ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 651 คิดเล่นงานท่านแล้วอย่างไร?
เยี่ยนจ้าวเกอมองของวิเศษที่คล้ายกับเกราะหัวใจบนอกของคังจิ่นหยวน อดเลิกคิ้วเล็กน้อยไม่ได้ ‘อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลาง? มิน่าถึงได้มีความมั่นใจขนาดนี้’
สิ่งที่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกเหนือความคาดหมายก็คือ ด้วยระดับพลังฝึกปรือของคังจิ่นหยวน น่าจะยังใช้พลังทั้งหมดของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางไม่ได้
ทว่าในตอนนี้เกราะหัวใจกลับเปล่งแสงออกมา กลายเป็นเกราะอ่อน คลุมร่างของคังจิ่นหยวนไว้
พลังป้องกันที่แข็งแกร่งสุดขีดซึ่งไหลออกมาจากด้านใน ถึงกับแสดงพลังของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางชิ้นนี้ออกมาได้อย่างหมดจด
ภายใต้การคุ้มครองจากของวิเศษชิ้นนี้ คังจิ่นหยวนฉวยโอกาสข้ามผ่านรัศมีป้องกันของหอกขนอีกาสังหาร หมายจะฉกฉวยโอกาสที่เยี่ยนจ้าวเกอชักอาวุธขนาดยาวกลับไม่สะดวก เข้าประชิดตัว เข่นฆ่าเยี่ยนจ้าวเกอ
ถึงก่อนหน้านี้จะเคยเห็นเยี่ยนจ้าวเกอประมือกับหนงอวี่ซวนมาก่อน รู้ว่ามหาปรมาจารย์ทั่วไปไม่อาจเปรียบเทียบพลังกับชายหนุ่มได้
กระนั้นคังจิ่นหยวนยังคงเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยม เพราะหลังจากการต่อสู้ในครั้งนั้น เขาได้เกราะฟ้าดินอันล้ำค่าที่มารดาของตนมอบให้มาคุ้มกันตัวเองแล้ว
ประกายกระบี่ที่เหมือนกับกระแสน้ำเร็วจนน่าเหลือเชื่อ พริบตาเดียวก็มาถึงทรวงอกของเยี่ยนจ้าวเกอ
ภายใต้ผลกระทบของประกายกระบี่ เวลาในบริเวณที่เยี่ยนจ้าวเกออยู่เหมือนกับหยุดนิ่ง มีแต่กระบี่วารีเคลื่อนในฝ่ามือของคังจิ่นหยวนเท่านั้นที่เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
เยี่ยนจ้าวเกอแม้จะประหลาดใจที่คังจิ่นหยวนใช้พลังทั้งหมดของเกราะฟ้าดินได้ แต่ก็ไม่ได้ร้อนรน
เขาที่เผชิญกับกระบี่วารีเคลื่อนที่คังจิ่นหยวนแทงมา ปล่อยหอกขนอีกาสังหารในมือซ้าย
กระบองไม้ไผ่สีเขียวเข้มโผล่ขึ้นในมือ จากนั้นก็ฟาดลง
เสียงเปรี้ยงดังขั้น ประกายกระบี่ที่เหมือนกับกระแสน้ำพลันสั่นไหวกลางอากาศ
การไหลของเวลาในบริเวณนั้นกลับคืนสู่สภาพเดิม
คังจิ่นหยวนสายตากลายเป็นเคร่งขรึม “ตอนนั้นไม่ได้ตาฝาดไป ไม้ไผ่แท่งนี้แปลกประหลาดจริงๆ”
วินาทีถัดมา เขาแค่นเสียงขึ้น “เจ้ามีของวิเศษกับตัวไม่น้อย ทว่าตอนนี้ทิ้งทั้งหมดไว้ให้ข้าเถอะ”
ขณะที่พูด คังจิ่นหยวนเก็บกระบี่วารีเคลื่อน ตนใช้นิ้วต่างกระบี่ ใช้วิชากระบี่กาลเคลื่อนคล้อยโจมตีใส่เยี่ยนจ้าวเกอ
ไม่มีกระบี่วารีเคลื่อนอยู่ในมือ การโจมตีของเขาจึงไร้ความคมกล้าเช่นก่อนหน้า
ทว่าในตอนนี้ เขาโจมตีโดยไม่ป้องกัน ใช้พลังทั้งหมดเพื่อจู่โจม มอบการบป้องกันให้เกราะฟ้าดินจัดการทั้งหมด
‘คนผู้นี้สามารถใช้พลังของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางได้โดยสมบูรณ์ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ กระบองไม้ไผ่ต้องมีหกปล้องถึงจะทำลายเกราะของเขาได้’ เยี่ยนจ้าวเกอเก็บกระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้า
แต่ว่าการโจมตีของเขาไม่ได้หยุดลงแม้แต่น้อย มือขวาขวางหอกขนอีกาสังหาร ป้องกันประกายกระบี่ของอีกฝ่าย ส่วนมือซ้ายฟาดฝ่ามือเข้าใส่ศีรษะของคังจิ่นหยวน
คังจิ่นหยวนตอนแรกไม่สนใจ อาศัยเกราะฟ้าดิน ไม่กริ่งเกรงอะไรทั้งสิ้น
ของวิเศษคุ้มกันหยุดฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอแทนที่เขา ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บ
