ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1829 มรรคา! มรรคา! มรรคา!
บนรูปสลักหยกแตกออกเป็นร่องแยก จากนั้นมีแสงพิสุทธิ์หลาย ชั้นพรั่งพรูจากในร่องแตกออกไปด้านนอก
แสงพิสุทธิ์ไร้สิ้นสุดไร้ประมาณส่องสว่างมหาจักรวาล
ธรรมชาติฟ้าดินทั้งหมดขณะนี้เหมือนถูกย้อมด้วยแสงสว่างที่เจิด จ้าและบริสุทธิ์ชั้นหนึ่ง
ไม่เพียงแต่มหาธรรมชาติแห่งนี้เท่านั้น ธรรมชาติใหม่ที่ขมุกขมัว ซึ่งวานรได้เปิดผ่าขึ้นตอนขึ้นสู่ระดับมรรคาก็อาบอยู่ใต้แสงพิสุทธิ์ เช่นกัน
ได้รับการสาดส่องจากแสงพิสุทธิ์ คนที่อยู่ด้านใน ความคิดล้วน พร่ามัว
โลกตรงหน้าพวกเขาเหมือนเปลี่ยนทิวทัศน์อยางกะทันหัน
วินาทีนี้ทุกๆ คนเหมือนกลับสู่ยุคสมัยแรกเริ่มอันเป็นอากาศ โกลาหลที่ยังไม่นับเดือนปี ก่อนการเปิดผ่าธรรมชาติ
โลกไร้รูปร่างไร้สสาร ยากแยะแยกปริภูมิใกล้ไกล ไม่มีเวลา ไหลเวียน
คนธรรมดาจํานวนนับไม่ถ้วนมองทุกอย่างตรงหน้าอย่างงุนงง มองดูวัตถุเรื่องราวที่คุ้นเคยหายไปจนหมด จุดที่สายตาไปถึง ล้วนเป็น ทิวทัศน์ที่ตนมิอาจเข้าใจ ไม่อาจหยั่งประมาณ มิอาจบอกบรรยาย
จอมยุทธ์ในโลก ไม่ว่าเผ่ามนุษย์เผ่าปีศาจ ไม่ว่าศึกษาพุทธหรือเต๋า ตอนนี้ต่างแตกตื่นเหลือประมาณ
พวกเขาทางหนึ่งทําความเข้าใจทิวทัศน์แรกเริ่มที่สําหรับคนส่วน ใหญ่ เพียงอยู่ในเรื่องเล่าโบร�าโบราณและตัวหนังสือบนคัมภีร์ เพลิดเพลินดําดิ่งจนลืมตัว
แต่ทุกคนทางหนึ่งก็ตกใจเกรงกลัว ไม่เข้าใจว่าทําไมอยู่ๆ โลก ตรงหน้าจึงเปลี่ยนสภาพไป
ต่อให้เป็นตอนที่มหาวิทยราชมยุรีทะลวงสู่ระดับมรรคาก่อนหน้า ถึงแม้กวนคนการเปลี่ยนแปลงหมื่นวัตถุในโลก แบ่งแยกให้กําเนิด สภาพปัญธาตุแรกเริ่ม คล้ายต้องการหลอมโลกใหม่ แต่ว่าไม่มีการ เคลื่อนไหวยิ่งใหญ่ขนาดนี้
มหาวิทยราชมยุรีกระตุ้นให้มหาจักรวาลร่วมประสานเสียง เป็น กระบวนการค่อยๆ พัฒนา ไหนเลยเหมือนตอนนี้ เปลี่ยนแปลงฟ้าดิน ในพริบตา คล้ายนําสรรพชีวิตกลับไปสู่ก่อนจุดเริ่มต้นของกระแสเวลา?
ขณะที่ทุกคนแตกตื่นสงสัย ภาพตรงหน้าถึงกับเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ชีวิตบนโลกเสื่อมโทรม เงียบเชียบไปหมด
ดวงดาวในจักรวาลดับสูญ ไม่มีแสงสว่าง ไม่มีความอบอุ่น
หลักการธารรชาติพังทลายแหลกสลายหมดสิ้น ไม่คงอยู่อีก โลก ทั้งใบแสดงสภาพโกลาหลที่บิดเบี้ยว
ความโกลาหลค่อยๆ ถูกแก้ไข ที่เหลือมิใช่ความสงบนิ่ง แต่เป็น ความเงียบสงัด
จนกระทั่งทุกอย่างไม่คงอยู่อีก หมื่นวัตถุสูญสลาย ทุกสิ่งกลับคืนสู่ ความไม่มี
มนุษย์ปุถุชนยังคงสับสน ไม่อาจเข้าใจทิวทัศน์ตรงหน้า
แต่พวกเขารู้สึกได้ถึงความหวาดหวั่นในจิตใต จากในสู่นอก เกิด จากส่วนลึกวิญญาณ คล้ายกับวิญญาณถูกแช่แข็ง
ในทิวทัศน์ตอนนี้ ชีวิตทั้งหมดขาดสะบั้น สรรพชีวิตมลายสูญ ไม่ ว่าคนหรือปีศาจ ทวิชาติจตุบาต ดอกไม้ใบหญ้าที่ไร้สติปัญญา ล้วนสูญ สิ้น
พออยู่ในฉากเหตุการณ์นี้ ทุกคนต่างกลั้นหายใจ คล้ายกับตัวเองจะ ตายลงตรงนี้
สําหรับจอมยุทธ ถึงจะไม่เคยเห็นภาพนี้มาก่อน ก็เดาได้คร่าวๆ ว่า ที่นี่เป็นฉากที่ธรรมชาติดับสูญหลังโลกาวินาศ!
