ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ - ตอนที่ 197 เรือเหาะถ้ำมรกต
“ห้าพันหินจิตวิญญาณครั้งที่หนึ่ง!”
“ห้าพันหินจิตวิญญาณครั้งที่สอง!”
“ห้าพันหินจิตวิญญาณครั้งที่สาม! เอาล่ะ! กระบอกกำจัดปีศาจชิ้นนี้เป็นของสหายท่านนี้แล้ว ต่อไปจะเริ่มประมูลกระบอกกำจัดปีศาจชิ้นที่สอง ราคาเริ่มต้นที่ห้าพันหินจิตวิญญาณเช่นกัน”
ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ใครมาแย่งชิง ผู้อาวุโสก็รีบประกาศผู้ที่เป็นเจ้าของอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เริ่มประมูลชิ้นที่สองต่อ
“ห้าพันหินจิตวิญญาณ”
หลิ่วหมิงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม และเสนอราคาออกมาอย่างไม่ลังเล
ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ผู้คนในห้องโถงจะรู้สึกตกใจเท่านั้น แม้แต่ชายแซ่หนานเองก็มองมาที่หลิ่วหมิงด้วยความประหลาดใจ
แต่สำหรับหลิ่วหมิง ในเมื่อละทิ้งไอปีศาจพลังอัคคีตรงหน้าไปแล้ว เกราะกลนักรบกับสิ่งของประมูลรั้งท้ายอื่นๆ ก็ไม่เหมาะสมกับเขา หรือไม่ก็ราคาสูงจนเกินไป จึงทำให้เขาไม่ต้องพิจารณาอะไรเลย
สิ่งของที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้เขาได้อย่างรวดเร็วนี้ ย่อมไม่อาจละทิ้งไปโดยง่าย
เพราะเสวียนจิงในตอนนี้ วุ่นวายจนไม่อาจคาดการณ์ใดๆ ได้ ถ้าสามารถเสริมความแข็งแกร่งได้ล่ะก็ ไม่แน่มันอาจช่วยชีวิตเขาในสถานการณ์คับขันก็เป็นได้
ส่วนเรื่องล่วงเกินผู้ฝึกฝนระดับเดียวกันไม่กี่คนนั้น เขาไม่สนใจมันเลยแม้แต่น้อย
แต่ที่เหนือความคาดหมายของผู้คนก็คือ ครั้งนี้นอกจากหูชุนเหนียงจะหัวเราะอย่างเยือกเย็นแล้ว ก็ไม่มีคำพูดใดๆ ออกมาอีกเลย
ด้วยเหตุนี้ กระบอกกำจัดปีศาจชิ้นที่สองก็เป็นของหลิ่วหมิงอย่างไม่ต้องสงสัย
ขณะนี้มีคนรับใช้เดินมาข้างหลิ่วหมิง เพื่อที่จะพาเขาไปชำระราคาสิ่งของประมูล
แต่หลิ่วหมเพียงแค่โบกมือ แล้วกล่าวอย่างราบเรียบ
“ข้ายังสนใจรายการประมูลชิ้นต่อไปอยู่ อีกสักครู่ค่อยไปชำระราคาสิ่งของ!”
