ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ - ตอนที่ 195 ไอปีศาจบริสุทธิ์พลังอัคคีกับเกราะกลนักรบ
“อะไรนะ! คิดไม่ถึงว่าจะเป็นไอปีศาจบริสุทธิ์ ทั้งยังมีสามชุดด้วย! ข้าตัดสินใจถูกที่เข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้!”
“ไอปีศาจบริสุทธิ์ที่ปรากฏในเสวียนจิงเมื่อครั้งก่อน ก็เป็นเวลาสามปีมาแล้ว ทั้งยังมีแค่ชุดเดียว และเป็นรายการประมูลรั้งท้ายด้วย!”
“ผู้อาวุโสเหมี่ยน ไอปีศาจบริสุทธิ์ทั้งสามชุดนี้เป็นไอปีศาจบริสุทธิ์ชนิดใด?”
ตอนแรกผู้คนในห้องโถงต่างก็รู้สึกตกใจ แต่หลังจากนั้นก็ส่งเสียงฮือฮาออกมา บางคนถึงกับลุกขึ้นยืน และยืดคอจ้องมองไปยังขวดทั้งสามใบนั้น
ถึงแม้ในนี้จะมีผู้ฝึกฝนที่เป็นศิษย์จิตวิญญาณขั้นปลายอยู่น้อยมาก และผู้ที่ฝึกฝนจนถึงระดับขั้นสมบูรณ์แบบยิ่งมีน้อยกว่ามาก แต่มันก็เพียงพอที่จะให้ผู้คนทั้งหมดรู้สึกคลั่งขึ้นมา
สำหรับผู้ฝึกฝนอิสระอย่างพวกเขาแล้ว ถ้ามีไอปีศาจบริสุทธิ์อยู่ในมือหนึ่งชุด ก็สามารถรับรองได้ว่าตนเองมีโอกาสเข้าสู่เขตแดนอาจารย์จิตวิญญาณได้
ส่วนเรื่องที่ว่า พวกเขาสามารถฝึกฝนถึงระดับศิษย์จิตวิญญาณที่สมบูรณ์แบบได้มากน้อยแค่ไหนนั้น ณ เวลานี้ย่อมไม่มีใครคำนึงถึง
ผู้ฝึกฝนระดับศิษย์จิตวิญญาณขั้นปลายที่สมบูรณ์แบบที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องโถง ต่างก็รู้สึกตกใจระคนดีใจเป็นอย่างมาก พวกตัดสินใจคว้าเอาไอปีศาจบริสุทธิ์มาอยู่ในมือให้ได้
ในขณะนั้นเอง ผู้อาวุโสเหมี่ยนก็หยิบขวดเล็กๆ สีแดงบนถาดที่หญิงสาวนางหนึ่งถือไว้ขึ้นมาอย่างระมัดระวัง หลังจากที่สูดลมหายใจลึกๆ เข้าไปแล้ว ก็ปิดจุกขวดออก
เสียงดัง “ฟู่!”
