ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1832 จอมมรรคา!
หมัดที่ยิ่งใหญ่อหังการหยุดลงตรงหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ มองไปเหมือนมารสวรรค์บรรพกําเนิดหยุดออกหมดเอง แต่คนที่มีพลังสายตามองออกว่า นั่นความจริงถูกเมฆาไร้ขอบเขต บรรพกําเนิดโกลาหลที่หดลงเป็นจุดเดียวของเยี่ยนจ้าวเกอกันไว้ จุดที่งดงามไร้ขอบเขต ยากนิยาม ยากบรรยาย ยากหยั่งประมาณ อดีต อนาคต หยินหยาง ความเย็นความร้อน ความช้าความเร็ว บนล่าง หน้าหลัง เริ่มต้นสิ้นสุด…ทุกอย่างต่างไม่คงอยู่ เหลือเพียงจุดนั้น จุดเริ่มแรกสุด จุดจบท้ายสุด หมื่นเรื่องราวหมื่นวัตถุตย่อมมีจุดเริ่มของตัวเอง หมื่นเรื่องราว หมื่นวัตถุย่อมจบลงเพราะมันด้วย จุดที่สร้างทุกสิ่ง กลับทําลายทุกสิ่งเช่นกัน มารสวรรค์บรรพกําเนิดที่หน้าตาเหมือนจักรพรรดิจื่อเวยมอง เยี่ยนจ้าวเกออย่างเย็นชา
กําปั้ นของมันวินาทีนี้คล้ายกลายเป็นความโกลาหล เปลี่ยนแปลง ให้กําเนิดหมื่นเรื่องราวหมื่นวัตถุ เก็บหมื่นเรื่องราวหมื่นวัตถุ กลับ ทําลายล้างหมื่นเรื่องราวหมื่นวัตถุเช่นกัน
กําปั้ นของมารสวรรค์บรรพกําเนิดกดอัดจุดที่เปลี่ยนมาจากเมฆา ไร้ขอบเขตบรรพกําเนิดโกลาหล กดดันใส่เยี่ยนจ้าวเกอ
ขณะเดียวกันการโจมตีของ พระศรีอริยเมตไตรยและมารสวรรค์ไร้ พันธนา ก็บรรลุถึงด้านหน้าเยี่ยนจ้าวเกอเหมือนกัน
บัวขาวร่อนลง แท่นบัวขนาดมหึมา เหมือนกับประกอบจากบัวขาว ที่ค่อนข้างเล็กนับไม่ถ้วน
ทะเลดอกบัวขาวรวมตัวกันเป็นแท่นบัวเก้ากลีบ คล้ายรองรับฟ้า ดินได้
ในบัวขาวทุกดอกนั่งไว้ด้วยพุทธะสีทององค์หนึ่ง
พุทธะทุกองค์ที่นี่ ต่างเป็นพระศรีอาริย์ที่สาวกหนึ่งคนในแดน สุขาวดีบัวขาวอธิษฐานในความคิด สภาพแตกต่างกันไป
สาวกจํานวนนับไม่ถ้วน เกิดแสงพุทธะพลังศรัทธานับไม่ถ้วน แสดงพุทธะนับไม่ถ้วน นั่งอยู่บนดอกบัวเหลือคณานับ จากนั้นรวมตัว
ผนึกเชื่อมกลายเป็นพระเมตไตรยขนาดมหึมาที่ยักษืใหญ่เหลือ ประมาณ คล้ายเติมเต็มธรรมชาติทั้งหมด
พระศรีอริยเมตไตรยแสดงร่างจริงที่นี่ กางฝ่ามือพุทธขนาด มโหฬาร คว้ามาใส่เยี่ยนจ้าวเกอ
อีกด้านหนึ่งมีมารสวรรค์ไร้พันธนา แขนแปดข้างรวมกันด้านหน้า ทรวงอกของตัวเองจากแปดทิศทาง ฝ่ามือล้วนหันหากัน รวมกัน กลายเป็นกรอบ
ใจกลางฝ่ามือทั้งแปดของมันเกิดกระจกไร้รูปร่างใบหนึ่ง
บนกระจกมีแสงสว่างไร้สิ้นสุดไร้ประมาณรวมตัว
จากนั้นแสงสว่างที่รวมตัวเหล่านี้ผนึกเชื่อมเป็นแสงกระจกลําหนึ่ง ส่องยิงใส่เยี่ยนจ้าวเกอ
ถึงแม้คนหนึ่งบําเพ็ญเส้นทางนอกรีตพลังศรัทธา คนหนึ่งหลัง ประสบมหาภัยยังมิอาจฟื้ นกลับสู่สภาพสุดยอดในอดีตได้
แต่ว่าผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาสองคนเช่นพระศรีอริยเมตไตรยกับ มารสวรรค์ไร้พันธนาร่วมมือกัน ความยิ่งใหญ่ของอานุภาพ ยังทําให้คน ครั่งคราม ยากต้านความแหลมคม
บวกกับมารสวรรค์บรรพกําเนิด สามเจ้ามรรคาลงมือพร้อมกัน โค่นล้มธรรมชาติได้ง่ายดาย
เยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่มองพวกเขาสามคน
ศีรษะเยี่ยนจ้าวเกอพลันปรากฏเจดีย์องค์หนึ่ง
ปราณเหลืองดําฟ้าดินที่เหมือนงูมังกรยิ่งใหญ่ไพศาลพันหมื่นตัว ห้อยลงจากบนเจดีย์ ปกคลุมร่างเยี่ยนจ้าวเกอ
เจดีย์หมุนขึ้นมา ปราณเหลืองดําฟ้าดินกันการโจมตีของพระศรี อริยเมตไตรยและมารสวรรค์ไร้พันธนาสองเจ้ามรรคาไว้หมด ทําให้ เยี่ยนจ้าวเกอไม่บาดเจ็บแม้แต่เส้นขน
มิใช่เงาลวงของเจดีย์ที่เปลี่ยนมาจากปราณเหลืองดําฟ้าดินหลิง หลงวรยุทธ์หลังกําเนิดแห่งคัมภีร์เต๋า หากเป็นเจดีย์เหลืองดําฟ้าดินหลิง หลงที่แท้จริงอย่างเหล่าจวิน!
