ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ - ตอนที่ 1144 ต้นตอหายนะจากประตูสวรรค์
บึ๊ม!
น้ำในมหาสมุทรรอบด้านปั่นป่วนอย่างรุนแรง ผิวทะเลทั้งผืนเอียงเทลงมาทับเผ่าหนอนผีเสื้อหนวดสีขาวสลับดำ
เผ่าหนอนผีเสื้อหนวดสีขาวสลับดำสีหน้าย่ำแย่ยิ่งนัก แม้เป็นเพียงคำพูดกระท่อนกระแท่น แต่มันก็เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันคร่าวๆ แล้ว
กล่าวได้ว่าเผ่าหนอนผีเสื้อสูญเสียสถานการณ์ได้เปรียบไปแล้ว แต่มันย่อมไม่มีทางนิ่งเฉยรอความตาย มันคำรามลากยาว หนวดสองเส้นบนหัวตั้งตรง จากนั้นแสงสีดำสองสายพลันพุ่งขึ้นสู่ฟากฟ้า
ทว่าอึดใจต่อมา บึ๊ม!
น้ำทะเลที่โถมสูงบดบังท้องฟ้าซัดมาจากสี่ด้านแปดทิศ กลบบุรุษเผ่าหนอนผีเสื้อหนวดสีขาวสลับดำรวมถึงจินเทียนชื่อกับผู้เฒ่าชุดเทาทั้งหมดเข้าไปด้านใน
……
ลึกเข้าไปในถ้ำที่แสงมืดสลัวแห่งหนึ่ง แม่น้ำใต้ดินที่ไหลจากตะวันตกไปยังตะวันออกตัดผ่านถ้ำ ณ จุดหนึ่งเหนือสายน้ำที่ไหลแรงเชี่ยวกราก เงาสองสายเร่งรีบไล่ตามหลังกันผ่านไป
พวกเขาก็คือหลิ่วหมิงกับเผ่าหนอนผีเสื้อระดับดาราพยากรณ์เปลือกสีเลือดตัวนั้นเอง
หลังจากผนึกทางเชื่อมมิติที่เขาแสงอัสดงแล้ว ภารกิจที่เทียนเกอเจินเหรินมอบหมายก็เสร็จสิ้น เดิมเขาไม่คิดต่อสู้เอาเป็นเอาตายกับเผ่าหนอนผีเสื้อระดับดาราพยากรณ์ตัวนั้นด้านหลัง แต่เผ่าหนอนผีเสื้อเปลือกสีเลือดตัวนั้นเหมือนจะเคียดแค้นหลิ่วหมิงจึงไล่ตามติดไม่เลิกรา ไม่ว่าอย่างไรก็สลัดไม่หลุด
ยันต์เร้นสวรรค์สิ้นเงาเป็นยันต์ที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว ยามนี้จึงหมดฤทธิ์ไปนานแล้ว ไม่อาจช่วยเหลืออันใดหลิ่วหมิงได้อีก
“รนหาที่ตาย!”
หลิ่วหมิงหันกลับมามองเงาสีเลือดด้านหลัง จิตสังหารโหดเหี้ยมปรากฏลึกลงไปในดวงตา
ในเมื่อตะขาบเปลือกสีเลือดตัวนี้ไล่ตามไม่ลดละ เขาก็ไม่ถือสาหากจะฝังร่างอีกฝ่ายเสียที่นี่
เผ่าหนอนผีเสื้อระดับดาราพยากรณ์เปลือกสีเลือดคำรามแผ่วเบาคำหนึ่ง แสงสีเลือดบนร่างพลันสว่างจ้า แสงสีเลือดรอบตัวก่อตัวเป็นร่างแมลงซึ่งเป็นร่างจริง เป็นตะขาบดุร้ายเปลือกสีดำแดงตัวหนึ่ง แต่มีขาคู่หน้าเหมือนเคียวขนาดยักษ์สองข้างงอกออกมาแลดูแปลกประหลาด ด้านหลังมีหางกระดูกเส้นหนึ่งลากยาวเฟื้อย
ความเร็วของมันเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายลดลงอย่างรวดเร็ว
“เจ้าหนู ข้าจะฆ่าเจ้า…”
ตะขาบเปลือกสีเลือดเผยสีหน้าดุร้ายแล้วอ้าปากกว้าง ของเหลวสีเขียวที่แผ่กลิ่นเหม็นเน่าเจ็ดแปดก้อนพุ่งระรัวเข้าใส่หลิ่วหมิงอย่างมืดฟ้ามัวดิน
หลิ่วหมิงเปลี่ยนสีหน้าไปเล็กน้อย ร่างกายเปล่งแสงสีเงินสว่างจ้า ปีกเนื้อสีเงินสองข้างงอกออกมาจากบนแผ่นหลัง ความเร็วเพิ่มขึ้นไม่น้อยเช่นกัน ร่างกายขยับวูบเดียวหลบพ้นของเหลวสีเขียวอย่างฉิวเฉียด
ฉ่า!