ทว่าพลังอันคุ้มคลั่งนั้น กระแทกคังจิ่นหยวนที่รับมือไม่ทันให้พุ่งลงด้านล่าง หล่นลงไปในมหาสมุทร
เขาหยุดการเคลื่อนไหวไม่ได้ ทะลุน้ำทะเลมหาศาล กระแทกกับก้นทะเล
‘วรยุทธ์อะไรกัน?’ คังจิ่นหยวนที่โดนวิชารอยตราพลิกนภาของเยี่ยนจ้าวเกอ แม้ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็รู้สึกสับสน
เยี่ยนจ้าวเกอใบหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ‘อืม เป็นพลังป้องกันของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางของจริง’
คังจิ่นหยวนได้สติ คำรามอย่างเดือดดาล พุ่งออกจากผิวทะเล โจมตีใส่เยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง
ประกายกระบี่ของเขาแผ่ออกมา เหมือนกับกระแสเวลาไร้สิ้นสุด
เยี่ยนจ้าวเกอรับมือทีละกระบวนท่า ถึงแม้คังจิ่นหยวนจะจู่โจมด้วยพลังทั้งหมด แต่ถึงอย่างไรก็มีอาการบาดเจ็บ ไม่อาจใช้กระบี่วารีเคลื่อนที่เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ได้เต็มที่ เยี่ยนจ้าวเกอมีที่มีเกราะเหมันต์ทระนงกับหอกขนอีกาสังหารคอยเสริมพลัง จึงไร้แรงกดดันใดให้บรรยาย
ปัญหาเพียงอย่างเดียวก็คือ เกราะฟ้าดินของอีกฝ่ายจัดการยากยิ่ง
มีของวิเศษชิ้นนี้อยู่ด้วย คังจิ่นหยวนก็มีสถานะไม่แพ้ อย่างน้อยก็เพียงแค่เสมอ
คังจิ่นหยวนมองเยี่ยนจ้าวเกอพร้อมยิ้มอย่างดุร้าย “ข้าจะใช้กี่กระบวนท่าเล่นงานเจ้าก็ได้ ไหนเจ้าลองใช้กระบวนท่าหนึ่งเล่นงานข้าให้ดูหน่อย”
“การกัดกร่อนของเจตจำนงเจ้าไม่กลัว ขอดูหน่อยเถอะว่าหากถูกกระบี่แทงเข้า เจ้าจะยังไร้รอยขีดข่วนหรือไม่?”
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะ ก่อนจะวูบไหวร่างหลบกระบี่ของคังจิ่นหยวน จากนั้นก็ไปอยู่ด้านหลังอีกฝ่าย ใช้ฝ่ามือรอยตราพลิกนภาอีกครั้ง
ถึงจะมีเกราะฟ้าดินคอยปกปักษ์ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่การถูกรอยตราพลิกนภากระแทกตีลังกาตกไปในทะเล มันก็ช่างเสื่อมเสียเกียรติจริงๆ
คังจิ่นหยวนครั้งนี้ไม่ฝืนป้องกัน ร่างกายรวมกับกระบี่ กลายเป็นลำแสง ฉากหลบออกข้าง
เสียงมังกรคำรามดังขึ้น วังฝูงมังกรโผล่ขึ้นด้านบนทิศทางที่เขาหลบหลี
ประตูอ้าออกส่งแรงดึงดูดมหาศาลออกมา การหลบของคังจิ่นหยวนกำลังจะส่งตัวเขาพุ่งเข้าไปในตัววัง
เขาแค่นเสียงคำหนึ่ง กระบี่วารีเคลื่อนโผล่ขึ้นในมือ ฟันออกกระบี่หนึ่ง ประกายกระบี่เล็งที่วังฝูงมังกร จากนั้นตัวเขาก็หลบไปด้านข้าง
เพิ่งจะโจมตีวังฝูงมังกรให้ถอยไปได้ไม่ทันไร ในขณะที่เผชิญกับเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง เขาก็เก็บกระบี่วารีเคลื่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกกระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้าฟาดอีก
เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ครั้งนี้รู้จักฉลาดแล้ว”
คังจิ่นหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชา “เจ้านึกว่าข้าไม่รู้หรือว่าเจ้ามีแผนอะไร? เจ้ากำลังกลัวว่าคนอื่นในราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องจะตามมาล้อมเจ้าใช่หรือไม่?
“เมื่อมีเกราะฟ้าดินอยู่กับตัว ตัวข้าก็มีสถานะไม่แพ้ ฝ่ายเจ้าจะต้องเหนื่อยจนตาย
“ถึงแม้เจ้าจะมีพลังโดดเด่น แต่สุดท้ายก็เป็นแค่จอมยุทธ์มหาปรมาจารย์ การระเบิดของพลังที่รุนแรงเช่นนี้ เจ้าจะทนได้สักกี่น้ำ? จะสู้ความอดทนกับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์อย่างข้าได้หรือ?
