ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 132 เยี่ยนจ้าวเกอผู้มีความสัตย์ซื่อ
ผู้อาวุโสเสวียนสือควบคุมการเปลี่ยนแปลงของสายแร่ศิลาวิญญาณลึกล้ำด้วยกำลังทั้งหมด ทว่าทั่วทั้งหลุมแร่ในขณะนี้คล้ายกับจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แล้ว
เคราะห์ดีที่ยังมีซานสือเวิงและผู้อาวุโสจั่วอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ผู้อาวุโสแห่งเขาไร้พรมแดนทั้งสามคนลงมือพร้อมกัน จึงทำให้สายแร่เสถียรขึ้นมาได้
อีกทั้งเรื่องที่ทำให้บรรดาคนของเขาไร้พรมแดนอยากจะร้องไห้แต่กลับไม่มีน้ำตาออกมาก็คือ การกระทำที่เยี่ยนจ้าวเกอกับจ้าวฮ่าวทำก่อนหน้านี้ ล้วนเปล่าประโยชน์ทั้งสิ้นไปเสียแล้ว
ผู้อาวุโสจั่วสูดลมหายใจเข้าลึก ควบคุมสติอารมณ์ของตนเองเอาไว้ สายตาทอดมองไปยังจ้าวฮ่าว แล้วถามด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
หัวคิ้วจ้าวฮ่าวขมวดเป็นปมแน่น จ้องสายแร่ศิลาวิญญาณลึกล้ำที่คล้ายกับเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคยอย่างสิ้นเชิงโดยที่ไม่ละสายตา
เขาไม่มีเวลาสนใจตอบคำถามของผู้อาวุโสจั่ว ถึงขั้นไม่สนใจว่าการเปลี่ยนแปลงของสายแร่ยังไม่สงบลงโดยสิ้นเชิง ปะทะอยู่กับสภาพแวดล้อมที่ภูเขาสั่นแผ่นดินไหว ลงมือลูบคลำแก่นแร่ด้วยตนเอง
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง สีหน้าของจ้าวฮ่าวก็นิ่งงันอย่างรวดเร็ว “เปลี่ยนไปหมดแล้ว…วิธีหยุดการไหลเวียนของพื้นภูมิไม่เหมาะจะใช้การอีกต่อไปแล้ว หากใช้ก็เป็นการทำลายสายแร่อีกครั้ง!”
เขาหันกลับไปมองเยี่ยนจ้าวเกอทันที “นี่มันอะไรกัน…”
เยี่ยนจ้าวเกอพบว่าสายตาของจ้าวฮ่าวจดจ้องอยู่ แต่เขาไม่ได้ให้ความสำคัญแต่อย่างใด
สีหน้าท่าทางของเขาก็ตะลึงงันและแปลกใจเช่นกัน เพ่งพินิจสายแร่ศิลาวิญญาณลึกล้ำเบื้องหน้า และเดินหน้าเข้าไปตรวจสอบบริเวณแก่นแร่อย่างละเอียดบ้าง
หลังจากนั้นครู่ใหญ่ เยี่ยนจ้าวเกอก็ส่ายหน้า “วิธีเจาะสำรวจของข้า ก็ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้แล้วเช่นกัน”
ผู้อาวุโสจั่วจ้องจ้าวฮ่าวเขม็งโดยไม่ละสายตา “หากเป็นอุบัติเหตุจากการดำเนินการ สามารถทำต่ออีกครั้งได้หรือไม่ หรือวิธีการของเจ้าเองก็มีปัญหา”
สำหรับคำถามของผู้อาวุโสจั่ว จ้าวฮ่าวนิ่งเงียบไม่พูดอะไร เพียงแต่จ้องเยี่ยนจ้าวเกอตาเขม็ง
ถึงแม้ความเข้าใจที่มีต่อสายแร่ศิลาวิญญาณลึกล้ำของเขาจะไม่สู้เยี่ยนจ้าวเกอ ไม่ได้ไม่ลึกซึ้งตั้งแต่แรกแต่อย่างใด บัดนี้จึงรู้สึกได้รางๆ ว่าตนเองถูกเยี่ยนจ้าวเกอทำให้ติดกับเสียแล้ว!