ภายใต้การปล่อยพลังเวทย์ไปยังก้นขวดของผู้อาวุโสเหมี่ยน ทำให้มีแสงสีแดงจางๆ พุ่งออกมาจากขวด มันหมุนวนรอบขวดใบเล็กอยู่ไม่หยุด ราวกับเป็นสิ่งมีชีวิต และแผ่ไอร้อนออกมาเล็กน้อย
“เรื่องผลกระทบไอปีศาจบริสุทธิ์นั้น ข้าจะไม่พูดถึง ไอปีศาจบริสุทธิ์พลังอัคคีทั้งสามนี้ เป็นหนึ่งในไอปีศาจบริสุทธิ์ห้าธาตุหลังจากบ่มเพาะสำเร็จแล้ว ไม่เพียงแต่จะใช้คุ้มกันตัวและโจมตีศัตรูได้เท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มพลังของวิชาประเภทอัคคีได้เล็กน้อย นับว่าเป็นไอปีศาจบริสุทธิ์ชนิดที่มีคนสนใจมากที่สุด ไอปีศาจบริสุทธิ์พลังอัคคีทั้งสามชุดจะถูกแยกกันประมูล เสนอราคาได้ครั้งละไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันหินจิตวิญญาณ ตอนนี้เริ่มประมูลชุดที่หนึ่งได้!” พอผู้อาวุโสกระตุ้นพลังเวทย์อีกครั้ง ก็มีแสงสีขาวเปล่งประกายออกมาดูดแสงสีแดงเข้าไป จากนั้นก็กล่าวอย่างไม่รีบร้อน
หลังจากที่คำพูดนี้เปล่งออกมา ทั่วทั้งห้องโถงก็เงียบลงในทันที ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากเสนอราคาออกมาก่อน
ประจักษ์ชัดว่าผู้คนต่างก็อยากได้ไอปีศาจพลังอัคคี แต่ก็รู้ดีว่าผู้ที่เสนอราคาเป็นคนแรก ไม่มีโอกาสที่จะประมูลไอปีศาจบริสุทธิ์นี้มาได้
หลิ่วหมิงนั่งมองไอปีศาจบริสุทธิ์ทั้งสามชุดอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้องโถง ด้วยใจที่เต้นโครมคราม
ถึงแม้ไอปีศาจบริสุทธิ์พลังอัคคีจะไม่ใช่ของหายากอะไร แต่ปรากฏออกมาพร้อมกันสามชุดเช่นนี้ ถ้าเขาได้มันมาทั้งหมด ก็เพียงพอที่จะใช้ในการทะลวงเขตแดนอาจารย์จิตวิญญาณแล้ว
แต่ไอปีศาจบริสุทธิ์ธาตุไฟนี้ ไม่ค่อยเหมาะกับเคล็ดวิชากระดูกดำที่เขาฝึกมากนัก หลังจากบ่มเพาะจนกลายเป็นปราณแข็งแกร่งแล้ว ก็ไม่ค่อยช่วยเสริมความแข็งแกร่งของพลังได้มาก
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยสถานะของเขาในตอนนี้ อาจจะประมูลไอปีศาจบริสุทธิ์หนึ่งชุดได้ แต่ถ้าคิดจะประมูลมาให้ได้ทั้งสามชุด คงเป็นแต่เรื่องเพ้อฝันเท่านั้น
ถ้าได้มาชุดหนึ่งล่ะก็ มันไม่มีประโยชน์กับเขามากนัก และคำสัญญาของเถ้าแก่เฉียนที่ขายให้เขาครึ่งราคานั้น ใช้ได้กับสิ่งของเพียงชิ้นเดียว
หลิ่วหมิงใจเต้นรัวด้วยความลังเล
ขณะนี้ ได้มีคนเสนอราคาขึ้นมา
“สองหมื่นหินจิตวิญญาณ”
“สองหมื่นหนึ่งพัน”
“สองหมื่นสามพัน”
……
ถึงแม้จะมีคนสนใจไอปีศาจบริสุทธิ์ชุดนี้เป็นจำนวนมาก แต่ส่วนมากก็เป็นแค่ผู้ฝึกฝนอิสระทั่วไป มีหินจิตวิญญาณอยู่ไม่กี่พันก้อน ถึงแม้จะเสนอราคาออกมาอย่างดุเดือด แต่ก็มีผู้ประมูลแค่สิบกว่าคนเท่านั้น