ของเหลวสีเขียวร่วงใส่ผนังถ้ำละลายเกิดรูหลายแห่งขึ้นในพริบตา ควันสีเทาลอยขึ้นมาพร้อมกลิ่นเหม็นคาวชวนสะอิดสะเอียน
แม้หลิ่วหมิงใช้เคล็ดวิชาเกราะอสูรเพิ่มความเร็ว แต่ในสภาพแวดล้อมใต้ดินที่มีสิ่งกีดขวางมากมายเช่นนี้ เห็นชัดว่าเอื้อประโยชน์ให้การไล่ล่าของตะขาบเปลือกสีเลือดมากกว่า
เมื่อเห็นอีกฝ่ายไล่กวดใกล้เข้ามาทุกที หลิ่วหมิงพลันขมวดคิ้ว ร่างกายที่เหาะอยู่ลดระดับลงก่อนจะบินเลียดสายน้ำมุ่งไปด้านหน้า
ตะขาบเปลือกสีเลือดเห็นพิษสีเขียวที่พ่นออกมาทำร้ายหลิ่วหมิงไม่ได้แม้แต่น้อย เพลิงโทสะพลันลุกโชน พ่นของเหลวสีเขียวหลายก้อนออกมาอีกครั้ง
ปีกเนื้อบนแผ่นหลังของหลิ่วหมิงกระพือติดกันหลายหน ร่างกายขยับวูบ เหาะเลี้ยวเจ็ดแปดตลบหลบพ้นมาได้
ก้อนของเหลวสีเขียวพลาดเป้าร่วงหล่นลงไปในสายน้ำ ทันใดนั้นผิวน้ำพลันส่งเสียงดังปุดๆ น้ำในแม่น้ำเสมือนหนึ่งน้ำเดือด ฟองอากาศลอยผุดพรายอยู่พักหนึ่ง
หลิ่วหมิงครุ่นคิดเร็วไว ขณะมองสำรวจสภาพแวดล้อมรอบด้านไม่หยุด
ในตอนนี้เองสายน้ำด้านหน้าจู่ๆ ก็หดแคบลง เขาจำได้เลาๆ ว่าที่ตรงนี้คือโค้งขนาดใหญ่ยักษ์แห่งหนึ่งของแม่น้ำใต้ดิน “ฟึบ” เสียงดังขึ้นทันที พร้อมกับที่เขากลายเป็นเงาเลือนรางสีเงินสายหนึ่งมุดเข้าไปใต้ผืนน้ำ
ตะขาบเปลือกสีเลือดไม่ได้ไล่ตามลงไปในแม่น้ำใต้ดินทันที มันกรีดร้องครั้งหนึ่ง จากนั้นขาหน้ามหึมาพลันตวัด คมดาบสายลมสีเลือดขนาดเท่าบานประตูนับไม่ถ้วนพุ่งพรวดร่วงลงในแม่น้ำดุจสายฝน
บึ๊ม!