นั่นเป็นเพราะวิธีเจาะสำรวจของเยี่ยนจ้าวเกอก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีผลกระทบแต่อย่างใด ทว่ากลับช่วยยกระดับประสิทธิผลของวิธีหยุดการไหลเวียนพื้นภูมิของตน
อย่างไรก็ตามจริงๆ แล้ว อาจจะเป็นเพราะแอบเปลี่ยนแปลงแก้ไขสภาวะของสายแร่ก่อนวิธีการเจาะสำรวจ จึงทำให้ไม่เพียงแต่วิธีหยุดการไหลเวียนพื้นภูมิจะล้มเหลว ยิ่งไปกว่านั้นคือเกือบจะระเบิดไปทั้งท้องฟ้า
สำหรับการจ้องมองอย่างโกรธแค้นของจ้าวฮ่าว เยี่ยนจ้าวเกอเห็นแต่ทำเป็นไม่เห็น เขาเอาแต่ตรวจสอบแก่นแร่ด้วยใบหน้าสงสัย “การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้อยู่เหนือความคาดหมายจริงๆ เรื่องต่อไปนี้อาจยากจะจัดการอยู่บ้างแล้ว”
สีหน้าผู้อาวุโสเสวียนสือขื่นขม ซานสือเวิงก็ขมวดคิ้วแน่นเช่นเดียวกัน
สายตาของพวกเขาทั้งสองและผู้อาวุโสจั่ว ต่างก็มองสลับไปมาระหว่างเยี่ยนจ้าวเกอกับจ้าวฮ่าวด้วยความสงสัยอยู่บ้าง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของวิธีหยุดการไหลเวียนพื้นภูมิเมื่อครู่ ทำให้ตัวของสายแร่และการไหลเวียนของพลังชีวิตภายในสภาพแวดล้อมโดยรอบเกิดการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น
ถึงแม้ว่ายอดฝีมือหลายคนจะมีปฏิกิริยาที่รวดเร็วพอ ร่วมมือกันยับยั้งการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ถึงกระนั้นรายละเอียดทั้งหมดก่อนหน้านี้ก็ล้วนถูกกำจัดไปหมดแล้วเช่นกัน ยากจะแยกแยะว่าเหตุใดจึงทำให้เกิดผลเช่นตอนนี้ได้
พวกเขาสงสัยอยู่รางๆ ว่าเป็นไปได้ที่เยี่ยนจ้าวเกอจะเล่นตุกติก แต่กลับไม่มีหลักฐานยืนยัน
สิ่งเป็นที่เป็นจุดสำคัญที่สุดก็คือ การฟื้นฟูสายแร่ศิลาวิญญาณลึกล้ำในตอนนี้ เมื่อเทียบกับจ้าวฮ่าวที่ได้อับจนหนทางไปแล้ว ก็ยังคงต้องพิจารณาเยี่ยนจ้าวเกอ
ท้ายที่สุดยังต้องมุ่งหวังกับผู้ด้อยอาวุโสแห่งเขากว่างเฉิงคนนี้อยู่ดี นี่ทำให้ซานสือเวิงและคนอื่นๆ ต่างก็รู้สึกอยากถอนหายใจอยู่พักหนึ่ง
ซานสือเวิงกระแอมเสียงแห้ง “เมื่อครู่บอกว่ายังมีอีกวิธีที่สามารถฟื้นฟูสายแร่ได้เก้าส่วนใช่หรือไม่”
ภายในของเขาไร้พรมแดน เขาจัดอยู่ในฝ่ายที่มีไมตรีต่อเขากว่างเฉิง เมื่อครู่ก็ไม่ได้ปริปากถากถางเหน็บแนมเยี่ยนจ้าวเกอแต่อย่างใด ตอนนี้เองในที่สุดก็ยังสามารถคลี่คลายบรรยากาศลงได้บ้าง