และในบรรดาผู้ที่เสนอราคา ส่วนมากมีอิทธิพลใหญ่หนุนอยู่เบื้องหลัง
“สามหมื่นสองพันหินจิตวิญญาณ! ข้าจะต้องได้ไอปีศาจบริสุทธิ์พลังอัคคีชุดนี้ หวังว่าสหายท่านอื่นๆ คงจะไว้หน้าข้า” น้ำเสียงมุทะลุดุดันเสนอราคาสูงขึ้นมาหลายพัน และเจ้าของเสียงก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับถอดหมวกคลุมออกมา เขาเป็นชายฉกรรจ์หน้าตาโหดเหี้ยม มีรอยแผลเต็มใบหน้า
“ที่แท้ก็คือเยวี่ยเซวี่ยโส่วจากบ้านวายุพิภพ”
“เขาเป็นศิษย์จิตวิญญาณขั้นปลายที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง คนทั่วไปต่างก็ไม่มีใครกล้าล่วงเกินเขา”
พอเห็นใบหน้าที่แท้จริงของชายอัปลักษณ์ผู้นี้ ก็มีคนกระซิบกระซาบขึ้นมาทันที สายตาที่มองมายังชายผู้นี้เต็มไปด้วยความเคารพและยำเกรง
ชายฉกรรจ์หน้าตาอัปลักษณ์มองไปข้างๆ ด้วยสีหน้าพอใจ
“สามหมื่นสามพันหินจิตวิญญาณ! ฮึ! พี่เยวี่ย ท่านอยากได้ไอปีศาจบริสุทธิ์ชุดนี้ แล้วพวกข้าไม่อยากได้หรือ? ถ้าอยากได้ไปจริงๆ ล่ะก็ ต้องดูว่าใครเสนอหินจิตวิญญาณมากกว่ากัน” เสียงราบเรียบของชายผู้หนึ่งดังขึ้นมา และเสนอราคาประมูลออกไปอย่างไม่ลังเล
“ท่านกุ่ย ที่แท้ก็เป็นท่าน ได้! ถ้าเทียบเรื่องวงค์ตระกูลล่ะก็ คิดว่าข้าจะกลัวเจ้าหรือ? สามหมื่นห้าพันหินจิตวิญญาณ!” พอชายฉกรรจ์หน้าอัปลักษณ์ได้ยิน ก็มองไปยังเงาร่างผอมแห้งตรงมุมห้องที่มีแสงสีเทาปกคลุมอยู่ และกล่าวด้วยความโมโห
“สามหมื่นหกพันหินจิตวิญญาณ” เงาร่างผอมแห้งกล่าวอย่างไม่รีบร้อน
“สามหมื่นเจ็ดพัน” แม้จะรู้ว่าราคานี้ค่อนข้างสูงเล็กน้อย แต่ชายฉกรรจ์หน้าอัปลักษณ์ก็กัดฟันพูดออกมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“เฮ่อๆ! สามหมื่นเจ็ดพันหินจิตวิญญาณซื้อไอปีศาจบริสุทธิ์พลังอัคคีหนึ่งชุด สหายเยวี่ยช่างเป็นคนใจกว้างจริงๆ ถ้าอย่างนั้นข้าจะยอมให้ท่านก็แล้วกัน” ท่านกุ่ยหัวเราะก่อนที่จะยอมแพ้ในการประมูล
ถึงแม้ชายฉกรรจ์หน้าอัปลักษณ์จะรู้สึกโกรธที่ได้ยินเช่นนี้ แต่ก็แค่จ้องมองอีกฝ่ายอย่างโหดเหี้ยม หลังจากที่ผู้อาวุโสเหมี่ยนประกาศผู้ชนะแล้ว เขาก็ไปชำระราคาสิ่งของประมูล
ด้วยราคาที่สูงเช่นนี้ ไอปีศาจบริสุทธิ์พลังอัคคีอีกสองชุดที่เหลือก็ถูกประมูลออกไปในราคาสามหมื่นห้าพันหินจิตวิญญาณ กับสามหมื่นสามพันหินจิตวิญญาณ
หนึ่งในสองชุดนั้นถูกท่านกุ่ยประมูลไปได้
หลังจากที่หลิ่วหมิงคิดไตร่ตรองแล้ว ในที่สุดก็ไม่ได้เข้าร่วมประมูลไอปีศาจบริสุทธิ์ทั้งสามชุด
ในเวลาต่อมา ภายใต้การดำเนินงานประมูลของผู้อาวุโสเหมี่ยน อาวุธจิตวิญญาณ และโอสถหายากกับยันต์จำนวนหนึ่งก็ถูกนำออกมาประมูล