แม่น้ำใต้ดินฉับพลันเดือดพล่าน คลื่นน้ำลูกยักษ์สาดกระเซ็นระลอกแล้วระลอกเล่า
ตอนนี้เองวังน้ำวนมหึมาสิบกว่าลูกพลันปรากฏในแม่น้ำใต้ดิน
อึดใจต่อมา เสาน้ำมหึมาสิบกว่าต้นฉับพลันพุ่งขึ้นมาจากแม่น้ำใต้ดินประหนึ่งหนวดมหึมาเส้นแล้วเส้นเล่าหวดเข้าใส่ตะขาบเปลือกสีเลือดบนอากาศอย่างแรง
ใต้ดินพื้นที่คับแคบ ตะขาบเปลือกสีเลือดร่างกายใหญ่โตจึงหลบไม่พ้นทั้งหมด ร่างกายมหึมาถูกเสาน้ำโจมตี แม้ไม่บาดเจ็บ แต่ก็สะท้านจนถอยหลังหลายก้าว
ยังไม่ทันที่มันจะตั้งหลักได้ เสียงมังกรกู่ร้องพยัคฆ์คำรามพลันดังขึ้นใต้ผืนน้ำ มังกรสีดำยาวยี่สิบกว่าจั้งหกตัวกับพยัคฆ์สีดำขนาดพอฟัดพอเหวี่ยงกันหกตัวทะลวงขึ้นมาจากแม่น้ำรอบตัวมัน พวกมันพร่าเลือนหายไปก่อนจะโถมเข้าใส่ตะขาบเปลือกสีเลือด
ตะขาบเปลือกสีเลือดโกรธจัด รอบร่างเปล่งแสงสีเลือดสว่างจ้า หางยาวเฟื้อยที่หุ้มด้วยเปลือกสีเลือดสะบัดกลายเป็นเงาเลือนรางเต็มท้องฟ้า หวดเข้าใส่ร่างของมังกรหมอกกับพยัคฆ์หมอกรอบด้านปานสายฟ้าแลบ
มังกรหมอกกับพยัคฆ์หมอกร้องโหยหวนครั้งหนึ่ง ร่างกายก็แตกสลายเสียงดังสนั่นกลายเป็นปราณดำสายแล้วสายเล่า
ทว่าปราณดำเหล่านี้กลับรวมตัวเกาะกลุ่มล้อมตะขาบเปลือกสีเลือดไว้ด้านใน
“คุกมืด”
หลิ่วหมิงขยับวูบเดียวมาปรากฏตัวด้านหลังตะขาบเปลือกสีเลือดประหนึ่งภูตพราย แล้วโบกมือส่งเคล็ดวิชาหลายสายออกไป ไอหมอกสีดำฉับพลันเปล่งแสงสีดำฉายออกมาจากด้านใน
ทันใดนั้นเบื้องหน้าตะขาบเปลือกสีเลือดพลันดับมืด ตกอยู่ในห้วงมิติสีดำสนิทในพริบตา
“มิติวิชามายา…” ตะขาบเปลือกสีเลือดตกตะลึง แต่ไม่นานก็มองเนื้อแท้ของมิติสีดำตรงหน้านี้ออก มันหัวเราะหยัน ขาคู่หน้าตวัด ร่างกายเปล่งแสงสีเลือดสว่างจ้าก่อตัวเป็นคมดาบสีเลือดขนาดยักษ์สายหนึ่งฟาดใส่เบื้องหน้า
มิติสีดำเกิดเสียงดังฉัวะๆ แล้วเริ่มบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง
ในตอนนี้เงาคนสีดำร่างหนึ่งพลันปรากฏตัวเบื้องหน้าคมดาบสีเลือดขนาดยักษ์ หลิ่วหมิงนั่นเอง
“ฮ่า”
หลิ่วหมิงผู้มีปราณสีดำวนเวียนรอบร่างตะโกนออกมาคำหนึ่ง พร้อมกับปล่อยหมัดโจมตี
กลางอากาศเกิดเสียงระเบิดตูมตามดังขึ้นไม่ขาดสาย เงาหมัดสีดำขนาดยักษ์ข้างหนึ่งพุ่งพรวดออกไปปะทะกับคมดาบมหึมาสีเลือด
มิติคุกมืดสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง คมดาบยักษ์สีเลือดแตกสลายพร้อมเสียงดังสนั่น เงาหมัดสีดำกะพริบวูบวาบสองสามครั้งก็สลายพร้อมเสียงดังลั่นตาม
ร่างกายมหึมาของตะขาบเปลือกสีเลือดสัมผัสถึงพลังมหาศาลสายหนึ่งที่โถมเข้ามา มันถูกกระแทกถอยหลังไปหลายก้าว ดวงตาสีเลือดทั้งสองข้างหรี่ลง
ในตอนนี้เองแสงสีน้ำเงินดวงหนึ่งพลันพุ่งออกมาจากห้วงมิติสีดำหลังร่างของตะขาบสีเลือด มันคือสัตว์ประหลาดวัวสีน้ำเงินที่มีร่างกึ่งจริงกึ่งร่างเงาขนาดหลายจั้งตัวหนึ่ง เชอฮ่วนนั่นเอง!
สองตาของเชอฮ่วนเปล่งประกาย ขย้ำหางกระดูกของตะขาบเปลือกสีเลือดปานสายฟ้าแลบ
“จู๋เสิน!”