“ทราบ! ถ้าอย่างนั้นข้าน้อยจะอีกสักครู่” คนรับใช้คนนั้นเป็นแค่ผู้ฝึกปรานธรรมดา และไม่รู้สถานะในเรือนร้อยวิญญาณของหลิ่วหมิง หลังจากที่เขารู้สึกตกตะลึงเล็กน้อยแล้ว ก็กล่าวอย่างนอบน้อม
ตอนนี้ผู้อาวุโสเหมี่ยนหยิบลูกกลมๆ สีเขียวอ่อนชิ้นสุดท้ายที่อยู่บนถาดขึ้นมาจากนั้นก็ตบมันด้วยมือข้างหนึ่ง ก่อนที่จะโยนออกไปด้านหน้า
หลังจากมีเสียงดัง “กรอบแกรบ!” เรือเหาะประณีตงดงามที่ยาวไม่เกินสองจั้งก็ลอยต่ำๆ อยู่ในอากาศ
เรือลำนี้มีรูปร่างเพรียว ปลายแหลมทั้งสองด้าน ตรงกลางกว้าง ทั้งสองข้างต่างก็มีผลึกหินสีเขียวอ่อนสิบกว่าก้อนเลี่ยมฝังอยู่ และใต้ท้องเรือยังสลักคำว่า ‘ถ้ำมรกต’ ไว้
“เรือกลเหาะถ้ำมรกต ไม่จำเป็นต้องปรับแต่ง และใช้พลังเวทย์กระตุ้น ใช้เพียงแค่ผลึกหินธาตุลมก็สามารถพาคนเหาะไปได้ เหาะเร็วกว่าวิชาทะยานเวหาทั่วไปห้าเท่าขึ้นไป ทั้งยังสามารถย่อส่วนได้ พกพาสะดวก และเรือกลเหาะที่สหายหนานสร้างขึ้น มีชื่อเสียงในเสวียนจิงเป็นอย่างมาก ว่ากันว่าไม่ด้อยไปกว่าเรือกลเหาะของหุบเขาเก้าช่อง ที่นำออกมาขายภายนอกเลยแม้แต่น้อย แต่ละลำมีราคาประมูลไม่ต่ำกว่าอาวุธจิตวิญญาณทั่วไป ลำนี้เป็นหนึ่งในผลงานที่มีคุณภาพ มีข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือ มันเหมือนกับกระบอกกำจัดปีศาจทั้งสองชิ้นในก่อนหน้า กลไกการทำงานภายตัวมันจะเสื่อมลงตามจำนวนครั้งที่ใช้ จนไม่สามารถใช้งานได้อีก” หลังกล่าวจบ ผู้อาวุโสเหมี่ยนก็ทำท่ามือด้วยมือเดียว และชี้ไปยังเรือเหาะตรงหน้า
“ฟู่!”
เรือเหาะสีเขียวกลายเป็นแสงหิ่งห้อยทะยานขึ้นด้านบน มันเหมือนเคลื่อนไหวแค่ทีเดียว ก็มาปรากฏตัวตรงอีกด้านของห้องโถงอย่างมั่นคง หลังจากนั้นมันก็พร่ามัวจนกลายเป็นแสงสีเขียว และพุ่งกลับไปบนแท่นสูง
มันเคลื่อนไหวรวดเร็วมาก จนผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ
“เรือกลเหาะถ้ำมรกตหนึ่งชิ้น ราคาประมูลต่ำสุดอยู่ที่หนึ่งหมื่นห้าพันหินจิตวิญญาณ เสนอราคาได้ครั้งละไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันหินจิตวิญญาณ ตอนนี้เริ่มประมูลได้!” ผู้อาวุโสเหมี่ยนชี้มือข้างหนึ่งไปยังเรือเหาะ เพื่อทำให้มันคืนรูปร่างเป็นลูกกลมๆ จากนั้นก็กล่าวด้วยสีหน้าสงบ
“หนึ่งหมื่นห้าพันหินจิตวิญญาณ!”