ส่วนผู้อาวุโสจั่วและผู้อาวุโสเสวียนสือต่างก็อับอายจนนิ่งเงียบไปไม่ส่งเสียงใดๆ
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินเช่นนั้น ก็ยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าวตอบว่า “จริงๆ แล้วก็ยังมีอีกวิธีหนึ่งขอรับ เพียงแต่ว่านั่นเป็นการพุ่งเป้าหมายไปยังสถานการณ์ของสายแร่ก่อนหน้านี้ ตอนนี้คงยังไม่เหมาะที่จะใช้นัก ข้าจำเป็นต้องสำรวจอีกครั้งหนึ่ง”
ซานสือเวิงยิ้มขื่นและผงกศีรษะ “สุขุม รอบคอบ มีประสบการณ์ เยี่ยนตี๋มีบุตรเช่นนี้คงปลื้มอกปลื้มใจอย่างมาก”
พอได้ยินซานสือเวิงกล่าวชมเยี่ยนจ้าวเกอดังนั้น บรรดาศิษย์เขาไร้พรมแดนกลุ่มหนึ่งจึงเกือบจะกระอักเลือด อยากจะโต้แย้งก็ทำไม่ได้
สีหน้าของจ้าวฮ่าวซีดขาว ยืนแน่นิ่งอยู่กับที่ เขาจะฟังไม่ออกได้อย่างไร ว่าขณะที่ซานสือเวิงชื่นชมเยี่ยนจ้าวเกอ ก็กำลังเสียดสีเขาอยู่ในที!
ความสามารถไม่พอ กลับยังเลินเล่อบุ่มบ่ามทำไปก่อน!
ยังไม่ทันอ้าปากพูด จ้าวฮ่าวก็รู้สึกว่าสายตาของคนอื่นๆ ที่มองมายังตนในตอนนี้ ล้วนกำลังประณามตนอย่างชัดเจนทั้งสิ้น
ก่อนหน้านี้ยังเป็นอัจฉริยบุคคลที่มาปรากฏบนโลก ชั่วขณะหนึ่งกลับตกลงมาจากฟ้าลงมาจนถึงจุดต่ำสุด
เขาต้องการตั้งมั่นอยู่ที่เขาไร้พรมแดน จึงแสดงความสามารถที่ยอดเยี่ยมกว่าศิษย์เขาไร้พรมแดนรุ่นเยาว์คนไหนๆ เรียกได้ว่าเป็นการก้าวขึ้นที่สูงเป็นประวัติการณ์ รวดเดียวก็แตะอากาศ!
ทว่าไม่สามารถขึ้นสูงได้ทั้งตัว กลับตกลงไปในโคลนตมทั้งตัวแทน
แม้ว่าผู้อาวุโสเสวียนสือจะหยุดการเปลี่ยนแปลงของสายแร่ได้ทันกาล ไม่ได้สร้างความเสียหายที่ไม่สามารถฟื้นกลับคืนมาได้จริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็สามารถรับรู้ได้ล่วงหน้า ว่าชีวิตความเป็นอยู่ที่เขาไร้พรมแดนของจ้าวฮ่าวในภายภาคหน้าอาจจะลำบากมากขึ้น
ในฐานะที่ผู้อาวุโสจั่วเป็นผู้แนะนำจ้าวฮ่าว ก็ได้ยินคำพูดของซานสือเวิงกับหูของตนเองเช่นเดียวกัน แต่รู้สึกเพียงความเจ็บปวดร้อนวูบบนใบหน้าเท่านั้น
เยี่ยนจ้าวเกอตรวจสอบแก่นสายแร่อย่างถี่ถ้วน ข้างหูก็มีเสียงของเฟิงอวิ๋นเซิงทอดส่งมา ‘อยู่ในแผนการของท่านทั้งหมดเลยหรือนี่’
