ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1822 ตัวละครหลักมิใช่ท่าน
ความพยายามหลายยุคสมัย การบุกตะลุยและการเตรียมตัวใน หลายปีมานี้
มหาวิทยราชมยุรีหนึ่งในเซียนสวรรค์มหาชาลที่แข็งแกร่งที่สุด ตั้งแต่ประวัติศาสตร์เคยมีมา ในที่สุดก็ได้โอกาสขึ้นสู่ระดับมรรคาของ ตัวเองในยุคสมัยปัจจุบัน
แต่ว่าวันนี้ความหวังของท่านกลายเป็นความว่างเปล่า
ตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอแหวกแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสี มาถึงด้านหน้ามหา วิทยราชมยุรี อามิตาภพุทธเจ้าคิดลงมือขัดขวาง เพื่อคุ้มครองนกยูงอีก ครั้ง
แต่ว่าวานรควงกระบองจู่โจมเทวกษัตริย์ไร้ประมาณให้ถอย ต้านทานอามิตาภพุทธเจ้าอีกรอบ
อามิตาภพุทธเจ้าใบหน้าเต็มไปด้วยความทุกข์ยากเหมือนในอดีต ขณะต้านทานวานร ก็มองเทวกษัตริย์ไร้ประมาณแวบหนึ่ง
พอถูกวานรหยุด เยี่ยนจ้าวเกอสร้างความเสียหายแก่ข่งซวน ทําลายประตูใหญ่ที่เชื่อมไปยังระดับมรรคาในวันนี้ของอีกฝ่ายทิ้ง!
พวกลู่ยาเต้าจวินกับนาจามองเห็นแต่ไกล ต่างก็แตกตื่น
ในห้วงเวลาสําคัญเช่นนี้ ความจริงมิใช่ต้องขัดขวางมหาวิทยราช มยุรี
ตรงกันข้าม ในตอนที่อํานาจตัดสินใจว่ามหาวิทยราชมยุรีจะขึ้นสู่ ระดับมรรคาได้หรือไม่อยู่ในมือเยี่ยนจ้าวเกอ ถ้าควบคุมได้ดี บางทีอาจ ซื้อน�าใจที่ยิ่งใหญ่กว่าของนกยูงได้
วานรในอดีตถือกําเนิดจากเผ่าปีศาจ พลังฝึกปรือสะท้านโลกที่ ฝึกฝนใหม่มาจากสํานักเต๋าไม่ถูกกับแดนสุขาวดีตะวันตก โถงเซียน และวิถีมารโดยสิ้นเชิง
มหาวิทยราชมยุรีในตอนนี้กลับข้ามระหว่างเผ่าปีศาจและศาสนา พุทธ
การขึ้นสู่ระดับมรรคา ยิ่งใหญ่กว่าทุกสิ่ง
ทางไหนช่วยเหลือท่านมาก ท่านก็ไปด้านนั้น ล้วนโทษว่าไม่ได้
ถ้าข่งซวนช่วยเหลือกษัตริย์บูรพาไท่อี้หลังขึ้นสู่ระดับมรรคา อีก ฝ่ายต่อให้มารสวรรค์ไร้พันธนาฟื้ นตัว ก็ยังคงตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ข่งซวนขึ้นสู่ระดับมรรคาไม่ได้ ผู้เข้มแข็งระดับมรรคาในทัพใหญ่ ของสองฝ่ายยังคงเป็นสี่ต่อสาม
ตามความคิดของลู่ยาเต้าจวิน เยี่ยนจ้าวเกอไม่จําเป็นต้องเด็ดขาด แบบนี้ ระหว่างเขากับข่งซซนไม่ได้มีความแค้นที่แยกไม่ออก จนต้อง ทําลายแผนการของคนเช่นนี้
พุทธะจีวรขาวพ่นเลือดสีทองจากปากอีกครั้ง
เขาเงยหน้ามองเยี่ยนจ้าวเกอ กลับเห็นเยี่ยนจ้าวเกอถอนใจคําหนึ่ง
“ล่วงเกินแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอมองข่งซวน กล่าวอย่างสงบ “ครั้งนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบ มิใช่โอกาสขึ้นสู่ระดับมรรคาของท่าน”
“ท่านในวันนี้เหมือนกับลู่ยา หนานจี๋ และเสวียนตูในอดีต”
ข่งซวนได้ยินงงงันก่อน จากนั้นก็ตกใจ
ในการวางหมากบนพนยมโลก ผู้เข้มแข็งมหาชาลที่แย่งชิงวาสนา ระดับมรรคาสามคนย่อมพ่ายแพ้แล้ว แต่ว่าผู้พ่ายแพ้ในตอนแรกมิใช่มี แค่พวกเขาสามคน
ทีปังกรพุทธะคว้าน�าเหลวกลับไปเช่นกัน
ทําไมเยี่ยนจ้าวเกอไม่พูดถึงทีปังกรพุทธะ?