พอเสียงผู้อาวุโสสิ้นสุดลง ก็มีเสียงบุ่มบามตะโกนออกมา
คนจำนวนหนึ่งรีบมองไปด้วยความแปลกใจ ถึงค้นพบว่าผู้ที่มีรูปร่างสูงใหญ่ผู้นี้ สวมเกราะหนังสีดำ สวมหน้ากากปีศาจวัวบนหน้า
“เฒ่าปีศาจสือ ท่านมีปีกเพลิงอัคคีอยู่แล้วมิใช่หรือ แล้วยังจะมาก่อกวนอะไรอีก?” หูชุนเหนียงเปล่งเสียงออกมาอีกครั้ง ดูเหมือนนางจะเสียงแหลมเป็นอย่างมาก
พอได้ยินชื่อของเฒ่าปีศาจสือ คนจำนวนมากต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป ราวกับว่าเฒ่าปีศาจสือผู้นี้จะดุร้ายกว่าหูชุนเหนียง
“ฮึ! สหายหู เห็นแก่เจ้าและหน้านายของเจ้า ข้าได้ละทิ้งกระบอกกำจัดปีศาจไปสองชิ้นแล้ว แต่เรือกลเหาะชิ้นนี้มีประโยชน์ต่อข้ามาก ข้าไม่อาจยอมให้ได้” ชายฉกรรจ์สวมหน้ากากปีศาจวัวได้ยินเช่นนี้ ก็ไม่รู้สึกหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย และตอบรับด้วยน้ำเสียงฮึดฮัด
“ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าคิดจะเอาของสิ่งนี้ไปเป็นของขวัญให้คนผู้นั้นล่ะสิ! แต่เกรงว่าความคิดนี้คงไร้ประโยชน์ คิดหรือว่าเรือกลเหาะแค่ชิ้นเดียวจะทำให้เขาเห็นความสำคัญของเจ้า เจ้าดูเบาคนผู้นั้นไปหน่อยนะ” พอหูชุนเหนียงได้ยินคำตอบอันแข็งกร้าวของชายฉกรรจ์ นางก็ไม่ได้โกรธแต่อย่างใด แต่กลับกล่าวออกมาอย่างเยือกเย็น
“เรือกลเหาะนี้ เป็นแค่กุญแจในการไขประตูเท่านั้น รอข้าได้เจอคนผู้นั้น ย่อมมีของขวัญชิ้นใหญ่ให้อย่างแน่นอน ที่สหายหูอยากได้เกราะกลนักรบชิ้นนี้ ไม่ใช่ว่ามีความคิดเดียวกันหรอกหรือ? ตอนนี้ข้าเอาเรือกลเหาะ สหายได้เกราะกลนักรบ พวกเราต่างก็ไม่ล้ำเส้นกัน” เฒ่าปีศาจสือหัวเราะก่อนกล่าวออกมา
คำพูดของทั้งสองไม่มีที่มาที่ไป แต่กลับทำให้คนไม่จำนวนไม่น้อยรู้สึกใจเต้นขึ้นมา บางคนนึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ ก็กระซิบกระซาบด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“มีหินจิตวิญญาณเหล่านี้ของเจ้า เกราะกลนักรบชิ้นนี้จะตกอยู่ในมือข้าได้อย่างไร?” หูชุนเหนียงรู้สึกโมโหเล็กน้อยแล้ว
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับข้าแล้ว! ถ้าจะโทษก็โทษที่นายของเจ้าไม่ยอมเสียหินจิตวิญญาณเป็นจำนวนมากเพื่อแลกกับมัน” เฒ่าปีศาจสือหัวเราะออกมา
หูชุนเหนียงไม่ได้กล่าวอะไรออกมา แต่ใครก็พอจะจินตนาการถึงไฟที่สุมอยู่ในอกของนางได้
“หนึ่งหมื่นหกพันหินจิตวิญญาณ!”
ขณะนั้นเองก็มีคนเสนอราคาออกมา
เฒ่าปีศาจสือได้ยินก็รู้สึกโมโหมาก แต่หลังจากที่กวาดสายตามองคนเสนอราคาแล้ว ก็อดที่จะหรี่ตาไม่ได้
คนผู้นั้นยังคงเป็นหลิ่วหมิง
คนอื่นๆ เห็นเช่นนี้ ก็แอบจุ๊ปากอยู่ไม่หยุด
ในเสวียนจิงนี้ มีผู้ที่กล้าล่วงเกินหูชุนเหนียงกับเฒ่าปีศาจสือพร้อมกัน เพียงไม่มีคนเท่านั้น
มาถึงเวลานี้ คนอื่นๆ ต้องรู้ว่าหลิ่วหมิงมีคนหนุนหลังอยู่แน่นอน มีความเป็นไปได้ว่าเขาก็เป็นศิษย์จิตวิญญาณขั้นปลายจนไปถึงขั้นปลายที่สมบูรณ์แบบ มิเช่นนั้นคงไม่ฮึกเหิมถึงเพียงนี้
“หนึ่งหมื่นเจ็ดพัน!” เฒ่าปีศาจสือมีสีหน้าอึมครึม และไม่ได้หาเรื่องหลิ่วหมิง แต่กลับเสนอราคาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นอีกครั้ง
“หนึ่งหมื่นแปดพัน!”
“หนึ่งหมื่นเก้าพัน!”
“สองหมื่น!”