“ตอนที่ได้ยินว่าวิธีของจ้าวฮ่าวสามารถทำให้สายแร่ฟื้นฟูคืนได้เจ็ดส่วน ข้าถึงได้มีแผนอยู่ในใจ” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว “วิธีที่สามารถทำให้สายแร่ฟื้นฟูได้เจ็ดส่วนนั้น คือวิธีหยุดการไหลเวียนพื้นภูมิ อันที่จริงวิธีเจาะสำรวจสามารถฟื้นฟูได้ถึงร้อยละแปดสิบ ข้าจงใจกดประสิทธิผลเอาไว้อยู่บ้าง แต่ทั้งสองวิธีไม่ว่าจำวิธีไหนก่อนหรือหลัง ก็ล้วนจะเกิดการขัดกันอย่างรุนแรง ข้าต้องขอบคุณจ้าวฮ่าว ไม่อย่างนั้นข้าคงยังไม่สะดวกที่จะให้เขาไร้พรมแดนรับวิธีการที่ทำให้เกิดชีวิตขึ้นใหม่อีกวิธีหนึ่ง”
เฟิงอวิ๋นเซิงได้ยินดังนั้นก็เอ่ยถามว่า “เช่นนั้นหากจ้าวฮ่าวลงมือก่อนเล่า คนที่ทำลายสายแร่จะไม่กลายเป็นท่านหรือ”
“เช่นนั้นข้าก็คงไม่ยึดตามแผนเดิมอย่างโง่เขลาแน่นอน เปลี่ยนแผนใหม่โดยฉับพลัน แม้ว่าอาจจะยุ่งยากอยู่บ้างก็ตาม” เยี่ยนจ้าวเกอยักไหล่ “แต่อุปนิสัยชอบกำหนดโชคชะตา ศิษย์น้องจ้าวผู้นี้ไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ”
เยี่ยนจ้าวเกอแสร้งทำเป็นสำรวจแก่นแร่อย่างละเอียดรอบหนึ่ง หลังจากหลับตาครุ่นคิดพักหนึ่งแล้ว เขาถึงมองไปยังซานสือเวิง กล่าวว่า “วิธีที่สองของข้ายังคงใช้งานได้ เพียงแต่วิธีนี้มีปัญหาอยู่บ้าง สำนักของท่านอาจจะยอมรับได้ไม่ง่ายนักขอรับ”
เสียงของเขาชะงักไปเล็กน้อย “เห็นๆ ว่าประสิทธิผลดีกว่า แต่ที่ก่อนหน้านี้ข้าไม่ใช้ เหตุผลก็อยู่ตรงนี้เอง”
ซานสือเวิงเอ่ยถาม “ตอนนี้เหลือเพียงแค่วิธีนี้แล้ว ถูกหรือไม่”
เยี่ยนจ้าวเกอผงกศีรษะ “อย่างน้อยที่สุดนอกจากวิธีนี้แล้ว ชั่วขณะนี้ข้าก็ไม่มีวิธีอื่นอีก”
หลังจากซานสือเวิงมองจ้าวฮ่าวที่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จาอยู่แวบหนึ่งแล้ว เขาก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดว่า “ขอเพียงกล่าวมา!”
พื้นที่ที่อยู่นอกภูผาพิภพ หากมีสายแร่ศิลาวิญญาณลึกล้ำขนาดใหญ่แห่งใหม่ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน ไม่ว่าอย่างไรเขาไร้พรมแดนก็ต้องได้รับ ถ้าสถานการณ์บีบบังคับ ก็ถึงขั้นไม่คำนึงว่าจะต้องเปิดฉากสงครามกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งอื่น!
