทอดสํานักเต๋าที่อยู่รอบๆ ในตอนนี้มีทั้งหมดสี่คน ไหนเลยไม่ ทําให้เผ่าปีศาจหมดกําลังใจ
พวกเยี่ยนจ้าวเกอพุ่งเข้าหาแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีที่มหาวิทยราชมยุรี เสกขึ้นกลุ่มนั้นด้วยความเร็วสูง
บนเส้นทาง บัวเขียวที่อยู่บนความว่างเปล่าเหนือศีรษะไม่มีการ สกัดขวาง
นี่กลับทําให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอเกิดเงามืดในจิตใจ
การเคลื่อนไหวของอามิตาภพุทธเจ้า เหมือนกลับมีการเตรียมตัว อยู่ก่อนจึงไม่กลัว
ทุกคนกําลังคิดแบบนี้อยู่ในใจ เห็นบัวเขียวบนความว่างเปล่าไม่ ขยับ กลับเป็นประตูใหญ่หยกขาวบานนั้นสั่นสะเทือนอย่างฉับพลัน!
ประตูหยกเปิดออก แสงไร้ประมาณสาดออกมาจากด้านใน จากนั้นเหมือนมีภาพเงาเป็นชั้นๆ กะพริบขึ้น
ยันต์อาคมที่ลี้ลับจํานวนนับไม่ถ้วนลอยออกมาจากในประตูหยก จากนั้นเข้าไปในธรรมชาติจักรวาล
เยี่ยนจ้าวเกอมองยันต์อาคมเหล่านั้น ม่านตาสองข้างหดลง เล็กน้อย
‘ศิลาฟ้ากําเนิด!’
ยันต์อาคมไร้สิ้นสุดไร้ประมาณเคลื่อนไหวในความว่างเปล่าอย่าง แช่มช้า จากนั้นรวมตัวกันตรงกลาง กลายเป็นศิลาวิญญาณที่ไม่ สมบูรณ์ชิ้นหนึ่ง
ศิลาวิญญาณสั่นเบาๆ ผิวถึงกับมีรอยน�าหลายส่วน
ในความว่างเปล่าห่างไกล จากทิศทางที่ต่างกัน ถึงกับเหมือนมีแสง สว่างของเศษศิลาฟ้ากําเนิดกะพริบอยู่
นั่นอาจมาจากซือคงจิงที่อยู่ในสวรรค์สํานักเต๋า
อาจมาจากเกาหานที่ไม่ทราบร่องรอย
ถึงขั้นที่แม้แต่ตัวเยี่ยนจ้าวเกอเอง ในสมองก็มียันต์อาคมหลาย แผ่นปลิวโปรย กระเหี้ยนกระหือรือ คิดบินออกมา
เวลาผ่านไปหลายพันปี ท่างกลางคนที่เหมือนซือคงจิง มีคนไม่ น้อยอายุขัยถึงจุดสิ้นสุดลงตามธรรมชาติ
ยันต์อาคมศิลาฟ้ากําเนิดที่เป็นของพวกเขาหรือพวกนาง ถูกเยี่ยน จ้าวเกอรวบรวมไว้
ปัจจุบันยันต์อาคมเหล่านี้ยังไม่หลุดจากการควบคุมของเยี่ยนจ้าว เกอ เหมือนกับที่อยู่ในมือพวกเกาหานและซือคงจิง
แต่ว่าในความว่างเปล่าตรงหน้า ผิวศิลาฟ้ากําเนิดที่เกือบสมบูรณ์มี ประกายน�าไหลเวียน ถึงกับเกิดยันต์อาคมที่เป็นมายาเติมเต็มความไม่ สมบูรณ์ท้ายสุด
‘ตอนนั้นหลังทําลายโถงเซียน อาศัยฝนทิพย์เป็นที่พึ่ง เราศึกษา วิชาลับที่ทําลายแสงศักดิ์สิทธิ์พลังศรัทธาได้ แต่ทําให้อีกฝ่ายได้ ประโยชน์ เอาของที่ต้องการส่วนหนึ่งไปได้เช่นกัน’ เยี่ยนจ้าวเกอมอง แวบเดียวก็เข้าใจสาเหตุด้านใน
แต่ว่าเขาก็มองออกในทันทีว่า ศิลาฟ้ากําเนิดที่ดูเหมือนได้การ ซ่อมแซมนั้น ถึงอย่างไรยังคงไม่สมบูรณ์อย่างแท้จริง
เศษศิลาฟ้ากําเนิดที่ไม่สมบูรณ์ในตอนนั้น สุดท้ายยังอยู่ในมือ สํานักเต๋า
เรื่องที่เทวกษัตริย์ไร้ประมาณคิดกระทําในตอนนี้ ไม่เหมือน ดําเนินการชําระล้าง
ศิลาฟ้ากําเนิดที่ได้เงาลวงเติมเต็มนั้น วินาทีนี้ถึงกับลุกไหม้ขึ้นมา!
แสงอัคคีสาดส่อง พวกเยี่ยนจ้าวเกอเกิดความรู้สึกร่างกายรับภาร นะหนักหน่วงพร้อมกัน
………………..