ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1824 จุดเริ่มแรกสุด ต้นกําเนิดทุกสิ่ง
ในประตูหยก เงาร่างสายหนึ่งลอยอยู่อย่างเลือนราง
ดวงตาที่ราบเรียบหน้าเกรงขาม รวมหมื่นปรากฏการณ์คู่หนึ่ง สบตากับเยี่ยนจ้าวเกอเงียบๆ
เงาร่างนั้น เยี่ยนจ้าวเกอเห็นภาพเหมือนมามากแล้ว
ไม่ว่าศิษย์ผู้สืบทอดสํานักเต๋าคนใด ล้วนเคยเห็นภาพวาดมา
มหาเทวะกษัตริย์แห่งหยก!
ตัวตนอันดับหนึ่งแห่งสํานักเต๋า ถึงขั้นมีความเป็นไปได้สุดขีดว่า เป็นอันดับหนึ่งแห่งมหาชาลหลังบรมครูสามพิสุทธิ์หลุดพ้นซึ่งผู้คนต่าง ยอมรับ
ชื่อเต็มคือ มหาจักรพรรดิหยกวิสุทธิธรรมวิเศษอนันตไพศาลผู้เลิศ ล�าแห่งราชวังทองนภาไร้ประมาณ หรือว่ามหาจักรพรรดิหยกพิสุทธิ์ จอมจักรพรรดิสวรรค์มหาเทวกษัตริย์หยกผู้ทรงเมตตาจอมเทวะเหนือ นภาลัย หรือว่าจอมจักรพรรดิสวรรค์
หลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ก็ไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมาอีก
ดังนั้นลูกศิษย์สํานักเต๋าในปัจจุบัน จึงได้แต่เคารพรูปวาด ทราบ ลักษณะที่เขาแสดงออกมาในภายนอก กลับไม่เคยเห็นตัวจริง
เยี่ยนจ้าวเกอไม่เพียงแต่เคยเห็นภาพวาด ยิ่งเคยเห็นตัวจริง
เพียงแต่มิใช่บนโลกใบนี้
แต่เป็นชาติก่อนของเขา ตอนเป็นวิญญาณหอของหอเก็บหนังสือ วังเทพ
ตอนนั้นมหาเทวะกษัตริย์แห่งหยก เป็นผู้ปกครองวังเทพ!
ทว่าวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในภายหลังก็มีที่มาจากตรงนี้เช่นกัน
“ยุคโบราณตอนกลาง ท่านช่วยพระยูไล นี่เป็นการตอบแทนที่พระ ยูไลมอบให้ท่านหรือ?” สายตาของเยี่ยนจ้าวเกอเคลื่อนไปมาระหว่าง ประตูใหญ่หยกขาวและร่างธรรมยูไล
ยุคไซอิ๋วโบราณตอนกลาง วังเทพกับแดนอภิรดีศูนย์กลาง ติดต่อกัน ช่วยเหลือพุทธตะวันตกเข้าสู่ตะวันออก
มหาเทวะเสมอฟ้าใช้หนึ่งกระบองพิฆาตฟ้า อาละวาดบนวังเทพ ก็ มีที่มาจากตรงนี้
ผลคือเข้าสู่อาณาเขตยิงเกาทัณฑ์ของพระยูไล
สุดท้ายศาสนาพุทธรุ่งเรืองในยุคโบราณตอนกลาง เจ้ามรรคาจุ่นถี หรือว่าพระยูไลนําหน้าคนอื่นอื่นๆ ก้าวเท้าก้าวสุดท้ายสําเร็จ หลุดพ้น จากโลกใบนี้
หยางเจี่ยนกับนาจามองกษัตริย์ตราผู้หน้าเกรงขามที่ในที่สุดก็เผย ร่างจริงออกมาในประตูหยกผู้นั้นด้วยสีหน้าซับซ้อน
“ท่านเหมือนพระศรีอริยเมตไตรยในตอนนั้น ถูกปิดตายประตู ใหญ่ที่เชื่อมไปยังระดับมรรคาในสถานการณ์ปกติ จึงผลักเรือตามน�า รับเศษศิลามนุษย์กําเนิดที่แดนสุขาวดีตะวันตกเสนอให้ เปลี่ยนไปเดิน เส้นทางนอกรีต?” หยางเจี่ยนขมวดคิ้วถาม “ยังคิดใช้ศิลาฟ้ากําเนิด ชําระล้างผู้สืบทอดสํานักเต๋าทั้งหมด ให้ถูกท่านปกครองต่อไป เพื่อมอบ พลังศรัทธาให้ท่าน?”