สำหรับความต้องการสายแร่ศิลาวิญญาณลึกล้ำของเขาไร้พรมแดนในตอนนี้นั้น มากถึงขั้นรีบร้อนเป็นอย่างยิ่งแล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวตอบ “วิธีที่ข้าพูดถึง ก็คือการใช้วิชากำเนิดสายฟ้า”
“วิชากำเนิด…สายฟ้า” พอได้ยินชื่อนี้ ภายในใจของซานสือเวิง ผู้อาวุโสจั่ว ผู้อาวุโสเสวียนสือ และยอดฝีมือคนอื่นๆ ต่างก็ตื่นเต้นขึเนมาโดยไม่มีสาเหตุ มีลางสังหรณ์อยู่รางๆ
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวต่อว่า “วิธีนี้จำเป็นต้องอาศัยสิ่งของที่เหมือนกัน”
เขาปรบมือเบาๆ ครั้งหนึ่ง ข้างกายก็มีอาหู่เดินมาด้านหน้า มือทั้งสองของชายร่างใหญ่ประคองกล่องผ้าไหมกล่องหนึ่ง เมื่อเปิดกล่องผ้าไหมออก ภายในมีหินหยกสีม่วงอมฟ้าปรากฏก้อนหนึ่ง
ภายในหินหยกส่องแสงสายฟ้าแลบสีน้ำเงินเข้มวับวาบ ทั้งยังมีแสงฟ้าร้องโครมครามดังออกมา คล้ายกับส่องแสงสะท้อนเงาคนคนหนึ่ง
“หยกหิ่งห้อยสายฟ้า!”
เมื่อพบเห็นของสิ่งนี้ สีหน้าของซานสือเวิงและคนอื่นๆ ต่างก็หมองคล้ำลง
ขณะนี้ผู้อาวุโสจั่วก็ไม่สนใจหน้าตาและศักดิ์ศรีแล้ว เงยหน้ามองเยี่ยนจ้าวเกอตาโต “วิธีของเจ้าจำเป็นต้องใช้ของสิ่งนี้ด้วยรึ”
หยกหิ่งห้อยสายฟ้า ของล้ำค่าอย่างยิ่งที่ผลิตที่อัสนีพิภพแห่งเดียวเท่านั้น หาได้ยากยิ่งจนไม่มีสิ่งใดจะเทียบเทียมได้ มีคุณประโยชน์อย่างใหญ่หลวงต่อตำหนักอัสนี!
ฐานะตำแหน่งในสายตาของจอมยุทธ์ตำหนักอัสนี สูงกว่าฐานะตำแหน่งของศิลาวิญญาณลึกล้ำแห่งเขาไร้พรมแดน ไม่มีทางต่ำกว่า
เนื่องด้วยมีน้อยมาก จึงตกอยู่ในสภาวะขาดแคลนอย่างยิ่งยวด ไม่พอต่อความต้องการอย่างสิ้นเชิง
หายากจนถึงขั้นที่ต่อให้เขาไร้พรมแดนต้องการจะค้าขายกับตำหนักอัสนี ตำหนักอัสนีล้วนปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
ถ้าหากสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์พยายามจะเอาของสิ่งนี้ บีบบังคับให้ตำหนักอัสนีผนึกรวมเข้ากับเขาไร้พรมแดนเป็นพันธมิตรกัน กลับจะเป็นการยั่วยุตำหนักอัสนีก่อนด้วยซ้ำไป
ทรัพยากรอื่นๆ ของโลกแปดพิภพ ในความคิดของตำหนักอัสนีล้วนไม่เทียบเท่าหยกหิ่งห้อยสายฟ้า
ผู้ทรงอำนาจแห่งเขาไร้พรมแดนหลายคนมองมาราวกับจะกินคนอย่างไรอย่างนั้น แต่เยี่ยนจ้าวเกอกลับกล่าวอย่างไม่ยี่หระว่า “ดังนั้น ในตอนแรกข้าถึงไม่คิดจะเสนอวิธีนี้ สำนักข้ามาที่นี่ก็เพื่อช่วยเหลือสำนักท่าน สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสำนักของท่านและข้า แม้จะหวังให้สำนักท่านและเขากว่างเฉิงเป็นพันธมิตรกัน ร่วมกันต่อต้านสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์และตำหนักอัสนี แต่ด้วยเรื่องที่เจตนาสร้างความบาดหมาง เป็นเหตุให้ไม่มีกะจิตกะใจจะทำ”
ในประกายตาของเยี่ยนจ้าวเกอเต็มไปด้วยความสัตย์ซื่อ
………….