หมื่นวิชายากทําร้าย ไม่จํากัดเพราะวัตถุ
ฝ่ามือพุทธขนาดยักษ์กระแทกกับปราณเหลืองดําฟ้าดินที่บิดเร่า ราวงูมังกร
ไม่อาจทําลายปราณเหลืองดําฟ้าดิน ตัวมันกลับค่อยๆ พังทลาย สลายหาย
ฝ่ามือพุททสูญหาย เผยถุงผ้าใบหนึ่งที่ซ่อนอยู่ด้านใน
ถุงวิเศษใบนี้ เป็นท่าไม้ตายที่แท้จริงของพระศรีอริยเมตไตรย ซ่อน อยู่ใต้ฝ่ามือพุทธ
เดิมคํานวณไว้รอแล้วว่าเยี่ยนจ้าวเกอโต้ตอบทําลายฝ่ามือพุทธ ถุง วิเศาแสดงผลได้ มอบการโจมตีกะทันหันให้เยี่ยนจ้าวเกอ
มิคาดเยี่ยนจ้าวเกอไม่รับกระบวนท่า เจดีย์เหลืองดําฟ้าดินหลิง หลงตั้งบนหัว การคํานวณมากมายของพระศรีอริยเมตไตรยพลันเสีย เปล่าทั้งหมด
ท่านยังทําลายการป้องกันของเจดีย์สี่เหลี่ยมนั้นไม่ได้ เหลือแต่ ความกระอักกระอ่วน
แสงกระจกของมารสวรรค์ไร้พันธนาถูกเจดีย์เหลืองดําฟ้าดินหลิง หลงต้านไว้เช่นกัน
ถึงแม้ครั้งนี้มันไม่ได้โจมตีกระจายตัว แต่แสงกระจกมากหลาย รวมกัน ป่นปราณเหลืองดําฟ้าดินหลายสายเป็นผุยผง
แต่ว่าไม่ทันไรก็มีปราณเหลืองดําจํานวนมากกว่าเดิมไหลลง ทําลายไม่หมดสิ้น ทําให้มารสวรรค์ไร้พันธนายากลุกคืบ
บรรพมารตนที่ห้าจิตใจสั่นสะท้าน ‘เจดีย์นี้เดิมมีแค่องค์เดียว อยู่ที่ ไท่ซ่างเหล่าจวินถึงจะถูก!’
เปลี่ยนเป็นคนอื่น มารสวรรค์ไร้พันธนาแน่ใจว่า นี่เป็นเหล่าจวินให้ คนอื่นยืมเจดีย์เหลืองดําฟ้าดินหลิงหลงของตัวเอง
ทว่าขณะนี้พอเห็นว่านอกจากเจดีย์บนศีรษะเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว ยัง เสกเมฆาไร้ขอบเขตบรรพกําเนิดโกลาหล มารสวรรค์ไร้พันธนายากจะ ไม่เกิดความคิดอื่น
เจดีย์เหลืองดําฟ้าดินหลิงหลงป้องกันพระศรีอริยเมตไตรยกับมาร สวรรค์ไร้พันธนาที่มาจากด้านบนศีรษะ ข้างๆ เยี่ยนจ้าวเกอ เมฆมงคล ที่พังทลายเป็นจุดเดียว เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งหนึ่ง
จดสุดท้ายนั้นตอนนี้ค่อยๆ เลือนหาย ไม่อาจเห็น ไม่อาจได้ยิน
แต่ว่ากําปั้ นที่ค่อยๆ เคลื่อนเข้าใกล้ของมารสวรรค์บรรพกําเนิด ถูกขัดขวางอีกครั้ง หยุดลงไม่ขยับ
จุดนั้นที่เปลี่ยนมาจากเมฆมงคลของเยี่ยนจ้าวเกอ ไม่ได้หายไป หรือไม่คงอยู่อีก
ตรงกันข้าม ขอบเขตอันลี้ลับของการไม่เกิดไม่ดับ ไม่มีไม่ไร้ เป็น ลักษณะสูงสุดของเมฆาไร้ขอบเขตบรรพกําเนิดโกลาหล และเป็นสภาพ อันเป็นแก่นแท้ที่สุด และแข็งแกร่งที่สุด
หลังแสดงสภาพว่างเปล่า เมฆมงคลของเยี่ยนจ้าวเกอถึงขั้นเริ่ม กดดันมารสวรรค์บรรพกําเนิดกลับ กดดันหมัดโกลาหลที่เกรี้ยวกราดสุด ขีดนั้นถอยหลัง!