เมื่อหลิ่วหมิงเสนอราคาสองหมื่นออกมา เฒ่าปีศาจสือก็หยุดเสนอราคาในที่สุด แต่ดูจากหมัดที่เขากำแน่น เห็นได้ชัดว่าในใจเขาไม่สงบเหมือนใบหน้าที่แสดงออกมา
แต่ราคาสองหมื่นหินจิตวิญญาณ มันสูงเกินไปสำหรับสิ่งของที่ใช้ได้ไม่กี่ครั้ง และใช้ในการเหาะเดินทางเท่านั้น
ด้วยสถานะทางครอบครัวของเฒ่าปีศาจสือ ถ้าแย่งชิงต่อไปเรื่อยๆ ก็มีแต่เข้าเนื้อ เขาจึงต้องละทิ้งมันไป
แต่ในขณะนั้นเอง หูชุนเหนียงก็หัวเราะ “ฮี่ๆ!” ดังก้องไปทั่วห้องอยู่ไม่หยุด ไม่ว่าใครก็ฟังความหมายถากถางที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงนั้นออก
“สหายหู ถ้าเจ้าอยากหาเรื่องข้าจริงๆ ล่ะก็ ข้าจะหาโอกาสขอคำชี้แนะวิชาระบำผีเสื้อของเจ้าหน่อย ว่าฝึกฝนไปถึงไหนแล้ว?” เฒ่าปีศาจสือกล่าวด้วยน้ำเสียงน่าสะพรึงกลัว
“ฮึ! ดูท่าวิชาหุ่นศิลาปีศาจของเจ้าคงจะก้าวหน้าไปไม่น้อย แต่มาระบายความแค้นกับข้า ข้าว่าเจ้าหาเรื่องคนผิดหรือเปล่า? คนที่ทำให้เจ้าอึดอัดใจเมื่อครู่ไม่ใช่ข้าซะหน่อย!” หูชุนเหนียงกล่าวอย่างไม่เกรงใจ
“เลือกลูกพลับต้องเลือกลูกที่นิ่ม เทียบกับคนแปลกหน้าที่อยู่ในระดับเดียวกันแล้ว ข้าจะยิ่งวางใจมากกว่า ถ้าเป็นคู่ต่อสู้ที่รู้ตื้นลึกหนาบางกัน” เฒ่าปีศาจสือกล่าว
“อะไรนะ เจ้าเห็นข้าเป็นลูกพลับอ่อนนิ่ม” หูชุนเหนียงได้ยินก็รู้สึกโกรธขึ้นมา
ผู้อาวุโสที่อยู่บนแท่นสูงได้เห็นสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมรู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก แต่แน่นอนว่าไม่อาจยอมให้พวกเขาลงมือกันในนี้ได้ เขาจึงรีบกระแอมไอขัดบทสนทนาของทั้งสองในทันที และประกาศต่อด้วยเสียงอันดัง
“ในเมื่อไม่มีคนเสนอราคาแล้ว ถ้าอย่างนั้น สองหมื่นหินจิตวิญญาณครั้งที่หนึ่ง สองหมื่นหินจิตวิญญาณครั้งที่สอง สองหมื่นหินจิตวิญญาณครั้งที่สาม เอาล่ะ! เรือกลเหาะชิ้นนี้เป็นของสหายท่านนี้แล้ว”
ผู้อาวุโสเคาะค้อนลงบนโต๊ะหนึ่งที
หูชุนเหนียงกับเฒ่าปีศาจสือเห็นผลลัพธ์เช่นนี้ ก็ดูเหมือนจะเลิกสนใจทำการต่อสู้ในทันที คนหนึ่งทำเสียงฮึดฮัดแล้วไม่พูดอะไรออกมาอีก อีกคนก็ปิดปากเงียบไม่เอ่ยวาจาใดๆ ออกมา
ขณะนี้ หลิ่วหมิงถูกคนรับใช้พาออกไปจากห้องโถง ผ่านห้องโถงใหญ่ที่มีการป้องกันอย่างเข้มงวด จนมาถึงห้องลับแห่งหนึ่ง
เถ้าแก่เฉียน ซุนอิ๋น และคนอื่นๆ ต่างก็อยู่ในนั้น
หลิ่วหมิงยิ้มแล้วก็ถอดหมวกคลุมออกมา