ชั่วครู่เดียว พวกเขาก้าวข้ามกระแสเวลา จากก่อนการเปิดผ่าฟ้า ดิน มาถึงหลังธรรมชาติดับสูญ!
นี่มิใช่ภัยพิบัติธรรมชาติที่เกิดขึ้นตอนเปลี่ยนผ่านระหว่างยุคสมัย หนึ่งกับยุคสมัยหนึ่ง
หากเป็นโลกธรรมชาติ และมหาจักรวาลเดินสู่จุดจบ กลับคืนสู่ ความไม่มี
เป็นจุดจบของโลก ทั้งเป็นจุดเริ่มต้นของสังสารวัฏ วินาทีต่อมา ภาพตรงหน้าทุกคนกลับคืนสู่ความปกติอีกครั้ง ทุกอย่างมีลักษณะเหมือนก่อนหน้า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
เหมือนกับทุกสิ่งเมื่อครู่เป็นความรู้สึกหลอน
ทว่าพวกลู่ยาเต้าจวิน นาจา หยางเจี่ยนย่อมทราบว่า นั่นมิใช่ ความรู้สึกหลอนเด็ดขาด
เป็นเพราะแม้แต่การดํารงอยู่ที่กายขึ้นสู่มหาชาลเฉกเช่นพวกเขา เมื่อครู่จิตใจเกิดความรู้สึกเลือนราง เห็นการเปลี่ยนแปลงของฟ้าดิน
ด้วยพลังของพวกเขา ยิ่งรู้สึกได้ว่า การแนบสนิทชิดใกล้เมื่อครู่ ราวกับมหาจักรวาลที่เป็นหยินหยางสองขั้วรวมถึงธรรมชาติขมุกขมัว ใหม่แห่งนั้น สองสิ่งเหมือนกับผ่านการสับเปลี่ยนรอบหนึ่ง
เคลื่อนย้ายธรรมชาติสองแห่ง ทั้งไม่เกิดคามเสียหายแม้แต่น้อย นี่ ต้องเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ปานใด
ทุกคนต่างมองรูปสลักหยกขาวนั้น
เห็นรอยแตกบนผิวรูปสลักหยกขาวยิ่งมายิ่งใหญ่ แสงพิสุทธิ์ที่สาด ออกมาจาด้านในยิ่งมายิ่งมาก ยิ่งมายิ่งสว่าง
ตรงข้ามกัน รอยแตกบนผิวประตูยกขาวก็ยิ่งมายิ่งมาก ยิ่งมายิ่งถี่ ค่อยๆ กระจายไปทั่วประตูทั้งบาน
กลิ่นอายอันลี้ลับด้านในกลับอ่อนโทรมลงกว่าเดิม
ระหว่างสองฝ่าย ฝั่ งหนึ่งลดฝั่ งหนึ่งเพิ่ม! มารสวรรค์ไร้พันธนาลงมา แขนแปดข้างตบใส่รูปสลักหยกที่ เปลี่ยนมาจากเยี่ยนจ้าวเกอนั้น แต่ว่าแสงพิสุทธิ์ที่ปล่อยออกมาจากในร่องแตกบนผิวรูปสลักหยก พลันรวมเป็นลํา ชี้ที่มารสวรรค์ไร้พันธนา มารสวรรค์ไร้พันธนาหัวคิ้วขมวด ตรงหน้าบังเกิดคันฉ่องใบหนึ่ง แสงพิสุทธิ์ยิงใส่คันฉ่องบานนั้น ถูกหักเหเอียงไป แต่ไม่รอมารสวรรค์ไร้พันธนาขึ้นหน้าต่อ แสงพิสุทธิ์เปลี่ยนทิศอีก หน ยังคงยิงใส่มัน เส้นแสงเหมือนมือไร้รูปร่างข้างหนึ่ง ผลักดันมารสวรรค์ไร้พันธนา ทําให้มันมิอาจเข้าใกล้ ร่างมารสวรรค์ไร้พันธนาเปลี่ยนเป็นมายา ทุกๆ มุมบนโลกเหมือน ต่างปรากฏคันฉ่องใบหนึ่ง ร่างมันฉายจากด้านใน กระทําตามใจ เป็น อิสระไร้ข้อผูกมัด มันหลบแสงพิสุทธิ์สําเร็จ มาถึงด้านหน้ารูปสลักหยกขาว กระนั้นในตอนนี้เอง รูปสลักหยกขาวแตกออกโดยสมบูรณ์!