เป็นเพราะทีปังกรพุทธะมีความแตกต่างทางคุณสมบัติกับคนสาม คนที่เหลือ
ตั้งแต่ต้นจนจบ ทีปังกรพุทธะเป็นตัวเลือกหนึ่งเดียวที่อามิตาภ พุทธเจ้ากับแดนสุขาวดีตะวันตกสนับสนุนการขึ้นสู่ระดับมรรคา
ต่อให้ในการวางหมากบนนพยมโลก อามิตาภพุทธเจ้าจะหาโอกาส ฆ่าพระศรีอริยเมตไตรยทิ้งมากกว่า
แต่คนที่ท่านสนับสนุนแย่งชิงวาสนาระดับมรรคาตั้งแต่ต้นจนจบ ก็ คือทีปังกรพุทธะ ไม่มีตัวเลือกอื่นๆ
ตัวเลือกแรกของกษัตริย์บูรพาไท่อี้และเหล่าจวิน ความจริงเป็น วานร มิใช่ลู่ยาเต้าจวิน หรือว่าพระอาจารย์เสวียนตูกับจักรพรรดิอายุ วัฒนาหนานจี๋
มหาวิทยราชมยุรีที่เข้าใจข้อนี้ มองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความตก ตะลึง
ในวินาทีนั้นเอง ในกระดูกหงส์อมตะที่ดูเหมือนไม่มีการเคลื่อนไหว แล้วโครงนั้น พลันเปล่งแสงหยกหลายชั้น
แสงหยกครอบคลุมทั่วร่างเยี่ยนจ้าวเกอ
ประตูใหญ่หยกขาวบานหนึ่งโผล่ขึ้นด้านข้างเขาใกล้แค่คืบ จากนั้น เปิดออก!
ในประตูใหญ่หยกขาวส่งแรงดึงดูดมหาสาล ต้องการลากเยี่ยนจ้าว เกอเข้าไปด้านใน
คนที่เหลือเห็นดังนั้นต่างตกใจ
วานรพิโรธโกรธกริ้ว รีบละทิ้งอามิตาภพุทธเจ้า ไล่ตามลงมาควง กระบองคิดฟาดเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ
ในประตูหยกตอนนี้แว่วเสียงหนึ่ง ไกลโพ้นล่องลอย ยากแยกแยะ เป็นหญิงหรือชาย
“สารีริกธาตุศากยมุณีสมควรใช้เช่นนี้”
น�าเสียงสงบไร้ระลอก ไม่มีการกระเพื่อมใดๆ เหมือนบอกกล่าวกับ มหาวิทยราชมยุรี และเหมือนบอกกล่าวกับอามิตาภพุทธเจ้า ทีปังกร พุทธะ และลู่ยาเต้าจวิน
แต่ว่าพอเสียงดังขึ้น สารีริกธาตุศากยมุณีที่กลายเป็นมหาพุทธสี ทองเหลืองห้าองค์ พลันพากันสาดแสงเจิดจ้า
เงาสายหนึ่งเหมือนเดี๋ยวหายเดี๋ยวโผล่ในแสงสว่าง
มิใช่สถูปอภิรดีศูนย์กลางในตอนวางหมากบนนพยมโลกอีก หาก เป็นเงาคนสายหนึ่ง
คนผู้นั้นใบหน้าเหลืองเหมือนเทียนไข ดวงตาเมตตาสงสารมี ปัญญา นั่งใต้ต้นโพธิ์ นิ้วโป้งกับนิ้วกลางของมือข้างหนึ่งประกบกันเป็น ดอกอุทุมพร
หลังวานรเห็นคนผู้นั้น พลันร้องตวาดขึ้น
“ยูไล!”
เงาร่างที่นั่งใต้ต้นโพธิ์นั้น ทุกคนที่อยู่รอบๆ คุ้นเคยถึงที่สุด
ผู้ปกครองวัดลุ่ยอิมแห่งภูเขาหลิงซานในแดนสุขาวดีอภิรดี ศูนย์กลางที่เปลี่ยนมาจากเจ้ามรรคาจุ่น หนึ่งในสองศาสดาศาสนาพุทธ พระศรีศากยมุณีพุทธเจ้า หรือว่าพระยูไล!