“คุณชายเฉียน ข้านึกไม่ถึงว่าท่านจะประมูลสิ่งของเหล่านี้ เดิมทีข้าคิดว่าท่านจะแย่งประมูลไอปีศาจบริสุทธิ์พลังอัคคีมาหนึ่งชุดซะอีก!” เหมือนเถ้าแก่เฉียนจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในงานประมูลแล้ว พอเห็นหลิ่วหมิงเข้ามา เขาก็ถามด้วยความสงสัย
“ถึงแม้ข้าจะสามารถประมูลไอปีศาจบริสุทธิ์พลังอัคคีมาได้ แต่ไอปีศาจชนิดนี้มันขัดแย้งกับวิชาที่ข้าฝึกฝน ข้าจึงต้องละทิ้งมันไป ส่วนสิ่งของเหล่านั้นใช้ประโยชน์ได้มาก ข้าประมูลมันมาไว้ ก็ไม่ใช่เรื่องเสียงหายอะไร” หลิ่วหมิงกล่าวอย่างคลุมเครือ
“อืม! ถ้าไอปีศาจบริสุทธิ์พลังอัคคีไม่เหมาะสมล่ะก็ ไม่แน่ว่าไอปีศาจบริสุทธิ์ที่เป็นของรั้งท้ายการประมูลชุดนั้นอาจเหมาะกับท่านก็ได้” ซุนอิ๋นที่อยู่ด้านข้างกล่าวออกมาราวกับคิดอะไรอยู่
“พี่ซุนล้อข้าเล่นแล้ว ไอปีศาจบริสุทธิ์ที่เป็นของรั้งท้ายการประมูลนั้นล้ำค่าเป็นอย่างมาก ต่อให้ขายครึ่งราคา ข้าก็ซื้อมันไม่ไหวหรอก” พอหลิ่วหมิงได้ยินเช่นนี้ ก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
“มันก็ถูก ไอปีศาจบริสุทธิ์ชุดสุดท้ายเป็นไอปีศาจบริสุทธิ์พลังดาราสวรรค์ ปราณแกร่งที่บ่มเพาะออกมาก็มหัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง เรือนของเราใช้ต้นทุนเดิมกว่าครึ่งหนึ่งถึงซื้อมาได้ ราคาเริ่มต้นประมูลอย่างน้อยก็สองแสนหินจิตวิญญาณ กลุ่มอิทธิพลหลายกลุ่มต่างก็จ้องเล็งของชิ้นนี้นานแล้ว คุณชายเฉียนไม่สามารถแย่งชิงกับพวกเขาได้หรอก แต่คุณชายวางใจเถอะ! ถ้าต่อไปเรือนของเราหาไอปีศาจบริสุทธิ์ที่เหมาะสมได้ จะต้องเก็บไว้ให้คุณชายอย่างแน่นอน” เถ้าแก่เฉียนกล่าวอย่างเสียดาย
“หากเป็นเช่นนี้จริงๆ ข้าต้องขอขอบคุณเถ้าแก่เฉียนล่วงหน้าแล้ว” หลิ่วหมิงฟังแล้วก็ค่อยๆ ยิ้ม และกล่าวขอบคุณออกมา
ขณะนี้ ประตูอีกฝั่งหนึ่งของห้องลับก็ถูกเปิดออก สาวใช้ใบหน้างดงามถือถาดเดินเข้ามา
“เอาล่ะ! สิ่งของที่คุณชายประมูลมาได้ถูกส่งมาถึงแล้ว สองชิ้นก่อนหน้าราคาหนึ่งหมื่นหินจิตวิญญาณ ชิ้นสุดท้ายสองหมื่นหินจิตวิญญาณ ตามข้อตกลงที่ข้าเคยให้ไว้ เรือกลเหาะชิ้นนี้คิดแค่หนึ่งหมื่นหินจิตวิญญาณก็พอแล้ว คุณชายจ่ายมาสองหมื่นหินจิตวิญญาณก็สามารถนำของทั้งหมดนี้ไปได้” เถ้าแก่เฉียนกวาดสายตามองของบนถาดแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม
……………………………………….