ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1835 วาจากล่าวกฎเกณฑ์ตาม
เยี่ยนจ้าวเกอกางค่ายกลลงทัณฑ์เซียนคลุมมารสวรรค์บุพกาลกับ มารสวรรค์ไร้พันธนาเข้าไป
เทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับพระศรีอริยเมตไตรย ย่อมต่างหวังว่าจะ ช่วยมารสวรรค์สองตนออกมาได้
มิใช่มีน�าใจกันล�าลึก แต่เป็นน�าพึ่งเรือเสือพึ่งป่า
เจ้ามรรคาหลายคนร่วมมือกัน ยังไม่อาจทําอย่างไรเยี่ยนจ้าวเกอ ได้
ถ้าหากว่าตายไปอีกสอง พันธมิตรน้อยลง เช่นนั้นเผชิญหน้า กับเยี่ยนจ้าวเกอย่อมมิใช่คู่ต่อสู้กว่าเดิม ยากจะต่อต้าน
วินาทีนี้ถึงขั้นที่แม้แต่กษัตริย์บูรพาไท่อี้กับอามิตาภพุทธเจ้า ต่าง วางมือไม่สู้กันอีก
จริงอยู่ที่พวกเขาสองคนเป็นตัวตนที่เก่าแก่ที่สุด และเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ระดับมรรคาสองคนที่ใกล้การหลุดพ้นที่สุดในตอนนี้
ถ้าไม่มีเรื่องเหนือความคาดหมายใหญ่โต ในการหลุดพ้นของยุค สมัยนี้ คู่ต่อสู้ของกษัตริย์บูรพาไท่อี้กับอามิตาภพุทธเจ้า มีแค่ระหว่าง พวกเขา
สองฝ่ายท่านชิงข้าแย่ง ต่างฝ่ายต่างวางแผน
ในระดับหนึ่ง ไม่ว่าอย่างไรแหล่งกําเนิดของยุคสมัยปัจจุบัน ส่วน ใหญ่ความจริงอยู่ที่เจ้ามรรคาหนึ่งพุทธหนึ่งปีศาจ
แต่ว่าวันนี้ เรื่องเหนือความคาดหมายที่ใหญ่หลวงพานเกิดขึ้นแล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอขึ้นสู่มหาชาล แข็งแกร่งโดยไม่เคยมีมาก่อนใน ประวัติศาสตร์!
ตามปกติแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอขึ้นสู่มหาชาล ความจริงสมควรไม่เร็ว ขนาดนี้
หากเทวกษัตริย์ไร้ประมาณช่วยเขาอีกแรง
หรือจะกล่าวว่าเป็นเพราะแผนการของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ วันนี้จึงถูกกําหนดไว้แล้วว่าจะเกิดเจ้ามรรคาที่ฝึกสามพิสุทธิ์สําเร็จคน หนึ่ง
มิใช่เยี่ยนจ้าวเกอ เป็นเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ
เส้นทางหลุดพ้นของกษัตริย์บูรพาไท่อี้กับอามิตาภพุทธเจ้า ย่อม เกิดระลอกคลื่นบนพื้นราบ
จริงอยู่ที่ไม่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอหรือเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ ต่อให้ สําเร็จการฝึกสามพิสุทธิ์ร่วมกัน ขึ้นสู่ระดับมรรคา แต่ต่างไม่แน่ว่าจะ เตรียมตัวไว้เรียบร้อย แย่งชิงตําแหน่งหลุดพ้นในยุคสมัยนี้
กระนั้น บางทีเยี่ยนจ้าวเกอไม่อาจหลุดพ้น และตัดสินไม่ได้ว่าผู้ใด สามารถหลุดพ้น
ทว่าพลังที่แข็งกล้ามากพอ ทําให้เขามีความสามารถตัดสินว่า ผู้ใด ไม่อาจหลุดพ้น!