ตะขาบเปลือกสีเลือดรู้สึกถึงความผิดปกติด้านหลัง เมื่อหันกลับมาเห็นเชอฮ่วนก็หน้าถอดสีในทันใด ร่างกายมหึมาขดเข้าหากัน หางสะบัดหมายจะสลัดสัตว์ประหลาดเชอฮ่วนออกไป
“กร๊อบ” ทันทีที่ปากใหญ่โตของเชอฮ่วนงับลงมาก็กัดหางของตะขาบเปลือกสีเลือดขาดในทันที
“ที่แท้เจ้านี่เอง! เจ้าทำลายเรื่องดีงามของข้าในแดนลึกลับประตูสวรรค์ครานั้น ทำให้ข้าพลังร่วงลงมาช่วงใหญ่!” ตะขาบเปลือกสีเลือดถูกกัดหางขาด ร่างกายมหึมาสั่นระริกเพราะความเจ็บปวดแสนสาหัส ร่างกายขยับวูบหนีห่างจากเชอฮ่วน มันคำรามออกมาเบาๆ ด้วยความเคียดแค้นอย่างที่สุด แล้วโถมเข้าใส่หลิ่วหมิงในทันใด
“เจ้านั่นเอง!”
หลิ่วหมิงได้ยินคำพูดนี้ของตะขาบเกราะสีเลือด ในที่สุดก็นึกออก
ตะขาบยักษ์ตัวนี้ตรงหน้าก็คือแมลงประหลาดเผ่าหนอนผีเสื้อครึ่งคนครึ่งหนอนที่หน้าตาคล้ายตะขาบตัวนั้นที่เขาพบในงานประตูสวรรค์
ครั้งแรกที่เขาเห็นตะขาบตัวนี้ เขาก็รู้สึกว่าลมปราณที่แผ่ออกมาจากตัวมันดูคุ้นเคย ทว่ายามนั้นเขาเห็นสัตว์ร้ายตนนั้นถูกผู้เฒ่าเทียนเหอผู้แข็งแกร่งระดับเชี่ยวชาญมหัศจรรย์แห่งวังสวรรค์สังหารกับตา ดังนั้นก่อนหน้านี้เขาจึงไม่คิดไปในทางนั้น ทว่าไม่รู้อีกฝ่ายใช้กลอุบายพิสดารอันใดจึงหนีรอดจากเงื้อมือของผู้เฒ่าเทียนเหอภายใต้หนังตาของเขาได้ แล้วยังหนีออกจากแดนลึกลับประตูสวรรค์มาได้อีก
แม้ในใจหลิ่วหมิงประหลาดใจอยู่บ้าง แต่การเคลื่อนไหวที่มือไม่ช้าลงแม้แต่น้อย แขนเสื้อยาวสะบัดวูบเดียว มุกกลมสีเหลืองเข้มสิบสองลูกพลันปรากฏขึ้นในคุกมืด จากนั้นสองมือสะบัดต่อเนื่อง ประกายแสงบนผิวมุกทั้งหมดหม่นหมองลงวชั่วครู่ จากนั้นประกายน้ำสีดำก็ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน เสียงแม่น้ำมืดไหลซู่ดังขึ้นเลือนราง
ไอหมอกสีดำกับประกายน้ำสีดำประสานเข้าด้วยกัน เมื่อหลิ่วหมิงชี้นิ้ว มุกบรรพตธาราทั้งสิบสองเม็ดพลันสั่นไหวแล้วกลายร่างเป็นผีร่างยักษ์สีดำทะมึนหน้าตาดุร้ายขวางอยู่เบื้องหน้า
ราชาผีแม่น้ำมืดเหล่านี้เพิ่งปรากฏตัวก็อ้าปากกว้าง ปล่อยประกายน้ำผืนใหญ่ออกมา
ลูกศรวารีสีดำหนาสิบสองลูกยิงออกมาจากปากของราชาผีแม่น้ำมืดทั้งสิบสองตัว ก่อนจะประสานกันกลายเป็นตาข่ายสายน้ำถี่ยิบไขว้กันไปมา พุ่งเข้าใส่แมลงสีเลือด
ตะขาบเปลือกสีเลือดเห็นเช่นนี้ ร่างกายยาวเฟื้อยพลันขยับบิดหลีกหลบไปด้านข้าง
หลิ่วหมิงดวงตาวาวโรจน์ สิบนิ้วดีดรัว เคล็ดวิชาสายแล้วสายเล่าผสานเข้าไปในปราณดำอันปั่นป่วนรอบด้าน
ปราณดำรอบด้านโกลาหลอยู่ชั่วครู่ มิติคุกมืดทั้งหมดก็หดเล็กลงอย่างว่องไว บีบเข้าหาตะขาบเปลือกสีเลือดที่อยู่ตรงกลาง
ตะขาบเปลือกสีเลือดร้องคำราม สายตาแฝงแววหวาดหวั่นกวาดมองรอบด้าน
หมอกสีดำรอบด้านหนาทึบขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่บีบอัดเข้าหาตะขาบเหลือกสีเลือดประหนึ่งมีชีวิต เพียงครู่เดียวความเร็วของแมลงตัวนี้ก็ลดลงมาก เริ่มเคลื่อนไหวเชื่องช้าลง
หลิ่วหมิงท่องมนตร์ มือซ้ายโบกไปด้านหน้า ยันต์สีทองหม่นแผ่นหนึ่งพุ่งเร็วจี๋ออกไป มันก็คือยันต์ลึกลับพลังผ้าเหลืองนั่นเอง มันหมุนติ้วกลางอากาศจากนั้นสั่นไหววูบหนึ่ง แล้วกลายเป็นร่างแยกสวมอาภรณ์สีทองที่หน้าตาเหมือนหลิ่วหมิง
ฟึบ ฟึบ ฟึบ!