“โชคดีพวกจักรพรรดิจื่อเวย เทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอด มหา เซียนเจิ้นหยวน เจ้าแม่หวังหมู่ขัดขวาง ทําให้ท่านไม่สมความ ปรารถนา” นาจาอยู่ต่อหน้าเงาร่างที่คุ้นเคยหากแปลกหน้านี้ ดวงตาลุก เป็นไฟ กัดฟันกรอดๆ “น่าเสียดาย พวกเขาก็ประสบภัยตกตายเพราะ เหตุนี้เช่นกัน”
กษัตริย์ผู้น่าเกรงขามในประตูหยกเวลานี้ในที่สุดก็เอ่ยขึ้น “ไม่น่า เสียดาย พวกเขาได้แสดงประโยชน์ที่สมควรมีแล้ว”
ขณะฟังคําพูดที่เหมือนชมเชยนี้ เยี่ยนจ้าวเกอกลับเผยสีหน้าเยาะ เย้ย “สําหรับท่านเป็นเช่นนี้ เป็นเพราะพลังศรัทธาเส้นทางนอกรีต เดิม ทีเป็นวิธีการที่เป็นเป้าหมายรองลงไปของท่าน”
“เส้นทางนอกรีตขึ้นสู่ระดับมรรคา ที่แล้วมามิใช่เป้าหมายของ ท่าน และมิใช่การกระทําจนปัญญาที่ไร้ตัวเลือกอื่น ก็แค่ปิดฟ้าบังทะเล ปิดบังหูตาของคนเพื่อเป้าหมายในใจจริงๆ ของท่าน”
เยี่ยนจ้าวเกอมองมหาเทวะกษัตริย์แห่งหยกตรงๆ “แน่นอนว่าได้ แย่งชิงคุณสมบัติด้านพลังที่มากพอในการขึ้นสู่ระดับมรรคาเช่นกัน ท่านจึงมีเวลาเต็มเปี่ ยม และพลังที่กล้าแข็งงัดข้อกับเจ้ามรรคาคนอื่นๆ ควบคุมโชคชะตาด้วยมือท่าน สนับสนุนเป้าหมายสุดท้ายที่ท่านวางไว้”
“ถอยไปยังเป้าหมายรอง ต่อให้เป้าหมายแรกไม่สําเร็จจริงๆ ท่านก็ เป็นเจ้ามรรคาคนหนึ่ง อยู่เหนือสรรพสัตว์และเหล่าเซียน”
นาจามองมหาเทวะกษัตริย์แห่งหยกในประตูหยกด้วยความสั่น สะท้าน
สายตาของหยางเจี่ยนกับลู่ยาเต้าจวินตกลงบนร่างเยี่ยนจ้าวเกอ ขณะมองมหาเทวะกษัตริย์แห่งหยกทดลองใช้ประตูใหญ่หยกขาวกลืน เยี่ยนจ้าวเกอหายไปอย่างต่อเนื่อง
ฉัตรหมุนบนศีรษะเยี่ยนจ้าวเกอ กีดกันแรงดึงดูดของประตูหยก
“ไม่ ไม่ถูก” เยี่ยนจ้าวเกอพลันหัวเราะขึ้น “บางทีตอนแรกท่านจน ปัญญาจริงๆ การอาศัยพลังศรัทธาเส้นทางนอกรีตขึ้นสู่ระดับมรรคา เป็นแผนการแรกสุดของท่าน”
“ส่วนข้าความจริงตั้งแต่แรกเริ่มเป็นแค่แผนการที่ท่านเตรียมไว้ใช้ กระมัง? ป้องกันเผื่อว่าท่านล้มเหลวในวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ยังมีทาง ถอยทางหนึ่ง”
“ปัจจุบันชนชาวโลกล้วนพูดว่าข้ามีความเกี่ยวข้องกับเหล่าจวิน มิ ผิด มีความเกี่ยวข้องจริงๆ” เยี่ยนจ้าวเกอพ่นลมหายใจออกยาวๆ “แต่ ว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับข้ามากกว่าความจริงเป็นท่าน”
มหาเทวะกษัตริย์แห่งหยกในอดีต เทวกษัตริย์ไร้ประมาณในตอนนี้ ยามนี้เอ่ยขึ้น “เจ้าโดดเด่นกว่าที่ข้าเคยคาดไว้”
เขาทั้งไม่ยืนยัน และไม่ปฏิเสธการคาดเดาของเยี่ยนจ้าวเกอ
แต่ก็มากพอแล้ว
“เบาะวายุอัคคีที่บรมครูเทวกษัตริย์เต๋าเหลือไว้อยู่ในมือท่าน จริงๆ!” เยี่ยนจ้าวเกอมองเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ “มิใช่เหล่าจวิน เป็น ท่านพาข้ามายังธรรมชาติฟ้าดินแห่งนี้!”