แม้ของเหล่านี้จะไม่อาจเทียบได้กับไอปีศาจบริสุทธิ์ในก่อนหน้า แต่คนส่วนมากสามารถรับราคาประมูลได้ ด้วยเหตุนี้มันจึงคึกครื้นกว่าก่อนหน้านั้นมาก
หนึ่งในนั้น หลิ่วหมิงเองก็ใช้หินจิตวิญญาณไปหลายพันก้อน ประมูลโอสถมาสองชนิด และยันต์หนึ่งชนิด ส่วนอาวุธจิตวิญญาณที่มีมูลค่ามากเหล่านั้น เขากลับไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย
ครึ่งชั่วยามผ่านไป เมื่อกระบี่ที่เป็นอาวุธธาตุน้ำ และพบเห็นได้น้อยมากถูกประมูลออกไปแล้ว ผู้อาวุโสเหมี่ยนก็หยิบขวดสีเขียวมรกตเล็กๆ ขึ้นมาจากถาดที่สาวใช้ถืออยู่ในมือด้วยสีหน้าเคร่งขรึม และเทเม็ดโอสถสีแดงเลือดออกมาหนึ่งเม็ด จากนั้นก็ยกขึ้นพร้อมกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเฉียบขาด
“คิดว่าสหายทุกท่านคงรอจนร้อนใจแล้ว! ลำดับถัดไปเป็นของประมูลรั้งท้ายของงานประมูลในครั้งนี้ สิ่งแรกคือโอสถโลหิตเผาไหม้จำนวนสามเม็ด ที่ผู้เชี่ยวชาญฝานปรุงขึ้นมาเอง จากการที่เรือนของเราได้ทำการตรวจสอบ พวกมันแต่ละเม็ดสามารถกระตุ้นโลหิตทั่วร่าง จนทำให้พลังเวทย์เพิ่มขึ้นจากเดิมถึงสี่ส่วนเป็นเวลาหนึ่งชั่วยาม และถ้าผู้ที่ทานมีร่างกายแข็งแกร่ง มันก็จะแสดงผลลัพธ์ได้มากขึ้นและนานขึ้น มีข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือ หลังจากใช้มันแล้ว พลังจะอ่อนแอเป็นระยะเวลาเดือนกว่าๆ แต่แค่ทานโอสถบำรุงจำนวนหนึ่ง ก็สามารถฟื้นฟูกลับมาได้เป็นปกติ และไม่มีผลข้างเคียงอื่นๆ ในแคว้นต้าเสวียนนี้ มีแค่ผู้เชี่ยวชาญฝานที่สามารถปรุงโอสถชนิดนี้ได้ และด้วยเหตุที่วัตถุดิบในการปรุงนั้นหาได้ยากยิ่ง หลายปีมานี้ ผู้เชี่ยวชาญฝานจึงปรุงได้แค่สามเม็ดเท่านั้น ดังนั้นแต่ละเม็ดล้วนล้ำค่าเป็นอย่างมาก และตามความต้องการของผู้เชี่ยวชาญฝาน ท่านให้ประมูลขายทั้งสามเม็ดพร้อมกัน ราคาเริ่มต้นประมูลที่สามหมื่นหินจิตวิญญาณ เริ่มประมูลได้!”
ด้วยชื่อเสียงของฝานไป๋จื่อ ผู้คนในห้องโถงย่อมไม่สงสัยอะไรในผลลัพธ์ของโอสถโลหิตเผาไหม้ และโอสถที่ช่วยชีวิตในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่กลุ่มอิทธิพลจำนวนมากต่างก็ให้ความสนใจ ทันใดนั้นคนลึกลับที่ปิดบังใบหน้าหลายคนก็เริ่มแข่งกันประมูล
หลังจากเสนอราคาไปไม่กี่ครั้ง ราคาโอสถโลหิตเผาไหม้ขวดนี้ ก็พุ่งสูงไปเกือบห้าหมื่นหินจิตวิญญาณ ซึ่งถูกคนสวมชุดคลุมและหน้ากากสีดำประมูลไปได้
เมื่อคนผู้นี้ประมูลโอสถขวดนี้ได้แล้ว ก็ไปรีบไปจากห้องโถง และก็ไม่กลับมาอีกเลย
หลิ่วหมิงเห็นผลการประมูลเช่นนี้ ก็รู้สึกความเสียวสะท้านอย่างอดไม่ได้ เป็นครั้งแรกที่เขารู้จักคุณค่าที่แท้จริงของวิชาปรุงโอสถ