หลิ่วหมิง ร่างแยกอาภรณ์ทองกับเชอฮ่วนเหาะออกมาพร้อมกัน พริบตาเดียวล้อมตะขาบเปลือกสีเลือดไว้ตรงกลาง
ราชาผีแม่น้ำมืดสิบสองตนที่สร้างมาจากมุกบรรพตธาราก้าวเดินดังตึงๆ ล้อมเข้ามาเช่นกัน
ตะขาบเปลือกสีเลือดเพิ่งตั้งหลักได้ เมื่อเห็นภาพนี้พลันโกรธจัด ขายักษ์ประหนึ่งเคียวสองแถวยกขึ้นสะบัดจนมองไม่ทัน คมแสงสีเลือดกลายเป็นตาข่ายสีเลือดปกป้องทั้งร่างเอาไว้
มันเพิ่งทำทุกสิ่งนี้เสร็จ หลิ่วหมิงผู้มีปราณสีดำพวยพุ่งอยู่รอบร่างก็พุ่งเข้ามาถึง ร่างกายเกิดเสียงกระดูกลั่นดังติดกันเป็นพรืดแล้วขยายขนาดขึ้นหนึ่งเท่ากว่า สองแขนพร่าเลือนวูบหนึ่ง กระหน่ำเงาหมัดนับไม่ถ้วนพุ่งเร็วจี๋ออกไปพร้อมเสียงดังหวีดหวิวแสบแก้วหู
ร่างแยกอาภรณ์ทองก็เช่นเดียวกัน ร่างกายสั่นไหวกลางอากาศวูบหนึ่ง เงาหมัดข้างแล้วข้างเล่าก็ต่อยเร็วรี่ออกมา
ส่วนเชอฮ่วนอ้าปากพ่นแสงเรืองรองสีน้ำเงินผืนหนึ่งออกมาล้อมตะขาบเปลือกสีเลือด
ราชาผีแม่น้ำมืดสิบสองตนต่างพ่นเสาน้ำสีดำต้นแล้วต้นเล่าเข้าใส่ตะขาบเปลือกสีเลือดเสียงดังสนั่น
เงาหมัด แสงสีน้ำเงิน เสาน้ำประสานรวมกันเป็นผืน มุ่งไปหาตะขาบเปลือกสีเลือดในคราเดียว เสียงกึกก้องดังสนั่น ตาข่ายสีเลือดไม่อาจต้านทานได้แม้แต่น้อย
แววตาหวาดกลัวพาดผ่านดวงตาของตะขาบเปลือกสีเลือด เมื่อมันหลีกหลบไม่พ้น จึงร้องคำรามเบาๆ ครั้งหนึ่ง ร่างกายเปล่งแสงสีเลือดสว่างจ้า พริบตาเดียวก่อตัวเป็นรังไหมสีเลือดรังหนึ่งปกป้องทั้งร่างเอาไว้ด้านใน
บึ๊ม!
ลำแสงนับไม่ถ้วนโจมตีลงบนรังไหมสีเลือด ซัดคลื่นหมอกออกมาเป็นวง หลังจากการโจมตีสองระลอกผ่านไป รังไหมสีเลือดก็หม่นแสงลงในทันที