“ต่อให้เจ้าอยากหนีข้าก็จะไม่ให้เจ้าสมหวัง แต่เจ้ากลับโอหังคิดจะเล่นงานข้าไปด้วยหรือ?”
คังจิ่นหยวนแทงกระบี่มา “เด็กน้อยไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง วันนี้หากปล่อยให้เจ้าหนีไปได้ ข้าจะเขียนชื่อข้ากลับด้าน!”
เยี่ยนจ้าวเกอส่ายหน้าพร้อมกับยิ้ม “จุ๊ๆ ท่านรู้ว่าข้าวางแผนไว้แล้วมีประโยชน์หรือ?”
คังจิ่นหยวนชะงักเล็กน้อย รู้สึกว่ามีกลิ่นอายที่ทรงพลังถึงขีดสุดสายหนึ่ง กำลังเข้าใกล้น่านน้ำผืนนี้ด้วยความเร็วสูง
ไม่ทันไร ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอก็ปรากฏตัวขึ้นที่เส้นขอบฟ้า ร่างกลายเป็นลำแสง มาถึงเบื้องหน้าคนทั้งสองในชั่วพริบตา!
คังจิ่นหยวนจิตใจสั่นสะท้านเล็กน้อย ‘เร็วกว่าคนของราชวงศ์ต้าเสวีนยนอ๋องอีก? ซุ่มอยู่ใกล้ๆ มาตั้งแต่ต้นแล้วนี่เอง เด็กน้อยนี่มีแผน!’
ถึงจะเข้าใจ แต่ว่าสายไปเสียแล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกโจมตีขนาบคังจิ่นหยวนซ้ายขวา
หอกมังกรมัจฉา เกราะเหมันต์ทระนง หอกขนอีกาสังหาร อาวุธศักดิ์สิทธิ์สามชิ้นแสดงพลังพร้อมกัน
การโต้ตอบของคังจิ่นหยวนถูกแก้ไข ได้แต่พึ่งพาเกราะฟ้าดินคุ้มครองตัวเอง
ทว่าพลังอันมหาศาลทำให้เขาไม่อาจต้านทาน ถูกกระแทกเข้าไปในวังฝูงมังกร
ประตูวังฝูงมังกรปิดลงอย่างสะเทือนเลือนลั่น พุ่งไปในท้องทะเล
มังกรดำสู่ทะเล หายไปในพริบตา
ปราณมังกรหลายสายในวังกลายเป็นมังกรแสงหลายตัว พันธนาการคังจิ่นหยวนพร้อมกับเกราะฟ้าดินเอาไว้
คังจิ่นหยวนขัดขืนดิ้นรน ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก แม้แต่อาวุธศักดิ์สิทธิ์สามชิ้นสะกดเขาไว้พร้อมกัน ทำให้ผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิงขยับเขยื้อนไม่ได้
“คิดเล่นงานท่านแล้วอย่างไร?” เยี่ยนจ้าวเกอถามด้วยรอยยิ้มกว้าง
คังจิ่นหยวนโกรธจนแทบกระอักเลือด “เจ้าจะจับข้าได้นานสักเท่าไร! มีเกราะฟ้าดินอยู่ด้วย เจ้าได้แต่ผนึกเพียงอย่างเดียว ทำอะไรข้าไม่ได้แม้แต่ปลายขน!”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “ถึงแม้จะไม่รู้ว่าท่านใช้พลังอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางอย่างสมบูรณ์ได้อย่างไร แต่ว่าพลังป้องกันไม่ธรรมดาจริงๆ
“นอกจากนี้ ถ้าหากข้าไม่ได้มองผิด อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนี้ความจริงไม่ใช่ของของท่าน เจ้าของเดิมมีวิธีรับรู้ถึงตำแหน่งของมัน มีวิธีตามหาพวกเรากระมัง?”
คังจิ่นหยวนเอ่ยด้วยรอยยิ้มเย็นชา “ข้าเคยบอกแล้วว่าเจ้าตายแน่!”
“เหอะ…” เยี่ยนจ้าวเกอมองเขาอย่างสงบนิ่ง “ไม่ต้องรีบ เพราะข้าจะพาท่านไปที่ดีๆ”
คังจิ่นหยวนหลุดหัวเราะ “หอกระบี่ทะเลเหนือที่เกาะโม๋หลู? อย่าฝัน ที่นั่นถูกล้อมไว้อย่างแน่นหนาแล้ว”
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะ “ไม่ได้ไกลขนาดนั้น พวกท่านเตรียมของดีไว้ที่ทะเลเหนือ แค่ตรงเกาะเฉวียนหลิงที่อยู่ด้านใต้พวกเราก็พอ”
สีหน้าของคังจิ่นหยวนพลันเปลี่ยนเปลง