ในสองตาของมารสวรรค์บรรพกําเนิดสาดประกายเย็นเยียบดุร้าย
ตอนนี้มันเกิดความรู้สึกเผชิญกับเทวกษัตริย์บรรพกําเนิดในยุคบุพ กาล
คู่ต่อสู้ที่ยึดตําแหน่งบรรพกําเนิด กดข่มมันตั้งแต่เกิด เหนือวกว่า มันทุกส่วน ทําให้มันแสดงความสามารถไม่ได้ ต่อต้านไม่ได้
มักกล่าวว่าดาวข่มมีสองชนิด ชนิดแรกเป็นจุดเด่นฝั่ งหนึ่้งกมข่ม จุดอ่อนขงอีกฝั่ ง
แบบนี้ยังทดลองใช้ข้อเด่นชดเชยข้อด้อยได้
ชนิดที่สองคือ จุดเด่นของท่าน ก็เป็นจุดเด่นของข้า หากข้ากลับ แกร่งกว่าท่าน
ไม่ว่าด้านใดล้วนแกร่งกว่าท่าน
ต่อให้แกร่งแค่เรื่องเดียว กลับกดดันท่านได้ตลอดกาล จุดที่แกร่งนี้ ก็แกร่งหจนไร้ขอบเขตแล้ว
“มารสวรรค์บุพกาล ข้าว่านะ ข้าขึ้นระดับมหาชาล เจ้าไม่เป็น บรรพกําเนิดแล้ว” เสียงของเยี่ยนจ้าวเกอดังขึ้นอีกครั้ง น�าเสียงสงบนิ่ง ไม่แฝงแววโอ้อวดเยาะเย้ย คล้ายอธิบายความจริงที่เรียบง่ายแท้จริง ไม่ อาจตั้งข้อสงสัยผู้หนึ่ง
เมฆาไร้ขอบเขตบรรพกําเนิดโกลาหลกลายเป็นการดํารงอยู่ไร้ รูปร่างไร้สสารไร้ประมาณ กดดันมารสวรรค์บุพกาลถอยหลัง!
ไม่มองการโจมตีของผู้เข้มแข็งระดับมหาชาลทั้งสาม เยี่ยนจ้าวเกอ ไม่รีบไม่ร้อน เดินเข้าหาเทวกษัตริย์ไร้ประมาณต่อ
เทวกษัตริย์ไร้ประมาณใบหน้าเคร่งขรึมล�าลึก จี้นิ้วออก ปลายนิ้วมี แสงทองพรั่งพรู
แสงทองถูกปล่อยออกมา กลายเป็นธารสวรรค์สีทองยิ่งใหญ่ ไพศาล ม้วนใส่เยี่ยนจ้าวเกอ
อีกด้านหนึ่ง ร่างธรรมยูไลยื่นนิ้วออกมา คีบดอกยิ้มแย้ม ปลายนิ้ว แตะถึงด้านหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะ ยื่นนิ้วออกมาแตะใส่เทวกษัตริย์ไร้ประมาณ กับร่างธรรมยูไลเช่นกัน
เขาจิ้มนิ้วติดต่อกัน ดอกอุทุมพรสีทองโรยรา ธารสวรรค์แสงทอง ยิ่งใหญ่เหือดแห้ง
มารสวรรค์บุพกาล มารสวรรค์ไร้พันธนา เทวกษัตริย์ไร้ประมาณ พระศรีอริยเมตไตรย ถ้าากว่าบวกร่างธรรมยูไลอีก เป็นผู้ยิ่งใหญ่ระดับ เจ้ามรรคาห้าคนลงมือพร้อมกัน
ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอยังคงเหมือนเดินเล่นในห้องโถ เคลื่อนคมเหลือ ช่องว่าง
“ขึ้นสู่ระดับมรรคา เจ้าแห่งหนึ่งมรรคา เรียกว่าเจ้ามรรคา” หยาง เจี่ยนมองเยี่ยนจ้าวเกอลงมือ กล่าวอย่างแช่มช้า “เป็นเอกในระดับ มรรคา ก็คือ…”
“จอมมรรคา!” จอมมรรคา เยี่ยนจ้าวเกอ! การทะลวงสุดท้าย!
………………..