รายชื่อหลุดพ้นมีจํากัด
การดํารงอยู่อย่างเยี่ยนจ้าวเกอ ตอนคนอื่นๆ ร่วมมือกันยังไม่อาจ ต้านทาน เท่ากับยึดรองตําแหน่งหลุดพ้นอย่างมั่นคง
ข้าไม่เตรียมตัวก็ไม่เป็นไร
ล้วนฆ่าคนที่เตรียมตัวเสร็จแล้วให้หมด ข้ารอช้าๆ จนกระทั่งถึงวัน นั้นที่ข้าเตรียมตัวเสร็จ
พวกพระศรีอริยเมตไตรย ตอนนี้ไม่สนใจผู้ก่อการอย่างเทวกษัตริย์ ไร้ประมาณแล้ว
ปัญหาอันดับแรกที่วางต่อหน้าพวกเขา ยังเป็นจะรับมือเยี่ยนจ้าว เกออย่างไร
ตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอเป็นศัตรูส่วนรวมอย่างไม่ต้องสงสัย
ศัตรูส่วนรวมที่ทําให้ทุกคนแทบสิ้นหวัง
พวกเจ้ามรรคาคิดจะช่วยเหลือมารสวรรค์สองตนให้เป็นอิสระจาก ในค่ายกลลงทัณฑ์เซียนก่อน
กระนั้นค่ายกลลงทัณฑ์เซียนในตอนนี้ไม่เหมือนกับอดีต
มิใช่เจ้ามรรคาเข้าค่ายกล ลุกถอยตามใจอีกต่อไป
คิดจะเด็ดกระบี่ทําลายค่ายกล มิใช่ไม่ได้ แต่ต้องรับความเสี่ยงตาม ไปด้วย
ถ้าไม่ระวังจะตกตายด้านใน
ค่ายกลกระบี่ทําลายล้างฟ้าดิน ไม่เพียงส่งผลต่อด้านนอก ยังส่งผล ต่อด้านใน กดดันสภาวะโจมตีของพวกเทวกษัตริย์ไร้ประมาณและพระ ศรีอริยเมตไตรยให้ถอยอย่างต่อเนื่อง
ด้านในค่ายกล เยี่ยนจ้าวเกอผละจากแท่นสูง มาถึงด้านหน้ามาร สวรรค์บุพกาลกับมารสวรรค์ไร้พันธนาเหมือนเดินทอดน่องในห้องโถง จากนั้นยกดาบขึ้นฟันลง!
ดังนั้นทุกคนได้แต่มองมารสวรรค์สองตนตายอยู่เฉยๆ!
ฟ้าดินเขย่า ธรรมชาติสั่นสะเทือน
แม้จะเป็นวิถีมาร ตอนนี้เจ้ามรรคาตกตาย เหมือนทั่วฟ้าร่วม โศกศัลย์
‘ไม่เพียงแค่เจดีย์เหลืองดําฟ้าดินกับเมฆาไร้ขอบเขตบรรพกําเนิด โกลาหลเท่านั้น แม้แต่ค่ายกลลงทัณฑ์เซียน หรือก็คือคัมภีร์โกลาหลสูญ ก็บิดเบี้ยวเปลี่ยนแปลงกลายเป็นอย่างนี้ได้แล้วหรือ?’ พระศรีอริย เมตไตรยมองเยี่ยนจ้าวเกอเงียบๆ ‘พวกเราอยู่ร่วมโลกกับเขา เขาถึงขั้น เปล่งคําพูดกฎเกณฑ์เกิดตาม เหมือนปากทองวาจาหยกเช่นนี้โดยไม่ ผ่านพวกเรา…’
มารสวรรค์สองตนสิ้นชีวิต ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนกลับเริ่มขยายไป ด้านนอก คิดจะม้วนพวกท่านเข้าไป
พระศรีอริยเมตไตรยในที่สุดถอนใจยาว กลายเป็นบัวขาวถอยหลัง
เทวกษัตริย์ไร้ประมาณถูกเยี่ยนจ้าวเกอขวาง
“ไร้ประมาณมีสิ้นสุด…” เทวกษัตริย์ไร้ประมาณทวนคําพูดของ เยี่ยนจ้าวเกอช้าๆ รอบหนึ่ง จากนั้นจ้องมองเยี่ยนจ้าวเกอ ส่ายหน้าแช่ม ช้า
เขาไม่ได้พูดอะไร แต่ยกมือข้างที่เหลือของตนขึ้น ชูแสงทองหมื่น จั้ง แล้วฟาดตบใส่เยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าสงบไร้ระลอก ยกมือข้างหนึ่งขึ้นเช่นกัน เงา แสงของฉัตรเดี๋ยวสูญเดี๋ยวปรากฏ
ระหว่างปราณโกลาหลไร้ขอบเขตสูงส่งหลายสายเวียนวน ก็ กระแทกวังทองบนมือเทวกษัตริย์ไร้ประมาณจนแหลก จากนั้นก็ชนมือ ข้างที่เหลือของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณจนสลาย
เยี่ยนจ้าวเกอผลักฉัตรอีกรอบ ฉัตรเอียงล้ม กระแทกร่างของเท วกษัตริย์ไร้ประมาณจนแตก!