เงาร่างสายหนึ่งโผล่ขึ้นจากด้านใน
เป็นเยี่ยนจ้าวเกอ!
เยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้ดูเหมือนไม่มีข้อแตกต่างจากก่อนหน้า
แต่ทุกคนที่อยู่รอบๆ รวมถึงผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาบนความว่าง เปล่า สายตาต่างรวมบนร่างของเขา
เห็นเพียงหลังศีรษะเยี่ยนจ้าวเกอมีแสงวิเศษกลมสมบูรณ์สว่าง กว้างใหญ่ไร้ประมาณ
แสงวิเศษที่กลมสมบูรณ์นี้ ถึงกับแบ่งเป็นสามชั้นในนอก
แสงวิเศษทุกชั้นต่างกลมสมบูรณ์ไร้สิ่งกีดขวาง บริสุทธิ์ผุดผ่อง ลี้ ลับยากหยั่งคาด
แสงวิเศษสามชั้นในนอกรวมกันเป็นหนึ่ง
ความแปรปรวนไร้รูปร่างสั่นสะเทือนกระจายไปด้านนอก
มารสวรรค์ไร้พันธนาที่เดิมเข้าใกล้เยี่ยนจ้าวเกอถูกผลักออกไปไกล
แสงวิเศษสามชั้นรวมเป็นหนึ่ง ปราณพิสุทธิ์สามสายพุ่งออกจาก ศีรษะเยี่ยนจ้าวเกอ ขณะผนึกรวม ก็แยกกันแสดงเงาคนสามสาย นั่ง เรียงอยู่เหนือศีรษะเยี่ยนจ้าวเกอ
ทุกคนมองไป ต่างสั่นสะท้าน
เห็นเงาคนที่นั่งขัดสมาธิทั้งสาม จากซ้ายไปขวา มีลักษณะของวัย ชรา วัยกลางคน และวัยหนุ่ม
แต่ถ้ามองให้ละเอียด จะรู้สึกว่าเหมือนทุกๆ คน ต่างมีความรู้สึกแก่ กลางหนุ่ม ยากจะใช้อายุอย่างเดียวมานิยาม
เหมือนกับยึดครองอดีตและอนาคต ยึดครองเวลาที่มีและไม่มี พร้อมๆ กัน
เงาคนสามสาย บ้างถือพัด บ้างถือมุก บ้างถือหรูอี้
พวกเขานั่งเรียงกัน ลี้ลับห่างไกล มหัศจรรย์ไร้สิ้นสุด
สามคนสอดประสาน เหมือนบรรยายโลกใบนี้จากก่อนการเปิดผ่า สู่หลังจุดจบ จากนั้นก็เปิดเผยความหมายหลักการทั้งหมด
ครอบคลุมหมื่นปรากฏการณ์ ปัญหาใดๆ ที่ถามขึ้น ล้วนหาคําตอบ ได้จากด้านใน
‘สามพิสุทธิ์…’
ประตูใหญ่หยกขาว แหลกสลายพร้อมกัน!
เทวกษัตริย์ไร้ประมาณในประตู มองเงาคนสามสายเหนือศีรษะ เยี่ยนจ้าวเกอ
เทวกษัตริย์บรรพกําเนิดสายหยกพิสุทธิ์! เทวกษัตริย์รัตนวิเศษสายเหนือพิสุทธิ์! เทวกษัตริย์เต๋าแห่งสายเอกพิสุทธิ์! เป็นการแสดงร่างสู่ด้านนอกของเจ้ามรรคาสามพิสุทธิ์สํานักเต๋า
เงาคนสามสายเปลี่ยนแปลงพร้อมกัน กลายเป็นปราณพิสุทธิ์สาม สาย
จากนั้น ปราณพิสุทธิ์สามสายนี้รวมเป็นหนึ่ง กลายเป็นปราณไร้สี ไร้รูปร่างสายหนึ่ง
ปราณนี้พุ่งขึ้นด้านบน ออกจากธรรมชาติ มาถึงด้านบนความว่าง เปล่า โผล่ขึ้นด้านหน้าเจ้ามรรคาคนอื่น
ทุกสิ่งในโลกเหมือนกับยากเอื้อมถึงปราณนี้ได้อีก ธรรมชาติสองแห่งสั่นสะเทือน เสียงมหามรรคาดังอึงอล ในอากาศโกลาหล เพิ่มคนคนหนึ่งเหยียบย�าระดับมรรคา!
………………..