ตัวตนที่หลุดพ้นในยุคโบราณตอนกลาง
ตอนนี้มิใช่พระยูไลศากยมุณีที่หลุดพ้นไปแล้วกลับมายังธรรมชาติ อากาศโกลาหลแห่งนี้
แต่ว่ากายทองผู้ที่แย้มยิ้มคีบดอกองค์นั้น วินาทีนี้มีแสงพุทธ ยิ่งใหญ่ กลิ่นอายสูงใหญ่สุดขีด ถึงกับไม่ด้อยไปกว่าเหล่าเจ้ามรรคาที่อยู่ มีชีวิตอยู่ในตอนนี้
ร่างธรรมยูไลขวางเส้นทางวานร
วานรที่เดิมเหมือนคู่แค้นพบกันเลือดขึ้นหน้า พอเห็นประตูใหญ่ หยกขาวกลืนเยี่ยนจ้าวเกอหายไป ยิ่งเกรี้ยวกราดดุจอัสนีบาต
เขามองออกว่า ร่างธรรมยูไลตรงหน้ามีเวลาการคงอยู่จํากัด คล้ายกันสถูปอภิรดีศูนย์กลางในตอนนั้น
แต่ว่าวินาทีนี้เขาถูกขวางทาง กลับมิอาจไล่ตามเทวกษัตริย์ไร้ ประมาณ ได้แต่มองดูประตูใหญ่หยกขาวกลืนเยี่ยนจ้าวเกอหายไป
ขณะมองแสงหยกที่ระเบิดจากในกระดูกหงส์อมตะกลายเป็นกับ ดักรับมือเยี่ยนจ้าวเกอ จากนั้นก็มองสารีริกธาตุศากยมุณีแสดงสภาพที่ ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้มาก่อน ข่งซวนก็มีดวงตาโศกเศร้าเสียใจ ใบหน้า แสดงความเหนื่อยล้า
เหมือนคําพูดของเยี่ยนจ้าวเกอ วันนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ ตัวละครหลัก มิใช่ท่าน
ท่านเป็นแค่ตัวล่อ
ต่อให้ท่านมีโอกาสทําสําเร็จจริงๆ เทวกษัตริย์ไร้ประมาณจะไม่ ตอบรับเป็นคนแรก!
พวกเยี่ยนจ้าวเกอพุ่งเข้ามาไม่ได้ บางทีเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ อาจจะทําเป็นพลาด ปล่อยให้พวกเขาเข้ามาทําลายแผนการของข่ง ซวน
สิ่งที่ทําให้จิตใจของข่งซวนเหน็ดเหนื่อยก็คือ ความจริงในนี้ เยี่ยน จ้าวเกอถึงกับเหมือนมีการคาดการณ์แต่แรก เพียงยังคงก้าวเท้าเข้ามา
ส่วนตัวท่านข่งซวนจนกระทั่งถึงตอนนี้ จึงค่อยตื่นจากฝัน เริ่มรู้ว่า ทุกสิ่งก่อนหน้าก็แค่ดอกไม้ในกระจกดวงจันทร์บนน�า
สถานการณ์เกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ทําให้คนอื่นๆ ในตอนนี้ มีความคิดต่างกันไป
เหล่าเจ้ามรรคาดวงตาเคลื่อนไปมาระหว่างร่างธรรมยูไล เทวกษัต ริย์ไร้ประมาณ ยังมีเยี่ยนจ้าวเกอ
ในประตูใหญ่หยกขาว เวลานี้แว่วเสียงอีกครั้ง “เมตไตรย เส้นทาง นี้เป็นของเจ้า”
ในประตูหยกมีลําแสงหลายสายลอยออกมาอีกครั้ง
ในลําแสงแต่ละสายมีร่างนักพรตหนึ่งคนดํารงอยู่
นักพรตแต่ละคนมีสภาพล่องลอย เปลี่ยนแปลงหมื่นพัน เหมือน เงาหน้าไร้สิ้นสุดสลับกันโผล่ขึ้น ทุกๆ ชั่วพริบตาล้วนแตกต่าง หมุนเวียนไม่หยุด
นั่นล้วนเป็นพลังศรัทธารวมตัวเป็นแสงวิเศษ ผนึกเชื่อมแล้ว เกิดขึ้น
เป็นเศษศิลามนุษย์กําเนิดจํานวนมาก!
ทุกคนจิตใจเคร่งขรึม ‘ไม่เพียงแค่ศิลาฟ้ากําเนิด แม้แต่ศิลามนุษย์ กําเนิดก็สละทิ้งแล้ว?’
อามิตาภพุทธเจ้ามองประตูใหญ่หยกขาวอย่างล�าลึกแวบหนึ่ง ร่าง กะพริบวูบ โจมตีเศษศิลามนุษย์กําเนิดที่ลอยเข้าหาพระศรีอริย เมตไตรย
กษัตริย์บูรพาไท่อี้ขึ้นหน้า สกัดอามิตาภพุทธเจ้า
มารสวรรค์บรรพกําเนิดกับมารสวรรค์ไร้พันธนามองดูทุกสิ่งที่ เกิดขึ้นตรงหน้าอย่างเย็นชา
หลังจากเศษศิลามนุษย์กําเนิดจํานวนมากลอยออกมาจากด้านใน ประตูใหญ่หยกขาว ก็ไม่สนใจความแหลมคมของผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคา ก่อนหน้า หันมาตั้งสมาธิสะกดเยี่ยนจ้าวเกอ!
………………..