ขณะนี้ ผู้อาวุโสเหมี่ยนนำสิ่งของประมูลรั้งท้ายชิ้นที่สองออกมามันเป็นเกราะไม้สี่เหลี่ยมสีเหลืองอ่อน พื้นผิวของมันเต็มไปด้วยอักขระสีเงินจางๆ แลดูลึกลับเป็นอย่างมาก
“เฮ่อๆ! ของชิ้นนี้พบเห็นได้น้อยมาก ไม่ทราบว่ามีใครพอรู้จักของชิ้นนี้บ้าง?” ผู้อาวุโสเหมี่ยนยกเกราะไม้ขึ้นมา หลังจากที่กวาดสายตามองบรรดาผู้คนแล้ว ก็ถามออกไปด้วยรอยยิ้มที่ไม่เหมือนกับยิ้ม
คำถามนี้ ทำให้ผู้ฝึกฝนในนั้นฮือฮาขึ้นมา แต่กลับจ้องมองชุดเกราะด้วยสายตางุนงง ประจักษ์ชัดว่ามีไม่กี่คนที่รู้จักมัน
“ของชิ้นนี้ดูคุ้นตาอยู่บ้าง หรือว่าจะเป็น ‘เกราะกลนักรบ’ ตามคำเล่าลือ หลังจากที่เงียบไปสักพัก ก็มีเสียงพูดออกมาด้วยความลังเล
“เฮ่อๆ! ที่แท้พี่หนานก็มาด้วย มิน่าเล่า! ด้วยทักษะวิชากลของพี่หนาน ย่อมรู้จักของสิ่งนี้ นี่เป็นเกราะกลนักรบที่พบเห็นได้น้อยมาก มันสร้างมาจากไผ่จิตวิญญาณพันปีกับเอ็นอสรพิษพันปี ไม่เพียงแต่จะเปลี่ยนแปลงได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดเท่านั้น แต่ยังสามารถเพิ่มพลังป้องกันการโจมตีจากอาวุธสามชนิดได้พร้อมกัน ลำพังแค่คำพูดไม่อาจเชื่อถือได้ ข้าจะแสดงอานุภาพของมันให้ทุกท่านได้เห็น” ผู้อาวุโสเหมี่ยนมองหน้าคนพูดทีหนึ่ง แล้วกล่าวด้วยตาเป็นประกาย จากนั้นก็วางเกราะไม้ลงบนโต๊ะ หลังจากแตะมือข้างหนึ่งลงไป ก็พลันปรากฏร่องเว้าออกมา
แสงสีขาวเปล่งประกาย!
ผลึกหินขนาดเท่านิ้วโป้งก้อนหนึ่งถูกใส่ลงไปในร่องเว้า
จากนั้นผู้อาวุโสเหมี่ยนก็ร่ายคาถา ทำท่ามือด้วยมือเดียวแล้วชี้ไปยังเกราะไม้
เสียงดัง “ฟู่!” เกราะไม้ระเบิดตัวกลายเป็นแผ่นไผ่จำนวนมาก จากนั้นก็กระโจนมายังด้านหน้าผู้อาวุโสเหมี่ยนอย่างพร่ามัว
หลังจากมีเสียงแตกหักดังออกมา เสื้อเกราะที่มีแสงสีเหลืองเปล่งประกาย ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าผู้อาวุโสเหมี่ยน รูปร่างภายนอกดูโบราณและเรียบง่าย เห็นได้ลางๆ ว่าสร้างขึ้นจากแผ่นไม้ไผ่ มันปกคลุมร่างกายของผ้อาวุโสเหมี่ยนไว้อย่างแน่นหนา
พริบตาที่แผ่นไผ่รวมตัวเป็นเกราะนั้น อักขระสีเงินจำนวนมากก็พุ่งออกมาจากบนแผ่นไผ่ แล้วหลังจากที่มันหมุนติ้วๆ รวมตัวกันแล้ว ก็ก่อตัวเป็นค่ายกลอักขระสีเงินล้อมหน้าหลังเสื้อเกราะไว้อย่างน่าอัศจรรย์ มันดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นอย่างมาก
ในขณะนั้นเอง ผู้อาวุโสเหมี่ยนก็ขยับแขน ไม่รู้ว่าเขาไปสัมผัสกลไกอะไรบนชุดเกราะ ทันใดนั้นแสงสว่างก็เปล่งประกายออกมา ก่อให้เป็นม่านแสงสีเงินจางๆ และปกคลุมผู้อาวุโสเหมี่ยนไว้
……………………………………….