เป็นเพราะมรดกสามพิสุทธิ์ สุดท้ายยังสะกิดให้เหล่าจวินเคลื่อน ไหว
เหล่าจวินจิตใจยากหยั่งคาด ปกติจะเร้นกาย มหาเทวะกษัตริย์แห่ง หยกพนันว่าครั้งนี้เขายังคงไม่สอดมือ
ทว่าผลคือเหล่าจวินพานสอดมือ
ในหอเก็บหนังสือวังเทพ เพิ่มคัมภีร์ไร้ขอบเขตที่มีแค่เยี่ยนจ้าวเก อถึงจะเห็น
มหาเทวะกษัตริย์แห่งหยกถึงแม้มองไม่เห็นเนื้อหาคัมภีร์ แต่ก็ สัมผัสการเคลื่อนไหวนี้ของเหล่าจวินได้
หลังจากความแตกตื่นสงสัยแรกสุด เขาพบว่าเหล่าจวินถึงกับไม่มี การเคลื่อนไหวตามหลังอีก
หลังพิจารณา มหาเทวะกษัตริย์แห่งหยกก็ทําการตัดสินใจที่กล้า หาญอย่างหนึ่ง
ใช้ประโยชน์จากสภาวะ เขามีแผนกรใหม่ที่บ้าบิ่นกว่า ถึงขั้นที่ว่า แผนการเดินบนเส้นทางนอกรีตพลังศรัทธาขึ้นสู่ระดับมรรคาในตอน แรก เป็นก้าวถอยหลังของเขา ทําหน้าที่เป็นการช่วยเหลือและการอํา พราง
“จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋คิดสร้างความลําบากแก่ข้าในโลก แปดพิภพ ความจริงรู้สึกว่าข้ากับท่านมีความเกี่ยวข้องกัน ดังนั้นจึงคิด กําจัดทิ้งให้เร็วที่สุด” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยอย่างราบเรียบ “ภายหลังเขา พบว่า บนตัวข้าคล้ายมีรีร่องอรยของเหล่าจวิน ดังนั้นทิ้งแผนการกําจัด ข้า ตระเตรียมไว้ใช้ในภายหลัง”
“เขาอาจไม่ทราบรายละเอียดอย่างเป็นรูปธรรมด้านใน แต่สัมผัส ได้ว่านี่เป็นโอกาสที่ใช้ได้”
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะ เร่งเสียงขึ้น “พี่ร่วมเส้นทางหนานจี๋ ท่าน สมควรได้ยินเสียงในตอนนี้ของข้า สาเหตุที่ท่านกล้าอาศัยผลประโยชน์ ของเหล่าจวิน มิใช่เป็นเพราะนึกว่าท่านค้นหาโอกาสหยิบเกาลัดในกอง เพลิงในการสะกดกันเองระหว่างเจ้ามรรคาสองคนได้กระมัง?”
ในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุด มีเสียงสายฟ้าดังขึ้น คล้ายกับเสียทอด ถอนใจอันไกลโพ้น
หยางเจี่ยน นาจา ลู่ยาเต้าจวิน ถึงขั้นที่พวกทีปังกรพุทธะในแดน สุขาวดีตะวันตก ตอนนี้ล้วนเงียบเสียง
เทวกษัตริย์ไร้ประมาณไม่ถือสากับการฟังเยี่ยนจ้าวเกอพูดมาก
ถึงประตูใหญ่หยกขาวไม่อาจดูดเยี่ยนจ้าวเกอเข้าไป แต่ว่าแสง หยกหลายชั้นค่อยๆ ปกคลุมร่างของเขาแล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอไม่รีบร้อน ทางหนึ่งปะทะกับเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ ต่อ ทางหนึ่งถาม “คําถามมากมาย ข้าเข้าใจแล้ว แต่ว่ามีคําถามหนึ่งที่ ข้าไม่เข้าใจ”
เขามองเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ “ทําไมเป็นข้า? มีเหตุผลหรือไม่ หรือว่าท่านเลือกไปเช่นนั้น?”
“ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาตินี้ หรือที่มาของเจ้า ความสูงส่งส่งแห่งการ ทําความเข้าใจหลักการวรยุทธของเจ้าเป็นหนึ่งไม่มีสอง สําหรับข้า มาตรว่าเป็นผู้ครองวิญญาณฟ้าแฝง ก็ยังสู้เจ้าไม่ได้” เทวกษัตริย์ไร้ ประมาณกล่าวอย่างเฉื่อยชา
“คํากล่าวนี้ทําให้ข้าดีใจยิ่ง ขอบคุณ ข้าขอรับไว้อย่างไม่เกรงใจ” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย “แต่ขอโทษด้วย ข้าไม่อาจให้แผนการท่านสําเร็จ”
………………..