เทวกษัตริย์ไร้ประมาณสีหน้าไร้อารมณ์ขณะมองเยี่ยนจ้าวเกอ ร่างกายแหลกสลาย
ร่างกายของเขาเหมือนขึ้นโครงจากหยกศิลา ยามนี้แตกแหลก โปรยปราย เป็นธุลีกระจายควันสูญสลาย
มหาเทวะกษัตริย์แห่งหยก อดีตผู้ปกครองวังเทพ บุคคลหมายเลข หนึ่งแห่งมหาชาล เสียชีวิตเช่นนี้
สํานักเต๋ารุ่งเรืองด้วยมือสามพิสุทธิ์ หลังจากสามพิสุทธิ์หลุดพ้นก็ เริ่มเสื่อมถอย ค่อยๆ ตกต�าด้วยมือคนอื่นๆ
ในที่สุด มหาเทวะกษัตริย์แห่งหยกผลักสํานักเต๋า ส่งสํานักเต๋าสู่ ช่วงเวลาต�าสุดในประวัติศาสตร์ด้วยตัวเอง
และเขาก็เป็นพยานการผงาดขึ้นใหม่ของสํานักเต๋า
วินาทีสุดท้ายในชีวิตเขาคือจุดเริ่มต้นที่สํานักเต๋ากลับคืนสู่จุดยอด ของสวรรค์
เยี่ยนจ้าวเกอสังหารผู้เข้มแข็งระดับมรรคาสามคนได้แก่มาร สวรรค์บุพกาล มารสวรรค์ไร้พันธนา และเทวกษัตริย์ไร้ประมาณในวัน เดียว
เขาสีหน้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ใดๆ เพียงมองสถานที่ที่เท วกษัตริย์ไร้ประมาณกลายเป็นเถ้ากระจายฝุ่นสลาย สะท้อนใจอยู่บ้าง
ถึงจะประสงค์ร้ายตั้งแต่เริ่มจนถึงท้ายสุด แต่เป็นเทวกษัตริย์ไร้ ประมาณนําเขามายังธรรมชาติอากาศโกลาหลแห่งนี้ ดังนั้นจึงเกิด เรื่องราวมากมายในภายหลัง
ตนได้ชื่่นชมชีวิตที่ไม่อาจประสบชั่วนิรันดร์บนโลกสีน�าเงิน ได้ชื่น ชมสุขทุกข์แยกจากพบเจอ ได้ชื่นชมความไม่จีรังของวัตถุเรื่องราว มากมาย
ทั้งหมดมีจุดจบในวันนี้
สลายค่ายกลลงทัณฑ์เซียน คืนกระบี่โบราณสี่เล่มให้เจ้าแม่อู๋ตัง และนางเซียนอวิ๋นเซียว เยี่ยนจ้าวเกอก็พยักหน้าคํานับวานร “ขอบคุณ พี่ร่วมเส้นทางที่เหนื่อยเพื่อข้า”
วานรกล่าวด้วยรอยยิ้ม “สมควรเป็นข้าเหล่าซุนขอบคุณเจ้าถึงจะ ถูก ได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ”
“ทําพี่ร่วมเส้นทางหัวเราะเยาะแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว “พี่ร่วม เส้นทางนั่งพักก่อน ข้าไปแล้วจะกลับ”
“เหล่าจวินช่วยขอน�าใจให้อามิตา ข้าเองก็อยากให้เจ้าปรานี กษัตริย์บูรพาด้วย” วานรรู้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะไปทําอะไร
เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เหล่าจวินความคิดเอาแน่เอานอน ไม่ได้โดยแท้ แต่ในเมื่อเหล่าจวินพูดกับพี่ร่วมเส้นทาง ย่อมไม่มีใดไม่ได้ เพียงแต่ต่อให้ไว้ชีวิตพวกเขา ภายหลังก็ต้องกดดัน”
ร่างเขาหายวับไปจากที่เดิม
วานรป้องตามองไปยังที่ไกล
เยี่ยนจ้าวเกอไปที่แดนสุขาวดีบัวขาวก่อน
บนแดนสุขาวดีที่บัวขาวมากมายเบ่งบาน พระศรีอริยเมตไตรยเพิ่ง กลับมา รู้สึกสันหลังเย็นวาบ
หันไปมอง เป็นเยี่ยนจ้าวเกอ
“ตั้งแต่วันนี้ไป โลกนี้ไม่มีเส้นทางนอกรีตอีก” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย ด้วยรอยยิ้ม
เขายกฝ่ามือขึ้น ตบใส่พระเมตไตรยขนาดมหึมาที่เกิดจากเงาร่าง พุทธะนับไม่ถ้วนรวมตัวกัน
พระศรีอริยเมตไตรยถอนใจคําหนึ่ง ยกสองฝ่ามือขึ้นกันฝ่ามือของ เยี่ยนจ้าวเกอ
สองฝ่ายเพิ่งปะทะฝ่ามือกัน ร่างของพระศรีอริยเมตไตรยก็ สั่นสะเทือนพร้อมถล่มทลายแยกตัวเหมือนกับรูปสลักทรายขนาดยักษ์
ในกายพุทธขนาดยักษ์ที่พังทลายนั้น มีแสงดาวสว่างขึ้น
ลําแสงที่เหมือนกับดาวจรัสกลางจักรวาลจํานวนเหลือคณานับ ห้อมล้อมเยี่ยนจ้าวเกอ
แสงดาวเหล่านี้เหมือนกับภัยพิบัติไร้สิ้นสุดไร้ชั้น อยู่ในอนาคต รอ คอยสรรพชีวิต อนาคตลําบากยากเย็น มีเพียงหันมานับถือจึงได้รับความสะอาด บริสุทธิ์ เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้น ยิ้มบางๆ ยกนิ้วขึ้น แสงดาวเหล่านั้นพากัน อับแสง จากนั้นเขาตบฝ่ามืออีกรอบ พระเมตไตรยยักษ์ที่เปลี่ยนมาจาก พุทธะนับไม่ถ้วน พลันพังทลายโดยสมบูรณ์ กลายเป็นเถ้าธุลี เถ้าธุลีตกลง เผยให้เห็นพระพุทธะเจ้าร่างอ้วนที่ถือถุง นั่งขัดสมาธิ บนบัวขาว “ที่สุดพวกเราต่างแพ้แล้ว” บนใบหน้าพระศรีอริยเมตไตรยไม่มี รอยยิ้มอีก ถอนใจยาวๆ คําหนึ่ง เยี่ยนจ้าวเกอยกฝ่ามือขึ้น เศษศิลามนุษย์กําเนิดที่พระศรีอริย เมตไตรยครอบครอง ล้วนตกลงบนมือเขา เขาหยิบถุงใบนั้น อ้าปากถุงแล้วครอบใส่พระศรีอริยเมตไตรย
………………..